Candle in the wind

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากยังไม่มีชื่อภาษาไทยที่กระชับหรือเหมาะสม ไม่รู้วิธีอ่านในภาษาไทย หรือต้องการคงชื่อเฉพาะไว้ตามต้นฉบับ

เพลง Candla in the wind เป็นเพลงที่เซอร์ เอลตัน จอห์นแต่งทำนองขึ้น และเขียนเนื้อเพลงโดย เบอร์นีย์ ทอพีน เมื่อปีพ.ศ.2516 เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่มาริลิน มอนโร และต่อมาได้ใช้เป็นเพลงในพระราชพิธีพระศพของไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ด้วย

เพลงนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2516 โดยเซอร์เอลตัน จอห์น กับอัลบั้ม Goodbye Yellow Brick Road เนื้อเพลงเปรียบเทียบถึงชีวิตของมาริลิน มอนโร(ประโยคแรกขึ้นต้นว่า "Goodbye Norma Jean" ซึ่งหมายถึงมาริลิน เพราะชื่อจริงของเธอคือ Norma Jeane Mortenson โดยกล่าวถึงความเปลี่ยวว้างอ้างเหงาของเธอในปีสุดท้ายแห่งชีวิต ทอพีนผู้ประพันธ์เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจของเนื้อเพลงจากประโยคว่า "candle in the wind" ซึ่งเป็นการไว้อาลัยถึงนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังเจนีส จอพลีน

ในปี พ.ศ.2540เซอร์เอลตัน จอห์นได้นำเพลงนี้มาร้องเป็นการไว้อาลัยให้แก่ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกคนหนึ่งของโลกคือ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ในงานพระราชพิธีพระศพนั้น เป็นการร้องสดเพียงครั้งเดียวของท่านเซอร์ และเพลงนี้ได้รับการกล่าวขวัญถึงและกลายเป็นเพลงที่ "ฮิต" ติดอันดับในไม่ช้า ใน พ.ศ.2549 เพลงนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นเพลงที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก

ในงานพระราชพิธีพระศพนั้นไม่ใช่แต่เพียงจอห์นเท่านั้นที่รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ หากแต่คนรอบข้างและทั้งโลกที่เสียดายต่อการจากไปของไดอาน่า จอห์นได้เปลี่ยนเนื้อเพลงท่อนแรกเสียใหม่จาก "Goodbye Norma Jean" เป็น "Goodbye England's Rose" ท่านเซอร์ได้สร้างความเป็นคู่ขนาน ทั้งเหมือนและแตกต่างระหว่างสตรีชื่อก้องโลกทั้งสองด้วยบทเพลงๆ นี้ แม้ว่าทั้งคู่จะมีชีวิตที่แตกต่างกันมาก แต่ก็เหมือนกันในข้อที่ต้องทุกข์ทรมาน "เพราะ" และ "เพื่อ" คนอื่นเช่นกัน ท่อนหนึ่งของเนื้อเพลงที่กินใจผู้ชมมากที่สุดคือท่อนที่ว่า "your candle's burned out long before...your legend ever will...." (เทียนน้อยของเธอดับสิ้นนานไป แต่ตำนานของเธอจะไม่เสื่อมทรามตามลง)

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org../../../c/a/n/Candle_in_the_wind.html".
ภาษาอื่น