อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
ภาพอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยามค่ำคืน พ.ศ.2549
ภาพอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยามค่ำคืน พ.ศ.2549
ภาพอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ภาพอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ภาพอนุสาวรีย์ชัย ก่อนจะมีรถไฟฟ้า เมื่อปี พ.ศ. 2525
ภาพอนุสาวรีย์ชัย ก่อนจะมีรถไฟฟ้า เมื่อปี พ.ศ. 2525
ภาพอนุสาวรีย์ชัยสมัยแรกๆ
ภาพอนุสาวรีย์ชัยสมัยแรกๆ
วิกิแมเปีย
กูเกิล
วิกิแมเปีย มีภาพถ่ายทางอากาศของ:

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นอนุสาวรีย์ในกรุงเทพมหานคร โดยรอบเป็นวงเวียน อยู่กึ่งกลางระหว่างถนนพหลโยธิน ถนนราชวิถี และถนนพญาไท ตั้งอยู่ที่ กิโลเมตรที่ ๐.๐ ถนนพหลโยธิน

ความสำคัญของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นอกจากเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญแล้ว ยังเป็นต้นทางของถนนพหลโยธิน รวมไปถึงศูนย์กลางการคมนาคมที่มีรถโดยสารให้บริการในหลายเส้นทาง เป็นจำนวนมาก ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า BTS และรถตู้ ผ่านตลอด ๒๔ ชั่วโมง จึงทำให้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นชุมทางการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน

สิ่งก่อสร้างบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ทางด่วนขั้นที่ 2 สถานีรถไฟฟ้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โรบินสัน

สารบัญ

[แก้] ประวัติ

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของทหาร ตำรวจและพลเรือนที่เสียชีวิตไปในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เรื่องการปรับปรุงพรมแดนไทยกับอินโดจีนใหม่ ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต ๕๙ คน พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นผู้วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๔ และจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นผู้กระทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๕ สถาปนิกผู้ออกแบบอนุสาวรีย์คือ หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยังเป็นที่จารึกรายนามทหารที่เสียชีวิตในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส สงครามโลกครั้งที่ ๒ และสงครามเกาหลี

[แก้] ความหมาย

การออกแบบอนุสาวรีย์ของหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล มีแรงบันดาลใจห้าประการ คือ

  • ปฏิบัติการของกองทัพทั้ง ๓
  • ปฏิบัติการอย่างกล้าหาญของกำลังพลโดยเฉพาะ
  • อาวุธที่ทหารใช้สู้รบ
  • เหตุการณ์ที่สำคัญที่ต้องเปิดการสู้รบ
  • ความสนใจของประชาชน

หม่อมหลวงปุ่มใช้ดาบปลายปืน ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายทหาร โดยใช้ดาบปลายปืนห้าเล่มรวมกัน จัดตั้งเป็นกลีบแบบลูกมะเฟือง ปลายดาบชี้ขึ้นบน ส่วนคมของดาบหันออก ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดับหินอ่อน มีความสูงประมาณ ๕๐ เมตร ดาบปลายปืนส่วนด้ามตั้งเหนือเพดานห้องโถงใหญ่ ซึ่งใช้เก็บกระสุนปืนใหญ่บรรจุอัฐิทหารที่เสียชีวิตในกรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส

ด้านนอกตอนโคนดาบปลายปืน มีรูปปั้นหล่อทองแดง ขนาดสองเท่าคนธรรมดา ของนักรบ ๕ เหล่า คือ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน ศิลปินผู้ปั้นรูปเหล่านี้เป็นลูกศิษย์ของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เช่น สิทธิเดช แสงหิรัญ, อนุจิตร แสงเดือน, พิมาน มูลประสุข, แช่ม ขาวมีชื่อ ภายใต้การควบคุมของ ศ.ศิลป พีระศรี

ด้านนอกของผนังห้องโถง เป็นแผ่นทองแดงจารึกนามผู้เสียชีวิต รายนามผู้ที่ได้รับการจารึกไว้ มีทั้งสิ้น ๑๖๐ คน เป็นทหารบก ๙๔ คน ทหารเรือ ๔๑ คน ทหารอากาศ ๑๓ คน และตำรวจสนาม ๑๒ คน จนถึงปัจจุบันแผ่นทองแดงจารึกรายนามผู้เสียชีวิต และผู้สละชีพเพื่อชาติจากสงครามต่างๆ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๓-๒๔๙๗ รวมทั้งสิ้น ๘๐๑ คน

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] อ้างอิง

ภาษาอื่น