พูดคุย:ลั่นทม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากประกาศที่ Pantip.com ห้องจตุจักร เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2547 โดยคุณ zsuwan at mail-th dot com
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J2952589/J2952589.html
แจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน ลีลาวดี ไม่ใช่นามพระราชทาน
โปรดทราบโดยทั่วกัน
ลีลาวดี ไม่ใช่นามพระราชทาน
ด้วยชมรมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ได้รับการประสานจากอาจารย์ชัยวัฒน์ ศีตะจิตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยหนังสือจากสำนักอธิการบดีที่ ศธ.0513.10101/487 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2547 ของ รศ.อภิวันท์ กำลังเอก รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษมีใจความสำคัญว่า เรื่องต้นลั่นทมนั้น ผู้อำนวยการกองบำรุงรักษาราชอุทยานแจ้งว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มิเคยพระราชทานชื่อใหม่ว่า “ลีลาวดี” และได้ทรงทักท้วงแล้วในหลายโอกาส ทั้งนี้อ้างถึงหนังสือทักท้วงของ รศ.ดร.พัฒนา สุขประเสริฐ ซึ่งมีใจความสำคัญดังต่อไปนี้ “ด้วยมีหลายฝ่ายได้สอบถามถึงชื่อต้นลั่นทมว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ลีลาวดี หรือไม่ เพราะสมาชิกชมรมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทยได้ลงตีพิมพ์ในโอกาสต่างๆ หลายครั้ง แต่มีอาจารย์ผู้ใหญ่บางท่านทักท้วงว่า พระองค์เคยมีรับสั่งว่าไม่เคยพระราชทานนามตามข่าวดังกล่าว ผมจึงได้สอบถามไปยัง ผอ.กองบำรุงรักษาราชอุทยาน สวนจิตรลดา จึงได้รับคำยืนยันว่าพระองค์มิเคยพระราชทานนาม ลีลาวดี และได้ทรงทักท้วงแล้วในหลายโอกาส ใคร่ขอความกรุณาท่านรอง ฯ หารือกับ ผช.อธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งให้ชมรมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทยทราบต่อไป และระงับการเผยแพร่ข้อมูลที่ยังคลาดเคลื่อนอยู่ในขณะนี้”
ทางชมรมฯ จึงขอแจ้งสมาชิกทุกท่านได้ทราบข้อเท็จจริง และละเว้นการอ้างอิงดังกล่าว รวมทั้งควรชี้แจงให้ประชาชนทั่วไป ทราบถึงข้อเท็จจริงนี้ด้วย
นายสุราษฎร์ ทองมาก
ประธานชมรมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย
เผยแพร่ต่อและเพิ่มเติมโดย
นายจารุพงษ์ สุวรรณ
นักวิชาการและผู้ก่อตั้ง
ชมรมส่งเสริมความรู้วิทย์ฯ เพื่อการเกษตร
[แก้] ลองค้นดูอีกที ครับ ว่าองค์อื่นพระราชทานหรือไม่
อ่านจากสกุลไทยครับ
ดอกไม้ป่า ที่ได้รับพระราชทานนามมี ๗ ชนิด ได้แก่
๑. มณีเทวา Mani Thewa ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eriocaulon snitinandii Modenke ชื่อวงศ์ : ERJOCAULACEAE ชื่ออื่น : กระดุมนายเต็ม เป็นไม้ล้มลุกลักษณะคล้ายหญ้า พบตามบริเวณที่โล่งชุ่มชื่นหรือที่มีน้ำขังแฉะขึ้นเป็นกอ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียวแหลมเรียงเวียนเป็นวงที่โคนต้น ดอกสีขาวออกตามซอกใบ เป็นช่อกลมเป็นก้อนขนาดเล็ก แต่ละช่อประกอบด้วยดอกเล็กๆอัดกันแน่น ดอกโรยแล้วเป็นผลเมื่อผลแก่จะแห้งแต่ไม่แตก
๒. ดุสิตา Dusita ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utriculari delphinioides Thor. ExPell. ชื่อวงศ์ : LENTIBULARIACEAE ชื่ออื่น : หญ้าขาวก่ำน้อยเป็นพืชกินแมลง ลำต้นเล็กมากอยู่ใต้ดิน ขึ้นอยู่ตามบริเวณที่เปิดโล่งและชุ่มชื้น ใบมีทั้งใบเดี่ยวและใบที่เปลี่ยนแปลงเป็นถุงสำหรับดักจับแมลงน้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร ดอกสีม่วงเข้มแทงช่อดอกออกจากลำต้นใต้ดิน ช่อดอกยาวประมาณ ๕-๒๐ ซม. ประกอบด้วยดอกย่อย ๓-๑๐ ดอก เรียงสลับกัน แต่ละดอกมีขนาดเล็กประมาณ ๖-๑๐ มิลลิเมตร เท่านั้น กลีบดอกล่างแผ่แยกออกเป็น ๒ ปาก ดอกโรยแล้วเป็นผล เมื่อผลแก่จะแห้งแล้วแตก
๓. สร้อยสุวรรณา Soi suwanna ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wricularia bifida L. ชื่อวงศ์ : LENTIBULARIACEAE ชื่ออื่น : หญ้าสีทองเป็นพืชกินแมลง ลำต้นเล็กมากอยู่ใต้ดิน ขึ้นอยู่ตามบริเวณที่เปิดและชุ่มชื่น ใบมีทั้งใบเดี่ยวและใบที่เปลี่ยนเป็นถุงสำหรับดักจับแมลงขนาดเล็กเป็นอาหาร ออกดอกสีเหลืองแทงช่อออกจากลำต้นใต้ดิน ช่อดอกยาวประมาณ ๕-๒๐ ซม. มีดอกย่อย ๓-๑๐ ดอก ออกเรียงสลับ ดอกมีขนาดเล็กมากประมาณ ๖-๑๐ มิลลิเมตร กลีบดอกล่างแผ่แผกออกเป็น ๒ ปาก ดอกโรยแล้วเป็นผลเมื่อแก่แห้งแล้งแตก
๔. ทิพเกสร Tip Ke son ชื่อวิทยาศาสตร์ : Utricularia minutissima Vahl. ชื่อวงศ์ : LENTIBUARIACEAE ชื่ออื่น : หญ้าสีฝอยเล็ก เป็นพืชกินแมลง ลำต้นเล็กมากอยู่ใต้ดิน พบตามบริเวณที่เปิดและชุ่มชื้น ใบมีทั้งใบเดี่ยวและใบที่เปลี่ยนเป็นถุงดักจับแมลงน้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร ดอกสีม่วงอ่อนแกมชมพู แทงช่อดอกออกจากดิน ช่อดอกยาวประมาณ ๕-๒๐ ซม. มีดอกย่อย ๓-๑๐ ดอก กลีบดอกล่างแผ่แยกเป็น ๒ ปาก ดอกโรยแล้วเป็นผลเมื่อแก่แห้งแล้วแตก
๕. สรัสจันทร Sarat chanthon ชื่อวิทยาศาสตร์ : Burmannia coebertris D.Don. ชื่อวงศ์ : BURMANNIACEAE ชื่ออื่น : ดอกดิน กล้วยมือนาง หญ้าหนวดเสือ เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็กสูง ๑๐-๓๐ ซม. พบบริเวณทุ่งหญ้าเปิด ตามริมหนองน้ำของป่าพรุ ลำต้นเล็กเรียวบอบบางใบเป็นใบเดียวสีเขียวซีดยาวประมาณ ๑-๑.๕ ซม. ออกดอกเป็นกระจุก ๒-๓ ดอกที่โคนต้นตามข้อส่วนบนของลำต้น มีใบเกล็ด ๒-๓ ใบ ส่วนปลายยอดลำต้นมีสีชมพูจนถึงสีม่วงอ่อนอมฟ้าปลายกลีบดอกสีเหลืองหรือสีครีม ดอกโรยแล้วเป็นผล เมื่อแก่แห้งไม่แตก
ดอกไม้ป่าอีก ๒ ชนิด ที่ได้รับพระราชทานนามคือ ๖ นิมมานนรดี และ ๗.โมกขราชินี และนอกจากดอกไม้ป่าดอกเล็กๆในท้องทุ่งอันกว้างใหญ่แล้ว สมเด็จพระพระเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ยังพระราชทานนามไม้ดอกยืนต้นที่เดิมชื่อว่า ดอกลั่นทม เสียใหม่ เป็นชื่อ ลีลาวดี ซึ่งเป็นไม้ดอกมีหลากสีสวยงามมาก เดิมไม่นิยมปลูกตามบ้าน เนื่องจากเสียงของชื่อใกล้เคียงกับคำว่า ระทม จึงเชื่อว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะนำความระทมมาสู่ผู้คนในบ้านด้วยเดชะพระบารมี เมื่อทรงพระกรุณาพระราชทานนามใหม่ว่า ลีลาวดี แล้ว ไม้พันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมนำไปปลูกประดับสวนตามบ้าน กลายเป็นพันธุ์ไม้เศรษฐกิจ นำรายได้ดีมาสู่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจำหน่ายพันธุ์ไม้
พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ
คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ