คุยกับผู้ใช้:Kengdeena
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เวชกรรมฝังเข็ม Acupuncture...เป็นศาสตร์การรักษาโรคที่มีกำเนิดมาจากการแพทย์จีน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันในวงการแพทย์กว่า 140 ประเทศทั่วโลก
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ก็ได้ประกาศรับรองผลการรักษาโรคด้วยวิธีนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 และในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2540 สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาหรือ NIH ก็ยอมรับว่า การฝังเข็มเป็น "ทางเลือกที่สมเหตุผล" ในการรักษาโรคได้หลายอย่าง
วิธีการรักษา แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กปักลงบนผิวหนังตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งเป็น"จุดฝังเข็ม" แล้วกระตุ้นด้วยมือ หรือใช้เครื่องกระตุ้นอิเลคทรอนิคส์ เพื่อกระตุ้นระบบประสาท, ระบบฮอร์โมนและระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ช่วยทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้สมดุลตามปกติ โดยทั่วไปแล้วจะกระตุ้นนานประมาณ 20-30 นาที จากนั้นจึงถอนเข็มออก โดยที่ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่มีเข็มฝังค้างอยู่ในร่างกายแต่อย่างไร
โดยทั่วไป จะกระตุ้นวันละ 1 ครั้ง สัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง ( แล้วแต่ชนิดโรค ) และทำการรักษา ติดต่อกันประมาณ 5 -10 ครั้ง ( แล้วแต่สภาพโรค ) เข็มที่ใช้รักษาจะเป็นแบบ"ใช้ครั้งเดียวทิ้ง" จึงไม่มีปัญหาการติดเชื้อระหว่างบุคคลแต่อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นโรคเอดส์, ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น นอก จากนี้แล้ว ยังมีรูปแบบการรักษาอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น - การเคาะเข็มผิวหนัง - การติดเข็มหูและเม็ดแม่เหล็ก - การครอบกระปุกดูด - การรมยาสมุนไพร
เวชกรรมฝังเข็มเหมาะสำหรับรักษาโรคอะไรบ้าง การฝังเข็มมีฤทธิ์รักษาโรคกว้างขวางมาก สามารถใช้รักษาโรคในร่างกายได้ทุกระบบ
ตัวอย่างกลุ่มโรคที่รักษาด้วยการฝังเข็มได้ผลดี ที่สำคัญได้แก่
กลุ่มโรคอัมพาตชนิดต่างๆเช่น อัมพาตครึ่งซีก, อัมพาตครึ่งท่อน, อัมพาตใบหน้า ( โรคปากเบี้ยว )
กลุ่มโรคปวดเส้นประสาทต่างๆ เช่น ปวดศรีษะ ไมเกรน, ปวดประสาทใบหน้า, ปวดเส้นประสาทกระเบนเหน็บ, ปวดปลายประสาทอักเสบตามปลายมือปลายเท้า เป็นต้น
กลุ่มโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและข้อ เช่น ปวดคอ, ปวดไหล่, [ปวดหลัง], ปวดบั้นเอว, ปวดเอว, ปวดศอก, ปวดเข่า, ปวดข้อเท้า, โรคข้อและกระดูกสันหลังเสื่อม, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น
โรคเหน็บชาต่างๆเช่น ชามือ ชาเท้า
โรคภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้จมูก, หอบหืด, ผื่นแพ้ เป็นต้น
เวียนศรีษะ
นอนไม่หลับ, ความจำเสื่อม
ผมร่วง
นอนกรน
หูตึง, ประสาทหูเสื่อม
โรคประสาทลำไส้แปรปรวน ( IBS Irritable Bowel Syndrome ), อาหารไม่ย่อย
โรคอื่นๆ
ขอขอบคุณ www.sanook.com