โรงเรียนศึกษานารี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงเรียนศึกษานารี เป็นโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร
สารบัญ |
[แก้] ข้อมูลพื้นฐาน
โรงเรียนศึกษานารี ตั้งอยู่เลขที่ 176 ถนนประชาธิปก แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10600 โทรศัพท์ 02–4662182 02–4667223 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3 กระทรวงศึกษาธิการ เนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา ทิศเหนือ จดถนนเทศบาลสาย 2 ทิศใต้ จดถนนอรุณอัมรินทร์ตัดใหม่ ทิศตะวันออก จดถนนประชาธิปก ทิศตะวันตก จดที่ว่างเปล่าของเอกชน โรงเรียนมีอาคารที่ใช้ในการเรียนการสอน จำนวน 6 หลัง มีสนามอเนกประสงค์ที่มีหลังคาสามารถใช้จัดกิจกรรม เป็นสนามใช้ฝึกซ้อมกีฬา และจัดการเรียนการสอนวิชาพลานามัย มีห้องสมุด ห้องพยาบาล ห้องโสตทัศนศึกษา โรงยิมพลศึกษา ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 3 ห้อง ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ 8 ห้อง ห้องปฏิบัติการภาษา 1 ห้อง ห้องปฏิบัติการวิชาชีพ 6 ห้อง ห้องประชุม โรงอาหาร นอกจากนี้ โรงเรียนศึกษานารียังเป็นที่ตั้งของศูนย์ต่าง ๆ ดังนี้ 1. ศูนย์วัฒนธรรมโรงเรียนศึกษานารี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ 2. ศูนย์ดำเนินงานคณะกรรมการ AFS เขตธนบุรี 3. ศูนย์ความเข้าใจอันดีระหว่างชาติและชนในชาติ ขององค์การยูเนสโก 4. ศูนย์พัฒนาคุณภาพวิชาการภาษาฝรั่งเศส ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรุงเทพมหานครเขต 3
[แก้] ประวัติโรงเรียนศึกษานารี
โรงเรียนศึกษานารีเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการเริ่มก่อตั้งขึ้นในวัดอนงคาราม โดยสมเด็จพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดอนงคาราม รูปที่ 6 กล่าวคือ เมื่อครั้งท่านเป็นพระอันดับ เรียกกันว่า พระอาจารย์นวม ท่านได้เริ่มจัดระบบการสอนลูกศิษย์ ของท่านเป็นการส่วนตัวขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2432 ต่อมามีผู้เห็นประโยชน์แห่งการศึกษา จึงมีการนำบุตรหลานที่เป็นชายมาฝากเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี จนถึง พ.ศ. 2440 กรมศึกษาธิการได้อุปการะครูที่ท่านจ้างมาสอนให้เป็นข้าราชการ รับพระราชทานเงินเดือน และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนท่านขึ้นป็นพระครูอุดมพิทยากร เมื่อ ปีพ.ศ. 2441 พ.ศ. 2444 กรมศึกษาธิการได้อนุมัติเงินจำนวน 4,030 บาท ให้ท่านสร้างโรงเรียนขึ้นหลังหนึ่งเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ทำให้มีสถานที่เล่าเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งมีผู้สร้างถวายไว้แล้ว 2 หลัง พระครูอุดมพิทยากรได้ดำริเห็นว่า ได้ช่วยการศึกษาฝ่ายกุลบุตรสมความมุ่งหมาย ยังแต่ฝ่ายกุลสตรีเท่านั้นที่ยังมิได้ให้ความช่วยเหลือ จึงได้เปิดสอนนักเรียนสตรีขึ้น โดยจ้างนายธูปมาเป็นครูสอน จึงนับได้ว่านักเรียนรุ่นนี้เป็นนักเรียนรุ่นแรกของโรงเรียนศึกษานารี ต่อมาเมื่อมีนักเรียนสตรีมากขึ้น พระครูอุดมพิทยากรเห็นว่าสถานที่เล่าเรียนอยู่ใกล้กับกุฏิสงฆ์ มากเกินไปเป็นการไม่เหมาะสม จึงได้ดำเนินการติดต่อขอที่ดินคุณหญิงพัน อันเป็นมรดกสืบเนื่องมาจากสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เปิดเป็นสถานที่เล่าเรียนสตรีฝ่ายสตรี (ปัจจุบันคือ บริเวณสถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา) เมื่อได้ย้ายนักเรียนมาอยู่ ณ ที่นั้นใช้นามโรงเรียนว่า โรงเรียนสตรีอุดมวิทยายน ต่อมากระทรวงธรรมการเห็นว่าชื่อของโรงเรียนมีคำว่า อุดม ไปพ้องกับโรงเรียนชั้นอุดมศึกษา จึงเรียนหารือกับพระครูอุดมพิทยากรขอเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนศึกษานารี ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2453 วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2473 กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาเห็นว่า โรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยาซึ่งเปิดสอนอยู่ที่โรงเรียนศึกษานารีปัจจุบันนี้ เป็นโรงเรียนชาย มีนักเรียนจำนวนมากแต่สถานที่คับแคบ กว่าโรงเรียนศึกษานารี ซึ่งตั้งอยู่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จึงดำเนินการให้แลกที่กัน เพราะเป็นที่ดินมรดกสืบเนื่องมาจากสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์เช่นเดียวกัน ดังนั้นโรงเรียนศึกษานารีจึงย้ายมาอยู่ ณ สถานที่ปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2473 ส่วนที่ตั้งโรงเรียนศึกษานารี เดิมเป็นที่ตั้งของโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา คำว่าแต่เดิมนั้นหมายเพียงแต่ปี พ.ศ. 2475 เท่านั้น กาลเวลาที่ยาวนานนั้นที่ดินตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ที่ตั้งบ้านเรือนของตระกูลบุนนาค ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางใหญ่มาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ และเมื่อมาถึงสมัยรัชการที่ 5 ขุนนางตระกูลบุนนาคมีอิทธิพลทางการเมืองมาก คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ท่านปู่ของเจ้าคุณพระประยุรวงศ์นั่นเอง ตระกูลบุนนาคตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งธนนี้ทั้งหมด ตั้งแต่คลองใต้บ้านฝรั่งกุฎีจีน คลองขนอนเข้าไปวัดพิชัยญาติ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) ท่านก็สร้างบ้านอยู่ในบริเวณของตระกูลบุนนาคตรงนี้ แล้วสร้างบ้านให้ลูกชายท่าน คือ บิดาของเจ้าคุณพระประยุรวงศ์อีกหลังหนึ่งต่อขึ้นมาด้านเหนือแต่เรียกรวมที่ดินบริเวณนี้ว่า บ้านสมเด็จฯ อันเป็นที่มาของชื่อโรงเรียนบ้านสมเด็จฯ เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ท่านเข้ามาพักอาศัย อยู่ในบ้านนี้ตั้งแต่อายุได้ 2 ปี เป็นจุดเริ่มของความเกี่ยวพันระหว่างเจ้าคุณพระประยุรวงศ์กับโรงเรียนศึกษานารี ซึ่งได้มาแทนที่โรงเรียนบ้านสมเด็จฯ จนเกิดอาคารเรียนขึ้นมาหลังหนึ่งชื่อว่า เรือนเจ้าคุณพระประยุรวงศ์บูรณะ หรือ เรียกสั้นๆว่า “เรือนเจ้าคุณ” ซึ่งนับเป็นอาคารหลังหนึ่งของโรงเรียนศึกษานารีนั่นเอง ปัจจุบันโรงเรียนศึกษานารีเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียนจำนวน 3,793 คน ครู 151 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2549)
[แก้] ประวัติสมเด็จปู่
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ 5 มีอำนาจได้สิทธิ์ขาดทั้งปวง มีอาญาสิทธิ์ คือ ประหารชีวิตคนกระทำผิดอุกฤษฏ์โทษได้ มีมหันตเดชานุภาพยิ่งใหญ่ไม่มีผู้ใดเสมอสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นบุตรในสมเด็จเจ้าพระยามหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) กับท่านผู้หญิงจัน ธิดาเจ้าพระยาพลเทพทองอิน (น้องกรมหมื่นนเรนทรภักดี) เป็นมารดาสมเด็จเจ้าพระยาฯ สมภพในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเมื่อวันศูร์ที่ 23 ธันวา พ.ศ. 2351 มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 9 คน และมีพี่น้องต่างมารดาอีก 35 คน สมเด็จเจ้าพระยาฯได้รับการศึกษาอย่างดีจากครูบาอาจารย์ในสมัยนั้น และจากบิดาซึ่งเป็น พระยาพระคลังเสนาบดีว่าการต่างประเทศ จนได้ว่าการปกครองหัวเมืองชายฝั่งตะวันออกแต่ใน ร.2 นอกจากนี้ท่านมีความสนใจในภาษาอังกฤษ ได้ศึกษาภาษาอังกฤษจนสามารถอ่านตำราที่ แพร่หลายอยู่ในขณะนั้นได้ และเจรจาทำสัญญาทางไมตรีกับฝรั่งต่างชาติได้ อีกทั้งยังศึกษาวิชาต่อเรือแบบฝรั่งจนสามารถต่อเรือกำปั่นมีน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 300-400 ตัน ในด้านวรรณคดี สมเด็จเจ้าพระยาฯสนใจพงศาวดารจีน และเมื่อตอนเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอยู่นั้น ได้ประชุมนักปราชญ์ทางภาษาแปลพงศาวดารจีนและวรรณคดีจีน 19 เรื่องในระหว่างที่สมเด็จเจ้าพระยาฯ ชราภาพ หากมีราชการแผ่นดินสิ่งใดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มิได้ละเว้นที่จะนำเรื่องนั้นขึ้นปรึกษาสมเด็จเจ้าพระยาฯ จนถึง พ.ศ. 2425 ได้ถึงแก่พิราลัย เมื่อวันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2425 บนเรือที่ปากคลองกระทุ่มแบน ขณะเดินทางกลับจากราชบุรี ขณะนั้นมีอายุได้ 74 ปี 27 วัน
[แก้] ศาลาพุทธสรานุสรณ์
เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำโรงเรียน และประดิษฐานรูปเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทธสรมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดอนงคารามรูปที่ 6 ผู้ก่อตั้งโรงเรียนศึกษานารี เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของครู ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนศึกษานารี สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 84 ปี แห่งการก่อตั้งโรงเรียนศึกษานารี เมื่อปี พ.ศ. 2530
[แก้] สัญญาลักษณ์ของโรงเรียน
สัญลักษณ์ประกอบด้วยอักษร ศน. อยู่ในวงกลม ด้านบนเป็นรูปอุณาโลมและรัศมี ด้านล่างมีคติพจน์ของโรงเรียน
- รัศมี หมายถึง ความมีชื่อเสียง รุ่งโรจน์
- อุณาโลม หมายถึง ความมีศิริ และสวัสดิมงคล
- ปรัชญา เทิดคุณธรรม นำวิชาการ รักสถานศึกษา จรรยาเป็นเลิศ
- คติพจน์ ธมฺโม วิชฺชา จ ปญฺญา จ นิจฺจภิยฺโย ปวทฺฒเต
- คุณธรรม ความรู้ และปัญญายังบุคคลให้เจริญรุ่งเรืองถาวร
- ดอกไม้ประจำโรงเรียน ดอกตะแบก
[แก้] สีประจำโรงเรียน
สัญลักษณ์ของโรงเรียนมีมานานแล้ว เดิมนั้นครูทุกคนจะต้องแต่งกายด้วยผ้าซิ่นสีน้ำตาล สวมเสื้อสีเหลือง ในโอกาสที่โรงเรียนมีงานพิเศษต่าง ๆ เช่น งานฉลองรัฐธรรมนูญ งานกาชาด ฯลฯ สัญลักษณ์นี้ผู้ให้กำเนิดคือ อ.เหลือบ บุณยเกตุ อ.ใหญ่คนแรกของโรงเรียนศึกษานารี โดยท่านให้ความหมายว่า สีน้ำตาลนั้น เทียบได้กับความหวานของน้ำตาล อันเป็นรสที่นำความชุ่มชื่นมาสู่ทุกคนที่ได้ลิ้ม ไม่ว่าน้ำตาลนั้นจะไปปรุงแต่งในรสใด สีเหลือง คือ สีแห่งดวงจันทร์ อันเทียบได้กับความงามของสตรี จึงนิมิตว่าสีเหลืองแทนความงาม สีน้ำตาลแทนความหวาน ฉะนั้น ความงามและความหวานในน้ำตาลเหลือง จึงเป็นสัญลักษณ์ของศึกษานารี และความหมายซึ่งเป็นที่มาของน้ำตาล -* เหลืองนี้ อ.นวลจันทร์ พงษ์สิทธิผล ได้ประพันธ์คำกลอนในปี พ.ศ.2508 ว่า ชิมน้ำตาลหวานชื่นระรื่นรส ทุกๆหยดย่อมดำรงคงความหวาน กุลสตรีมีสิ่งเด่นเช่นน้ำตาล ให้คนกล่าวขานถึงจึงจะดี มองพระจันทร์วันเพ็ญเห็นสีเหลือง สาดแสงเรืองจำรัสรัศมี พระจันทร์งามกับทรามวัยกล่าวไว้มี วงกวีเปรียบไว้แต่ไรมา สีน้ำตาล สีเหลืองเรืองอร่าม คือความงามที่มุ่งมาตรปรารถนา หญิงที่สวยบริสุทธิ์ดุจจันทรา และหวานมารยาทพร้อมย่อมสวยนาน ทั้งสองสีมีความดังได้กล่าว เป็นสีชาวศึกษานารีศรีสถาน คุณลักษณ์นี้จีรังกาล เหลือง น้ำตาล เหมาะสำหรับประดับตน
[แก้] เพลงมาร์ชศึกษานารี
เป็นเพลงที่นักเรียนโรงเรียนศึกษานารีทุกคนต้องร้องหลังจากเคารพธงชาติเสร็จแล้ว
ศึกษานารีมีสมญา น้ำตาลเหลืองงามสง่า น่าเลื่อมใส สัญลักษณ์การศึกษาสตรีไทย ตั้งอยู่ในธนบุรี มีมานาน อบรมกุลสตรีมาหลายรุ่น ให้มีคุณธรรม นำประสาน กับความรู้ให้เกิดปัญญาชาญ ครองตนครองบ้านและผู้คน สามัคคีมีระเบียบไม่เหลวไหล อีกทั้งมีน้ำใจเป็นกุศล รักษาเกียรติคุณ ทั่วทุกคน สมเป็นอนุชนศึกษานารี น้ำตาลเหลือง น้ำตาลเหลือง รุ่งเรืองนัก จะรักษาสัญลักษณ์ให้สดศรี ตกถิ่นฐานใดไม่ราคี เป็นกุลสตรีของไทยเอย ศึกษานารี น้ำตาลเหลือง ศึกษานารี ศึกษานารี น้ำตาลเหลือง
[แก้] ความภาคภูมิใจของโรงเรียน
[แก้] โครงการดีเด่นของโรงเรียน
1. โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ 2. โครงการพัฒนาการเรียนรู้ในโรงเรียน 3 .โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน 4. โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม 5. โครงการจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 6. โครงการรักการอ่าน 7. โครงการพัฒนานักเรียนสู่มาตรฐานสากล 8. โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ 9 .โครงการส่งเสริมศักยภาพวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี 10. โรงเรียนนำร่องด้านการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของ สสวท. 11. โรงเรียนในโครงการนำร่องการเสริมศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์
[แก้] เกียรติประวัติครู
- ครูทุกคนได้ผ่านการประเมินตามหลักสูตรการอบรมทางไกลบุคลกรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เส้นทางปฎิรูปการเรียนรู้ “ครูปฏิรูป” จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- อาจารย์ผ่านการปฏิรูปการศึกษาร้อยเปอร์เซ็นต์
- บุคลากรเป็นครูต้นแบบและครูแกนนำร้อยเปอร์เซ็นต์
- บุคลาการต้นแบบปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้รางวัลครูเกียรติยศ พ.ศ. 2545
จากกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการ
- ครูต้นแบบปี 2545,2546 สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
- ครูแกนนำปฏิรูปการเรียนรู้ ประจำปี 2544-2546 จากกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
- ครูแม่แบบวิชาภาษาไทย ปี 2536,2539 จากกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
- ครูที่ปรึกษาดีเด่นในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามระบบการดูแล
ช่วยเหลือนักเรียนของกรมสามัญศึกษา ปี 2544 กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
- ครูดีที่หนูรัก ปีการศึกษา 2544 จากกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
- ครูผู้มีความรู้ความสามารถ และครูชำนาญการพิเศษ (ครู คศ.3)
จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
- ครูดีในดวงใจ ปีการศึกษา 2546, 2547 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3
- ได้รับโล่เกียรติยศและประกาศเกียรติคุณ “Professional of Teacher Awards 2004”
ครูดี สร้างผลงานแทนคุณแผ่นดินเพื่อชาติไทย จัดโดย Teacher of Model Magazine
- ครูผู้มีผลงานวิจัยดีเด่นจากสมาคมวิจัยสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย
- ครูผู้ชนะเลิศประกวดสื่อการสอน ของศูนย์พัฒนาวิชาการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ระดับ สพท. กทม. เขต 3
[แก้] ศิษย์เก่า
- สมเด็จย่า http://kanchanapisek.or.th/kp6/M10-00/kmother/chap/chap.htm
- ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ http://www.moe.go.th/pornnipa/index.html
- แสงเดือน แม้นวงศ์ http://www.mthai.com/webboard/7/98262.html
- บัวชมพู ฟอร์ด http://www.kapook.com/hilight/content/11432.html
- เชียร์ ทิฆัมพร http://www.cheerclub.net/2005/