อำเภอสุไหงปาดี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถิติ | |
---|---|
จังหวัด: | จังหวัดนราธิวาส |
พื้นที่: | 372.6 ตร.กม. |
ประชากร: | 54,095 (พ.ศ. 2549) |
ความหนาแน่น: | 145.2 คน/ตร.กม. |
รหัสไปรษณีย์: | 96140 |
รหัสทางภูมิศาสตร์: | 9611 |
แผนที่ | |
![]() |
อำเภอสุไหงปาดี เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนราธิวาส
สารบัญ |
[แก้] ประวัติของอำเภอสุไหงปาดี
สุไหงปาดี มาจากคำในภาษามาลายู "สุไหง" ซึ่งแปลว่าคลอง และ "ปาดี" เป็นชื่อชุมชนหมู่บ้าน ซึ่งความหมายรวมกันก็คือ "คลองปาดี" สาเหตุที่เรียกว่า คลองปาดีหรือ สุไหงปาดีนั้นก็เนื่องมากจากว่าในสมัยก่อนนั้นผู้คนบริเวณนี้จะใช้ คลองในการคมนาคมข่นส่งต่างๆ เพราะยังไม่มีถนนในสมัยก่อนการเดินทางโดยเรือจึงเป็นการสะดวกและรวดเร็วกว่า
แต่เดิมสุไหงปาดีมีอาณาเขตที่กว้างขวาง มีพื้นที่ติดต่อกับมาเลเซียทางด้านรัฐกลันตัน ต่อมาได้มีการแยกตำบลสุไหงโก-ลก ตำบลปุโยะ ตำบลปาเสมัส และตำบลมูโนะ ของอำเภอสุไหงปาดี ไปรวมเพื่อจัดตั้งเป็นอำเภอสุไหงโก-ลก จึงทำให้อำเภอสุไหงปาดีมีพื้นที่เล็กลงและไม่ติดกับมาเลเซีย
[แก้] ประชากร
เชื้อชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู
ศาสนา ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม และมีชาวไทยพุทธเป็นส่วนน้อย
อาชีพ ส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม, รับจ้าง, รับราชการ
[แก้] การปกครอง
การปกครองของอำเภอสุไหงปาดีมี 6 ตำบล 50 หมู่บ้าน 1 เทศบาล
- ต.ปะลุรู มี 8 หมู่บ้าน
- ต.สุไหงปาดี มี 12 หมู่บ้าน
- ต.โต๊ะเด็ง มี 5 หมู่บ้าน
- ต.สากอ มี 12 หมู่บ้าน
- ต.ริโก๋ มี 7 หมู่บ้าน
- ต.กาวะ มี 6 หมู่บ้าน
[แก้] พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แต่สุไหงปาดีก็มีเทือกเขาที่สำคัญคือ เทือกเขาสุไหงปาดี ทอดยาวจากอำเภอสุไหงปาดีไปจดอำเภอสุไหงโก-ลก เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกฉัตรวาริน ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูง 7 ชั้น ลดหลั่นกันลงไปมีน้ำไหลตลอดทั้งปี และจากการที่เทือกเขาสุไหงปาดี ยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงห่วงใยได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสุไหงปาดี เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2524 ว่า
"เทือกเขาสุไหงปาดี มีความสูง 1,800 ฟุต เป็นเทือกเขาสูงที่สุดในจังหวัดนราธิวาส มีไอน้ำเกาะทำให้เกิดความชุ่มชื้นและแหล่งน้ำ ควรมีการรักษาแหล่งน้ำนี้อย่างจริงจัง"
จากกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวทำให้ กรมป่าไม้ ดำเนินการสำรวจป่าเทือกเขาสุไหงปาดี และได้ข้อสรุปว่าป่าเทือกเขาสุไหงปาดีมีสภาพดีมาก มีธรรมชาติที่สวยงาม มีสัตว์ป่าชุกชุมและบางชนิดเป็นสัตว์ที่หายาก อาทิ หมูป่า เก้ง กระจง เลียงผา เสือ หมี หมาริ่ง พญากระรอก นกอินทรี นกเหยี่ยว นกขุนแผนหัวดำ นกเคราแดง รวมทั้งสภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบ ประกอบด้วยไม้มีค่านานาชนิดทั้งไม้ตะเคียน ไม้พญาไม้ ไม้นาคบุตร และต้นไม้ที่หายากได้แก่ ต้นใบสีทอง กับ ต้นปาล์มบังสูรย์ ซึ่งมีแต่เฉพาะแถบเทือกเขาสุไหงปาดีเท่านั้น จึงได้มีการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติสุไหงปาดี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีผู้สนใจไปเที่ยวชมไปพักผ่อนเพลิดเพลินกับธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้อนุรักษ์เทือกเขาสุไหงปาดีนี้ นอกจากจะทำให้ป่าไม้และสัตว์ป่าไม่ถูกทำลายแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ราษฎรในเขตอำเภอสุไหงปาดี มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายอาหาร ของที่ระลึก ที่พักและการบริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติสุไหงปาดีนี้อีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว จากการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส หลายครั้งตั้งแต่ปี 2502 ได้ทรงทราบถึงความเดือดร้อนของราษฎรในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด ในการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภค ปัญหาเรื่องดินเปรี้ยวซึ่งเกิดจากพรุ เนื่องจากอำเภอสุไหงปาดีมีป่าพรุเล็กๆ กระจายทั่วไป ทำให้เกิดปัญหาดินเปรี้ยว จึงได้พระราชทานพระราชดำริในการแก้ไข ทำให้ราษฎรซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิมเชื้อสายมลายู มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง
อำเภอของจังหวัดนราธิวาส | ![]() |
||
---|---|---|---|
อำเภอ: |
อำเภอเมืองนราธิวาส - อำเภอตากใบ - อำเภอบาเจาะ - อำเภอยี่งอ - อำเภอระแงะ - อำเภอรือเสาะ - อำเภอศรีสาคร - อำเภอแว้ง - อำเภอสุคิริน - อำเภอสุไหงโก-ลก - อำเภอสุไหงปาดี - อำเภอจะแนะ - อำเภอเจาะไอร้อง |