มาเรียลัย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงเรียนมาเรียลัย เป็นโรงเรียนคาทอลิกของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ตั้งอยู่เลขที่ ๓๘๙ ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่จำนวน ๑๕ ไร่ ๔๐ ตารางวา เดิมเป็นอาคารเรียนเรือนไม้ ๒ ชั้น ๓ หลัง ชุมชนมีการพัฒนาความเจริญมากขึ้น ตามลำดับ ในพื้นที่ของวัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด
[แก้] ประวัติโรงเรียนมาเรียลัย
โรงเรียนมาเรียลัย ตั้งอยู่ เลขที่ ๓๘๙ ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานครได้เปิดทำการสอนตาม พรบ.โรงเรียนราษฏร์ เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๐ โดยมีพระสังฆราชเรอเนแปรโรสเป็นเจ้าของและผู้จัดการคนแรกและนางสาวอำไพ เลาหบุตร เป็นครูใหญ่
พ.ศ. ๒๔๘๕ นางสาวอำไพ เลาหบุตร ลาออก ซิสเตอร์มารีเทโอฟาน ระงับพิศ รับหน้าที่เป็นครูใหญ่แทน
พ.ศ. ๒๔๘๓ บาทหลวงสงวน สุวรรณศรี ได้รับโอนเป็นเจ้าของและผู้จัดการและนางสาวมาลีวรรณ สิริสุทธิ์ รับหน้าที่เป็นครูใหญ่แทนซิสเตอร์มารีเทโอฟาน จนถึงปี ๒๔๘๔ บาทหลวง ถาวร กิจสกุล รับหน้าที่ผู้จัดการและเจ้าของจนถึง พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้ขอทุนโรงเรียนดีจากกระทรวงฯ และได้รับเงินอุดหนุนจากกระทรวงช่วยเมื่อเดือน มิถุนายน ๒๔๙๙
พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้ขอตั้งหมู่อนุกาชาดและกองลูกเสือ ทำพิธีเปิดกอง เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๐๑
จากปี พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๐๕ นายชิน ประกอบกิจ เป็นครูใหญ่ ได้ลาออกจากตำแหน่ง จึงให้นางสาว อำภา มีบรรจง รับหน้าที่แทนต่อมาได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ จึงให้นางสาว จันทร์ บัตรบันเทิง รักษาการแทน จนถึงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๐๖ ทางกระทรวงแจ้งข้อขัดข้องเกี่ยวกับสัญชาติ จึงให้นางสาวพิไล ชิณจิตรรักษาการแทนอยู่จนถึงวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๐๗ และให้นางสาว สาโรจน์ อัมพรประภา เป็นคร.ูใหญ่แทน
โรงเรียนได้รับรองวิทยฐานะ เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๐๕ และเปิดทำการสอนแบบสหศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๔ ซิสเตอร์สดับ พงษ์ศิริพัฒน์ ได้มารับตำแหน่งครูใหญ่แทนซิสเตอร์สุวรรณรัตน์ ทรงศักดิ์ศรี ซึ่งรับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น ปีนี้มีนักเรียนทั้งหมด ๔๒๗ คน ครู ๑๘ คน ท่านได้ดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๒๐ และได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น ซิสเตอร์ ระเบียบ ยิ่งยืน ได้รับตำแหน่งแทน โดยมีบาทหลวงชวลิต กิจเจริญ เป้นผู้จัดการ
ในปี ๒๕๒๐ มีนักเรียนทั้งหมด ๓๑๑ คน ครู ๑๕ คน และในปี ๒๕๒๑ ทางโรงเรียนได้ขอขยายชั้นเรียนโดยขอเปิดแผนกอนุบาลเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ปีนี้มีนักเรียน ๔๐๔ คน คุณครู ๑๗ คน โรงเรียนมีสิทธิ์รับนักเรียนได้ไม่เกิน ๕๗๐ คน
วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๒๒ บาทหลวงชวลิต กิจเจริญ ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น จึงทำให้ตำแหน่งผู้จัดการว่าง ซิสเตอร์ ระเบียบ ยิ่งยืน จึงได้รับตำแหน่งผู้จัดการแทน และในปีนี้ จำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเป็น ๖๓๐ คน ทางโรงเรียนจึงได้ขอต่อเติมอาคารเรียนเพิ่มขึ้นอีก ๑ ห้อง โดยต่อจากห้องประชุมและได้ดัดแปลงใช้เป็นห้องเรียนอีก ๒ ห้อง รวมมีห้องเรียนทั้งหมด ๑๗ ห้อง ในเนื้อที่ ๒,๐๔๐ ตารางวา สามารถรับนักเรียนได้ไม่เกิน ๗๒๙ คน ในปีนี้มีซิสเตอร์สุพรรณี แย้มกรรณ รับตำแหน่งเจ้าของโรงเรียนแทนบาทหลวงชวลิต กิจเจริญ ซึ่งย้ายไป
ปี ๒๕๒๓ ทางโรงเรียนได้ขออนุญาตทางราชการใช้ห้องเรียนชั่วคราวเพิ่มขึ้นอีก ๒ ห้องเรียน ในอาคารเรียนที่ ๒ เพื่อใช้เป็นห้องเรียนอนุบาล ในปีนี้มีนักเรียนทั้งหมด ๖๕๓ คน มีครู ๓๑ คน ปีนี้ทางโรงเรียนได้ขอปิดกองยุวกาชาดและได้เปิดกองเนตรนารีแทน
ปี ๒๕๒๔ ซิสเตอร์สุพรรณี แย้มกรรณ ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น บาทหลวงวรยุทธ กิจบำรุง จึงได้รับมอบหมายให้มาดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนมาเรียลัยแทน และในเวลาเดียวกันซิสเตอร์ระเบียบ ยิ่งยืน ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการโรงเรียน เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๒๔ เนื่องจากดำรงตำแหน่งครูใหญ่อยู่แล้ว บาทหลวงวรยุทธ กิจบำรุงจึงได้รับตำแหน่งในหน้าที่ผู้จัดการแทนและในปีนี้ทางมิสซังได้ปรับพื้นดินเพื่อเตรียมสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ปีนี้มีนักเรียนทั้งหมด ๖๖๓ คน ครู ๓๒ คน
ปี ๒๕๒๕ บาทหลวงวรยุทธ กิจบำรุงได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจีน ที่โรงเรียนอันนาลัย บาทหลวงสุรชัย ชุ่มศรีพันธ์ ได้รับการแต่งตั้งให้มาปกครองดูและวัดและโรงเรียน ต่อมาได้มองหมายให้ซิสเตอร์ระเบียบ ยิ่งยืนเป็นผู้จัดการแทน และบาทหลวงวุฒิเลิศ ดำรงตำแหน่งผู้ลงนาทแทนผู้รับใบอนุญาต
ปี ๒๕๒๖ ทางโรงเรียนได้ก่อสร้างโรงเรียนอนุบาล โรงอาหาร และหอประชุมหลังใหม่ บาทหลวงสุรชัย ชุ่มศรีพันธ์ ได้ย้ายไปประจำที่อื่น โดยมีบาทหลวง ธนันชัย กิจสมัคร มารับตำแหน่งดูแลแทน มีบาทหลวงวุฒิเลิศ แห่ล้อม เป็นผู้ลงนาทแทนผู้รับใบอนุญาต ซิสเตอร์ระเบียบ ยิ่งยืน เป็นครูใหญ่และผู้จัดการ การก่อสร้างโรงเรียนอนุบาลแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน เปิดทำการให้ภาคเรียนที่ ๒ ได้เสกและเปิดอาคารเรียนเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗
ปี ๒๕๒๗ บาทหลวงธนันชัย กิจสมัคร ได้รับคำสั่งย้ายไปที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยา และซิสเตอร์ระเบียบ ยิ่งยืน ย้ายไปที่โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ บาทหลวงประเวศ พันธุมจินดา ได้มารับตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต ผู้จัดการและซิสเตอร์อัญชลี สมแสงสรวง รับตำแหน่งครูใหญ่
ปี ๒๕๒๘ บาทหลวงพงษ์เกษม สังวาลเพชร ได้มารับตำแหน่งในหน้าที่ผู้จัดการ และเจ้าของโดยมีซิสเตอร์ มารศรี จันทร์ชลอ เป็นครูใหญ่ ปีนี้มีนักเรียน ๗๘๓ คน ครู ๓๓ คน
ปี ๒๕๒๙ ซิสเตอร์กิตฟ้า ว่องประชานุกูล รับหน้าที่แทนซิสเตอร์มารศรี จันทร์ชะลอ ซึ่งลาออก
ปี ๒๕๓๐ ก่อสร้างอาคารเรียน ๕ ชั้น แทนอาคารเรียน ๒ ชั้น หลังเก่าโดยมีซิสเตอร์กฤษฎีชื่นชมน้อย มารับหน้าที่ครูใหญ่แทน ปีนี้มีนักเรียน ๘๓๐ ครู ๓๕ คน
ปี ๒๕๓๑ ได้ทำการย้ายอาคารเรียน มาเรียนที่อาคารเรียนหลังใหม่ ซึ่งได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว และมีการก่อสร้างโรงอาหารในปีนี้มีบาทหลวงพงษ์เกษม สังวาลเพชร เป็นผู้จัดการ ซิสเตอร์ กฤษฎี ชื่นชมน้อย เป็นครูใหญ่ มีนักเรียนทั้งหมด ๘๗๓ คน ครู ๓๘ คน
ปี ๒๕๓๒ บาทหลวงพงษ์เกษม สังวาลเพชร ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น บาทหลวงธีรวัฒน์ เสนางค์นารถ ได้มารับนตำแหน่งผู้รับใบอนุญาตผู้จัดการและมีซิสเตอร์ กฤษฎี ชื่นชมน้อย เป็นครูใหญ่ปีนี้ได้มีการปรับปรุง พื้นที่ให้เป็นที่เรียบร้อย ทำถนนคอนกรีต เสริมทางน้ำ และปรับปรุงสนาม ในปีนี้มีนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น ๙๒๖ คน ครู ๓๘ คน
ปี ๒๕๓๓ ซิสเตอร์กฤษฎี ชื่นชมน้อย ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น โดยซิสเตอร์โนรา ระดมกิจ มารับตำแหน่งเป็นครูใหญ่แทน ปีนี้มีนักเรียนทั้งหมด ๑,๐๐๒ คน ครู ๔๐ คน
ปี ๒๕๓๔ ซิสเตอร์โนรา ระดมกิจ ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น มีซิสเตอร์สุวรรณรัตน์ ทรงศักดิ์ศรี มาปฏิบัติหน้าที่แทนในปีการศึกษา ๒๕๓๔ ได้จัดระบบการบริหารให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยแบ่งอำนาจ และหน้าที่รับผิดชอบตามระบบสายงาน เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในปีนี้มีนักเรียน ๑,๑๖๔ คน ครู ๔๗ คน เดือนพฤศจิกายน ซิสเตอร์สุวรรณรัตน์ ทรงศักดิ์ศรี ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น มีซิสเตอร์ระเบียบ ยิ่งยืนมาปฏิบัติหน้าที่แทน
ปี ๒๕๓๕ ซิบเตอร์ระเบียบ ยิ่งยืน ได้รับคำสั่งย้ายไปประจำที่อื่น บาทหลวงธีรวัฒน์ เสานางค์นารถ จึงได้ดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทน ปีนี้มีนักเรียน ๑,๒๘๐ คน ครู ๕๘ คน
ปี ๒๕๓๘ การดำเนินงานของโรงเรียนมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น ได้ปรับปรุงหลายด้าน ได้แก่
- ปรับปรุงสนามฟุตบอล จัดถมดินให้สูงขึ้นป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งถนนเข้าสู่โรงเรียน เทคอนกรีต ให้สูงขึ้น โดยรอบ รวมทั้งตึกอนุบาลด้วย
- ซ่อมแซมอาคารเรียน ๕ ชั้นเพื่อปรับปรุงให้เป็นห้องปฏิบัติการต่างๆตามความเหมาะสม
- จัดห้องคอมพิวเตอร์เพื่อเสริมการเรียนการสอนให้ก้าวไกลไปกับยุคปฏิรูปเพื่อให้เด็กมีคุณภาพและประสิทธิภาพดีขึ้น ปรับปรุงหน้าอาคารเรียน โดยเฉพาะบริเวณเสาธงอย่างสวยงาม
ปี ๒๕๓๙ การดำเนินงานของโรงเรียน มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นได้มีการปรับปรุงในด้านต่างๆดังนี้
- ก่อสร้างห้องสหกรณ์เพื่อเป็นสวัสดิการสำหรับครูและนักเรียน
- ปรับปรุงห้องนาฏศิลป์
- ปรับปรุงและตกแต่งสนามหน้าโรงเรียนให้สวยงามยิ่งขึ้น
- ปรับปรุงและตกแต่งบริเวณอาคารสถานที่ของนักเรียนระดับอนุบาลให้ดูสวยงามและปลอดภัยสำหรับนักเรียนอนุบาลมากยิ่งขึ้น
- จัดทำห้องคอมพิวเตอร์ เพิ่มอีก ๑ ห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้นได้มีโอกาสรู้ถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ปี ๒๕๔๐ บาทหลวงศรีปราชญ์ ผิวเกลี้ยง ดำรงตำแหน่งผู้รับใบอนุญาตผู้จัดการ และซิสเตอร์ วรรณวิมล ย้ายไปประจำที่อื่น ซิสเตอร์สุภาวดี คำสำราญ มาเป็นครูใหญ่ มีจำนวนนักเรียน ๑,๙๑๕ คน
ปี ๒๕๔๑ มีจำนวนนักเรียน ๒,๓๓๑ คน ครู ๑๗๓ คน ครูพี่เลี้ยง ๑๒ คน ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน ๖ ชั้น ๑ หลัง สระว่ายน้ำ ปรับปรุงต่อเติมอาคารเรียนอนุบาล ๒ ชั้น เป็น ๓ ชั้น เพื่อใช้เป็นตึกอำนวยการ ในปี ๒๕๔๓ สร้างศาลาอเนกประสงค์ จำนวน ๒ หลัง เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ ปรับปรุงบริเวณสนามฟุตบอล ให้ได้มาตรฐานและสนามบาส ๒ สนาม สนามวอลเลย์บอล ๑ สนาม ปรับปรุงสวนหย่อมและสวนสุขภาพ มีบรรยากาศที่ร่มรื่น มีการปรับปรุงพัฒนาอาคาร สถานที่อย่างต่อเนื่อง
ปี ๒๕๔๓ คุณพ่อเกรียงศักดิ์ โกวิทวานิช ได้รับมองหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต และผู้จัดการ
ปี ๒๕๔๖ บาทหลวงไพฑูรย์ หอมจินดา ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต ซิสเตอร์พัชรา นันทจินดา เป็นครูใหญ่ จำนวนนักเรียน ๓,๒๒๘ คน ครู ๑๒๒ คน ครูพี่เลี้ยง ๒๑ คน โรงเรียนได้พัฒนาการสอนตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๔ จนเป็นที่ยอมรับของชุมชน และโรงเรียนในเขต ๔ จึงมีโอกาสขยายการศึกษาออกไปเป็น ๑๒ ปี เพื่อสนองต่อการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เริ่มมัธยมศึกษาปีที่ ๔ เป็นปีแรก ถึงแม้ว่าโรงเรียนได้รับการตรวจประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ.แล้ว โรงเรียนก็ยังมุ่นมั่นเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการประเมินคุณภาพในระยะต่อไป
ปี ๒๕๔๗ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาตคือ บาทหลวงไพฑูรย์ หอมจินดา ซิสเตอร์พัชรา นันทจินดา เป็นครูใหญ่ มีนักเรียน ๓,๕๕๒ คน ครู ๑๒๒ คน ครูพี่เลี้ยง ๒๐ คน โรงเรียนได้รับเลือกเป็นผู้แทนโรงเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๒ ในเขตลาดกระบัง เพื่อประสานความร่วมมือในการดำเนินงานการจัดการศึกษา สู่เขตพื้นที่ให้บริการจัดการการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและได้ดำเนินโครงการ ความร่วมมือในการจัดการศึกษาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังและสถานบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (สสวท.) อย่างปลอดภัย
ปี ๒๕๔๘ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับในอนุญาตคือ บาทหลวงไพฑูรย์ หอมจินดา บาทหลวงสุขุม กิจสงวน ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ มีนักเรียน ๓,๒๗๐ คน ครู ๑๓๐ คน พี่เลี้ยง ๒๐ คน โรงเรียนได้มีการพัฒนาการศึกษาขึ้นทั้งระบบ และในปีนี้ ได้จัดทำธรรมนูญโรงเรียนเพื่อเป็นแผนงานในการปฏิบัติงานปีการศึกษา ๒๕๔๘ – ๒๕๕๐
เเละในปัจจุบัน โรงเรียนมาเรียลัยยังเป็น ศูนย์กลางของนักเรียนทุกศาสนา ซึ่งทางโรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอน ถึง 5 ระดับชัน ซึ่งเเบ่งเป็น อนุบาล ประถมต้น-ปลาย มัธยมต้น-ปลาย