ฮาวล์สมูฟวิงแคสเสิล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ฮาวล์สมูฟวิงแคสเสิล (Howl's Moving Castle) เป็นนิยายสำหรับเด็กแนวแฟนตาซี เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษ ไดแอนา ไวนน์ โจนส์ (Diana Wynne Jones) ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1986 และมีการดัดแปลงทำเป็นภาพยนตร์อะนิเมชั่นในปี ค.ศ. 2004 โดยผู้กำกับชาวญี่ปุ่น ฮายาโอะ มิยาซากิในสตูดิโอจิบลิ

[แก้] ภาพยนตร์อะนิเมชั่น

ได้มีการทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูนโดยสตูดิโอจิบลิ ภายใต้การกำกับโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ ซึ่งดัดแปลงจากเนื้อหาในหนังสือของไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ ใช้ชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า ฮาอุรุโนะอุโงะกุชิโระ (ハウルの動く城, ハウルのうごくしろ) และในชื่อภาษาอังกฤษว่า ฮาวล์สมูฟวิงแคสเสิล (Howl's Moving Castle)

ในตอนแรก ผู้กำกับดิจิมอนในภาคที่ฉายทางทีวีและในภาพยนตร์ มาโมรุ โฮโซดะ (Mamoru Hosoda) ได้รับการคัดเลือกให้มากำกับภาพยนตร์อะนิเมชันเรื่องนี้ แต่ภายหลังได้ออกจากการเข้าร่วมโปรเจคนี้ และมิยาซากิได้เข้ามารับหน้าที่แทน ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 และฉายสู่สายตาชาวโลกในงาน เทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส (Venice Film Festival) ในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2004 และจัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือโดย บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และจะออกฉายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาประมาณวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2005

ไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ ผู้แต่ง ได้พบกับตัวแทนของสตูดิโอจิบลิ แต่ไม่ได้มีส่วนในการสร้างภาพยนตร์ เธอได้กล่าวว่า 'มันเยี่ยมมาก ไม่ ฉันไม่ได้ออกความเห็นในภาพยนตร์ ฉันเขียนหนังสือ ไม่ใช่ภาพยนตร์ ใช่ มันจะต่างจากในหนังสือ จริงๆแล้วก็แตกต่างมากทีเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น มันจะเป็นหนังที่เยี่ยมมาก' มิยาซากิได้เดินทางไปอังกฤษในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2004 เพื่อให้โจนส์ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการส่วนตัวด้วย

อย่างที่โจนส์ได้กล่าวไว้ เนื้อหาในภาพยนตร์แตกต่างจากในหนังสือมากทีเดียว ภาพยนตร์ยังเน้นไปที่โซฟี และการผจญภัยต่างๆของเธอในขณะที่ถูกสาปเป็นหญิงชราเหมือนในหนังสือ แต่เหตุการณ์ในภาพยนตร์เกิดขึ้นในช่วงสงคราม ซึ่งทำให้นึกถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และอยู่ในประเทศเยอรมนี ฮาวล์ก็พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมสงครามเพื่อพระราชา และต้องจัดการกับการตัดสินใจต่างๆของเขา ภาพยนตร์ นอกจากนี้ ฉากต่างๆในภาพยนตร์ได้รวมฉากของสงครามและฉากตามในหนังสือ

[แก้] โครงเรื่อง

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ
โซฟี โดนสาปให้เป็นยายแก่ และผจญภัยในโลกใหม่
โซฟี โดนสาปให้เป็นยายแก่ และผจญภัยในโลกใหม่

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้หญิง ชื่อ โซฟี แฮทเทอร์ (Sophie Hatter) ซึ่งเป็นพี่คนโตของน้องสาวอีกสองคน อาศัยอยู่ในอาณาจักรที่เต็มไปด้วยเวทย์มนตร์และเรื่องราวของเทพนิยายแห่งอินการี (Ingary) น้องสาวคนรองของโซฟีเป็นคนที่สวย ในขณะที่น้องคนเล็กเป็นคนที่ฉลาด โซฟีจึงมักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่น่าสนใจและไม่ฉลาด และได้ดำเนินกิจการร้านขายหมวกของครอบครัว จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อแม่มดแห่งการทำลาย ได้สาปให้โซฟีกลายเป็นหญิงชราอายุ 90 ปี เพราะไปทำให้แม่มดโกรธ โซฟีเลยต้องออกจากบ้าน และได้ไปพบกับปราสาทเคลื่อนที่ของพ่อมดฮาวล์ ผู้ซึ่งถูกร่ำลือว่าชอบสะสมหัวใจของเด็กผู้หญิง แต่โซฟีในสภาพหญิงชราก็ได้เป็นแม่บ้านในปราสาทแห่งนี้ และได้เรียนรู้ว่าจริงๆแล้วพ่อมดฮาวล์เป็นคนดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่ก็เป็นคนเจ้าชู้ และชอบปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับตัวเองในแง่ลบ เพื่อความเป็นส่วนตัวของตัวเองโดยป้องกันไม่ให้ผู้คนมาให้ความสนใจมากนัก ปราสาทของฮาวล์ประกอบด้วยประตูสี่ด้าน ซึ่งแต่ละประตูเปิดออกสู่สถานที่ต่างกันถึงสี่แห่ง คือ ส่วนที่โซฟีเข้ามา บ้านเกิดของฮาวล์ในเวลส์ (ชื่อจริงของฮาวล์คือ โฮเวลล์ เจนกินส์) เมืองชายทะเลซึ่งฮาวล์ได้ค่าจ้างจากการทำมนต์วิเศษต่างๆ และด้านที่เปิดออกสู่เมืองหลวงของอาณาจักร

โซฟีได้ต่อรองกับปิศาจไฟ ชื่อ แคลซิเฟอร์ (Calcifer) ว่า ถ้าโซฟีสามารถทำลายสัญญาระหว่างแคลซิเฟอร์และฮาวล์ได้ แคลซิเฟอร์จะต้องทำให้โซฟีกลับไปเป็นเด็กดังเดิม แต่ในสัญญาระบุว่าทั้งฮาวล์และแคลซิเฟอร์ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสัญญาให้บุคคลอื่นรับรู้ได้ โซฟีจึงต้องเดาเอาเองว่าสัญญานั้นเป็นอย่างไร

ไมเคิล (Michael) เด็กฝึกงานของฮาลล์ เป็นผู้ทำหน้าที่จัดการกิจการต่างๆของฮาวล์ ซึ่งได้มาหลงรักผู้หญิงคนเดียวกับฮาวล์ คือ เลตตี้ (Lettie) น้องสาวคนรองของโซฟี ซึ่งเลตตี้ของไมเคิลจริงๆ แล้วคือ มาร์ธา (Martha) น้องสาวคนเล็กของโซฟี ที่ได้ใช้เวทย์มนตร์ให้ตัวเองดูคล้ายเลตตี้

เมื่อเจ้าชายจัสติน (Prince Justin) ได้หายสาบสูญไปจากการตามหาตัวพ่อมดซูลิมาน (Wizard Suliman) พระราชาจึงแต่งตั้งให้ฮาวล์ไปตามหาตัวทั้งสองคน พร้อมกับกำจัดแม่มดแห่งการทำลาย แต่ฮาวล์พยายามหลีกเลี่ยงภารกิจนี้ โดยการให้โซฟีแสร้งเป็นแม่ของฮาวล์และไปพูดกับพระราชาเพื่อเปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ฮาวล์มีเหตุผลที่จะตามหาบุคคลทั้งสามอยู่แล้ว เนื่องจากแม่มดแห่งการทำลายได้สาปฮาวล์ให้เป็นคนมากรักและฆ่าอาจารย์ของฮาวล์

ฮาวล์ได้สู้กับแม่มดแห่งการทำลาย และชนะในที่สุด โซฟีก็คืนร่างเป็นเด็กดังเดิมและแต่งงานกับฮาวล์ โซฟีก็ได้ช่วยให้แคลซิเฟอร์หลุดพ้นจากสัญญาได้ด้วย