มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:การ์ตูนญี่ปุ่น
มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
ชื่อไทย มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
ชื่อญี่ปุ่น フェイト/ステイナイト
[Fate/stay night]
ชื่ออังกฤษ Fate/stay night
แนว เซเน็น, แอคชั่น, แฟนตาซี,
ดราม่า, พลังพิเศษ,ทริลเลอร์
เกม
Fate/stay night
สร้างโดย ไทป์-มูน
จัดจำหน่ายโดย ไทป์-มูน
แนว เอโรเกะ วิชช่วล โนเวล
เรทติ้ง 18+
สำหรับเครื่อง วินโดวส์
จัดจำหน่ายเมื่อ 30 มกราคม 2547 (พีซีซีดี)
29 มีนาคม 2550 (พีซีดีวีดี)
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
Fate/stay night
ผู้กำกับ ยูจิ ยามากุชิ
ออกแบบตัวละคร ทากาชิ ทาเคอุจิ, เมงุมิ อิชิฮาระ
ผลิตโดย ประเทศญี่ปุ่นStudio DEEN, สหรัฐอเมริกาGeneon
ฉายทาง หลายช่อง
ฉายครั้งแรก 6 มกราคม 2548 – 16 มิถุนายน 2548
จำนวนตอน 24
หนังสือการ์ตูน
Fate/stay night
ผู้แต่ง ไทป์-มูน
สำนักพิมพ์ ประเทศญี่ปุ่น คาโดคาว่า โชเทน
นิตยสาร ประเทศญี่ปุ่นโชเน็นเอซ
ตีพิมพ์เมื่อ ประเทศญี่ปุ่น26 ธันวาคม 2548 – ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม ประเทศญี่ปุ่น2 (ยังไม่จบ)
สารานุกรมการ์ตูน ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น

มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ (「フェイト/ステイナイト」 Feito/sutei naito ทับศัพท์จาก Fate/stay night?) เป็นเกมส์วิชช่วล โนเวล ที่สร้างโดยกลุ่มไทป์-มูนวางจำหน่ายในปี 2547 ซึ่งต่อมาได้ถูกนำไปทำเป็นแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์โดย Studio DEEN, ไทป์-มูนและ Geneonออกอากาศในวันที่ 6 มกราคม 2549 จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2549 โดยตัวเกมนั้นออกตัวอย่างมาครั้งแรกในงาน Rondo Robe 2005 ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2547 และดีวีดีชุด Curtain-Raiser ได้ถูกวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤษจิกายน 2547 เดิมทีเป็นเกมแนวเอโรเกะ แต่ต่อมาได้มีการวางแผนที่จะทำเกมนี้ขึ้นมาใหม่ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Fate/stay night ~Realta Nua~ (ดาวดวงใหม่)ซึ่งจะตัดฉากที่ไม่เหมาะสมออกไป ให้สามารถเล่นได้ทุกวัย ลงในเครื่องเพลย์สเตชัน 2 ซึ่งกำหนดวางจำหน่ายในปี 2550 ส่วนมังงะนั้นได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารโชเน็น เอซ ฉบับรายเดือน

สารบัญ

[แก้] กระแสตอบรับ

หลังจากที่ตัวเกมวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2547 เฟท/สเตย์ ไนท์ ก็กลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วในวงการเกมวิชช่วล โนเวล โดยรู้จักกันว่าเป็น"เกมวิชช่วลโนเวลที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในปี 2547" ต่อมาก็ได้มี เฟท/ฮอลโลว์ อทาราเซีย ซึ่งเป็นแฟนดิกส์ ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2548 ซึ่งก็ได้กลายเป็นเกมวิชช่วลโนเวลที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในปี 2548 เช่นกัน ในปี 2549 นิยายเรื่อง เฟท/ซีโร่ผลงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างไทป์-มูน และไนโตรพลัส ก็ได้ออกวางจำหน่ายภายใต้การต้อนรับอย่างดีจากแฟนๆ ที่รอคอยมานาน

[แก้] เรื่องย่อ

ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ


เฟท/สเตย์ ไนท์ เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของ เอมิยะ ชิโร่ นักเรียนช่างประจำวิทยาลัยโฮมุระบาระ ในเมืองฟุยูกิ สิบปีก่อนเขาได้ตกอยู่ท่ามกลางกองเพลิงขนาดมหึมาที่เผาผลาญเมืองและพรากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาไป ในขณะที่เขาอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นความตาย ได้มีบุรุษลึกลับคนหนึ่งมาช่วยเขาไว้ เขาคือ เอมิยะ คิริซึงุ ซึ่งต่อมาเขาก็รับชิโร่มาเป็นบุตรบุญธรรม และอาศัยอยู่ที่บ้านคิริซึงุในเมืองฟุยูกิอย่างสงบสุข คืนหนึ่ง ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ คิริซึงุก็ได้เปิดเผยความลับบางอย่างให้กับลูกชายของเขาว่า

"พ่อมีความลับอย่างนึงที่ไม่เคยบอกลูกเลย -พ่อเป็นจอมเวทย์"


นอกจากที่จะได้รู้ความลับเรื่องนี้แล้ว เขายังได้รู้ถึงความเป็นมาต่างๆ ของพ่อบุญธรรมของเขาคนนี้ และยังได้ทราบถึงชีวิตอันล้มเหลวในอุดมการณ์ในการดำเนินชีวิตในเส้นทางของ "ผู้ผดุงคุณธรรม"(「正義の味方」 Seigi no Mikata?)หรือผู้ที่คอยปกป้องผู้บริสุทธิ์และผู้ที่อ่อนแอกว่า อย่างไร้ซึ่งการตอบแทน ชิโร่จึงขอให้คิริซึงุสอนเชิงเวทย์(「魔術」 Majutsu?)ให้กับเขาบ้าง อย่างไรก็ตาม ชิโร่ผู้ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการใช้เวทมนตร์มาก่อน ย่อมทำให้เขาใช้เวทมนตร์ทั่วไปไม่ได้ คิริซึงุจึงได้เตือนเขาว่าเส้นทางแห่งการเป็นจอมเวทย์นั้นจะนำพาหายนะมาสู่ตัวเขาเอง แต่เพราะว่าชิโร่ต้องการที่จะช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ เขาจึงได้สอนเวทย์เสริมความแข็งแกร่งให้กับวัตถุไว้ในขั้นพื้นฐานเท่านั้น หลังจากที่คิริซึงุเสียชีวิต ชิโร่ก็ต้องพบกับทางตัน คือเขาไม่สามารถพัฒนาเชิงเวทย์ของเขาได้เลยตามที่เขาหวังไว้ว่าเขาจะทำได้เพื่อที่จะนำไปใช้ช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนกับที่พ่อของเขาทำ


สิ่งหนึ่งที่ชิโร่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยคือเมืองฟุยูกิที่เขาอาศัยอยู่นั้นได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อเป็นสนามรบระหว่างจอมเวทย์ทั้งเจ็ดอย่างลับๆ ซึ่งจอมเวทย์ทั้งเจ็ดคนที่เข้ามาร่วมจะต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อแย่งชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถประทานทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการได้ ซึ่งสงครามจะเริ่มต้นทุกๆ 50 ปี อย่างครั้งล่าสุดคือสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 เมื่อง 16 ปีก่อนก็ได้เป็นชนวนทำให้เกิดสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 ขึ้นมาอีกภายในเวลา 10 ปีโดยหาสาเหตุไม่ได้ จอมเวทย์ที่เข้าร่วมสงครามทุกคนนั้นจะถูกขนานนามว่า "มาสเตอร์" ผู้ซึ่งควบคุมวิญญานที่อยู่ในฐานะ "ข้ารับใช้" เพื่อใช้ในการต่อสู้ในสงคราม ซึ่งวิญญานเหล่านั้นคือวิญญานของเหล่าวีรชนในแต่ละยุคสมัยของโลก ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าวิญญานของวีรชน (「英霊」 Eirei?)แต่ละคนนั้นย่อมมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว หรือที่เรียกว่า "โนเบิล แฟตาซึ่ม" (「宝具」 Hogu?) ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของข้ารับใช้แต่ละคนนั้นด้วย และมันจะทำให้คู่ต่อสู้ทราบถึงจุดอ่อนของข้ารับใช้คนนั้นๆ ทันที การอัญเชิญข้ารับใช้ของมาสเตอร์แต่ละคนนั้นจะมีแตกต่างกันไป ซึ่งบางกรณีจะเกี่ยวข้องกับสื่อที่ใช้อัญเชิญ และความคิดความต้องการของมาสเตอร์ ซึ่งถ้าหากมาสเตอร์คนไหนมีความคิดเดียวกันกับวีรชนคนใด วีรชนคนนั้นก็จะมาเป็นข้ารับใช้ให้กับมาสเตอร์คนนั้นๆ ซึ่งในแต่ละครั้งของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ ข้ารับใช้จะถูกอัญเชิญออกมาจาก 1 ใน 7 ประเภทคือ เซเบอร์, อาเชอร์ , แลนเซอร์, เบอเซิร์กเกอร์, ไรเดอร์, แอสซาซิน และ แคสเตอร์


ข้ารับใช้ต้องอาศัยมานา (「魔力」 Maryoku?)จากมาสเตอร์เพื่อการคงสภาพอยู่บนโลก ส่วนมาสเตอร์เองก็ต้องการกำลังการต่อสู้จากข้ารับใช้และด้วยเหตุผลที่ว่าจอกศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถจับต้องได้ เว้นแต่ข้ารับใช้เท่านั้นที่สามารถสัมผัสจอกได้ และจอกศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏออกมาได้ ก็ต้องอาศัยการอัญเชิญจากมาสเตอร์ด้วยเช่นกัน จึงทำให้ข้ารับใช้และมาสเตอร์ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับมาสเตอร์และข้ารับใช้คนอื่นๆ ซึ่งถ้าหากข้ารับใช้เกิดการขัดขืนต่อมาสเตอร์ มาสเตอร์จะมี "คำสั่งมนตรา"(「令呪」 Reiju?) ไว้คอยควบคุมข้ารับใช้ ให้ทำในสิ่งที่มาสเตอร์ต้องการทุกอย่าง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นลวดลายต่างๆ อยู่บนข้อมือของมาสเตอร์ทุกคน เว้นเสียแต่บางในกรณีของมาสเตอร์บางคนที่ไม่มีลายมนตราบนข้อมือ แต่จะมีอยู่บนสื่ออัญเชิญข้ารับใช้แทน นอกจากจะเอาไว้คอยควบคุมข้ารับใช้แล้ว มันยังเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการที่จะมีสิทธิในการครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์ด้วย หากมาสเตอร์คนใดสูญเสียข้ารับใช้ไปแล้ว สามารถที่จะทำสัญญากับข้ารับใช้ตนใหม่หากลายมนตรายังไม่ถูกใช้จนหมดไปหรือถูกทำลายลง ซึ่งถ้าหากไม่มีลายมนตราเหลืออยู่แล้ว มาสเตอร์ที่ไร้ลายมนตราสามารถไปขอรับการคุ้มครองจากผู้คุมกฎที่โบสถ์ประจำเมืองได้


เย็นวันหนึ่ง หลังจากที่ชิโร่ทำความสะอาดโรงฝึกยิงธนูของโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้พบเห็นการต่อสู้ระหว่างข้ารับใช้สายอาเชอร์และแลนเซอร์อย่างบังเอิญ แลนเซอร์จึงทำการฆ่าปิดปากเขาเพื่อไม่ให้ความลับเรื่องสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์รั่วไหลไปสู่คนทั่วไป ต่อมามาสเตอร์ของอาเชอร์ โทซากะ ริน ได้ช่วยเหลือเขาไว้โดยการใช้อัญมณีชุบชีวิตเขาขึ้นมา เมื่อชิโร่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองรอดตายมาได้และนอนสลบอยู่ในโรงเรียน เขาจึงรีบเดินทางกลับบ้าน แต่แล้วก็ถูกแลนเซอร์ที่รู้ว่าเขายังไม่ตายมาไล่เอาชีวิตอีกครั้ง ชิโร่ซึ่งไม่มีพละกำลังพอที่จะต่อกรกับข้ารับใช้ซึ่งเป็นวีรชนในตำนานได้เลย จึงทำได้แต่ป้องกันตัวและหลบหนีเขาไปหลบในห้องเก็บของในสวนบ้านเขา ทันใดนั้นก็มีลายมนตราปรากฏขึ้นที่มือเขาในขณะที่เขากำลังหลบหนีไปซ่อนตัวในห้องเก็บของ สถานการณ์เลวร้ายลงทุกทีเมื่อแลนเซอร์หาเขาพบและจะสังหารเขาอีกครั้ง ทันใดนั้นได้มีหญิงสาวในชุดเกราะสีเงินปรากฏตัวออกมาซัดแลนเซอร์กระเด็นออกไป และหันมาถามชิโร่ว่า...

"ท่านคือมาสเตอร์ของข้าใช่หรือไม่?"

[แก้] ตัวละคร

เอมิยะ ชิโร่ และเซเบอร์
เอมิยะ ชิโร่ และเซเบอร์
เอมิยะ ชิโร่ (「衛宮 士郎」 Emiya Shirō?)
ชิโร่เป็นตัวละครหลักของเรื่องนี้ เขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จริงจังกับทุกสิ่ง และซื่อสัตย์ งานอดิเรกคือการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ที่เสียหาย หรือแม้แต่งานบ้านงานเรือนเขาก็เชี่ยวชาญ เขามีความสามารถในเชิงเวทย์อยู่บ้าง แต่พ่อบุญธรรมของเขา เอมิยะ คิริซึงุ ได้บอกห้ามไม่ให้เขาฝึกมันไปใช้ในทางที่เลวร้าย แต่ให้ฝึกไว้ใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น เขาได้เข้าร่วมมาในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์แบบไม่เต็มใจ และเขาก็ทำตัวไม่เหมือนกับมาสเตอร์คนอื่นๆ คือการที่เขาเอาตัวเข้าไปรับการโจมตีแทนข้ารับใช้ของเขา ซึ่งหากพลาดไปเท่ากับว่าเขาต้องแพ้ในสงครามครั้งนี้ ข้ารับใช้ของเขาคือเซเบอร์
เซเบอร์ (「セイバー」 Seibā?)
เธอเป็นข้ารับใช้ของชิโร่ ซึ่งเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์มั่นคงต่อหน้าและแข็งแกร่งที่สุด คลาสของเธอเป็นคลาสที่เรียกได้ว่ามีความสมดุลมากที่สุดในการต่อสู้ แต่หลังจากที่เธอรู้ว่ามาสเตอร์ของเธอไม่มีความสามารถในการถ่ายทอดมานา ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพที่คุ้มครองได้ไม่เต็มที่นัก ซึ่งเธอก็พยายามที่จะใช้มานาในการคงสภาพอยู่บนโลกมนุษย์ให้น้อยที่สุด แต่เธอก็พยายามที่จะปกป้องมาสเตอร์ของเธอที่มัวแต่เอาตัวเข้าปกป้องคนอื่นไปเสียทั่ว ซึ่งตรงจุดนี้ของชิโร่เองที่ทำให้เธอต้องลำบากใจ และวิตกกังวลว่าจะยิ่งเป็นปัญหาที่จะทำให้มีชัยในสงครามนี้ได้ยากขึ้น
โทซากะ ริน และอาเชอร์
โทซากะ ริน และอาเชอร์
โทซากะ ริน (「遠坂 凛」 Tōsaka Rin?)
นักเรียนดีเด่นและดาวประจำโรงเรียนที่ชิโร่ศึกษาอยู่ ฉากหน้าเธอเป็นนักเรียนดีเด่นคนหนึ่ง แต่เบื้องหลังเธอเป็น 1 ในจอมเวทย์ทั้ง 7 ที่มาเข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 ทีมีสายเลือดตระกูลจอมเวทย์ติดตัวอยู่ เธอมีความรู้ความสามารถในเชิงเวทย์เป็นอย่างมาก และสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างคล่องแคล่วและเฉียบขาด พ่อของเธอเสียชีวิตในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 เธอจึงตั้งใจฝึกฝนการใช้เวทมนตร์สืบต่อจากเขา ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 เธอพยายามที่จะอัญเชิญข้ารับใช้สายเซเบอร์ออกมา แต่ในระหว่างการอัญเชิญ เกิดความผิดพลาด ทำให้ข้ารับใช้ที่เธออัญเชิญมานั้นเป็นสายอาเชอร์แทน
อาเชอร์ (「アーチャー」 Āchā?)
ข้ารับใช้ของริน ผู้ซึ่งถูกอัญเชิญออกมาอย่างไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้เขาสูญเสียความทรงจำถึงชาติกำเนิดของตนไป แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นยังอยู่ครบ จึงทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีความลับมากมาย เขามีความสามารถในการต่อสู้ทั้งการใช้อาวุธระยะใกล้และระยะไกล เขามักจะดูถูกชิโร่ในเรื่องการกระทำของชิโร่ซึ่งดูอ่อนแอน่าสมเพช และพยายามที่จะกดดันชิโร่อยู่เสมอ และเขาเชื่อว่าความคิดของชิโร่ที่ว่าจะปกป้องผู้อื่นนั้นมันเป็นไปไม่ได้และจะนำพาความโศกเศร้ามาสู่ตัวชิโร่เองแน่นอน
อิลยาสฟีล ฟอน ไอนซ์แบร์น และเบอร์เซิร์กเกอร์
อิลยาสฟีล ฟอน ไอนซ์แบร์น และเบอร์เซิร์กเกอร์
อิลยาสฟีล ฟอน ไอนซ์แบร์น (「イリヤスフィール・フォン・アインツベルン」 Iriyasufīru fon Aintsuberun?)
เด็กสาวในตระกูลผู้ดีชาวเยอรมัน ผู้ซึ่งเดินทางมาที่ญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 นี้ในฐานะมาสเตอร์คนหนึ่ง ภายนอกเธอดูเป็นเด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นจอมเวทย์ที่ร้ายกาจ ที่มีพลังเวทย์แฝงอยู่ในร่างกายปริมาณมหาศาล โดยเธอพักอาศัยอยู่ที่ปราสาทตระกูลไอนซ์แบร์นที่ชานเมืองฟุยูกิพร้อมกับข้ารับใช้ของเธอและสาวใช้ 2 คน เธอมักจะให้คนที่เธอไว้วางใจเรียกเธอง่ายๆว่า "อิลยา" อยู่เสมอ
เบอร์เซิร์กเกอร์ (「バーサーカー」 Bāsākā?)
ข้ารับใช้ของอิลยา ผู้ซึ่งอยู่ในคลาสที่ได้รับการยกย่องว่ามีพละกำลังมากที่สุด เขามีรูปร่างสูงใหญ่ล่ำสันพร้อมผิวสีน้ำตาลที่แข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้า อาวุธของเขาคือท่อนไม้ติดของแหลมซึ่งดูคล้ายขวานผสมกับไม้กระบอง เขาสามารถที่จะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า สมกับชื่อคลาสของเขา การต่อสู้ทุกครั้งของเขาจะเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ซึ่งเป็นการยากทีจะควบคุมสำหรับจอมเวทย์ทั่วไป แต่สำหรับอิลยา สามารถควบคุมเขาได้อย่างง่ายดาย
มาโต้ ชินจิ และไรเดอร์
มาโต้ ชินจิ และไรเดอร์
มาโต้ ชินจิ (「間桐 慎二」 Matō Shinji?)
พี่ชายชองซากุระ และเพื่อนรักของชิโร่ เขาเป็นรองประธานชมรมยิงธนูของโรงเรียนที่ออกจะหลงตัวเองและเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ คล้ายๆกับริน เขาไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นในเชิงเวทย์เช่นเดียวกับชิโร่ แม้ว่าตระกูลมาโต้จะเป็นตระกูลผู้ใช้เวทมนตร์ แต่เขากลับไม่มีความสามารถในเชิงเวทย์เลย จึงทำให้เขาไม่พอใจ และพยายามที่จะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าตนเองก็มีดีด้วยการเข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 นี้ บวกกับความทะเยอทะยานอยากของเขา จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าเขาจะหักหลังเพื่อนของเขาได้อย่างหน้าตาเฉยเพื่อตัวเขาเอง เขาไม่พอใจที่ซากุระน้องสาวของเขาไปหาชิโร่ที่บ้านทุกวันๆ เขาจึงเสนอข้อตกลงกับรินในการร่วมมือกันในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่รินก็ได้ปฏิเสธไปเพราะรู้ถึงเนื้อแท้ของเขานั่นเอง
ไรเดอร์ (「ライダー」 Raidā?)
ข้ารับใช้ของชินจิ ซึ่งมักจะเป็นผู้สอดแนมระหว่างการต่อสู้ของข้ารับใช้ตนอื่น เธอมักจะปฏิบัติภารกิจอย่างเงียบสงัดและรอบคอมและไม่เคยลังเลที่จะปกป้องมาสเตอร์ของตนเอง แม้ว่าตนเองจะได้รับอันตราย และด้วยที่ว่าชินจิไม่สามารถถ่ายทอดมานาให้กับเธอได้ ทำให้เธอต้องแสวงหามานาให้ตนเองด้วยการสูบพลังวิญญานจากชาวเมืองฟุยูกิ ในการต่อสู้เธอมักจะซ่อนตัวและคอยวางแผนโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความรอบคอบ อาวุธของเธอคือลิ่มโลหะติดโซ่ยาวซึ่งเธอมักจะใช้มันในการโจมตีคู่ต่อสู้จากระยะไกล และใช้มันควบคุมคู่ต่อสู้ไปด้วย

[แก้] ตัวละครรอง

มาโต้ ซากุระ (「間桐 桜」 Matō Sakura?)
รุ่นน้องของชิโร่ในโรงเรียนเดียวกัน ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวของชินจิ หลังจากที่พ่อบุญธรรมของชิโร่เสียชีวิตไป เธอก็หมั่นแวะเวียนเข้ามาดูแลชิโร่ที่บ้านอยู่เสมอ แม้ว่าตระกูลมาโต้จะเป็นตระกูลจอมเวทย์โบราณ แต่ซากุระเองก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับตระกูลนี้เลย ภายนอกเธอดูเป็นคนที่ขี้อายและอ่อนแอ แต่แท้จริงแล้วเธอเองก็มีพลังอันยิ่งใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของเธอเองด้วย และตัวเธอเองก็ยังแสดงออกถึงความรู้สึกต่อชิโร่อย่างจริงใจอีกด้วย
โคโตมิเนะ คิเรย์ (「言峰 綺礼」 Kotomine Kirei?)
ด้วยข้อตกลงระหว่างสมาคมจอมเวทย์และองค์กรศาสนา ทำให้สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์แต่ละปีจะมีผู้คุมกฎเป็นบาทหลวง ซึ่งพ่อของคิเรย์เองก็เป็นผู้คุมกฎในสงครามจอกครั้งที่ 4 เช่นกัน หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิต เขาก็ได้รับหน้าที่ผู้คุมกฎแทนพ่อของเขา แต่การที่เขาเข้ามาประจำตำแหน่งนี้ไม่เหมือนกับพ่อของเขา เพราะเขาเป็นสมาชิกของทั้ง 2 องค์กร และทั้ง 2 องค์กรนี้ก็เป็นศัตรูกันมตลอด หลังจากที่พ่อของรินเสียชีวิต เขาก็ได้ทำหน้าที่ผู้ดูแลรินอยู่ห่างๆ แม้ว่าระดับสมาชิกในองค์กรศาสนาของเขาจะต่ำกว่าชิเอล (จาก ซึกิฮิเมะ) แต่เขาก็มีความสามารถในการต่อสู้และการใช้อาวุธไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลย
แลนเซอร์ (「ランサー」 Ransā?)
ข้ารับใช้ที่แสดงตัวออกมาในฐานะศัตรูเป็นคนแรกของเรื่อง เขาเป็นนักรบที่มีสมรรถภาพสมดุลและร้ายกาจ ผู้ซึ่งสนุกสนานกับการที่ได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง เขาเป็นคนที่ขี้เล่นและยังนิ่งนอนใจแม้ว่าตัวเองจะอยู่ในระหว่างการต่อสู้ และเขายังเป็นคนที่ทำงานได้รวดเร็วและเรียบร้อย ซึ่งจัดได้ว่าเป็นข้ารับใช้ที่กระฉับกระเฉงมากที่สุดเลยทีเดียว
เอมิยะ คิริซึงุ (「衛宮切嗣」 Emiya Kiritsugu?)
เขาเป็นจอมเวทย์ผู้ที่รอดชีวิตจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 ตลอดชีวิตของเขา เขามีชีวิตอยู่เพื่อผดุงคุณธรรม ปกป้องและช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า แม้ว่าเขาเองจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นการยากที่จะทำได้ และเขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันคงไม่สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้สั่งสอนลูกชายบุญธรรมของเขาเพียงคนเดียวให้รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ฮีโร่ควรกระทำ เพื่อปกป้องความยุติธรรม และปกป้องคนที่อ่อนแอกว่า ซึ่งตามจริงแล้วเขาก็เป็นนักเวทย์ แต่เขากลับไม่เคยสอนให้ชิโร่ใช้เวทมนตร์อย่างจริงจัง และบอกให้เขาพยายามฝึกเวทย์จำลองวัตถุของเขาให้ใช้ได้คล่องแคล่ว สุดท้ายเขาก็ได้เสียชีวิตไปใน 3 ปี ก่อนเหตุการณ์ใน เฟท/สเตย์ ไนท์ โดยไม่ทราบสาเหตุ
ฟูจิมุระ ไทกะ (「藤村 大河」 Fujimura Taiga?)
เธอคือครูประจำภาควิชาภาษาอังกฤษ, ครูประจำชั้น และอาจารย์ประจำชมรมยิงธนูในโรงเรียนที่ชิโร่เรียนอยู่ คนทั่วไปมักจะเรียกเธอว่า "ไทเกอร์" (「タイガー」 Taigā?) ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกเธอด้วยชื่อนี้ (เพราะชื่อของเธอ "ไทกะ" ออกเสียงคล้ายกับคำว่า "ไทเกอร์" ในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งชิโร่เองก็จะเรียกเธอว่า "ฟูจิเน่" (พี่ฟูจิ) หลังจากที่คิริซึงุเสียชีวิต ไทกะก็ได้กลายเป็นผู้ปกครองของชิโร่และดูแลชิโร่มาเป็นเวลาหลายปี จึงทำให้พวกเขาทั้งสองสนิทกันมาก และเธอยังนับให้ชิโร่เป็นน้องชายของตนเองอีกด้วย
กิลกาเมช (「ギルガメッシュ」 Girugamesshu?)
ข้ารับใช้ลึกลับสายอาเชอร์ผู้ซึ่งมีความหยิ่งยโส และเห็นแก่ตัว ตัวเขาเองดูท่าว่าจะมีความสัมพันธ์กับเมืองฟุยูกิและเซเบอร์ในอดีตเป็นอย่างมาก โดยปกติเวลาที่เขาปรากฏตัวออกมา เขามักจะมาพร้อมกับชุดเกราะสีทอง และโนเบิล แฟตาซึ่มที่มีมากมายเกินกว่าจะคาดเดาได้ ซึ่งนั่นเองก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาได้เลย
คุซุกิ โซอิจิโร่ (「葛木 宗一郎」 Kuzuki Sōichirō?)
ชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับแว่นตาทรงเหลี่ยมและทรงผมเป็นระเบียบ เขาเป็นอาจารย์ประจำชั้นของริน และสอนวิชาประวัติศาสตร์โลก ในเรื่องการทำงานของเขานั้นถือได้เลยว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยมและได้รับการนับถือจากลูกศิษย์และอาจารย์จำนวนมาก แต่เขาก็เป็นคนที่เข้มงวดและไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใครๆ เลย
แคสเตอร์ (「キャスター」 Kyasutā?)
แขกพิเศษที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในวัดริวโดอย่างลับๆ ด้วยเหตุผลที่ทางวัดเข้าใจว่าเธอจะต้องมาอยู่ที่วัดเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่พิธีแต่งงาน ซึ่งความงามของเธอเองก็ทำให้เหล่าผู้อาศัยในวัดริวโดจำนวนไม่น้อยต้องหวั่นไหวไปตามๆ กัน
แอสแซสซิน (「アサシン」 Asashin?)
ข้ารับใช้ผู้มีนิสัยโดดเดี่ยว เขามักปรากฏตัวอยู่ในชุดฮากามะ และกิโมโนพร้อมกับฮาโอริสีคราม โดยที่ข้ารับใช้รูปหล่อคนนี้จะทำหน้าที่เป็นยามยืนเฝ้าอยู่เหนือประตูวัดริวโด ด้วยความเงียบสงัด และด้วยความเป็นบูชิโดเต็มขั้นของเขาจึงทำให้เขาตามหาคู่ต่อสู้ฝีมือฉกาจมาประมือด้วย และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นข้ารับใช้ประเภทแอสแซสซิน ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข้ารับใช้ประเภทแอสแซสซินอีกคนเลย

[แก้] ตัวละครเสริม

ลิซ (「リーゼリット」 Rīzeritto?) และ เซลล่า (「セラ」 Sera?)
คนรับใช้ทั้งสองของอิลยา ซึ่งพวกเธอทั้งสองมีหน้าที่ดูแลอิลยาและชี้แนะในเรื่องศาสตร์ลับของเวทมนตร์ด้วย พวกเธอมีผมสีบลอนด์และตาสีแดงเหมือนกับอิลยา โดยที่เซลล่าจะมีนิสัยค่อนไปในทางที่ไม่ค่อยมั่นใจ (โดยเฉพาะเรื่องรูปร่างของเธอ) และมีความเคลือบแคลงใจใจตัวของ เอมิยะ ชิโร่ แต่กลับกัน ลิซกลับคิดต่างกับเซลล่าโดยสิ้นเชิง เธอชอบชิโร่เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้อิลยามีความสุข ตัวลิซนันมีความสามารถต่อสู้ด้วยหอกเฮลเบิร์ด และเธอสามารถที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อทำให้อาร์ติแฟ็กของตระกูลไอนซ์เบิร์นซึ่งสามารถทำให้ใช้เวทมนตร์ชั้นสูงได้ ปรากฏออกมาได้
มิตสึซูริ อายาโกะ (「美綴 綾子」 Mitsuzuri Ayako?)
นักกีฬาและกัปตันประจำชมรมยิงธนูของโรงเรียนที่ชิโร่เรียนอยู่ เธอเป็นเพื่อนกับรินซึ่งพวกเธอทั้งสองกำลังแข่งกันว่าใครจะมีแฟนก่อนกัน ในเนื้อเรื่องเธอจะถูกไรเดอร์สูบวิญญานและทิ้งร่างไว้ในตรอกในเมืองเท่านั้น
ซาเอกุสะ ยูคิกะ (「三枝 由紀香」 Saegusa Yukika?)
ผู้จัดการชมรมผู้เป็นที่ชื่นชอบของคนในชั้นเรียน
มาคิเดระ คาเอเดะ (「蒔寺 楓」 Makidera Kaede?)
เด็กสาวน่ารักผู้ซึ่งมีทักษะการวิ่งที่น่าสะพรึงกลัวแฝงอยู่ ซึ่งรินเองก็ไม่ชอบเธอเช่นกัน
ฮิมุโระ คาเนะ (「氷室 鐘」 Himuro Kane?)
เพื่อนของยูคิกะและคาเอเดะ เธอเป็นนักกระโดดไกล และเธอยังเป็นคนที่เห็นใจผู้อื่นแถมยังฉลาดหลักแหลมอีกด้วย
ริวโด อิซเซย์ (「柳洞 一成」 Ryūdō Issei?)
ประธานนักเรียนของโรงเรียนที่ชิโร่เรียนอยู่ และเป็นเพื่อนสนิทของชิโร่อีกคนหนึ่งด้วย เขาเป็นลูกชายของเจ้าอาวาสวันริวโดที่แคสเตอร์และโซอิจิโร่อาศัยอยู่ ซึ่งเขาไม่เคยที่จะพูดถึงเรื่องของ 2 คนนี้เลย เพราะแคสเตอร์ได้สาปไว้ว่าถ้าเขาพูดเรื่องนี้เมื่อไร เขาจะต้องฆ่าตัวตายเมื่อนั้น พี่ชายของเขาก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของไทกะและโอโตโกะด้วย ในอะนิเมะเขาออกจะเป็นคนที่กลัวผู้หญิงอยู่นิดๆ ด้วย
โฮตารุซุกะ โอโตโกะ (「蛍塚音子」 Hotaruzuka Otoko?)
นายจ้างของชิโร่ในร้านเหล้าโคเปนเฮเกน ที่ชิโร่ทำงานพิเศษอยู่ เธอชอบให้คนอื่นเรียกเธอว่า"เนโกะซัง" มากกว่าที่จะให้ใครมาเรียกชื่อจริงของเธอ เพราะคำว่า "โอโตโกะ" นั้นเป็นชื่อของผู้ชาย เธอยังชอบเรียกชิโร่ว่า "เอมิยัง" อีกด้วย เธอเคยคิดที่จะรับไทกะมาทำงานที่ร้านของเธอเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าความจริงจังบวกความซุ่มซ่ามของไทกะนี่ล่ะ ทำให้เธอล้มเลิกความคิดไปเลย
ฟูจิมุระ ไรกะ (「藤村雷画」 Fujimura Raiga?)
เขาคือปู่ของไทกะ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่คุมเมืองฟุยูกิ เขาเป็นเพื่อนเก่าของคิริซึงุ และเขาได้รับฝากบ้านของคิริซึงุที่ชิโร่อาศัยอยู่หลังจากที่คิริซึงุเสียชีวิตไปแล้วด้วย
มาโต้ โซเคน (「間桐 臓硯」 Matō Zōken?)
เขาคือจอมเวทย์โบราณผู้ซึ่งฉลาดหลักแหลมและใช้เวทมนตร์ได้อย่างแข็งแกร่ง ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลมาโต้ โดยรู้จักกันว่าเขาเป็นปู่ของชินจิและซากุระ ตัวเขาเองยังเชี่ยวชาญในด้านเวทมนตร์มากและสามารถที่จะถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ แต่ทว่าวิชาของเขานั้นเป็นวิชาที่โหดร้ายและรุนแรง ซึ่งเขาเองก็คิดว่าหลานชายแท้ๆ ของเขา ชินจิ จะไม่มีความสามารถในด้านนี้และจะนำความอัปยศมาสู่วิชาเวทมนตร์ของเขาแน่นอน และเขายังเชื่อด้วยว่าซากุระคงมีความสามารถในด้านนี้มากกว่าพี่ชายของเธอแน่นอน
ทรู แอสแซสซิน (「真アサシン」 Shin Asashin?)
ข้ารับใช้ที่มีความอันตรายมากเป็นพิเศษผู้ซึ่งปรากฏตัวมาเพียงชั่วครู่ทั้งใน เฟท/สเตย์ ไนท์ และ เฟท/ฮอลโลว์ อทาราเซีย และยังมีการปรากฏตัวออกมาใน เฟท/ซีโร่ อีกด้วย ซึ่งคำว่า ทรู ในชื่อของเขาก็มาจากการที่เขาเป็นข้ารับใช้ที่ออกมาโดยอยู่นอกกำหนดการ และเขาก็จะปรากฏออกมาในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ ครั้งในประวัติศาสตร์อีกด้วย ซึ่งเขาจะปรากฏตัวออกมาภายใต้ผ้าคลุมสีดำที่ขาดรุ่งริ่ง และสวมหน้ากากรูปหัวกระโหลก พร้อมกับแขนซ้ายปริศนาที่พันไว้ด้วยผ้าเป็นม้วนใหญ่
เซลเร็ช (「ゼルレッチ」 Zeruretchi?)
เขาคือ 1 ใน 5 จอมเวทย์ที่สามารถใช้เวทมนตร์ที่ชั้นสูง หรือเวทมนตร์ที่สามารถที่จะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงขึ้นมาได้โดยล้ำสมัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเชิงเวทย์ได้ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยปาฎิหาริย์ต่างๆ ที่เขาสร้างขึ้นมานั้นทำให้เขาได้รับสมญานามว่า "คาไลโดสโคป" แต่เดิมเขาเคยปรากฏตัวใน ซึกิฮิเมะ และผลงานประดิษฐ์ของเขายังได้ปรากฏออกมาใน เฟท/สเตย์ ไนท์ ในบท Heaven's Feel อีกด้วย

[แก้] เฟทในรูปแบบต่างๆ

ด้วยกระแสของเกม เฟท/สเตย์ ไนท์ ในรูปแบบวิชช่วล โนเวล และแบบแอนิเมชัน ที่เป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ จนทำให้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโดจิน, แฟนอาร์ต, หรือเกม (อย่างที่เราเห็นกันใน เฟทัล/เฟค) ซึ่งเป็นส่วนผลักดันให้มีกลุ่มแฟนๆ นำเรื่องราวหรือตัวละครของเฟทมาเขียนเป็นแฟนอาร์ตหรือเป็นมังกะมากมาย

[แก้] วิดีโอเกม

ด้วยความนิยมอย่างล้นหลามของแฟนๆ ช่วยผลักดันให้ เฟท/สเตย์ ไนท์ ได้พัฒนาออกมาเป็นรูปแบบต่างๆ ที่มากกว่าการเป็นวิดีโอเกม เช่นได้เป็นอนิเมะ และมังงะ อย่างเป็นทางการ และแฟนๆ ยังนำไปเขียนเป็นโดจิน และโดจินซอฟต์ (เช่น เฟทัล/เฟค) ที่เป็นเกมต่อสู้โดยการนำตัวละครใน เฟท/สเตย์ ไนท์ และสถานที่ต่างๆ ในเรื่องมารวมไว้ในเกม

[แก้] เนื้อเรื่อง

ภาพโปรโมทเกม Fate/stay night ~Realta Nua~
ภาพโปรโมทเกม Fate/stay night ~Realta Nua~

Fate, Unlimited Blade Works และ Heaven's Feel คือเนื้อเรื่องย่อยทั้ง 3 ที่เราจะพบในเกม ซึ่งเนื้อเรื่องแต่ละบทจะมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันไปและจะดำเนินไปตามที่ผู้เล่นได้เลือกการกระทำในเรื่องนั้นๆ เอง

ในบท Fate จะกล่าวถึงเซเบอร์ที่เป็นตัวละครหลัก ในบท Unlimited Blade Works จะกล่าวถึงรินซึ่งเป็นตัวละครหลัก แต่เนื้อเรื่องจะมุ่งประเด็นไปที่ตัวตนของข้ารับใช้ของเธอ อาเชอร์ มากกว่า และในบท Heaven's Feel จะกล่าวถึงอดีตอันเลวร้ายของซากุระ และยังเชื่อมต่อไปถึงเนื้อเรื่องของ เฟท/ฮอลโลว์ อทาราเซีย อีกด้วย ส่วนเนื้อเรื่องในแอนิเมชันจะเป็นการนำเนื้อเรื่องทั้ง 3 มารวมกัน และเน้นหนักไปที่บท Fate มากกว่าบทอื่นๆ

[แก้] เนื้อเรื่องอื่นๆ

ดูบทความหลัก เฟท/ฮอลโลว์ อทาราเซีย

เมื่อ 28 ตุลาคม 2548 ไทป์-มูนได้ปล่อยไซด์ สตอรี่ของ เฟท/สเตย์ ไนท์ ออกมา ภายใต้ชื่อว่า เฟท/ฮอลโลว์ อทาราเซีย ซึ่งเป็นแฟนดิกส์ที่จะมีไซด์สตอรี่ของ เฟท/สเตย์ ไนท์ ซึ่งจะกล่าวถึงเนื้อเรื่องเพียงแค่ครึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ใน เฟท/สเตย์ ไนท์ และมีตัวละครเพิ่มมาไม่ว่าจะเป็นอเวนเจอร์, บาเซตต์ ฟราก้า แม็กเรมินซ์ และ คาเรน ออร์เทนเซีย พร้อมทั้งการกลับมาของตัวละครเดิมเช่น เอมิยะ ชิโร่ และ โทซากะ ริน

ดูบทความหลัก เฟท/ซีโร่

เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2549 ไทป์-มูน ได้ประกาศที่จะวางจำหน่ายนิยายในซีรีย์เฟทเรื่องใหม่ ภายใต้ชื่อว่า เฟท/ซีโร่ ซึ่งเป็นเรื่องราวก่อนเหตุการณ์ใน เฟท/สเตย์ ไนท์ โดยจะมุ่งไปที่สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 เล่มแรกวางจำหน่ายในวันที่ 12 ธันวาคม 2549 ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง ไทป์-มูน และ ไนโตรพลัส

[แก้] ผลงานแปลจากแฟนๆ

[แก้] มังงะ

เฟท/สเตย์ ไนท์ ในรูปแบบมังงะ ภาพโดย ดัดโตะ นิชิวาคิ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร โชเน็น เอซ ภายใต้ลิขสิทธิ์สำนักพิมพ์คาโดคาว่า โชเท็น เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2548

[แก้] แอนิเมชัน

เฟท/สเตย์ ไนท์ ในรูปแบบอะนิเมะ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2549 และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ความยาวทั้งหมด 24 ตอน ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Studio DEEN, Geneon ในอเมริกาเหนือ และ TIGA ในไทย

[แก้] จำนวนตอน

ดูบทความหลัก รายชื่อตอนของ เฟท/สเตย์ ไนท์

[แก้] เพลงประกอบ

[แก้] เวอร์ชันเกม


เพลงเปิด

"THIS ILLUSION"

  • เรียบเรียง, ดนตรี: NUMBER201
  • เนื้อร้อง: เคย์ตะ ฮากะ
  • นักร้อง: M.H.


เพลงปิด

"days"

  • เรียบเรียง, ดนตรี: NUMBER201
  • เนื้อร้อง: เคย์ตะ ฮากะ
  • นักร้อง: CHINO

[แก้] เวอร์ชันอะนิเมะ

[แก้] เพลงเปิด


"disillusion" (ตอนที่ 1-14)

เพลงนี้เกิดจากการนำเพลง "THIS ILLUSION" ของเวอร์ชันเกมมาเรียบเรียงใหม่


"Kirameku Namida wa Hoshi ni" (「きらめく涙は星に」 "Kirameku Namida wa Hoshi ni" – lit. หยาดน้ำตาส่องประกายกลายเป็นดวงดาว?) (ตอนที่ 15-24)

  • เรียบเรียง: KATE
  • ดนตรี: โทโมจิ โซกาวะ, NUMBER201
  • เนื้อร้อง: เคย์ตะ ฮากะ
  • นักร้อง: ไทนากะ ซาจิ
  • วันวางจำหน่ายซิงเกิล: 31 พฤษภาคม 2549

[แก้] เพลงปิด


"Anata ga Ita Mori" (「あなたがいた森」 "Anata ga Ita Mori" – lit. พงไพรที่มีเธอ?)


"Hikari" (「ヒカリ」 "Hikari" – lit. แสงสว่าง?) (ตอนที่ 14)

  • นักร้อง: Jyukai


"Kimi to no Ashita" (「君との明日」 "Kimi to no Ashita" – lit. พรุ่งนี้ที่มีเธอ?) (ตอนที่ 24)


ออริจินอล ซาวน์แทรค

  • เรียบเรียง, ดนตรี: คาวาอิ เคนจิ

[แก้] อ้างอิง

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น


 มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ เป็นบทความเกี่ยวกับ การ์ตูน ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ มหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ