คุยกับผู้ใช้:เมจิ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

                                                                                 1

อวกาศก็หมายถึง บริเวณที่อยู่นอกบรรยากาศของโลกออกไปเป็นบริเวณว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่มีแรงโน้มถ่วง อวกาศเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะเรื่องราวในอวกาศเป็นเรื่องที่ไม่ตายตัวจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อนๆเคยสงสัยไหมคะว่าบนดวงจันทร์จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่รึเปล่าก็สามารถเปิดดู ได้จากเว็บไซด์นี้สุดท้ายก็อยากบอกกับเพื่อนๆว่าความ รู้ไม่ มีวันหมดควรศึกษาอยู่ตลอดเวลา เพื่อนๆสามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้จากห้องสมุด

ระบบสุริยะจักรวาล ้จักรวาล หมายถึง ห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวจำนวนมหาศาลมีก๊าซและฝุ่นผงเกาะกลุ่มกันบ้าง กระจายกันอยู่บ้าง ดวงดาวจะรวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆเรียกว่า กาแล๊กซี ดวงดาวที่เรามองเห็นบนท้องฟ้าอยู่ในกาแล็กซี่ มีชื่อเรียกว่ากาแล๊กซีทางช้างเผือก โลกก็รวมอยู่ด้วย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในจักรวาล มีความเกี่ยว ข้องกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ก็มีฐานมาจากการสังเกตดูดวงดาวบนท้องฟ้าเรียกว่าปรากฎการณ์ทางธรรมชาติได้แก่

       1. กลางวันกลางคืน   เกิดจากโลกหมุนรอบตัวเอง ซีกที่ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์จะเป็นกลางวัน ส่วนอีกซีกหนึ่งอยู่ในเงามืดจะเป็นเวลากลางคืน
       2. ฤดูกาล                   เกิดจากโลกหมุนรอบตัวเองในขณะที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ภายใน 1 ปี โลกจะเปลี่ยนตำแหน่งไปวันละ 1 
                                         องศารอบดวงอาทิตย์ เนื่องจากวงโคจรของโลกเป็นวงรี ทำให้ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ไมเท่ากัน แกนหมุนของโลกทำมุมกับพื้นทาง
                                        โคจรของโลก ทำให้แกนของโลกชี้ไปทางเดียวคือ ชี้ไปที่ดาวเหนือทางเดียว เหตุนี้ดาวเหนือเป็นดาวที่ชี้ทิศเหนือ 
       3. ข้างขึ้นข้างแรม    เกิดจากดวงจันทร์หมุนรอบตัวเอง และโคจรรอบโลกใช้เวลาเท่ากันประมาณ 1 เดือน เนื่องจากดวงจันทร์ เป็นดาวเคราะห์ที่ไม่มีแสง
                                         สว่าง ต้องอาศัยแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นแสงสว่างของดวงจันทร์ในบางคืนก็คือแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ที่สะท้อนมายังโลก 
                                         ส่วนอีกซีกหนึ่งไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ก็จะมืด เราจึงมองเห็นแสงของดวงจันทร์ในลักษณะเต็มดวงบ้าง เป็นเสี้ยวบ้าง มืดบ้าง
                                         และสาเหตุหนึ่งเกิดจากเมฆบังดวงจันทร์ เราจึงเห็นดวงจันทร์ เป็นเสี้ยวบ้าง มืดบ้าง
       4. น้ำขึ้นน้ำลง          เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์กระทำต่อโลก เรา
                                                                             2


จะเห็นปรากฏการณ์ได้ชัดเจน ในส่วนที่เป็นน้ำตามชายฝั่งทะเล

                                        หรือมหาสมุทร เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากกว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์จึงมีอิทธิพลน้ำขึ้นน้ำลงมากกว่าดวงอาทิตย์คือในแต่ละ
                                        วันน้ำบนผืนโลกด้านที่หันเข้าหาดวงจันทร์จจะถูกดูดเข้ารวมกันซึ่งจะมีผลต่อซีกโลกด้านตรงข้ามกับดวงจันทร์ คือจะปรากฏน้ำ
                                        ขึ้นด้วยส่วนพื้นผิวโลกอีก 2 ด้านระดับน้ำก็จะลดลง เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองระดับน้ำก็จะลดลง เมื่อห่างไปอยู่อีกซีกหนึ่งระดับน้ำ
                                        ก็จะเพิ่มขึ้น  จะเกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงในที่แห่งหนึ่ง ทุก 12 ชม. 25 น.
       5. จันทรุปราคา        เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยมีโลกอยู่ตรงกลาง ระหว่างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
                                        ขณะที่ดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเข้าไปในเขตเงาของโรค ทำให้มองเห็นดวงจันทร์มืดไประยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในจันทร์วันเพ็ญ
                                        เท่านั้น ประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี จันทรุปราคามี 3 แบบคือ

1. จันทรุปราคาเต็มดวง 2. จันทรุปราคาแบบมืดบางส่วน 3. จันทรุปราคาแบบเงามัว

       6. สุริยุปราคา          เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรไปอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลกในแนวเส้นตรงเดียวกันมี 3 แบบคือ

1. สุริยุปราคาเต็มดวง 2. สุริยุปราคาบางส่วน 3. สุริยุปราคาวงแหวน

               ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางและมีดาวเคราะห์ต่างๆโคจรอยู่รอบๆดวงอาทิตย์ให้พลังงานความร้อนและแสงแก่ดาวบริวาร ดาวเคราะห์ที่สำคัญมีอยู่
       9 ดวง โคจรรอบดวงอาทิตย์ ในระยะห่างออกมาเป็นชั้นๆ นับจากดวงที่ใกล้สุดออกมาตามลำดับ คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาว
       เสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และดาวพลูโต ดาวเคราะห์ทั้งหมดนี้ มีขนาดโตกว่าโลก 4 ดวง และเล็กกว่าโลก 4 ดวง บางคนเชื่อว่าไกลออกไปอาจมีบริวาร
   ของดวงอาทิตย์มากกว่านี้อยู่อีก   ดาวเคราะห์ทุกดวงยกเว้นดาวพุธและดาวศุกร์จะมีดวงจันทร์วิ่ง
                                                                             3

อยู่รอบๆโลกมีดวงจันทร์ 1 ดวง ดาวเสาร์มี 17 ดวง นอกจากนี้

    ในระบบสุริยะยังมี ดาวเคราะห์น้อยเป็นกลุ่มสะเก็ดดาวขนาดต่างๆกันวิ่งวนเป็นแถบรอบดวงอาทิตย์ ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสนอกจากนี้ในอวกาศ
    ระหว่างดาว ยังมีสะเก็ดดาวและดาวหางอีกจำนวนหนึ่งวิ่งอยู่ด้วย ระบบสุริยะเป็นกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งของแกแล็กซี่ทางช้างเผือก กลุ่มดาวจะโคจรรอบแกแล็คซี่ 
    การเกิดระบบสุริยะนี้ อุบัติขึ้นเมื่อประมาณ 4600ล้านปีมาแล้ว แกแล็คซี่มีกลุ่มดาวจำนวนมากมายมหาศาลประมาณ สี่ร้อยพันล้านดวง จัดเรียงตัวกันเป็นรูป
    วงรี
                                        

ดวงอาทิตย์

              ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ เป็นก้อนก๊าซมึมาหมุนรอบตัวเอง แสงจากดวงอาทิตย์ใช้เวลาเดินทางมาถึงโลกประมาณ 8 นาที แสงวิ่งเร็ว 300000 กิโลเมตร
      ต่อ 1 วินาที บางครั้งมีก้อนไฟพุ่งมาอย่างรุนแรง ซึ่งมักจะเกิดพร้อมๆ กับการเกิดจุดดำขนาดใหญ่บนผิวของดวงอาทิตย์ จะมีการระเบิด ปล่อยแสงสว่างจ้า
      ออกมาในช่วงนี้จะมีอนุภาคไฟฟ้าวิ่งออกมากผิดปกติ ทำให้กระทบกระเทือนการส่งคลื่นวิทยุ ดวงอาทิตย์ยังมีอายุเหลืออยู่อีกประมาณ 5000 ล้านปี แล้ว
      พลังงานก็จะหมดไป ดวงอาทิตย์จะขยายใหญ่ขึ้นเป็นดาวยักษ์สีแดง ส่วนนอกของดวงอาทิตย์ที่ดับ และขยายตัวออกไปจะสูญหายไปในจักรวาล  ดวงอา
      ทำให้เกิดชีวิตและพลังงานบนโลก ถ้าดวงอาทิตย์ดับเมื่อไรก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนโลก  การศึกษาดวงอาทิตย์เป็นเรื่องที่ยากมาก ส่วนใหญ่จะใช้วิธีตรวจ
      สเปกตรัมของแสงโดยใช้กล้องส่องดวงอาทิตย์ชนิพิเศษ นักดาราศาสตร์พบว่าการลุกจ้าในดวงอาทิตย์เพียงครั้ง
                                                                                            4
  

เดียวนั้นให้พลังงานมากกว่าที่มนุษย์ทั้งโลก

      จะใช้ได้นานถึง 100000 ปี   

ดาวพุธ

     ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด จึงมีแสงรบกวนจากดวงอาทิตย์มากทำให้ยากต่อการศึกษาโดยกล้องโทรทรรศน์จากโลกก็จะเห็นเป็นเสี้ยว จนกระทั่งบัดนี้ 
เราก็ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงขนาดและวงโคจรของดาวพุธ จากการสำรวจด้วยเรดาร์ในปี พ.ศ.2508 ดาวพุธจะหันซีกข้างหนึ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลา เพราะพบว่า
มันหมุนรอบตัวเองรอบละ 59 วัน และโคจรรอบดวงอาทิตย์ทุก88 วัน ผิวของดาวพุธเป็นหลุมเหมือนผิวของดวงจันทร์และมีสนามแม่เหล็กเหมือนโลก
เนื่องจากดาวพุธหมุนช้ามาก ทำให้ด้านที่หมุนเข้าหาดวงอาทิตย์ ร้อนถึง 350 องศาเซนเซียส ซึ่งพอเพียงที่จะหลอมเหลวดีบุกได้ และด้านที่อยู่ตรงข้าม
กลับเย็นจัด เพราะดาวพุธไม่มีบรรยากาศที่จะเก็บความร้อนไว้ได้ พื้นผิวของดาวพุธ เห็นหลุมที่เกิดจากอุกกาบาตวิ่งมาชนเมื่อหลายล้านปี บนดาวพุธ
ไม่มีน้ำ ไม่มีอากาศ ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ และไม่มีอาหาร เราสามารถมองเห็นดาวพุธได้ด้วยตาเปล่า อุณหภูมิกลางคืน 170 องศาเซลเซียส เต็มไปด้วยหลุมบ่อ
 และดาวพุธไม่มีดวงจันทร์เป็นบริวารด้วย

ศุกร์

                   ดาวศุกร์ดาวศุกร์เป็นดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด มีแสงสุกใสมาก ดาวศุกร์มี บรรยากาศเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หุ้มห่ออยู่แน่นมาก ความร้อนก็หนี
    ออกมาไม่ได้ ทำให้ผิวของดาวศุกร์มีความร้อนสูงกว่าดาวพุธ การมองด้วยกล้องโทรทรรศน์ไม่สามารถทะลุผ่านบรรยากาศของดาวศุกร์ได้   ดาวศุกร์
    หมุนช้ามากและหมุนคนละทิศทางกับดาวต่างๆ  พื้นผิวเป็นหินเมื่อดาวศุกร์อยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์เราจะเห็นเสี้ยวเหมือนพระจันทร์จากด้านที่ได้รับแสง
    ขนาดของดาวศุกร์ใกล้เคียงกับโลกบนพื้นเป็นภูเขาบางแห่งเป็นภูเขาไฟระเบิด ไม่มีสิ่งมีชีวิต  ปรากฎให้เห็นตอนเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 3 ชม. ทางทิศ
    ตะวันออก เรียกว่าดาวประกายพรึกหรือดาวกัลปพรึก  ถ้าเห็นตอนค่ำ ก่อนพระอาทิตย์ตก 3 ชม. เรียกว่าดาวประจำเมือง โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 224.7วัน
    หมุนรอบตัวเองใช้เวลา 243 วัน ผิวของดาวศุกร์ร้อน 475 องศา ดาวศุกร์เป็นเทพเจ้าแห่งความรักและ ความงามของกรีกไม่มีดวงจันทร์เป็นบริวาร โคจรในอัตรา
   เร็ว 35.05 กม./วินาที


                                 5

โลก


    เมื่อโลกกำเนิดขึ้น ได้มีดวงจันทร์กำเนิดขึ้นเป็นบริวารโครจรรอบโลกพร้อมกับโลกด้วย 1 ดวง  ขณะที่บนพื้นผิวโลกมีพายุฝนฟ้าคะนองอยู่ตลอดเวลา
   สิ่งมีชีวิตเริ่มแรกมีเซล์เดียวเกิดขึ้นบนท้องทะเลก่อน ส่วนบนดวงจันทร์ระยะแรกเป็นภูเขาไฟระเบิดเช่นเดียวกับโลกกำเนิดขึ้นพร้อมกับระบบสุริยะ เมื่อ
  4600 ล้านปีมาแล้วประกอบด้วยกลุ่มก๊าซและอนุภาค ที่รวมตัวกันหมุนรอบตัวเองและยังหมุนรอบดวงอาทิตย์ด้วย จากอนุภาคฝุ่นเล็กๆ จับตัวกันเป็นกรวด
   หิน ในที่สุดก็กำเนิดสิ่งมีชีวิตขึ้นถ้าเราออกไปในอวกาศแล้วหันมามองโลก โลกจะมีลักษณะกลมแป้นคล้ายผลส้ม พื้นผิวของโลกประกอบด้วยน้ำ 3 ส่วน 
   ดินอีก 1 ส่วน  โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่

ดาวอังคาร ดาวอังคารเป็นชื่อเทพเจ้าของสงครามกรีก ดาวอังคารมีบริวาร 2 ดวงคือ โพมอส และ ไดมอส ดาวอังคารมีขนาดครึ่งหนึ่งของโลกมียานมารีเนอร์ 9 ขึ้นไปสำรวจ ได้พบว่าบนดาวอังคารไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย พื้นผิวดาวอังคารเต็มไปด้วยฝุ่น แห้งแล้งแต่เย็นจัด้เป็นทะเลทรายสีแดง มีหินเล็กๆ พบลมพัดอยู่ตลอดเวลา มีลักษณะ กลมแป้นแบนบริเวรขั้วทั้งสอง มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับโลกมาก

ดาวพฤหัส

        ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่เป็นก้อนก๊าซมหึมามีขนาดใหญ่ไม่มีส่วนแข็ง มีเมฆหนาปกคลุมอย่ เป็นแถบสี
ต่างๆตรงที่เป็นจุดแดงใหญ่เป็นบริเวณกว้างใหญ่อาจเป็นพายุหมุนที่พัดอยู่ตลอดเวลา เป็นก๊าซไนโตรเจน และ
ฮีเลียมเหลวมีมวลมากมีดวงจันทร์เป็นบริวารถึง 16 ดวง มีภูเขาไฟระเบิดอยู่ตลอดเวลา มีก๊าซไฮโดรเจนเหลว
                                                                   6

บริเวณจดแดงบนดาวพฤหัสเป็นบริเวณของกลุ่มเมฆที่เย็นจัด ดาวเสาร์

  ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่ประกอบด้วยก๊าซไฮโดรเจนและก๊าซฮีเลียม มีขนาดเล็กกว่าก๊าซที่มีความหน่าแน่นน้อยกว่า
ดาวพฤหัส ดาวเสาร์มีวงแหวนซึ่งมีลักษณะเป็นวงแบนอยู่รอบๆ นักดาราศาสตร์เชื่อว่าเกิดจากก้อนน้ำแข็งเล็กๆจำนวนมาก
โคจรอยู่รอบๆมีดวงจันทร์ 17 ดวง ในปี พ.ศ.2522 ยานไพโอเนียร์ 11 ได้เดินทางไปถึงดาวเสาร์การสำรวจดาวเคราะห์ที่อยู่
ไกลดวงอาทิตย์ออกไป ปัญหาสำคัญคือระยะทาง ดาวพฤหัสห่างจากเรา 4 เท่าและดาวเสาร์ ห่าง 2 เท่าของระยะดาวพฤหัส

และโลก