มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย



ชื่อ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (ม ม ร)
ชื่อ (อังกฤษ) Mahamakut Buddhist University (MBU)
ก่อตั้ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2436
ประเภทสถาบัน มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาล
อธิการบดี พระเทพปริยัติวิมล (แสวง ธมฺเมสโก)
ที่ตั้ง/วิทยาเขต วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เว็บไซต์ www.mbu.ac.th

มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ หนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย[1] (ฝ่ายธรรมยุตินิกาย)

สารบัญ

[แก้] ประวัติ

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระน้องยาเธอ ได้มีพระดำริจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นภายใน วัดบวรนิเวศวิหาร โดยวิธีจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากการเล่าเรียนภาษาบาลีตามประเพณีแบบเดิม ในขณะเดียวกัน ก็นำเอาวิธีวัดผลแบบข้อเขียนมาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศด้วย

หลังจากที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสได้ทรงก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงมีพระราชดำรัสให้พระองค์ทรงช่วยปรับปรุงโรงเรียนสอนภาษาบาลี ชื่อ "มหาธาตุวิทยาลัย" ภายในวัดมหาธาตุ ขึ้นเป็น "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เพื่อจัดการให้คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงในลักษณะเดียวกัน ควบคู่ไปกับมหามกุฏราชวิทยาลัยซึ่งสมัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงและส่วนมากยังจำกัดอยู่แต่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ต่อมา ทั้ง มหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปิดตายลงเพราะประสบปัญหาหลายประการด้วยกัน เป็นเวลาหลายสิบปี

จนกระทั่ง ท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพได้พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ จนประสบผลสำเร็จ เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ยอมออกหน้าให้การอุปถัมภ์ โดยได้ทำการประกาศรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2488 ตามมาด้วย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งประกาศรื้อฟื้นกิจการในปี พ.ศ. 2490 อาจารย์สุชีพ ได้แถลงว่า สาเหตุที่ต้องมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพราะคณะสงฆ์จำเป็นต้องผลิตบุคคลากรที่รู้ทันวิชาสมัยใหม่ มิฉะนั้น คณะสงฆ์จะไม่ทันชาวบ้านและนำชาวบ้านไม่ได้ และจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเพราะอยู่คนละโลก ท่านจึงต่อสู้เพื่อให้ได้มหาวิทยาลัย จนในที่สุด มหามกุฏราชวิทยาลัย และ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ได้รับการรื้อฟื้นมาอีกครั้งหนึ่ง อันเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้ของท่าน เหตุผลนี้ ทำให้คนรุ่นหลังกล่าวยกย่องท่านเป็น บิดาแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย

เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่านและสืบสานเจตนารมณ์ของท่าน คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิปุญญานุภาพ ขึ้นโดยความเห็นชอบของท่านเพื่อให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาหรือครูอาจารย์ผู้ค้นคว้าวิจัยทางพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

[แก้] สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย

  • ตรามหามกุฏราชวิทยาลัย
    • พระมหามงกุฎ หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนามมหามกุฏราชวิทยาลัย
    • พระเกี้ยวประดิษฐสถานบนหมอนรอง หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
    • หนังสือ หมายถึง คัมภีร์และตำราทางพระพุทธศาสนา
    • ปากกาปากไก่ ดินสอและม้วนกระดาษ หมายถึง อุปกรณ์ในการศึกษาเล่าเรียนทางพระพุทธศาสนา
    • ช่อดอกไม้แย้มกลีบ หมายถึง ความเบ่งบานแห่งสติปัญญาและวิทยาการในทางพระพุทธศาสนา
    • พานรองรับหนังสือหรือคัมภีร์ หมายถึง มหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นทั้งสถานจัดการศึกษาและเผยแผ่
    • วงรัศมี หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นเป้าหมายของการจัดการศึกษา
    • มหามกุฏราชวิทยาลัย หมายถึง มหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
  • สุภาษิตประจำมหาวิทยาลัย

"วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุเส = ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติที่ดีประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดาและหมู่มนุษย์" หมายความว่าเป้าหมายในการสร้างคนจะต้องให้สมบูรณ์ครบทั้งความรู้และความประพฤติที่ดี(ความรู้คู่คุณธรรม)ในเวลาเดียวกัน

  • สีประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ สีส้ม
  • ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าใช้ประทับอาศัยเป็นร่มเงาเมื่อตรัสรู้ ต้นโพธิ์จึงเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้น้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า

[แก้] คณะ

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยแบ่งออกเป็น 5 คณะ

  • คณะศาสนาและปรัชญา
  • คณะมนุษยศาสตร์ (เดิมชื่อ คณะศิลปศาสตร์)
  • คณะสังคมศาสตร์
  • คณะศึกษาศาสตร์
  • คณะบัณฑิตวิทยาลัย

[แก้] วิทยาเขต

[แก้] ความร่วมมือกับนานาชาติ

ปัจจุบัน มหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ตกลงในความร่วมมือเพื่อพัฒนา ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ใน อังกฤษ เพื่อเผยแผ่หลักพุทธธรรมให้กว้างขวางไปสู่นานาประเทศ นอกจากนั้น ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศอินโดนีเซียเพื่อพัฒนาการศึกษาพุทธศาสน์ศึกษาด้วย

[แก้] เกียรติภูมิของชาวมหามกุฏราชวิทยาลัย

สิ่งที่ชาวมหามกุฏราชวิทยาลัยภาคภูมิใจที่สุดก็คือการเป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาหรือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศ หลังจากที่มีการเปิดการเรียนการสอนระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาและครูอาจารย์มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้มีเป้าประสงค์ยิ่งใหญ่ตามเจตนารมณ์ของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ คือพยายามขยายการอบรมจริยธรรมหรือศีลธรรมทางพระพุทธศาสนาไปทั่วประเทศในรูปแบบต่างๆ กล่าวได้ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ประเทศได้รับอิทธิพลวัตถุนิยมจากตะวันตก นักศึกษาและครูอาจารย์มหามกุฏราชวิทยาลัยได้มีบทบาทสำคัญในการชี้นำให้เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติที่เป็นรากฐานของสังคมไทยมาช้านาน พระสงฆ์สามเณรที่เป็นพระนักศึกษาหลายรูปได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาเหล่านี้จนกระทั่งสำเร็จการศึกษา

กิจกรรมที่คณาจารย์และนักศึกษาได้กระทำกันมาเพื่อปลูกฝังศีลธรรมในประเทศไทยมีจำนวนมาก อาทิ

  • บรรยายธรรมทางสถานีวิทยุหลายสถานี
  • ส่งพระนักศึกษาและครูอาจารย์ไปสอนนักโทษเรือนจำในที่ต่างๆ ของประเทศ
  • ส่งพระนักศึกษาและครูอาจารย์ไปสอนศีลธรรมตามโรงเรียนต่างๆ ที่ขาดแคลน
  • เปิดสอนศีลธรรมแก่ประชาชนและนิสิตนักศึกษาทั่วไปเป็นกรณีพิเศษในวันอาทิตย์
  • จัดอภิปราย บรรยายหรือเสวนาธรรมเป็นประจำเพื่อกระตุ้นหรือเร่งเร้าให้ประชาชนเห็นคุณค่าของธรรมะ
  • ส่งพระนักศึกษาไปอบรมกรรมฐานเป็นเวลา 1 เดือนในสำนักพระกัมมัฏฐานก่อนจะรับปริญญา
  • จัดส่งนักศึกษาที่เรียนครบตามหลักสูตรไปปฏิบัติหน้าที่สอนศีลธรรมในท้องถิ่นต่างๆ ของประเทศเป็นระยะเวลา 1 ปีก่อนจะมีพิธีประสาธน์ปริญญา
  • คณาจารย์ได้เข้าไปมีบทบาทในการแสดงความเห็นเพื่อแก้ปัญหาการขาดศีลธรรมของชนในชาติระดับต่างๆ
  • เป็นผู้นำในการตอบโต้ภัยคุกคามจากลัทธิศาสนาอื่นที่มีพฤติกรรมบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
  • ชี้นำสังคมให้พัฒนาบัณฑิตเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม หรือมีความรู้คู่คุณธรรม

ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยสงฆ์มหามกุฏราชวิทยาลัยหลักๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ประชาชนทั่วไปที่ติดตามผลงานของมหามกุฏราชวิทยาลัยมาโดยตลอดจึงอยู่ที่ความสามารถในการผลิตบุคคลากรทางพระพุทธศาสนาเพื่อพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาและเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงประชาชนทุกระดับชั้น

[แก้] บุคคลที่มีชื่อเสียง

[แก้] คณาจารย์ที่มีชื่อเสียงของมหามกุฏราชวิทยาลัย

[แก้] ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงของมหามกุฏราชวิทยาลัย

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

ภาษาอื่น