แนวทางเศรษฐกิจชาติ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้ต้องการเก็บกวาด ตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไขรูปแบบ เพิ่มแหล่งอ้างอิง ใส่หมวดหมู่ หรือภาษาที่ใช้
ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือในหลายส่วนด้วยกัน
คุณสามารถช่วยตรวจสอบ และแก้ไขบทความนี้ได้ด้วยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน
กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ วิธีแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือการเขียน และ นโยบายวิกิพีเดีย ซึ่งสามารถดูตัวอย่างบทความได้ที่ บทความคุณภาพ และเมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้
“แนวทางเศรษฐกิจของชาติควรเป็นทุนนิยม หรือมนุษยนิยม


ขณะที่ทุนนิยมกำลังขับเคลื่อนโลกและสรร้างผลข้างเคียงมากมาย มีกระแสเศรษฐกิจมนุษย์นิยมถูกหยิบยกขึ้นมาแทนที่ แล้วประเทศไทยควรจะเลือกทางไหน เศรษฐกิจมนุษยนิยมเป็นสิ่งที่ดี และทุนนิยมก็ไม่ใช่สิ่งที่เลว เพราะเงินหรือทุนเป็นเพียงค่าสมมติ มีความเป็นกลาง และใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ไม่มีความดีหรือความเลวใดๆ ในเงิน ความดีหรือความเลวอาจเกิดขึ้นเพราะการแลกเปลี่ยนไม่เป็นธรรมอันอาจเกิดด้วยความละโมบของคนส่วนหนึ่งหรือชนชาติบางชนชาติ จึงทำให้ผู้อื่นลำบาก ดังนั้นความดี ความชั่วไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่อยู่ที่คนและวิธีที่ควนใช้ในการแสวงหา รักษา และใช้เงิน ซึ่งอาจจะดีหรือเลวก็ได้ขึ้นอยู่กับมโนธรรมของบุคคล และระบบทางสังคม กระนั้นเศรษฐกิจมนุษยนิยมโดยลำพัง แม้เป็นหลักการที่ดี แต่มักอ่อนแอ เหมือนหญิงสาวที่งดงามไร้เดียงสา แต่ภูมิคุ้มกันต่ำ เมื่อต้องอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยมลพิษ ย่อมติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย เมื่อเศรษฐกิจมนุษยนิยมต้องอยู่ในโลกที่ใช้เงินเป็นค่ากลาง ท่ามกลางประชาคมนานาชาติที่แข่งขันกัน จึงมักมีความอ่อนแอ และอาจถูกนานาชาติรุกรานทางเศรษฐกิจได้โดยง่าย เมื่อวิเคราะห์เชิงวิชาการด้วยความเป็นกลางแล้ว พบว่าประเทศที่ยึดแนวทางทุน มัก GDP สูง แต่ก็มีปัญหาสังคมสูง อัตราอาชญากรรมมากทั้งในประเทศและที่ละเมิดชนชาติอื่น ส่วนประเทศที่ยึดแนวทางมนุษย์นิยม ปัญหาสังคมจะน้อย แต่ GDP ต่ำ ทรัพย์สินมักตกอยู่ในมือผู้ปกครองหรือรัฐ ประชาชนพอมีกิน แต่ไม่มั่งคั่ง และเมื่อต้องแข่งขันกับประเทศทุนนิยม มักเพลี่ยงพล้ำโดยง่าย เมื่อเพลี่ยงแต่ละครั้ง เศรษฐกิจก็ก็หายนะ เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ดังนั้น แนวทางเศรษฐกิจที่มั่นคงของชนชาติจึงควรเป็นแนวทางสังเคราะห์ทั้งทุนนิยมและมนุษยนิยมโดยผสมผสานให้ลงตัว ณ จุดพอดี จุดพอดี คือ จุดที่พอเพียงทั้งสำหรับตน สำหรับครอบครัว สำหรับชุมชนสัมพันธ์ สำหรับป้องกันตนบนเวทีโลกด้วย แล้วที่ไหนคือเวทีโลก จากกลไกโลกาภิวัฒน์ ที่บีบให้ทุกประเทศเปิดเสรีทางการค้า จึงทำให้ทุกที่ในโลก คือเวทีโลก ดังนั้นแม้จะอยู่ในประเทศตน และไม่คิดจะไปแข่งกับใคร แต่คนทั้งหลายในโลกก็เข้ามาแข่งกับเราในบ้านของเราเอง ดังนั้นความพอเพียงต้องเพียงพอสำหรับป้องกันตน หรือร่วมมือกับชนชาติอื่นอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรมได้ด้วย ทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงจึงทรงเน้นย้ำทางสายกลาง เพื่อหาความพอเพียงที่พอดีให้เจอ ซึ่งสำหรับแต่ละคน และละอาชีพ แต่ละวงการอาจจะต่างกัน หากเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขทุกฝ่ายแล้ว จะรวยเท่าไร ก็รวยไปเถิด แต่อย่าพยายามร่ำรวยจน เสียสุขภาพหรือสร้างความทุกข์ให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นอันขาด