อิมมานูเอิล คานท์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ปรัชญาตะวันตก
ปรัชญาศตวรรษที่ 18
อิมมานูเอิล คานท์ในยุคกลาง
ชื่อ: อิมมานูเอิล คานท์
เกิด: 22 เมษายน, พ.ศ. 2267 (Königsberg, Kingdom of Prussia) (Now Kaliningrad, รัสเซีย)
เสียชีวิต: 12 กุมภาพันธ์, พ.ศ. 2347 (Königsberg, ราชอาณาจักรปลัสเซีย)
School/tradition: Kantianism, ยุคแสงสว่างแห่งปัญญา ปรัชญา
ความสนใจ: ญาณวิทยา, อภิปรัชญา, จริยศาสตรื
แนวความคิด: Categorical imperative, Transcendental Idealism, Synthetic a priori, Noumenon, Sapere aude
ได้รับแรงบัลดาลใจจาก: Wolff, Tetens, Hutcheson, Empiricus, Montaigne, Hume, Descartes, Malebranche, Leibniz, Spinoza, Locke, Berkeley, Rousseau, นิวตัน, Emanuel Swedenborg
สร้างแรงบัลดาลใจให้กับ: Fichte, Schelling, Hegel, Schopenhauer, Nietzsche, Peirce, Husserl, Heidegger, Wittgenstein, Sartre, Cassirer, Habermas, Rawls, and many more
อิมมานูเอิล คานท์
อิมมานูเอิล คานท์

อิมมานูเอิล คานท์ (Immanuel Kant) (22 เมษายน ค.ศ. 1724 (พ.ศ. 2267) – 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1804 (พ.ศ. 2347) เป็นนักปรัชญาชาวเยอรมัน จากแคว้นปรัสเซีย ได้รับการยกย่องโดยทั่วไปว่า เป็นนักคิดที่มีอิทธิพลมากที่สุดของยุโรป และเป็นนักปรัชญาคนสำคัญคนสุดท้ายของยุคแสงสว่าง เขาสร้างผลกระทบที่สำคัญไปถึงนักปรัชญาสายโรแมนติกและสายจิตนิยม ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานของเขาเป็นจุดเริ่มของ เฮเกิล

คานท์เป็นที่รู้จักเนื่องจากแนวคิดของเขา ที่เรียกว่าจิตนิยมอุตรวิสัย (transcendental idealism) ที่กล่าวว่ามนุษย์ใช้แนวคิดบางอย่างที่ติดตัวมาแต่กำเนิด (innate idea) ในการรับรู้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวในโลก เรารับรู้โลกโดยผ่านทางประสาทสัมผัสประกอบกับมโนภาพที่ติดตัวมานี้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถล่วงรู้หรือเข้าใจใน "สรรพสิ่งที่แท้" ได้ ความรู้ต่อสรรพสิ่งที่เรามีนั้นจึงเป็นได้แค่เพียงภาพปรากฏ ที่เรารับรู้ได้ผ่านทางประสาทสัมผัสเท่านั้น (ดูเนื้อหาเกี่ยวกับ อุตรภาพ เพิ่มเติม)

ญาณวิทยา (epistemology) หรือทฤษฎีความรู้ของคานท์นั้น เกิดขึ้นเพื่อแก้ความขัดแย้งระหว่างปรัชญาสายเหตุผลนิยมที่กล่าวว่า ความรู้สามารถสร้างขึ้นได้ไม่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ กับปรัชญาสายประสบการณ์นิยมที่กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารู้มีที่มาจากประสบการณ์ คานท์ได้เชื่อมแนวคิดที่ขัดแย้งกันทั้งสอง ดังคำกล่าวที่เขาเองเปรียบเปรยว่าเป็นการปฏิวัติแบบโคเปอร์นิคัส (Copernical Revolution) โดยสรุปคร่าวๆ ได้เป็นประโยคขึ้นต้นของหนังสือ บทวิพากษ์ของการใช้เหตุผล (Critique of Pure Reason) ว่า "แม้ว่าความรู้ทั้งหมดที่เรามีจะมีจุดเริ่มต้นจากประสบการณ์ แต่นั่นมิได้หมายความว่าความรู้ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นมาจากประสบการณ์"

ใน Critique of Pure Reason ยังได้นำเสนอเนื้อหาของหลักทางศีลธรรม(จริยศาสตร์)ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อแนวความคิดด้านจริยธรรมของโลกตะวันตกมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนอาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นบิดาแห่งแนวคิดเรื่องสหประชาชาติ ดังที่ปรากฎในความเรียงว่าด้วยเรื่องสันติภาพถาวรของเขาได้เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นเพื่อยุติความขัดแย้งและความโหดร้ายของสงคราม กระทั่งสันนิบาตชาติและตามด้วยสหประชาชาติได้เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน

เกร็ดประวัติชีวิตที่น่าสนใจของนักปรัชญาผู้นี้คือ เขาเกิดและตายที่เมืองโคนิกสเบิร์ก (Konigsberg) ทางตะวันออกของปรัสเซีย และดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยโคนิกสเบิร์กที่นั่น ทั้งชีวิตของเขาไม่เคยออกนอกเมืองดังกล่าวเลย แนวคิดของเขาส่งผ่านไปทั่วโลกโดยทางจดหมาย หลักศีลธรรมของเขาไม่เพียงแต่ปรากฎในแผ่นกระดาษเท่านั้น แต่เขายังถือปฏิบัติอย่างจริงจังอีกด้วย เขาครองโสดตลอดชีวิต มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ และไม่โอ้อวดในทางวิชาการ นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ตรงเวลามากอีกด้วย ทุกๆ วันเขาจะออกจากบ้านเวลาเดียวกันเสมอ กระทั่งมีคำกล่าวว่า หากเห็นคานท์ออกจากบ้านเมื่อใดก็สามารถนำเวลานั้นมาตั้งหน้าปัดนาฬิกาของตนเองได้

[แก้] บทความที่เกี่ยวข้อง


 อิมมานูเอิล คานท์ เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ อิมมานูเอิล คานท์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ