ประเทศเกาหลีใต้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อักษรฮันกึล: 대한민국
อักษรฮันจา: 大韓民國
Daehan Minguk
แทฮัน มินกุก
สาธารณรัฐเกาหลี
ธงชาติเกาหลีใต้ ตราประจำชาติเกาหลีใต้
ธงชาติ ตราประจำชาติ
คำขวัญ: Broadly bring benefit to humanity
(เกาหลี: 널리 인간 세계를 이롭게 하라)
เพลงชาติ: เอกุกกา
แผนที่แสดงที่ตั้งของประเทศเกาหลีใต้
เมืองหลวง โซล
37°35′N 127°0′E
เมืองใหญ่สุด โซล
ภาษาราชการ ภาษาเกาหลี
รัฐบาล ประชาธิปไตยระบบประธานาธิบดี
ประธานาธิบดี
นายกรัฐมนตรี
โน มู เฮียน
ฮัน เมียง ซุก
การสถาปนาชาติ
โกโชซอน
ประกาศสาธารณรัฐ
เสรีภาพ
สาธารณรัฐที่ 1

2,333 ปีก่อนคริสตกาล
1 มีนาคม พ.ศ. 2462
15 สิงหาคม พ.ศ. 2488
15 สิงหาคม พ.ศ. 2491
เนื้อที่
 - ทั้งหมด
 
 - พื้นน้ำ (%)
 
98,480 กม.² (อันดับที่ 108)
38,023 ไมล์² 
0.3%
ประชากร
 - ก.ค. 2548 ประมาณ
 - 2543

 - ความหนาแน่น
 
47,817,000 (อันดับที่ 25)
45,985,289 source

492/กม² (อันดับที่ 19)
1,274/ไมล์² 
GDP (PPP)
 - รวม
 - ต่อประชากร
2548 ค่าประมาณ
994.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 14)
20,590 ดอลลาร์สหรัฐ] (อันดับที่ 33)
HDI (2546) 0.901 (อันดับที่ 28) – สูง
สกุลเงิน วอน (KRW)
เขตเวลา เวลามาตรฐานเกาหลี (UTC+9)
รหัสอินเทอร์เน็ต .kr
รหัสโทรศัพท์ +82

สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) หรือ เกาหลีใต้ (South Korea) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ มีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นไว้

ในภาษาเกาหลีอ่านชื่อประเทศว่า แทฮัน มินกุก (อักษรฮันกุล: 대한 민국 , อักษรฮันจา: 大韓民國) โดยเรียกสั้น ๆ ว่า ฮังกุก (한국) ที่หมายถึงคนชาวฮั่นหรือคนเกาหลี และบางครั้งจะใช้ชื่อว่า นัมฮัน (남한) ที่หมายถึง ชาวฮั่นทางใต้ ส่วนชาวเกาหลีเหนือจะเรียกเกาหลีใต้ว่า นัมโชซอน (남조선) ที่หมายถึง โชซอนใต้)

สารบัญ

[แก้] ประวัติศาสตร์

ดูบทความหลักที่ ราชอาณาจักรทั้งสามของเกาหลี

ในประวัติศาสตร์เกาหลี แบ่งเป็นราชอาณาจักรทั้งสาม คือราชอาณาจักรโคกูเรียว อาณาจักรแพ็คเจ และอาณาจักรซิลลา ซึ่งปกครองคาบสมุทรเกาหลีและบางส่วนของจีน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์กาลถึงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ในช่วงหนึ่งศตวรรษก่อนคริสตศักราช คาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด และดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศจีนอยู่ภายใต้การปกครองของสามอาณาจักร

ราชวงศ์ลี เป็นราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลี หลังจากสิ้นสุดรัชสมัยของพระเจ้าซุนจง เกาหลีก็ได้ถูกปกครองโดยญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2453

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาหลีต้องแยกเป็นสองประเทศตามข้อตกลงพอตสดัม (Potsdam) ในปี พ.ศ. 2488 โดยใช้เส้นขนาน 38 และเกาหลีใต้ อยู่ในการดูแลโดยสหรัฐอเมริกา ต่อมาจะต้องผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจหลังจากอยู่ภายใต้การดูแลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยเน้นในเศรษฐกิจเป็นสากลยิ่งขึ้น ยุติการเข้าแทรกแซงของรัฐบาลในธุรกิจเอกชน และให้ความยุติธรรมต่อภาคเอกชนทุกแห่ง และเร่งสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ให้อยู่ร่วมอย่างสันติ

[แก้] การเมือง

หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2491 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (มักเรียกว่าเส้นขนาน 38) โดยสหภาพโซเวียตดูแลเกาหลีเหนือมีการปกครองระบอบสังคมนิยม ส่วนสหรัฐอเมริกาดูแลเกาหลีใต้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย

[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง

ประเทศเกาหลีใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 จังหวัด (provinces) 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ (special autonomous province) 6 มหานคร (metropolitan cities) และ 1 นครพิเศษ (special city)

แผนที่เขตการปกครองหลักของประเทศเกาหลีใต้
แผนที่เขตการปกครองหลักของประเทศเกาหลีใต้

[แก้] นครพิเศษ

  1. โซล (Seoul Teukbyeolsi: โซล ตึกเบียลซิ; 서울 특별시; 漢城特別市)

[แก้] มหานคร

  1. ปูซาน (Busan Gwangyeoksi: ปูซาน กวางยอคซิ; 부산 광역시; 釜山廣域市)
  2. แทกู (Daegu Gwangyeoksi: แดกู กวางยอคซิ; 대구 광역시; 大邱廣域市)
  3. อินชอน (Incheon Gwangyeoksi: อินชอน กวางยอคซิ; 인천 광역시; 仁川廣域市)
  4. กวางจู (Gwangju Gwangyeoksi: กวางจู กวางยอคซิ; 광주 광역시; 光州廣域市)
  5. แทจอน (Daejeon Gwangyeoksi: แดจอน กวางยอคซิ; 대전 광역시; 大田廣域市)
  6. วุลซาน (Ulsan Gwangyeoksi: วุลซาน กวางยอคซิ; 울산 광역시; 蔚山廣域市)

[แก้] จังหวัด

  1. เกียงกี (Gyeonggi-do: เกียงกี-โด; 경기도; 京畿道)
  2. กังวอน (Gangwon-do: กังวอน-โด; 강원도; 江原道)
  3. เกียงซางเหนือ (Gyeongsangbuk-do: เกียงซางบุค-โด; 경상 북도; 慶尚北道)
  4. เกียงซางใต้ (Gyeongsangnam-do: เกียงซางนัม-โด; 경상 남도; 慶尚南道)
  5. เจียลลาใต้ (Jeollanam-do: เจียลลานัม-โด; 전라 남도; 全羅南道)
  6. เจียลลาเหนือ (Jeollabuk-do: เจียลลาบุค-โด; 전라 북도; 全羅北道)
  7. ชุงชองเหนือ (Chungcheongbuk-do: ชุงชองบุค-โด; 충청 북도; 忠清北道)
  8. ชุงชองใต้ (Chungcheongnam-do: ชุงชองนัม-โด; 충청 남도; 忠清南道)

[แก้] จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ

  1. เชจู (Jeju: เชจู; 제주특별자치도; 濟州特別自治道)

[แก้] ภูมิศาสตร์

ตั้งอยู่ที่ ละติจูด 33-39 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 125-131 องศาตะวันออก 70% ของประเทศเป็นภูเขา

[แก้] เศรษฐกิจ

เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศกำลังพัฒนาขั้นสูง

การเพาะปลูก 
พืชสำคัญได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวบาร์เลย์ แอปเปิล มันฝรั่ง ถั่วเหลือง ข้าวสาลี
การเลี้ยงสัตว์ 
สัตว์เลี้ยงสำคัญได้แก่ สุกร โค สัตว์ปีก และตัวไหม
การประมง 
ผลผลิตทางการประมงของเกาหลีใต้มีเหลือใช้ในประเทศจนสามารถส่งเป็นสนค้าส่งออกที่สำคัญอย่างหนึ่ง สถิติ พ.ศ. 2535 เกาหลีใต้สามารถจับปลาได้เป็นอันดับ 10 ของโลก (ไทยเป็นอันดับ 9)
การทำเหมืองแร่ 
เกาหลีใต้ขาดแคลนถ่านหินและน้ำมันปิโตเลียม แต่มีแร่ธาตุอื่นๆอีกหลายชนิด ได้แก่ แกรไฟต์ ดินเกาลิน และทังสเตน
อุตสาหกรรม 
อุตสาหกรรมในเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเบา ผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่สำคัญได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ รถยนต์ ปิโตรเคมี และเรือเดินสมุทร

[แก้] ประชากร

เชื้อชาติ 
ประเทศเกาหลีแทบจะไม่มีชนชาติอื่นนอกจากเกาหลีเอง แต่ก็มีชาวจีนประมาณ 3 หมื่นคน ซึ่งอยู่ตามเขตเมืองหลวงมาช้านานแล้ว และยังมีชาวฟิลิปินโนอีก 72,000 คน
ศาสนา 
ชาวเกาหลีใต้ไม่มีศาสนาประมาณ 46% ศาสนาคริสต์ 26% ศาสนาพุทธ 26%ลัทธิขงจื๊อ 1% ศาสนาชอนโดเกียว ศาสนาอิสลามและอื่นๆ 1% [1]

ดูเพิ่มได้ใน พุทธศาสนาในเกาหลีใต้

[แก้] วัฒนธรรม

ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลี

[แก้] ศิลปะเกาหลี

พระพุทธรูปในถ้ำซ็อกคูรัม
พระพุทธรูปในถ้ำซ็อกคูรัม

ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลีวัฒนธรรม งานหัตธรรมพื้นบ้านคือศิลปะที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีงานไม้และเครื่องเขินของเกาหลีเป็นที่รู้จักกันดี โดยเน้นการออกแบบที่เพื่อประโยชน์ใช้สอยและความเรียบง่ายสิ่งสะดุดตาในงานไม้เกาหลีคือศิลปะการประดับมุก, งานหัตกรรมโลหะทำด้วยทองทำด้วยสำริด ทางด้านพระพุทธศาสนามีการสร้างพระพุทธรูปสำริด ระฆังวัดที่หล่อด้วยสำริด เอกลักษณ์ของระฆัง เกาหลีคือรูปร่างการออกแบบและเสียง ศิลปะเครื่องปั้นดินเผาเกาหลีเป็นประเทศที่เป็นที่ยอมรับในการพัฒนาศิลปะด้านนี้และเครื่องปั้นดินเผาที่มี ชื่อเสียงคือ ศิลาดล เป็นเครื่องเคลือบที่มีความสดใสฝีมือประณีตนิยมเคลือบด้วยสีขาวซึ่งพัฒนาให้สวยงามในยุคโกเรียว ศิลปะของนักปราชญ์ เดิมรูปแบบตัวอักษรเกาหลีและญี่ปุ่นเป็นอักษรจีน ซึ่งเป็นตัวเขียนที่ยังใช้อยู่ในเอเชียตะวันออกร่วมพันปี แม้ว่าหลังจากที่เกาหลี ประดิษฐ์อักษรฮันกึล ในปี ค.ศ. 1446 ตัวอักษรจีนยังคงใช้ในภาษาราชการ จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เพราะว่าตัวอักษรจีนมีอยู่นับหมื่นตัว แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน มีวิธีเขียนหลายแบบ หลายความหมาย การเรียนอ่านและการเขียนตัวอักษรจีนไม่ใชเรื่องง่ายศิลปะการเขียนอักษรจีนได้เข้ามาในประเทศเกาหลีเมื่อ 1,500 ปีมาแล้ว การเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันเกาหลีเรียกว่า "บุดกึลซี"ต้องอาศัยปัจจัย4ของนักปราชญ์ ได้แก่ หมึก แท่งหินฝนหมึก พู่กันและกระดาษ ศิลปินเขียนพู่กันส่วนใหญ่มักเป็นทั้งนักปราชญ์และจิตกร ศิลปินเหล่านี้อาจใช้พู่กันเล่มเดียวกันเขียนกลอนบรรยายภาพ ภาพวาดเกาหลี เป็นศิลปะที่มีธรรมเนียมนิยมของตนเองอย่างสมบูรณ์ จิตรกรรม ภาพจิตกรรมของเกาหลีมีมานานแล้ว สถาบันภาพวาดก่อตั้งขึ้นในยุคโกกุริวสถาบันแห่งนี้เน้นภาพวาด ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา รูปแบบจิตกรรมที่หลากหลายได้พัฒนาสืบต่อกันมาจนถึงสมัยโซชอน พร้อมนำรูปแบบศิลปะจีนแบบใหม่รวมทั้งเทคนิคการวาดภาพแบบตะวันตก มีการใช้สีสันสดใสในภาพที่วาดเกี่ยวกับศาสนานี้

[แก้] เครื่องแต่งกายประจำชาติของเกาหลี

ชาวเกาหลีมีชุดประจำชาติตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกว่า ฮันบก (ฮันหมายถึงชาวเกาหลี หมายถึงชุด รควมกันหมายถึงชุดของชาวเกาหลี) ฮันบกทั้งของผู้หญิงและผู้ชายมีลักษณะหลวมๆเพื่อความสะดวกสบายและคล่องแคล่วไม่ใช้กระดุมหรือขอแต่จะใช้ผ้าผูก ไว้แทน ชุดของผู้ชาย ข้างล่างประกอบด้วย "ปันซือ" แต่สมัยใหม่เรียกว่า "แพนที" ซึ่งหมายถึงกางเกงใน ชั้นนอกสวม"บาจี"เป็นกางเกงขายาวหลวมๆรวบปลายขาไว้ด้วย "แทมิน" เป็นแถบผ้าใช้มัดขากางเกง"บันโซเม" เป็นเสื้อรัดรูปแขนสั้นไว้ข้างใน เสื้อนอกเรียกว่า"จอโกลี"เป็นเสื้อแขนยาวไม่มีปกไม่มีกระเป๋า ชุดของผู้หญิง ประกอบด้วย "แพนที"หรือกระโปงที่อยู่ข้างใน ข้างบนใช้ "ซ็อกชีมา"เป็นแถบผ้าขนาดใหญ่ ใช้มัดทรวงอกไว้แทนเสื้อยกทรง ข้างนอกสวม"ชีมา" เป็นกระโปรงยาวกรอมเท้า สวมเสื้อ"จอโกรี"เป็นเสื้อนอกแขนยาว"ฮันบกเป็นภาพรวมศิลปะของเกาหลีที่สามารถพบเห็นได้ตามท้องถนนของเกาหลี ราวกับถนน สายแฟชั่นของปารีส ฮันบกชุดแต่งกายประจำชาติของเกาหลีทำจากผ้าสีสัน สดใส เนื้อผ้าจะขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของผู้ใส่ เด็กหญิงหรือหญิงสาวจะสวมกระโปรง สีแดงเสื้อสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็นกระโปรงสีแดง เสื้อสีเขียวเมื่อแต่งงานแล้วส่วน หญิงสูงอายุอาจเลือกสีสันต่างๆที่สดใส และเลือกใช้เนื้อผ้าได้หลากหลาย ปัจจุบันชุดแต่งกายวัฒนธรรมเดิมจะใช้เฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่ตามถนนหนทาง และรถไฟใต้ดินจะยังคงเห็นผู้คนสวมใส่กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุยังคงสวมใส่ชุดฮันบกอยู่

[แก้] อ้างอิง

  1. สถิติประชากรในเกาหลีใต้ จากซีไอเอ

[แก้] ดูเพิ่ม