ผู้ใช้:Maiya
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรคตกเลือดตามซอกเกล็ด
อาการของโรคนี้คือ ปลาจะมีแผลเปิดสีแดงเป็นจ้ำ ๆ ตามลำตัว โดยเฉพาะที่ครีบและซอกเกล็ด มักพบในปลามีเกล็ดเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นแผลเรื้อรัง อาจมีอาการเกล็ดหลุดบริเวณรอบ ๆ แผลและด้านบนของแผลจะมีส่วนที่คล้ายสำลีสีน้ำตาลปนเหลืองติดอยู่ โรคนี้เกิดจากปรสิตชื่อ อิพิสไทลิส (Epistylis sp.) ซึ่งเป็นปรสิตเซลล์เดียวที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือกระจุก พบมากในปลาแฟนซีคาร์พ ปลาแรด และปลาช่อน เป็นต้น การป้องกันรักษา 1. ใช้เกลือเม็ด จำนวน 1-5 กิโลกรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่นาน 48 ชั่วโมง 2. ใช้ฟอร์มาลิน จำนวน 25-40 ซีซี. ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่นาน 48 ชั่วโมง หลังจากแช่ยาแล้วถ้าปลายังมีอาการไม่ดีขึ้นควรเปลี่ยนน้ำแล้วพักไว้ 1 วันก่อน จากนั้นใส่ยาซ้ำอีก 1-2 ครั้ง ถ้ารักษาถูกโรค ปลาควรจะมีอาการดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หลังจากการรักษา โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
โรคตัวด่าง
ปลาที่เป็นโรคนี้จะมีแผลด่างขาวตามลำตัว โรคนี้มักเกิดกับปลาหลังจากการย้ายบ่อ การลำเลียงหรือขนส่งเพื่อนำไปเลี้ยง หรือในช่วงที่อุณหภูมิของอากาศมีการเปลี่ยนแปลงในรอบวันมาก ปลาที่ติดโรคนี้จะตายเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง ปลาที่พบว่าเป็นโรคนี้อยู่เสมอคือ ปลากะพงขาว ปลาดุก ปลาช่อน ปลาบู่ และปลาสวยงามอีกหลายชนิด การป้องกันรักษา วิธีที่ดีที่สุดที่ควรทำคือ การปรับปรุงสภาพภายในบ่อให้เหมาะสม เช่น การเพิ่มออกซิเจน และการลดอินทรีย์สารในน้ำให้น้อยลง 1. ในขณะขนส่งลำเลียงปลา ควรใส่เกลือเม็ดลงในน้ำที่ใช้สำหรับลำเลียงปลาประมาณ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตร 2. ก่อนปล่อยปลาลงเลี้ยงควรปรับปรุงอุณหภูมิของน้ำในภาชนะบรรจุปลาให้ใกล้เคียงกับน้ำในบ่อก่อน 3. ใช้ด่างทับทิม จำนวน 1-3 กรัมต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่นาน 24 ชั่วโมง เพื่อการรักษา 4. ใช้ฟอร์มาลิน จำนวน 40-50 ซีซี. ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่นาน 24 ชั่วโมง
โรคท้องบวม
สาเหตุของโรคท้องบวมเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาการบวมของปลาที่เป็นโรคนี้มี 2 ลักษณะ คือ ลักษณะที่มีสาเหตุจากกระเพาะหรือลำไส้มีก๊าซมาก ส่วนอีกลักษณะ คือ มีเลือดปนน้ำเหลืองในช่องท้อง ปลาที่มีรายงานว่าเป็นโรคนี้ ได้แก่ ปลาดุก ปลาบู่ ปลานิล และปลาสวยงามหลายชนิด การป้องกันรักษา 1. แช่ปลาในยาต้านจุลชีพชนิดออกซี่เตตร้าไซคลิน หรือเตตร้าไซคลิน ในอัตราส่วน 10-30 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร 2. การฆ่าเชื้อในบ่อเลี้ยงปลา ควรใช้ปูนขาวโรยให้ทั่วบ่อหลังจากสูบน้ำออกแล้ว 3. ไม่ควรเลี้ยงปลาในปริมาณที่แน่นจนเกินไป และควรให้อาหารอย่างเหมาะสม
โรคเกล็ดตั้ง
โรคนี้มักพบได้เสมอไนปลาสวยงาม อาการของโรคอาจพบเกล็ดตั้งเป็นบางส่วนหรือเกล็ดตั้งตลอดลำตัว นอกจากนี้ยังพบลักษณะจุดแดงทั่วตัวโดยเฉพาะบริเวณครีบและลำตัว โรคเกล็ดตั้งที่พบอาจเกิดขึ้นโดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเกิดโรคท้องบวมหรืออาจเป็นอาการของโรคโดยเฉพาะที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การป้องกันรักษา 1. แช่ปลาในยาต้านจุลชีพชนิดออกซี่เตตร้าไซคลิน หรือเตตร้าไซคลิน ในอัตราส่วน 10-30 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร 2. การฆ่าเชื้อในบ่อเลี้ยงปลา ควรใช้ปูนขาว 50-60 กิโลกรัมต่อไร่ โรยให้ทั่วบ่อหลังจากสูบน้ำออกแล้ว และตากบ่อให้แห้งก่อนเตรียมน้ำเพื่อปล่อยปลาลงเลี้ยงรุ่นใหม่