วิชาญน้อย พรทวี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกิดเมื่อ พ.ศ.2491 เป็นคนจังหวัดนนทบุรี ฝึกมวยไทยโดย เฉลียว ทินโมราห์ ตั้งแต่ยังเด็ก ชกมวยครั้งแรกชื่อ วิชาญน้อย ศรีเมืองนนท์
เริ่มชกมวย พศ.2503 นน.47กก. จนอายุ34 แขวนนวมถาวรในพศ.2524 ตลอดการชกมา 20 ปี
จากเด็กร่างผอมตัวเล็ก สู่ แชมป์ไลท์เวท วิชาญน้อยเปลี่ยนค่าย3ครั้ง เริ่มที่ ศรีเมืองนนท์ เปลี่ยนมาเป็น พรทวี และสุดท้ายก็ มาอยู่กับ เพชรยินดี จนจบอาชีพ
ดีกรีนั้นเคยเป็นแชมป์ฟลายเวททั้ง 2 เวที (ลุมพินี-ราชดำเนิน) ก่อนจะทะยานขึ้นไปอาละวาดในรุ่นใหญ่กว่าเดิม โดยข้ามไปถึง 6 รุ่นเลยทีเดียว แถมยังชิงแชมป์จูเนียร์ไลท์เวทราชดำเนิน ประกาศศักดาเอาชนะ สายฟ้า แสงมรกต คว้าแชมป์เส้นนี้มาครอง รวมทั้งโชว์ฟอร์มยืนยงกับตำแหน่งนี้มาอย่างต่อเนื่องนานถึง 5 ปี ธรรมดาเสียเมื่อไหร่
วิชาญน้อยเป็นมวยชกด้วยสมอง แถมเก็บอาการเก่ง ด้วยเชิงฝีมือและลีลาดังกล่าวทำให้เจ้าตัวได้รับการขนานนามว่า เป็น "ยอดมวยอมตะ" ซ้ำยังเป็นคู่ปรับตลอดกาลชนิดที่เรียกว่า "มวยถูกคู่ คนดูถูกใจ" ไม่ว่าคราใดที่ได้พบกับณรงค์น้อย เกียรติบัณฑิต และหนองคาย ส.ประภัสสร ถือเป็นบุคคลคุณภาพของทั้งสังคมมวยและสังคมเมืองในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว วิชาญน้อยถือเป็นขวัญใจแฟนมวยไทย ในฐานะนักมวยประสบการณ์สูง การขึ้นชกของเขาทุกครั้ง ก็ได้รับการันตีจากแฟนๆว่าเป็น นัดที่ตื่นเต้น
นั่นเป็นสาเหตุ ที่คนเชียร์เขา จะไม่น้อยหน้าคู่ชก เลยในนัดกระชับมิตรต่างๆ บางครั้งเค้าต้องสู้กับ คู่ต่อสู้ที่หนักกว่าเข้า หลายสิบปอนด์ แต่แฟนก็ยังเชื่อในสิ่งหนึ่งว่า วิชาญน้อย จะได้ทำดีที่สุด
ไม่ว่าแพ้หรือชนะ วิชาญน้อย ก็ได้สร้างความประทับใจแฟนๆ ด้วยความกล้า และสไตล์ของเขา
"นักสู้อมตะ"มีอุปนิสัยพิเศษอย่างหนึ่ง เขาจะตกลงชกเมื่อ มั่นใจว่า ร่างกายเขาต้องพร้อมจริงๆ
วิชาญน้อย มักจะเป็นห่วงในเรื่อง กำหนดการขึ้นชกของเขาจะเลื่อนไป ว่าเขาจะแสดงผลงานแก่แฟนได้ไม่ดีที่สุด เขาสารภาพว่า ความกลัวที่สุด คือการโห่ไล่จากสังเวียนโดยแฟนๆ นับว่าเป็น ความกลัวที่ สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
เขาเคยถูกไล่ฐานชกไม่สมศักดิ์ศรี2ครั้ง แต่ข่าวลือ ว่าเขาล้มมวย ก็สามารถถูกแก้ไขด้วยความจริงที่ว่าว่า เขาเพียงแต่ ร่างกายไม่ฟิตพอที่จะสร้างไฟต์ดีๆเท่านั้น
วิชาญน้อยเป็น แบบอย่างที่ดีแก่นักมวยคนอื่นๆ จากที่เป็นคนถ่อมตัว เด็กจนๆที่จบเการศึกษาเพียงชั้นประถม สร้างตัวสู่ การยอมรับอย่างสูงในสังคม ทางการเงิน เขายังบริหารธุรกิจ ด้วยความมัธยัสถ์ ในทางสังคม วิชาญน้อย ยังได้รับเลือก เป็น สมาชิก สมาคมเทศบาลเมือง จังหวัดนนทบุรี หลายต่อครั้งหลายครั้ง นั่นได้พิสูจน์ว่า ความสำเร็จของเขา มิได้จำกัดแต่ในสังเวียนมวย
แต่ความรักมวย ก็ยังหยั่งลึกในสายเลือดเขา แม้เขาจะออกการต่อมวย วิชาญน้อยก็ยังไม่ร้างลาจากวงการมวย ด้วยทุนทรัพย์ เพื่อ สนับสนุนอุทิศ วงการมวย เขาได้ตั้งค่ายของเขาเอง ช่อ ค่าย"วิชาญน้อยสโตร์"
ค่ายเขาได้สร้างนักชกวัยเยาว์ ซึ่งก็ไปได้ดีในหนทางของแต่ละคน
เขากล่าวว่า "มวยไทยคือ ศิลปะของการป้องกันตัว เป็นอาชีพ ที่สร้างเสริมสิ่งต่างๆ
เป็นมรดกโลก ที่คนไทยควรชื่นชม และรักษาด้วยความรักอย่างสูง...ตลอดไป"
[แก้] อ้างอิง
- http://tkos.niceboard.com
- คอลัมน์ สุดยอดมวยไทย จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด 24/10/2005