ไทละเมอ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ไทละเมอ ยังไม่ได้รับการจัดหมวดหมู่
คุณช่วยเราได้ด้วยการใส่หมวดหมู่ที่เหมาะสมสำหรับบทความนี้ ดูเพิ่มที่ การจัดหมวดหมู่ โครงการจัดหมวดหมู่
บทความนี้ต้องการเก็บกวาด ตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไขรูปแบบ เพิ่มแหล่งอ้างอิง ใส่หมวดหมู่ หรือภาษาที่ใช้
ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือในหลายส่วนด้วยกัน
คุณสามารถช่วยตรวจสอบ และแก้ไขบทความนี้ได้ด้วยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน
กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ วิธีแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือการเขียน และ นโยบายวิกิพีเดีย ซึ่งสามารถดูตัวอย่างบทความได้ที่ บทความคุณภาพ และเมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้

จุดเริ่มเกิดจากรายการสารคดีเล็กๆ ที่ชื่อว่า ทุ่งหญ้าป่าใหญ่ ของคุณนิรมล เมธีสุวกุล อยากให้สารคดีที่ออกอากาศในแต่ละตอนมีเพลงประดับเปลี่ยนไปตามเรื่องราวของตอนนั้นๆ

คุณศุ บุญเลี้ยง อดีตนักร้องวงเฉลียง หัวเรือใหญ่สำนักศิษย์สะดือ สำนักพิมพ์ที่ทำนิตยสารไปยาลใหญ่(ที่เคยรุ่งเรืองอยู่ระยะหนึ่ง)ได้ถูกเชิญให้มา ทำเพลงประเดิมเป็นคนแรก วิธีการทำเพลงคือ ดูรายการที่ตัดต่อเสร็จ แล้วก็แต่งสดๆ และบันทึกเสียงในห้องตัดต่อนั้นเลย เพลงแรกคือ เพลงปั้นฝัน "เก็บก้อนกรวด กำก้อนหิน จากหนึ่งเป็นสองเป็นสามเป็นสิบ ฝันอยู่ลิบๆ นั่นคือความฝัน หินมีมากหลากสีสัน ฝันมีมากหลากสีกว่า ใช้เวลามาตกแต่งฝัน...ปั้นมันให้เป็นก้อนกลม"

จากวันนั้น แม้เพลงประดับสารคดีจะแต่งใหม่ทุกตอน แต่ด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางและการทำงานที่ต้องแต่งเพลงพร้อมๆ กับการตัดต่อ คนแต่งเพลงจึงยังต้องเป็น ศุ บุญเลี้ยง คนเดิม แม้ระยะหลัง สารคดีเริ่มมีสต็อก ไม่จำเป็นต้องไปแต่งเพลงในห้องตัดต่อแล้ว เพียงรับแฟกซ์คอนเซ็ปท์และภาพที่จะเห็นในสารคดีตอนนั้นๆ จากทีมงาน แล้วแต่งไปจินตนาการให้ใกล้เคียง ห้องบันทึกเสียง ศุ บุญเลี้ยง ก็สร้างขึ้นมาเองที่บริษัท แต่ด้วยภาระกิจที่เพิ่มขึ้น ศุ บุญเลี้ยง ก็ยังจำเป็นต้องมองหาคนที่จะมาช่วย โดยเริ่มจากคนใกล้ๆ ตัว นั่นคือคนขับรถที่ชื่อ ‘ต้อง’ พัลลภ สินธุ์เจริญ ซึ่งคอยขับมาส่งและเฝ้า ศุ บุญเลี้ยง ทุกวันที่มีการทำเพลงประดับรายการ เป็นคนขับรถที่นอกจากจะขับรถเป็นแล้วยังแต่งเรื่องสั้นได้อีก จากการซึมซับท่วงทำนองดนตรี ศุ บุญเลี้ยง เลยลองให้คนขับรถคนนั้นแต่งเพลงดู มันกลายเป็นเรื่องสั้นที่มีเสียงดนตรี

ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทางสำนักศิษย์สะดือที่ ศุ บุญเลี้ยง ดูแลอยู่ กำลังทำละครเวทีเรื่องแรก มีการรับสมัครนักแสดงและทีมงานมากกมายหลายตำแหน่ง หนึ่งในทีมงานได้เกิดมีผู้ที่มีความสามรถทางด้านดนตรีติดมาด้วย ‘ปิงปอง’ ธนาบดี ธรรมสิทธิ สมัครตำแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับ แถมแต่งเพลงประกอบละครให้ด้วย เล่นกีต้าร์เก่ง ฉายาเขาคือ กีต้าร์ยืม (ยืม ศุ บุญเลี้ยง เล่นตลอด) ‘โด๋ว’ มรกต โกมลบุตร มาสมัครเป็นนักแสดง แต่ชอบร้องเพลง และดูแลเครื่องมือในห้องบันทึกเสียง ‘กาเหว่า’ ชลลดา เตียวสุวรรณ มาทำบัญชี แต่หลังจากรับส่งแฟกซ์สั่งงานจากรายการบ่อยเข้า ศุ บุญเลี้ยง เลยให้แต่งเนื้อเองเลย เพลงประดับรายการที่เกิดจากการสุ่มหัวช่วยกันจึงเกิดขึ้น

วันขับรถไปส่งเพลงที่รายการ ระหว่างติดไฟแดง ศุ บุญเลี้ยง เกิดความคิดขึ้นมาว่า เพลงนี้เขาไม่ได้แต่งเองอีกแล้ว จะใช้ชื่อเครดิตในรายการว่า เป็น ศุ บุญเลี้ยง แต่งคนเดียวไม่ได้ ต้องหาชื่ออื่น ที่เป็นชื่อกลางๆ ใครเข้ามาทำเพลง ก็ใช้ชื่อนี้ เหมือนเป็นชื่อของกลุ่มที่ทำเพลงประดับ มาลองดูการทำงานของคนกลุ่มนี้ มักจะทำงานกลางคืน ช่วงที่ว่างเว้นจากงานประจำ คนนี้ตื่นขึ้นมาเขียนเนื้อเพลง คนนั้นตื่นขึ้นมาใส่ทำนอง อีกคนตื่นขึ้นมาร้อง อีกคนมาคุมเครื่องอัดเสียง ผลัดกันหลับผลัดกันตื่น ตอนเช้างานเสร็จพอดี งานมันเลยเหมือนกับ ‘ละเมอ’ ทำ แต่เป็นการละเมอที่เป็นอิสระต่อกัน ศุ บุญเลี้ยงจึงตั้งชื่อให้ว่า ไทละเมอ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เพลงประดับในรายการทุ่งหญ้าป่าใหญ่ถูกนำมารวมอัลบั้ม ชื่อ หอมกลิ่นความฝัน โดยนำเพลงของไทละเมอมารวมไว้ด้วย ชุดนั้นจึงใช้ชื่อเป็น ศุ บุญเลี้ยงกับไทละเมอ นั่นคือการออกเทปครั้งแรกของไทละเมอ ซึ่งมีแค่ ๓ คน คือ ปิงปอง โด๋ว และกาเหว่า ต่อมา ไทละเมอ ออกอัลบั้มเอง เป็นเพลงแต่งใหม่ทั้งหมด ชื่ออัลบั้ม ไทละเมอ ง่วงแต่ไม่เหงาหาวแต่ไม่นอน คราวนี้มี ต้อง (ซึ่งคราวที่แล้วติดเรียน)เข้ามาเสริม

ไทละเมอ กลับมาร่วมงานกับ ศุ บุญเลี้ยง อีกครั้ง แต่ใช้ชื่อว่า ศุ บุญเลี้ยงกับศิษย์สะดือ ในอัลบั้มชุดรับแขก นั่นคืออัลบั้มสุดท้ายที่กลุ่มไทละเมอได้ร้องเพลงร่วมกัน

ทุกวันนี้ ไทละเมอต่างคนต่างแยกย้ายไปตามความฝันของตน

ปิงปอง เปิดบริษัทส่วนตัว

โด๋ว เป็นนักจัดรายการวิทยุ

กาเหว่า เป็นนักเขียนอิสระ รับจ้างเขียนทั้งหนังสือ,บทภาพยนตร์,บทโทรทัศน์ มีงานเขียนออกมาสม่ำเสมอ ในนามปากกา ‘เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย’

ต้อง พนักงานเขียนบทประจำบริษัทหัวฟิล์มท้ายฟิล์มจำกัด มีงานเขียนออกมาประปราย ใช้นามปากกาว่า ‘บัวไร’

.................

ปัจจุบัน ผู้ผลิตรายการทุ่งหญ้าป่าใหญ่ ได้ตั้งบริษัทขึ้นมาชื่อว่า ป่าใหญ่ครีเอชั่น ส่วนรายการ เปลี่ยนชื่อมาเป็น ทุ่งแสงตะวัน ยังออกอากาศอยู่ทางช่อง๓ และยังมีเพลงที่ต้องแต่งใหม่ทุกตอน มีคนมาแต่งเพลงผลัดเปลี่ยนกันไปตามความเหมาะสมกับเรื่องราวตอนนั้นๆ ตามความตั้งใจของผู้ผลิตในที่สุด กลุ่มไทละเมอเหลือเพียง พัลลภ สินธุ์เจริญ เท่านั้นที่ยังแต่งเพลงให้รายการอยู่