ศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ความเป็นมาของศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลก
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2536 พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมอนามัย กำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขตซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคให้ครบทั้ง12เขตตรวจราชการจากเดิมที่มีเพียง 9 เขต เพื่อทำหน้าที่ในการเสริมสร้างสุขภาพ และ ป้องกันโรค วันที่ 30 กันยายน 2536 ตามคำสั่งกรมอนามัยที่ 3196/2536 และ 3197/2536 เรื่องให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำมาปฏิบัติราชการที่ศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลกคณะทำงานชุดแรกจำนวน 9 คนเป็นข้าราชการ 7 คน และ ลูกจ้างประจำ 2 คน
วันที่ 14 ตุลาคม 2536 นายปรากรม วุฒิพงศ์ อธิบดีกรมอนามัย มีหนังสือที่ ส.ธ. 0608 / 21220 ถึงอธิบดีกรมที่ดิน เรื่อง ขอใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์บริเวณบึงตาขอม หมู่ที่ 4 ตำบลมะขามสูง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เนื้อที่ประมาณ 47 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวาเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ เขต 9 พิษณุโลก โดยยืนยันว่าจะใช้งบประมาณปี 2537 จำนวน 4,000,000 บาท และผูกพันงบประมาณ ปี 2538 – 2540 อีกจำนวน 144,147,000 บาท วันที่ 25 ตุลาคม 2536 นายวิชา สธนพานิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ เขต 8 นครสวรรค์ ได้มีหนังสือที่ สธ.0620.01/ 05468 ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกความว่า กองแบบแผนขอให้จังหวัดปักหมุดแนวที่ดินบริเวณที่จังหวัดมอบให้ใช้ สร้างศูนย์ฯ พร้อมทั้งถากถางสิ่งกีดขวางให้สามารถสำรวจทำผังหลักได้โดยสะดวก วันที่ 30 ตุลาคม 2536 นายณรงค์ ฉายากุล ผู้อำนวยการกองอนามัยครอบครัวมีหนังสือไปยังกองแบบแผน สำนักปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอให้จัดทำรูปแบบรายการ ประมาณราคากลาง กำหนดงวดงาน งวดเงินและจำนวนวันในการก่อสร้าง เต็มรูปแบบทั้งโครงการ โดยใช้โครงสร้างตามผังหลักของศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขต 5 นครราชสีมา เลขที่ 8333 / ช สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเบิกจ่ายได้จากกองอนามัยครอบครัว ต่อมากองแบบแผนได้จัดส่งรายละเอียดโครงการก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ 1. ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และ สิ่งก่อสร้าง 4,000,000 บาท
1.1 ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง4,000,000 บาท 1.1.1 สิ่งก่อสร้าง 4,000,000 บาท งบประมาณทั้งสิ้น 148,147,000 บาท
ปี 2537ตั้งงบประมาณ 4,000,000 บาท ปี2538–2540ผูกพันงบประมาณ144,147,000 บาท วันที่ 12 พฤศจิกายน 2536 นายวัลลภ ไทยเหนือ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้มีหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1. แต่งตั้งผู้นำชี้แนวเขตที่ดิน เพื่อชี้สถานที่และให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน
2. เตรียมโฉนดที่ดิน เพื่อแสดงหลักฐานกรรมสิทธิ์ที่ดิน ปักผังแนวเขตที่จะต้องทำการสำรวจ 3. เตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทางหลวง หรือถนนที่ผ่าน หรือใกล้เคียงสถานที่ก่อสร้าง เช่น ระยะร่นโครงการขยายหรือปรับปรุงผิวจราจร 4. ถ้าสถานที่ก่อสร้างเป็นป่ารกต้องแผ้วถางป่ารก เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการส่องกล้องสำรวจ ควรถางเต็มพื้นที่ และขอให้สงวนต้นไม้ยืนต้นไว้ วันที่ 7 ธันวาคม 2536 นายปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้แจ้งให้อธิบดีกรมอนามัยทราบว่าจังหวัดได้ดำเนินการแต่งตั้งผู้นำชี้แนวเขตเรียบร้อยแล้ว วันที่ 9 ธันวาคม 2536 มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปรายงานตัวต่อนายกิตติ ตั้งบรรเจิดสุข ตำแหน่ง นายแพทย์ 8 ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขต 9 พิษณุโลก วันที่ 30 กันยายน 2537 ทำสัญญาก่อสร้างศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขต 9 ดังนั้น ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ เขต 9 พิษณุโลก จึงได้เริ่มก่อสร้างในปี 2537 ก่อสร้างเสร็จ ในปี 2539 สำนักงานตั้งอยู่ที่ 21 หมู่ 4 ตำบลมะขามสูง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เป็นหน่วยงานส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคในส่วนภาคเหนือตอนกลาง สังกัดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 14กุมภาพันธ์ 2540 ผู้รับเหมาก่อสร้างส่งมอบโครงการ วันที่ 1 เมษายน 2540 เปิดดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ โดยแบ่งพื้นที่รับผิดชอบมาจากศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์ และ ศูนย์อนามัยที่ 10 เชียงใหม่ มีพื้นที่รับผิดชอบ 6 จังหวัด ได้แก่ แพร่น่าน พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และ อุตรดิตถ์ วันที่ 9 ตุลาคม 2545 ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ตามกกกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2545 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 119 ตอนที่ 103 วันที่ 9 ตุลาคม 2549 ) ดังนั้นจึงมีการปรับบทบาทภารกิจโดยได้รับโอนภารกิจบางส่วนจากศูนย์อนามัยสิ่งแวดล้อม เขต 9 ได้แก่ งานสุขาภิบาลอาหารและน้ำ งานสุขาภิบาลชุมชน งานผลกระทบต่อสุขภาพ งานอนามัยสิ่งแวดล้อม และ งานกฎหมายสาธารณสุขพร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็น ศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลก พร้อมกับมีปรับเปลี่ยนพื้นที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ภูมิภาค ครอบคลุมเขตตรวจราชการสาธารณสุข ที่ 2 มีพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ และ อุตรดิตถ์
บทบาทหน้าที่ 1.ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาองค์ ความรู้และเทคโนโลยี ระบบกลไก และมาตรฐาน การส่งเสริมสุขภาพ และ การจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพในระดับพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น 2. เผยแพร่ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และ ประชาชนในระดับพื้นที่ที่รับผิดชอบ 3. สนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ ราชการส่วนท้องถิ่น และ ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกระดับในการส่งเสริมสุขภาพและการจัดกาสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ที่รับผิดชอบ 4. ปฏิบัติงานร่วมกับ หรือ สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับมอบหมาย
วิสัยทัศน์ เป็นองค์กรหลักด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของเขต
พันธกิจ
1. พัฒนา ผลักดัน และสนับสนุนให้เกิดนโยบาย มาตรฐาน ข้อกำหนด ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ 2.ผลิตพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม (Innovation and Technical Development) เพื่อการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทยในพื้นที่ 3.ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการส่งเสริมสุขภาพและอนามัย สิ่งแวดล้อมแก่เครือข่าย รวมไปถึงการผลักดัน และ สนับสนุน( Facilitator )ให้เครือข่ายดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน และข้อกำหนดต่างๆด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพ 4. พัฒนาระบบการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิงแวดล้อมให้เข้มแข็ง (System Capacity Building) รวมไปถึงระบบที่เกี่ยวข้อง โดยการกำกับ ติดตาม และประเมินผลเพื่อนำมาสู่การพัฒนานโยบาย กฎหมาย และระบบอย่างต่อเนื่อง
เป้าประสงค์ 1. เป็นองค์กรประสานงานด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 2. เป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 3. เป็นศูนย์พัฒนาและรับรองมาตรฐานด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ค่านิยม คือ ร ถ ย = รวดเร็ว ถูกต้อง ยิ้มแย้มแจ่มใส และ เป็นแบบอย่างที่ดี รวดเร็ว = รวดเร็วทันเวลา ทันเทคโนโลยี รวดเร็วต่อการปรับตัว (พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง) ถูกต้อง = ตามมาตรฐานวิชาการ บทบาทหน้าที่ ศีลธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม ยิ้มแย้มแจ่มใส = มีความเต็มอกเต็มใจต่องาน ที่รับผิดชอบหลัก (เป็นเจ้าภาพ) ต่อทีมงาน (ทำงานเป็นทีม) อัธยาศัยไมตรีดี เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านพฤติกรรมสุขภาพ พื้นที่รับผิดชอบ ศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลก มีพื้นที่รับผิดชอบ ในเขตตรวจราชการสาธารณสุข เขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก ตากสุโขทัย เพชรบูรณ์ และ อุตรดิตถ์ มีประชากรรวม 3,439,904 คน พื้นที่การปกครองแบ่งเป็น 47 อำเภอ 479 ตำบล 4,265 หมู่บ้าน มีโรงพยาบาลชุมชน 39 แห่ง และ สถานีอนามัย 620 แห่ง (ข้อมูลจากบัญชีสรุปจำนวนจังหวัด อำเภอ โรงพยาบาลชุมชน สถานีอนามัย ของสำนักพัฒนาระบบบริการสุขภาพ พฤศจิกายน 2548 ) บุคลากร ข้อมูล ณ วันที่ 18 มกราคม 2550 ศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลก มีบุคลากรตามกรอบอัตรากำลัง 87 คน ปฏิบัติราชการจริง 91 คน ในส่วนที่ปฏิบัติราชการจริง เป็นข้าราชการ 61 คน เป็นลูกจ้างประจำ 22 คน พนักงานราชการ 1 คนและ จ้างเหมาชั่วคราว 7 คน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 63.8 ปริญญาโท ร้อยละ 25.35 ต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 9.26 และระดับปริญญาเอก ร้อยละ 1.41 ตามลำดับ ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ระดับ 1 – 9 แบ่งเป็น 2 สายงานได้แก่ 1. สายงานหลัก ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักโภชนาการนักวิชาการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าพนักงานเภสัชกรรม เจ้าพนักงานทันตสุขภาพ นักเทคนิคการแพทย์ 2. สายงานสนับสนุน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษา เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เจ้าหน้าที่เวชสถิติ พนักงานพิมพ์ดีด เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานธุรการ และ พนักงานขับรถยนต์ บุคลากร มีอายุตัวเฉลี่ย 34.47 ปี มีอายุราชการเฉลี่ย 11.15 ปี ทำเนียบผู้บริหารจากอดีตถึงปัจจุบัน 1. นายแพทย์กิติ ตั้งบรรเจิดสุข
พ.ศ.2537 - 2538
2. นายแพทย์วิชา สธนพาณิชย์ พ.ศ. 2538
(ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8) รักษาราชการแทน
3. นายแพทย์ชัยโรจน์ ขุมมงคล พ.ศ. 2538 - 2539 4. นายแพทย์ภูวนนท์ เอี่ยมจันทน์ พ.ศ. 2539 - 2549 5. นายแพทย์วีระชัย สิทธิปิยะสกุล พ.ศ. 2549 ถึงปัจจุบัน ศูนย์อนามัยที่ 9 พิษณุโลก มีวิวัฒนาการมาเป็นเวลานาน 1 ทศวรรษ ผ่านการเปลี่ยนแปลงในเรื่องอำนาจหน้าที่ การบริหารจัดการ การแบ่งส่วนราชการให้เหมาะสมกับสภาวะ เศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม ที่แปรเปลี่ยนไปในท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในปัจจุบันเกิดกระแสการตื่นตัวและใส่ใจสุขภาพ ความเข้มแข็งของงานส่งเสริมสุขภาพ การขยายตัวของประชาสังคมสุขภาพ บทบาทภารกิจของหน่วยงานจึงต้องมีการปรับกระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ โดยคำนึงถึงปัจจัยกำหนดปัญหาแวดล้อมรอบด้านอย่างบูรณาการเป็นองค์รวม เพื่อสร้างสังคมส่วนรวมให้ดีโดยระดมพลังทั้งสังคมในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กร/สถาบันต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอันเป็นรากฐานของสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันสืบไป.
เอกสารอ้างอิง 10 ปี คล้ายวันสถาปนาศูนย์อนามัยที่ 9 3 เมษายน 2550