ประเทศซามัว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Malo Sa'oloto Tuto'atasi o Samoa
มาโล ซาโอโลโต ตูโตอะตาซี โอ ซามัว

รัฐเอกราชซามัว
ธงชาติซามัว ตราประจำชาติซามัว
ธงชาติ ตราประจำชาติ
คำขวัญ: Faavae i le Atua Samoa (ซามัวสถาปนาด้วยพระเจ้า)
เพลงชาติ: The Banner of Freedom
แผนที่แสดงที่ตั้งของประเทศซามัว
เมืองหลวง อาปีอา
13°35′S 172°20′W
เมืองใหญ่สุด อาปีอา
ภาษาราชการ ภาษาซามัวและภาษาอังกฤษ
รัฐบาล ราชาธิปไตย
ประมุขแห่งรัฐ
นายกรัฐมนตรี
มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2
ตุยลาเอฟา ไซเลเล มาลีเอเลกาโออิ
รัฐราชาธิปไตย
ประกาศเอกราช
จาก นิวซีแลนด์
1 มกราคม พ.ศ. 2505
เนื้อที่
 - ทั้งหมด
 
 - พื้นน้ำ (%)
 
2944 กม.² (อันดับที่ 165)
 ไมล์² 
0.3
ประชากร
 - 2547 ประมาณ
 - ความหนาแน่น
 
177,714 (อันดับที่ 174)
60/กม² (อันดับที่ )
/ไมล์² 
GDP (PPP)
 - รวม
 - ต่อประชากร
2545 ค่าประมาณ
1 พันล้าน (อันดับที่ 193)
6344 (อันดับที่ 94)
HDI (2545) 0.776 (อันดับที่ 74) – ปานกลาง
สกุลเงิน ตาลา (WST)
เขตเวลา
 - ฤดูร้อน (DST)
(UTC-11)
(UTC-11)
รหัสอินเทอร์เน็ต .ws
รหัสโทรศัพท์ +685

รัฐเอกราชซามัว (Independent State of Samoa) หรือ ซามัว เป็นประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ชื่อในอดีต คือ เยอรมันซามัว ระหว่างปี พ.ศ. 2443 ถึง พ.ศ. 2457 และซามัวตะวันตก ระหว่างปี พ.ศ. 2457 ถึง พ.ศ. 2540

สารบัญ

[แก้] ประวัติศาสตร์

ซามัวเป็นดินแดนที่เป็นที่ตั้งหนึ่งในจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ของชาวโพลินีเซีย สามารถขยายอาณาเขตยึดประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ จนกระทั่งมีการเข้ามาของชาวยุโรปทำให้ประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ จนกระทั่ง จักรวรรดิตูอิตองกา ได้เข้ามายึดดินแดน ส่งผลให้ซามัวกลายเป็นเมืองขึ้นของตองกา ในระยะต่อมาอีก 500 ปี ซามัวได้ประกาศเอกราชและปกครองตนเองเรื่อยมา ต่อมาประเทศอังกฤษได้ยึดซามัว ในเวลาต่อมาเกิดข้อพิพาทระหว่างสหรัฐ เยอรมันและอังกฤษ ยังผลให้ประเทศเยอรมนีได้ครอบครองส่วนที่เป็นประเทศซามัวในปัจุบัน ส่วนสหรัฐอเมริกาได้ครอบครองส่วนที่เป็นอเมริกันซามัวในปัจจุบัน สำหรับประเทศอังกฤษก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในซามัวอีกแล้ว ในระยะต่อมาในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซามัวถูกโอนให้มาขึ้นกับประเทศนิวซีแลนด์ จนประกาศเอกราชในปี พ.ศ. 2505 นับเป็นประเทศแรกในแปซิฟิกใต้ที่ได้รับเอกราช

[แก้] การเมือง

ระบบรัฐสภา สภาเดี่ยว ประกอบด้วยสมาชิก 49 คน โดย 47 คน มาจากการเลือกตั้ง และผู้แทน 2 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเผ่ามาไต (Matai) วาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ประมุขรัฐ มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2ได้รับการแต่งตั้งเมื่อปี 2505 (ค.ศ. 1962) จากการสืบตระกูลและจะดำรงตำแหน่งประมุขตลอดชีพ อย่างไรก็ตาม ผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไปจะมาจากการเลือกตั้งและจะดำรงตำแหน่งในวาระ 5 ปี ซามัวเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากที่สุดในแปซิฟิกใต้

[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง

ซามัวแบ่งการปกครองเป็น 11 เขตคือ:

  • อาอานา (A'ana)
  • ไอกาอิเลไต (Aiga-i-le-Tai)
  • อาตูอา (Atua)
  • ฟาอะซาเลเลอากา (Fa'asaleleaga)
  • กากาเอเมากา (Gaga'emauga)
  • กาไกโฟเมากา (Gagaifomauga)
  • ปาเลาลี (Palauli)
  • ซาตูปาอิเตอา (Satupa'itea)
  • ตัวมาซากา (Tuamasaga)
  • วาอาโอโฟโนตี (Va'a-o-Fonoti)
  • ไวซิกาโน (Vaisigano)

[แก้] ภูมิศาสตร์

ซามัวตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอเมริกันซามัว ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตองกาและฟิจิ มีป่าไม้ค่อนข้างหนาแน่น ประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อสายโพลินีเชีย และบางส่วนเป็นเยอรมันและจีน ชาวซามัวจำนวนมากอพยพไปตั้งถิ่นฐานในต่างประเทศ โดยคาดว่ามีชาวซามัวในนิวซีแลนด์ประมาณ 120,000 คน และในออสเตรเลียประมาณ 40,000 คน

[แก้] เศรษฐกิจ

ซามัวเป็นหนึ่งในประเทศมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในแปซิฟิก โดยมีการท่องเที่ยวและการประมงเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ชาวซามัวส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพื่อการยังชีพ พืชที่สำคัญคือ มะพร้าว สาเก กล้วย โกโก้ และเผือก ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ภาคประมงของซามัวเติบโตอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดให้กับประเทศ นอกจากนี้ ซามัวยังมีรายได้จากแรงงานที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะจากนิวซีแลนด์ อเมริกันซามัว ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

ซามัวมีนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2535 (ค.ศ. 1992) แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก รัฐบาลมีนโยบายการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และการพัฒนา organic farming เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซามัวเริ่มเติบโต รวมทั้งบริษัท Partridge Pacific Investment Group ตัดสินใจลงทุนด้านการค้าปลีกขนาดใหญ่ในซามัวและฟิจิ จึงคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2549-50 จะเติบโตในระดับที่น่าพอใจ

ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นชื่อ Yazaki ซึ่งผลิต wire harness ที่ใช้ในรถยนต์เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย เป็นบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและเป็นแหล่งจ้างงานใหญ่ที่สุด สำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ มีขนาดเล็กและผลิตสินค้าเพื่อทดแทนการนำเข้าเท่านั้น เป็นที่คาดกันว่า ซามัวจะถูกถอดถอนจากรายชื่อกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developed Countries) ในปี 2549 (ค.ศ. 2006) ซึ่งจะช่วยให้ซามัวสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้มากกว่าที่เป็นอยู่

จำนวนนักท่องเที่ยวปี 2549 สูงขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 26 คิดเป็นรายได้กว่า 4.7 ล้านดอลาร์สหรัฐ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากอเมริกันซามัว และมีแนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้น จากความร่วมมือระหว่างจีนและซามัว อย่างไรก็ตาม ปัญหาสังคมของซามัวทวีความรุนแรงขึ้น เช่น การก่ออาชญากรรมของเยาวชน ปัญหายาเสพติด ซึ่งมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น ชาวซามัวมีอัตราการอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังนิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและสหรัฐฯ สูงขึ้นเป็นลำดับ


[แก้] ประชากร

ประชากรในซามัวนั้นประกอบด้วยชาวซามัวร้อยละ 92.6 (โพลินีเซียน) ยูโรนีเซียน (ยุโรป-โพลินีเซียน) ร้อยละ 7 และชาวยุโรปร้อยละ 0.4

[แก้] วัฒนธรรม

ชาวซามัวมีความยิ่งใหญ่มากในอดีต มีวัฒนธรรมซึ่งโดดเด่นมากในกลุ่มชาติพันธุ์โพลินีเซียน มีทั้งภาษา การเต้นรำและการแต่งกายดั้งเดิม