การปลงพระชนมายุสังขาร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ส่วนหนึ่งของ ประวัติพุทธศาสนา |
|
ศาสดา | |
จุดมุ่งหมายของพุทธศาสนา | |
เพื่อความดับทุกข์ · นิพพาน |
|
ใจความสำคัญของพุทธศาสนา | |
ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส |
|
ไตรสรณะ | |
ความเชื่อและการปฏิบัติ | |
ศีล · ธรรม ศีลห้า · ศีลแปด บทสวดมนต์และพระคาถา |
|
คัมภีร์และหนังสือ | |
พระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก · พระสุตตันตปิฎก · พระอภิธรรมปิฎก |
|
นิกาย | |
เถรวาท · อาจริยวาท (มหายาน) · วัชรยาน · เซน | |
สังคมพุทธศาสนา | |
เมือง · ปฏิทิน · บุคคล · วันสำคัญ · ศาสนสถาน · วัตถุมงคล | |
ดูเพิ่มเติม | |
ศัพท์เกี่ยวกับพุทธศาสนา หมวดหมู่พุทธศาสนา |
การปลงพระชนมายุสังขาร หรือ การปลงอายุสังขาร ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีขึ้นในวันมาฆบูชา ณ กูฏคารศาลา ป่ามหาวัน เมื่อทรงมีพระชมมายุได้ 80 พระชันษา ซึ่ง ณ เวลานั้น ทรงได้ตรัสรู้แล้วเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนมานานถึง 45 ปีแล้ว ก็ได้ทรงตั้่งพระทัยว่า "นับแต่นี้ต่อไปอีกสามเดือน ตถาคตจักดับขันธปรินิพพาน" การปลงอายุสังขารจึงมีความหมายในภาษาสามัญว่า การกำหนดวันตายไว้ล่วงหน้านั่นเอง
[แก้] นิมิตรโอภาส
การปลงอายุสังขารมีขึ้น ณ ร่มพฤกษาแห่งหนึ่งในปาวาลเจดีย์ แขวงเมืองไพศาลี หลังจากที่ทรงทำนิมิตรโอภาสแก่พระอานนท์ถึงสามครั้ง ว่า "อานนท์ ถ้าบุคคลใดเจริญอิทธิบาท ๔ ประการ ปรารถนาจะดำรงอยู่ประมาณกัปป์หนึ่ง หรือมากกว่านั้นก็สามารถจะอยู่ได้" โอภาสนิมิตรนี้ หมายถึงบอกใบ้ว่าพระองค์จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานในปีที่กล่าวนี้ หากพระอานนท์กราบทูลขอให้อยู่ต่อ และทรงรับก็ทรงสามารถดำรงพระชมน์ชีพต่อไปได้อีก แต่พระอานนท์ไม่รู้เท่าทัน มารจึงมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์แล้วกราบทูลขอให้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน จึงทรงรับ หลังจากที่ทรงปลงอายุสังขารแล้ว เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ พระอานนท์จึงทราบว่าทรงปลงอายุสังขารแล้ว เพิ่งมาทูลอ้อนวอนให้ดำรงอยู่ต่ออีก จึงทรงห้ามเสีย