เนตรน้อย ศ.วรสิงห์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อจริง | เนตร ลาดนอก | |
วันเกิด | 22 เมษายน พ.ศ. 2502 | |
สถานที่เกิด | จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย | |
วันที่เสียชีวิต | 2 ธันวาคม พ.ศ. 2525 | |
สถานที่เสียชีวิต | จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย | |
รุ่น | ไลท์ฟลายเวท | |
ผู้จัดการ | ธรรมนูญ วรสิงห์ | |
เทรนเนอร์ | พงษ๋ ถาวรวิวัฒน์บุตร ออมทรัพย์ แหลมฟ้าผ่า สุดใจ สัพพะเลข |
|
สถิติ | ||
ชก | 39 | |
ชนะ | 30 | |
ชนะน็อก | 15 | |
แพ้ | 7 | |
เสมอ | 2 |
เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ อดีตแชมป์โลกคนที่ 6 ของไทย มีชื่อจริงว่า เนตร ลาดนอก เกิดเมื่อ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2502 ที่อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ต่อมาครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ตั้งแต่เนตรน้อยยังเด็ก
เนตรน้อยจบการศึกษาเพียงแค่ชั้น ป.4 เนื่องจากครอบครัวยากจนมาก ได้ฝึกมวยไทยครั้งแรกกับ ปราบไพรี เทอดเกียรติพิทักษ์ ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ของ เนตร ศักดิ์ณรงค์ นักมวยไทยมีชื่อของยุคนั้น ต่อมาเนตรน้อยได้ย้ายมาอยู่กับ " โกฮง " พงษ์ ถาวรวิวัฒน์บุตร ที่กรุงเทพมหานคร และได้ใช้ชื่อว่า " เนตรน้อย ศักดิ์ณรงค์ " เนตรน้อยชกมวยไทยอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ครั้งสุดท้ายแพ้น็อกคู่ต่อสู้อย่างยับเยิน จึงหนีกลับบ้าน หลายเดือนต่อมา มีผู้ชักชวนให้กลับมาชกมวยใหม่ โดยย้ายไปอยู่กับค่าย " ศ.วรสิงห์ " ของ ธรรมนูญ วรสิงห์ และชกใหม่ในแบบมวยสากล ซึ่งการชกในแบบมวยสากลนี้ เนตรน้อยทำได้ดี มีหนัดที่หนักที่โดยเฉพาะหมัดซ้าย ในปี พ.ศ. 2518 เนตรน้อยชกชนะรวดทั้ง 7 ครั้ง มีแพ้อยู่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น " เศียรสมิง " คอลัมนิสต์มวยชื่อดังในสมัยนั้น จึงแนะนำให้เนตรน้อยเปลี่ยนเทรนเนอร์ใหม่เป็น ออมทรัพย์ แหลมฟ้าผ่า
เนตรน้อยกลับมาชนะติดกัน 2 ครั้ง และได้โอกาสชิงแชมป์รุ่นจูเนียร์ฟลายเวทของเวทีมวยราชดำเนิน แต่ปรากฏว่าแพ้น็อกเพียงแค่ ยก 2 เท่านั้น ทางฝ่ายผู้จัดการ ธรรมนูญ วรสิงห์ จึงได้เปลี่ยนเทรนเนอร์เป็น สุดใจ สัพพะเลข โดยไปฝึกซ้อมอยู่ที่ใต้ถุนยิมเนเซี่ยม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ เนตรน้อยจึงมีฝีมือดีขึ้นเรื่อย ๆ การชกก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ จนกระทั่งได้มีโอกาสชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) กับ ชาง อิล ชุง นักมวยชาวเกาหลีใต้ ถึงถิ่นของแชมป์เอง เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ชกได้ดี แต่เมื่อครบ 12 ยก กรรมการตัดสินให้เสมอกันอย่างค้านสายตา เมื่อกลับมา เนตรน้อยได้ครองแชมป์ของเวทีราชดำเนินโดยชนะคู่ปรับเก่า และได้แชมป์รุ่นเดียวกันของเวทีลุมพินีด้วย ต่อมาชนะน็อกยก 9 มนต์สยาม ฮ.มหาชัย นักมวยปั้นที่มีคิวชิงแชมป์โลก เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ จึงได้มีชื่อติดอันดับโลกเป็นครั้งแรก จากนั้นในปี พ.ศ. 2520 เนตรน้อยได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกครั้งแรกที่กรุงคารากัส ประเทศเวเนซุเอล่า กับ หลุยส์ เอสตาบ้า เจ้าของตำแหน่ง
หลุยส์ เอสตาบ้า ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ถึง 10 ครั้งแล้ว มีประสบการณ์ รูปร่าง ช่วงชกได้เปรียบเนตรน้อยมากมาย แต่เมื่อได้ชกเข้าจริงแล้ว เนตรน้อยกลับทำได้ดี เกือบจะได้นับเอสตาบ้าหลายครั้ง แต่เมื่อครบ 15 ยกแล้ว กรรมการรวมคะแนนให้เอสตาบ้าชนะไปอย่างค้านสายตาอย่างที่สุด เมื่อกลับมาเนตรน้อยชกอุ่นเครื่องอีกหลายครั้ง จนโอกาสของเนตรน้อยมีอีกในครั้งที่ 2 เมื่อแชมป์เปลี่ยนเป็น เฟร็ดดี้ คัสติญโญ่ และเดินทางมาป้องกันตำแหน่งแชมป์ครั้งแรกกับเนตรน้อย ที่เวทีมวยชั่วคราว สนามกีฬากองทัพบก เมื่อปี พ.ศ. 2521 เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ จึงประสบความสำเร็จได้เป็นแชมป์โลก ด้วยการชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์กับคัสติญโญ่ ไป
แต่เมื่อเนตรน้อยได้เป็นแชมป์โลกแล้ว ปรากฏความยุ่งยากเกิดขึ้นเมื่อผู้สนับสนุนรายหนึ่ง มีสัญญาว่าถ้าเนตรน้อยป้องกันแชมป์ชนะไปเรื่อย ๆ เงินรางวัลที่ได้ต้องแบ่งให้ 15 เปอร์เซนต์ทุกครั้ง สัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อเนตรน้อยเสียแชมป์โลกแล้ว เนตรน้อยได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้เดียงครั้งเดียว และเสียแชมป์ให้แก่ ซัง จุน คิม นักมวยชาวเกาหลีใต้ไปอย่างง่ายดาย แค่ยกที่ 3 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และไม่มีโอกาสจะได้แก้มืออีกเนื่องจากในสัญญาการชกไม่ได้ระบุเอาไว้ เนตรน้อยต้องใช้เวลาถึง 3 ปี ด้วยกัน จึงจะได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2524 ที่จ.นครราชสีมา กับ ฮิราริโอ ซาปาต้า แชมป์โลกชาวปานามา ผลการชกปรากฏว่าเนตรน้อยเสียเปรียบรูปร่างซาปาต้าเป็นอย่างมาก จึงเป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 10 เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไม่สำเร็จ ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 เนตรน้อย ศ.วรสิงห์เป็นฝ่ายชนะน็อก มันส์ ส.จิตรพัฒนา นักมวยสร้างที่หวังว่าจะเป็นแชมป์โลกรายใหม่เพียงแค่ยกที่ 5
เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ เป็นนักมวยที่มีปัญาหาเรื่องสัญญาค่าตัวเสมอ ๆ และผู้จัดการ ธรรมนูญ วรสิงห์ ก็ไม่สามารถรักษาผลประโยชน์อะไรของนักมวยได้ การชกมวยครั้งสุดท้ายของเนตรน้อย คือ ในปี พ.ศ. 2525 นี้กับสามารถ พยัคฆ์อรุณ ที่หันมาชกมวยสากลเป็นครั้งแรก เนตรน้อยในวันชกครั้งนั้น ปล่อยร่างกายให้อ้วนท้วน พุงหลาม แต่ก็ยังชกได้ดี แต่เมื่อรวมคะแนนกันแล้ว ปรากฏว่าสามารถเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไป ท่ามกลางเสียงโห่ฮาของแฟนมวยที่ไม่พอใจคำตัดสิน
หลังจากนั้นอีก 4 เดือนต่อมา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2525 จากอุบัติเหตุขับมอเตอร์ไซด์ชนเสาไฟฟ้า คอหักเสียชีวิตทันที ที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ด้วยอายุเพียง 23 ปี 7 เดือนเท่านั้นเอง โดยที่ทรัพย์สินเงินทองไม่มีเหลือหรออะไรเลย
เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ เป็นนักมวยที่มีรูปร่างเล็ก มีส่วนสูงเพียง 149.8 เซนติเมตรเท่านั้น อีกทื้งเมื่อได้เป็นแชมป์โลกยังได้สร้างสถิติเป็นนักมวยที่ครองแชมป์โลกด้วยอายุน้อยที่สุดในเวลานั้น คือ 19 ปี 14 วัน