เจ้าฟ้าหญิงอลิซ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เลดี้ อลิซ คริสตาเบล มอนเตกู-ดักลาส-สก็อต (ต่อมา เจ้าฟ้าหญิงอลิซ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์; 25 ธันวาคม พ.ศ. 2444 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2547) เป็นพระชายาในเจ้าชายเฮนรี่ ดยุคแห่งกลอสเตอร์ พระราชโอรสองค์ที่สามในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 และ สมเด็จพระราชินีแมรี่ จึงทำให้เป็นพระกนิษฐาภาดา (น้องสะใภ้) ในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 และ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และเป็นพระชนนีในดยุคแห่งกลอสเตอร์คนปัจจุบัน นอกจากนั้นก็ยังเป็นพระปิตุจฉาในสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธี่ 2 โดยผ่านทางการอภิเษกกับพระปิตุลาของพระองค์อีกด้วย
สารบัญ |
[แก้] ชีวิตในวัยเยาว์
เลดี้อลิซเกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2444 ณ ตำหนักมอนเตกู กรุงลอนดอน เป็นธิดาคนที่ 3 ของจอห์น มอนเตกู ดักลาส-สก็อต ดยุคแห่งบักเคลิชและควีนส์เบอร์รี่ กับ เลดี้มาร์กาเร็ต บริดจ์แมน จึงทำให้มีเชื้อสายผ่านทางผู้ชาย (แม้ว่าจะนอกกฎหมาย) โดยไม่ขาดสายของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 เลดี้ใช้เวลาในวัยเด็กอยู่ที่บ้านพักต่างๆ ในชนบท อาทิ ตำหนักโบตันในมณฑลนอร์แธมป์ตันไชร์ ปราสาทดรัมลานริกในมณฑลดัมไฟรส์และกัลโลเวย์ และโบฮิลล์ในมณฑลสก็อตติชบอร์ดเดอร์ ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเซ็นต์เจมส์ เมืองเวสต์มาลเวิร์น มณฑลวอร์สเตอร์ไชร์ และต่อมาก็ได้ไปประเทศฝรั่งเศสและประเทศเคนยา
[แก้] อภิเษกสมรส
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2478 เลดี้อลิซได้หมั้นหมายกับเจ้าชายเฮนรี่ ดยุคแห่งกลอสเตอร์ พระราชโอรสพระองค์ที่สามในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 และได้อภิเษกสมรสด้วยพิธีหลวงส่วนตัวในห้องสวดมนต์ของพระราชวังบัคกิ้งแฮม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ในตอนแรกทั้งดยุคและดัชเชสแห่งกลอสเตอร์ได้อาศัยอยู่ในเมืองอัลเดอร์ช็อต ซึ่งเป็นที่ที่ดยุคได้เข้ามาฝึกเป็นทหารอยู่ ต่อมาดยุคแห่งกลอสเตอร์ก็ได้ทรงลาออกจากกองทัพเพื่อมาปฏิบัติพระกรณียกิจมากขึ้นในคราวการสละราชสมบัติของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2479
ทั้งสองพระองค์ได้รับพระราชทานตำหนักยอร์ค ซึ่งเป็นพระราชสมบัติในพระประมุขของอังกฤษ โดยเป็นส่วนหนึ่งในพระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน และก็ยังได้ซื้อคฤหาสน์บาร์นเวลล์ในมณฑลนอร์แธมป์ตันไชร์ในปี พ.ศ. 2481 ไว้อีกด้วย อีกทั้งยังมีพระโอรสด้วยกันสองพระองค์ คือ
- เจ้าชายวิลเลี่ยมแห่งกลอสเตอร์ (18 ธันวาคม พ.ศ. 2484 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2515)
- เจ้าชายริชาร์ดแห่งกลอสเตอร์ (ประสูติ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2487) ปัจจุบันทรงเป็นดยุคแห่งกลอสเตอร์)
[แก้] การเปลี่ยนแปลงสถานภาพ
ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2517 เจ้าชายเฮนรี่ได้สิ้นพระชนม์ลงและตำแหน่งดยุคแห่งกลอสเตอร์ได้ตกทอดต่อไปยังเจ้าชายริชาร์ด พระโอรสองค์ที่สอง (เจ้าชายวิลเลี่ยม พระราชโอรสพระองค์โตและทายาทสืบตำแหน่งดยุคได้สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี พ.ศ. 2515) พระชายาหม้ายของดยุคได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกับสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ให้ทรงดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้าหญิงอลิซ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์ (HRH Princess Alice, Duchess of Gloucester) แทน สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงดัชเชสหม้ายแห่งกลอสเตอร์ (HRH The Dowager Duchess of Gloucester) สมเด็จพระราชินีทรงอนุญาตให้พระปิตุจฉาใช้พระอิสริยยศนี้เพื่อเป็นการเลี่ยงความสับสนในตำแหน่งกับดัชเชสแห่งกลอสเตอร์คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระชายาในพระโอรส (เดิมคือ บริจิตต์ อีวา ฟาน ดอยรส์)
เจ้าหญิงอลิซไม่ทรงประสงค์เป็นดัชเชสพระชายาหม้ายและได้ดำรงพระยศตามแบบอย่างเจ้าฟ้าหญิงมารีนา ดัชเชสแห่งเคนต์ พระกนิษฐภาดาเมื่อคราวการอภิเษกสมรสของพระโอรสองค์โตเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2504 แต่อย่างไรก็ดี เจ้าหญิงมาริน่าเป็นเจ้าหญิงตั้งแต่แรกประสูติ ดัชเชสหม้ายแห่งกลอสเตอร์ตามสิทธิโดยชอบจึงได้รับพระบรมราชานุญาตให้เรียกว่าเจ้าหญิงอลิซตามอัธยาศัยจากสมเด็จพระราชินีนาถ แม้ว่าจะไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหญิงแบบเฉพาะเจาะจงตามพระราชโองการเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ทรงได้รับการขนานพระนามพระองค์เองให้เป็นเจ้าหญิงอังกฤษ ถึงแม้จะไม่ได้ประสูติเป็นเจ้าหญิงก็ตาม
[แก้] ปลายพระชนม์ชีพ
ในปี พ.ศ. 2518 เจ้าหญิงอลิซทรงเป็นสตรีพระองค์แรกที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งบาธชั้นที่ 1 และต่อมาในปี พ.ศ. 2524 ทรงได้พิมพ์บันทึกความทรงจำของพระองค์ออกมาในชื่อ "The Memoirs of Princess Alice, Duchess of Gloucester" (บันทึกความทรงจำของเจ้าหญิงอลิซ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์) และในปี พ.ศ. 2534 พระองค์ได้ทรงพิมพ์ฉบับแก้ไขใหม่ในชื่อ "Memories of Ninety Years" (บันทึกความทรงจำในเวลาเก้าสิบปี)
ในปี พ.ศ. 2537 หลังจากสมาชิกครอบครัวกลอสเตอร์ได้ขายคฤหาสน์บาร์นเวลล์ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาทางด้านการเงิน เจ้าหญิงอลิซจึงได้ทรงย้ายจากบาร์นเวลล์ไปประทับยังพระราชวังเคนซิงตัน ซึ่งเป็นที่ประทับของดยุคและดัชเชสแห่งกลอสเตอร์คนปัจจุบัน
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2544 พระราชวงศ์อังกฤษได้จัดพิธีเฉลิมฉลองวันประสูติครบรอบ 100 พรรษาให้แก่เจ้าหญิงอลิซ ซึ่งเป็นการจัดครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในปีนั้น (โดยครั้งแรกเป็นของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระบรมราชชนนี) และในพิธีนี้เป็นการปรากฏพระองค์ต่อหน้าสาธารณชนครั้งสุดท้ายของเจ้าหญิงอลิซ (และของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระขนิษฐาในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ) และต่อมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 เจ้าหญิงทรงเป็นสมาชิกของราชวงศ์อังกฤษที่มีพระชนม์ชีพยาวนานที่สุดที่ยังไม่ใครเกินหน้าได้ต่อจากสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระบรมราชชนนี
เจ้าหญิงอลิซสิ้นพระชนม์ลงด้วยพระอาการสงบเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ณ พระราชวังเคนซิงตัน ขณะมีพระชนมายุ 102 พรรษา งานพิธีศพจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ณ โบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ พระศพได้ฝังลงเคียงข้างเจ้าชายเฮนรี่ พระสวามีและเจ้าชายวิลเลี่ยม พระโอรสองค์โตในสุสานฝังศพหลวงที่ฟร็อกมอร์ สมเด็จพระราชินีและเหล่าสามาชิกพระราชวงศ์ได้เสด็จมาร่วมงานพระศพด้วย
[แก้] พระอิสริยยศ และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พระอิสริยยศ
- พ.ศ. 2444 - พ.ศ. 2478: เลดี้ อลิซ มอนเตกู-ดักลาส-สก็อต (Lady Alice Montagu-Douglas-Scott)
- พ.ศ. 2478 - พ.ศ. 2517: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงดัชเชสแห่งกลอสเตอร์ (Her Royal Highness The Duchess of Gloucester)
- พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2547: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงอลิซ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์ (Her Royal Highness Princess Alice, Duchess of Gloucester)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งบาธ ชั้นที่ 1 (Dame Grand Cross of the Order of the Bath)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎแห่งอินเดีย ชั้นที่ 1 (Companion of the Order of the Crown of India)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ราชวิกตอเรีย ชั้นที่ 1 (Dame Grand Cross of the Royal Victorian Order)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ ชั้นที่ 1 (Dame Grand Cross of the Order of the British Empire)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญจอห์นแห่งเยรูซาเล็ม ชั้นที่ 1 (Dame Grand Cross the Order of St. John of Jerusalem)