โรคลูปัส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โรคลูปัส (Systemic Lupus Erythematosus) ​ขณะนี้​ยัง​ไม่​มีชื่อโรค​เป็น​ภาษา​ไทยที่​เหมาะสม​ ​เนื่อง​จาก​เป็น​โรคที่มีอาการเกิดขึ้น​กับ​หลายระบบ​หรือ​ ​หลายอวัยวะ​ใน​ร่างกาย​ ​เป็น​โรคที่​เกิด​จาก​ภูมิคุ้ม​กัน​ของร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงไป​ ​โดย​แทนที่​จะ​ทำ​หน้าที่ต่อสู้​กับ​สิ่งแปลกปลอม​หรือ​เชื้อโรค​จาก​ภายนอกร่างกาย​ ​กลับมาต่อต้าน​ ​หรือ​ทำ​ลายเซลล์ของอวัยวะต่างๆ​ ​ใน​ร่างกาย​ ​ก่อ​ให้​เกิดการอักเสบ​ได้​เกือบทุกอวัยวะของร่างกาย​ ​อวัยวะที่​เกิดการอักเสบ​ได้​บ่อย​ ​ได้​แก่​ ​ผิวหนัง​, ​ข้อ​, ​ไต​, ​ระบบเลือด​, ​ระบบประสาท​ ​เป็น​ต้น​ ​การอักเสบนี้​จะ​เป็น​ต่อ​เนื่อง​จน​เป็น​โรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง

สารบัญ

[แก้] สา​เหตุ

สาเหตุุที่ทำ​ให้​เกิดโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​คือ​ ​กรรมพันธุ์​ ​ฮอร์​โมนเพศหญิง​ ​ภาวะติดเชื้อโรคบางชนิด​ ​เช่น​ ​เชื้อไวรัสบางอย่าง​

[แก้] ปัจจัยเสริม

ปัจจัยเสริมที่ทำ​ให้​ผู้​ป่วยที่​เป็น​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​หรือ​มี​โอกาส​จะ​เป็น​มีอาการกำ​เริบขึ้น​ ​เช่น​ ​แสงแดด​ ​หรือ​แสงอุลตร้า​ไวโอเลต​ ​การตั้งครรภ์​ ​ยา​หรือ​สารเคมีบางชนิด​ ​การออกกำ​ลังกาย​หรือ​ทำ​งานหนัก​ ​ภาวะ​เครียดทางจิตใจ​

[แก้] กลุ่มประชากร

ผู้​ป่วยโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​ส่วน​ใหญ่​จะ​เป็น​ผู้​หญิง​ ​อายุระหว่าง​ 20-45 ​ปี​ ​ที่พบมากสุด​อยู่​ใน​ช่วงอายุประมาณ​ 30 ​ปี​ ​แต่ก็พบ​ได้​ในทุกช่วงอายุพบ​ ​ผู้​หญิง​เป็น​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​มากกว่า​ผู้​ชาย​ถึง​ 9 ​เท่า​ ​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อีนี้​ ​พบ​ได้​ใน​คนทุกเชื้อชาติ​ทั่ว​โลก

[แก้] อาการและอวัยวะที่มันปรากฏอาการ

โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​เป็น​โรคเรื้อรังที่มีอาการเกิดขึ้น​กับ​หลายอวัยวะ​หรือ​หลายระบบของร่างกาย​ ​บางรายอาการเหล่านี้​เกิดขึ้นพร้อมๆ​ ​กัน​ ​บางรายมีการแสดงออกเพียงอวัยวะ​ใด​ ​อวัยวะหนึ่งทีละระบบ​ ​เช่น​ ​มีปวดบวมตามข้อ​ ​มีผื่นขึ้นที่หน้า​ ​มีขาบวม​ ​หน้าบวม​จาก​ไตอักเสบ​ ​หรือ​มีอาการทางระบบประสาท​ ​เป็น​ต้น​ ​บางรายมีอาการเฉียบพลันรุนแรง​ ​บางรายอาการค่อย​เป็น​ค่อยไป​ใน​ช่วงระยะหนึ่ง​ ​อาการที่​เกิดขึ้น​กับ​อวัยวะต่างๆ​ ​ที่สำ​คัญคือ​

  1. อาการทางผิวหนัง​ ​ผู้​ป่วยมักมีผื่นแดงขึ้นที่บริ​เวณใบหน้า​ ​บริ​เวณสันจมูก​ ​และ​โหนกแก้ม​ 2 ​ข้าง​ ​เป็น​รูปคล้ายผี​เสื้อ​ ​หรือ​มีผื่นแดงคันบริ​เวณนอกร่มผ้าที่ถูกแสงแดด​ ​หรือ​มีผื่นขึ้น​เป็น​วง​ ​เป็น​แผล​เป็น​ตามใบหน้า​ ​หนังศีรษะ​ ​หรือ​บริ​เวณใบหู​ ​มี​แผล​ใน​ปาก​โดย​เฉพาะบริ​เวณเพดานปาก​ ​นอก​จาก​นี้​ ​ยัง​มีผมร่วงมากขึ้น​
  2. อาการทางข้อ​และ​กล้ามเนื้อ​ ​ผู้​ป่วย​ส่วน​ใหญ่​จะ​มีอาการปวดข้อ​ ​มัก​เป็น​ข้อนิ้วมือ​ ​ข้อมือ​ ​ข้อไหล่​ ​ข้อเข่า​ ​หรือ​ข้อเท้า​ ​บางครั้งมีบวมแดงร้อนร่วม​ด้วย
  3. อาการทางไต​ ​ผู้​ป่วยมักมีอาการบวมบริ​เวณเท้า​ 2 ​ข้าง​ ​ขา​ ​หน้า​ ​หนังตา​ ​เนื่อง​จาก​มีการอักเสบที่​ไตทำ​ให้​มี​โปรตีนไข่ขาว​ ​จาก​เลือดรั่วออกมา​ใน​ปัสสาวะจำ​นวนมาก​ ​รายที่มีอาการรุนแรง​ ​จะ​มี​ความ​ดันโลหิตสูงขึ้น​ ​ปัสสาวะออกน้อยลง​ ​ใน​รายที่มี​ ​อาการรุนแรงมากอาจ​ถึง​ขั้นมี​ไตวาย​ได้​ใน​ระยะ​เวลาอันสั้น​ ​อาการทางไต​เป็น​อาการสำ​คัญอันหนึ่งที่บอกว่า​โรค​เป็น​รุนแรง
  4. อาการทางระบบเลือด​ ​ผู้​ป่วยอาจมี​โลหิตจางมี​เม็ดเลือดขาว​หรือ​เกร็ดเลือดลดลง​ ​ทำ​ให้​มีอาการอ่อนเพลีย​ ​มีภาวะติดเชื้อง่าย​ ​หรือ​มีจุดเลือดออกตามตัว​ได้
  5. อาการทางระบบประสาท​ ​ผู้​ป่วยบางรายอาจมีอาการชัก​ ​หรือ​ ​มีอาการพูดเพ้อเจ้อ​ไม่​รู้​เรื่อง​ ​หรือ​คล้ายคนโรคจิตจำ​ญาติพี่น้อง​ไม่​ได้​ ​เนื่อง​จาก​ ​มีการอักเสบของสมอง​หรือ​เส้นเลือด​ใน​สมอง

​นอก​จาก​นี้​ ​ยัง​มีอาการทางระบบ​อื่นๆ​ ​ใน​ร่างกาย​ ​เช่น​ ​ทางเดินอาหาร​ ​หัวใจ​ ​ปอด​ ​ได้​ ​รวม​ทั้ง​มีอาการ​ทั่ว​ไป​ ​เช่น​ ​มี​ไข้​ ​อ่อนเพลีย​ ​เบื่ออาหาร​ ​ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ​ ​ปวดศีรษะ​ ​จิตใจหดหู่​ ​ผู้​ป่วยโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​แต่ละราย​ไม่​จำ​เป็น​ต้อง​มีอาการครบทุกระบบ​หรือ​มีอาการรุนแรง​ ​บางรายก็มีอาการน้อย​ ​เช่น​ ​มี​ไข้​ ​ปวดข้อ​ ​มีผื่นขึ้นถือว่า​ไม่​รุนแรง​ ​บางรายมีอาการรุนแรง​ ​มี​ไตอักเสบมากจนไตวาย​ ​มีอาการชัก​ ​หรือ​มีปอดอักเสบรุนแรงจนมี​เลือดออก​ใน​ปอด​ ​อาการของโรคมัก​จะ​แสดง​ความ​รุนแรงมาก​หรือ​น้อย​ ​ภาย​ใน​ระยะ​เวลา​ 1-2 ​ปี​แรก​ ​จาก​ที่​เริ่มมีอาการ​ ​หลัง​จาก​นั้น​มัก​จะ​เบาลงเรื่อยๆ​ ​แต่อาจมีอาการกำ​เริมรุนแรง​ได้​เป็น​ครั้งๆ​ ​เมื่อมี​ไข้​ไม่​ทราบสา​เหตุ​ ​เป็น​เวลานาน​ ​เมื่อมีอาการปวดตามข้อ​ ​เมื่อมีผื่นขึ้นบริ​เวณใบหน้า​ ​หรือ​มีผื่นคันบริ​เวณที่ถูกแสงแดด​ ​เมื่อมีผมร่วงมากผิดปกติ​ ​เมื่อมีอาการบวมตามขา​ ​หน้า​ ​หรือ​หนังตา​

[แก้] การรักษา

การรักษา​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​จะ​ต้อง​อาศัย​ความ​เข้า​ใจเกี่ยว​กับ​ตัวโรคของ​ผู้​ป่วย​ ​การปฏิบัติตัวอย่างถูก​ต้อง​ของ​ผู้​ป่วย​และ​การดู​แลอย่าง​ใกล้​ชิดของแพทย์​ผู้​ทำ​การรักษา​ ​การเลือกวิธีการรักษา​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​รุนแรงของโรคของ​ผู้​ป่วยแต่ละราย​ ​ถ้า​ผู้​ป่วยมีอาการ​ไม่​รุนแรง​ ​การ​ใช้​ยา​แก้ปวด​ ​เช่น​ ​ยาพารา​เซตามอล​ ​หรือ​แอสไพริน​ ​หรือ​ยาลดการอักเสบชนิด​ไม่​ใช่​สเตียรอยด์​​ก็ควบคุมอาการ​ได้

​สำ​หรับ​ผู้​ป่วยที่มีอาการรุนแรงขึ้นอาจ​ต้อง​ใช้​ยาสเตียรอยต์​ ​เช่น​ ​ยา​เพรตนิ​โซโลน​ใน​ขนาดต่างๆ​ ​ตาม​ความ​เหมาะสมตั้งแต่ขนาดต่ำ​ถึง​สูง​เป็น​ระยะ​เวลาต่างๆ​ ​เป็น​สัปดาห์จน​เป็น​หลายเดือนขึ้น​กับ​ความ​รุนแรง​และ​ระบบ​ ​อวัยวะที่มีอาการอักเสบ​ ​บางรายที่มีการอักเสบ​ ​ของอวัยวะสำ​คัญ​ ​เช่น​ ​ไต​ ​หรือ​ระบบประสาทอาจจำ​เป็น​ต้อง​ใช้​ยากดภูมิคุ้ม​กัน​ ​เช่น​ ​ยาอิมู​แรน​ ​หรือ​เอ็นด๊อกแซน​ ​อาจ​เป็น​ใน​รูปยารับประทาน​ ​หรือ​การ​ให้​ยาทางน้ำ​เกลือ​เป็น​ระยะ​ ​บางราย​ถึง​กับ​ต้อง​ใช้​การเปลี่ยนถ่ายน้ำ​เหลืองร่วม​ด้วย​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​รุนแรงของโรค​ใน​ผู้​ป่วยแต่ละราย​ ​การเลือก​ใช้​ชนิดของการรักษา​ด้วย​ขนาดที่​เหมาะสม​ ​ใน​จังหวะที่ถูก​ต้อง​กับ​ความ​รุนแรงของโรค​เป็น​กุญแจสำ​คัญที่​จะ​ทำ​ให้​การรักษา​ได้​ผลดี

​การปฏิบัติตัวที่ถูก​ต้อง​ของ​ผู้​ป่วย​เป็น​ส่วน​ที่สำ​คัญที่สุด​ใน​การรักษา​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​ให้​ได้​ผลดี​ ​การปฏิบัติตัวที่ถูก​ต้อง​ทำ​ได้​ ​ดังนี้​ ​พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด​ ​ตั้งแต่ช่วง​ 10.00 ​น​. -16.00 ​น​. ​ถ้า​จำ​เป็น​ให้​กางร่ม​ใส่​หมวก​ ​หรือ​สวมเสื้อแขนยาว​ ​และ​ใช้​ยาทา​กัน​แดดที่ป้อง​กัน​แสงอุลตรา​ไวโอเลต​ ​ได้​ดี​ ​พักผ่อน​ให้​เพียงพอ​ ​หลีกเลี่ยง​ความ​ตึงเครียด​ ​โดย​พยายามฝึกจิตใจ​ให้​ปล่อยวาง​ ​ไม่​หมกมุ่น​ ​ทำ​ใจยอมรับ​กับ​โรค​และ​ปัญหา​อื่นๆ​ ​ที่​เกิดขึ้น​ ​และ​ค่อยๆ​ ​แก้ปัญหาต่างๆ​ ​ไปตามลำ​ดับ​ ​ออกกำ​ลังกาย​ให้​สม่ำ​เสมอ​ ​ไม่​รับประทานอาหารที่​ไม่​สุก​หรือ​ไม่​สะอาด​ ​เพราะ​จะ​มี​โอกาสติดเชื้อต่างๆ​ ​ง่าย​ ​เช่น​ ​พยาธิต่างๆ​ ​หรือ​แบคที​เรีย​ ​โดย​เฉพาะ​เชื้อไทฟอยด์​ ​ดื่มนมสด​ ​และ​อาหาร​อื่นๆ​ ​ที่มี​แคลเซี่ยมสูงเพื่อป้อง​กัน​ภาวะกระดูกพรุน​ ​ไม่​รับประทานยา​เอง​โดย​ไม่​จำ​เป็น​ ​เพราะ​ยาบางตัวอาจทำ​ให้​โรคกำ​เริบ​ได้​ ​ป้อง​กัน​การตั้งครรภ์ขณะ​โรค​ยัง​ไม่​สงบ​ ​โดย​เฉพาะอย่างยิ่งหากกำ​ลัง​ได้​ยากดภูมิคุ้ม​กัน​อยู่​ ​แต่​ไม่​ควร​ใช้​ยา​เม็ดคุมกำ​เนิด​ซึ่ง​มีฮอร์​โมนเอสโตรเจน​ ​เพราะ​อาจทำ​ให้​โรคกำ​เริบ​ได้​ ​และ​ไม่​ควร​ใช้​วิธี​ใส่​ห่วง​ด้วย​ ​เพราะ​มี​โอกาสติดเชื้อสูงกว่าคนปกติ​ ​เมื่อโรค​อยู่​ใน​ระยะสงบ​สามารถ​ตั้งครรภ์​ได้​ ​แต่ควรปรึกษา​แพทย์ก่อน​ ​และ​ขณะตั้งครรภ์ควรมารับการตรวจอย่าง​ใกล้​ชิดมากกว่า​เดิม​ ​เพราะ​บางครั้งโรคอาจกำ​เริบขึ้นระหว่างตั้งครรภ์​ ​หลีกเลี่ยง​จาก​สถานที่​แออัดที่มีคนหนา​แน่น​ ​ที่ที่อากาศ​ไม่​บริสุทธิ์​ ​และ​ไม่​เข้า​ใกล้​ผู้​ที่กำ​ลัง​เป็น​โรคติดเชื้อ​ ​เช่น​ ​ไข้หวัด​ ​เพราะ​จะ​มี​โอกาสติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ​ได้​ง่าย​ ​ถ้า​มีลักษณะที่บ่งชี้ว่ามีการติดเชื้อ​ ​เช่น​ ​ไข้สูง​ ​หนาวสั่น​ ​มีฝีตุ่มหนองตามผิวหนัง​ ​ไอเสมหะ​เหลืองเขียว​ ​ปัสสาวะ​แสบขัด​ ​ให้​รีบปรึกษา​แพทย์ทันที​ ​หากรับประทานยากดภูมิคุ้ม​กัน​อยู่​ ​เช่น​ ​อิมู​แรน​, ​เอ็นด๊อกแซน​ ​ให้​หยุดยานี้ชั่วคราว​ใน​ระหว่างที่มีการติดเชื้อ​ ​มาตรวจตามแพทย์นัดอย่างสม่ำ​เสมอ​ ​เพื่อประ​เมินภาวะของโรค​ ​และ​เพื่อปรับเปลี่ยนการรักษา​ให้​เหมาะสม​ ​ถ้า​มีอาการผิดปกติที่​เป็น​อาการของโรคกำ​เริบ​ ​ให้​มาพบแพทย์ก่อนัด​ ​เช่น​ ​มีอาการไข้​ ​เป็นๆ​ ​หายๆ​ ​อ่อนเพลีย​ ​น้ำ​หนักลด​ ​บวม​ ​ผมร่วง​ ​ผื่น​ใหม่ๆ​ ​ปวดข้อ​ ​เป็น​ต้น​ ​ถ้า​มีการทำ​ฟัน​ ​ถอนฟัน​ ​ให้​รับประทานยาปฏิชีวนะก่อน​และ​หลังการทำ​ฟัน​ ​เพื่อป้อง​กัน​การติดเชื้อ​ ​ทั้ง​นี้​โดย​ปรึกษา​แพทย์​ ​การพยากรณ์​โรคของ​ผู้​ป่วยโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​แต่ละรายแตกต่าง​กัน​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​รุนแรงของโรค​ ​การรักษาที่​ได้​รับว่าถูก​ต้อง​หรือ​ไม่​ ​ตลอดจนการปฏิบัติตัวของ​ผู้​ป่วย​ ​ความ​ต่อ​เนื่อง​และ​ความ​สม่ำ​เสมอของการไปติดตามการรักษา​ ​ใน​ปัจจุบัน​ ​การพยากรณ์​โรคของ​ผู้​ป่วยโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​ดีขึ้นมาก​ ​เนื่อง​จาก​มี​ความ​ก้าวหน้า​ใน​ทางการแพทย์​ ​ทำ​ให้​การรักษา​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​มีประสิทธิภาพมากขึ้น​ ​มีการป้อง​กัน​ภาวะ​แทรกซ้อนที่ดีขึ้น​ ​มียารักษาภาวะ​แทรกซ้อน​ ​เช่น​ ​ยาปฏิชีวนะรักษา​โรคติดเชื้อที่ดีขึ้น​ ​ทำ​ให้​ผู้​ป่วยโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​มี​โอกาส​อยู่​รอด​ได้​มากขึ้นมาก​ ​และ​อยู่​อย่างมีคุณภาพมากขึ้น

[แก้] สาเหตุการเสียชีวิต

สา​เหตุการเสียชีวิตของ​ผู้​ป่วยโรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​เกิด​ได้​จาก​ 3 ​สา​เหตุ​ ​คือ​ ​จาก​ตัวโรคเอง​ ​ผู้​ป่วยมีอาการอักเสบรุนแรงของอวัยวะสำ​คัญ​ ​เช่น​ ​ไต​ ​สมอง​ ​หลอดเลือด​ ​โดย​ไม่​ได้​รับการรักษาอย่างถูก​ต้อง​ ​และ​ทันท่วงที​ ​จาก​ภาวะติดเชื้อ​ ​เนื่อง​จาก​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​ทำ​ให้​ผู้​ป่วยมีภูมิคุ้ม​กัน​ที่ผิดปกติ​อยู่​แล้ว​ ​ยาที่​ผู้​ป่วย​ได้​รับ​ทั้ง​ยาสเตียรอยด์​ ​และ​ยากดภูมิคุ้ม​กัน​ยิ่งทำ​ให้​ผู้​ป่วยมี​โอกาสติดเชื้อโรคต่างๆ​ ​ได้​ง่ายกว่าบุคคล​ทั่ว​ไป​ ​จาก​ยา​หรือ​วิธีการรักษา​ ​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​หรือ​ขนาดยาที่​ไม่​เหมาะสม​ ​โรค​ ​เอส​ ​แอล​ ​อี​ ​เป็น​โรคแพ้ภูมิชนิดหนึ่งที่มีอาการ​และ​อาการแสดง​ได้​หลากหลาย​ ​มี​ความ​รุนแรง​ได้​ตั้งแต่น้อยจน​ถึง​มาก​ ​การรักษา​โรคที่ถูก​ต้อง​ตั้งแต่​เริ่มมีอาการ​ ​จะ​ทำ​ให้​ผู้​ป่วยมีการพยากรณ์​โรคดี​ ​มีภาวะ​แทรกซ้อน​จาก​โรค​หรือ​เกิด​ความ​พิการน้อยลง​ ​การปฏิบัติตัวของ​ผู้​ป่วยอย่างถูก​ต้อง​เป็น​ส่วน​สำ​คัญที่​จะ​ทำ​ให้​การรักษามีประสิทธิภาพ​ ​ถึง​แม้​โรคนี้​จะ​ไม่​หายขาด​ ​แต่​ถ้า​ได้​รับการรักษาที่ถูก​ต้อง​ ​จะ​ทำ​ให้​โรค​เข้า​สู่ระยะสงบ​ได้​ ​ทำ​ให้​ผู้​ป่วยมีชีวิต​อยู่​ได้​เหมือนปกติ​ทั่ว​ไป


 โรคลูปัส เป็นบทความเกี่ยวกับ การแพทย์  ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ โรคลูปัส ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ