คุยกับผู้ใช้:Hongmhee

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ผมเรียนทางด้านบัญชีมา ผมก็เลยอยากจะเผยแพร่การทำบัญชี และการให้คนไทยรู้จักการใช้เงิน เพื่อทุกคนมีความสามารถในการใช้เงินที่ดี และจะได้นำเงินไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เนื่องจากตัวผมเอง เห็นว่า คนไทยไม่รู้จักการใช้บัญชีให้เป็นประโยชน์ โดยผมจะเริ่มอธิบายต่อไปนี้นะครับ

เราทุกคนไม่ว่าจะเกิดมาร่ำรวยหรือยากจน ทุกคนก็มีปัญหาในการใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินน้อยไป หรือว่าเงินมากไป ที่นี้มาดูกันว่า ปัญหาเงินมากไปอาจจะต้องใช้ความรู้ขั้นสูง ทั้งด้านกฏหมาย ภาษี แล้วไหวพริบทางธุรกิจ ซึ่งอาจจะต้องให้ความรู้ความสามารถมากเกินไปจนอาจทำให้ ทำความเข้าใจได้ยาก

ปัญหาเรื่อง เงินน้อยเกินไป

ดังที่ในหลวงของเรานั้น ได้ออกมาบอกเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ออกมา เพื่อให้คนไทยเกิดสำนึก และมีสติในการใช้เงิน และควรใช้ในทางที่ถูกต้อง มาดูกันว่าเรื่องการเงิน ที่มีพื้นฐานมาจาก รายได้ และค่าใช้จ่ายนั้น มีความสำคัญอย่างไรขออธิบายดังนี้

รายได้ คือ ผลตอบแทนที่เป็นรูปต่างๆ ที่เราได้มาจากการทำงาน ค่าใช้จ่าย คือ รายจ่ายในการทำธุรกิจ หรือการยังชีพ

หลักการง่ายๆที่ทุกๆคนคงจะเข้าใจ ก็คือ รายได้-ค่าใช้จ่าย=กำไร(ขาดทุน) (หรือเรียกว่า รายเหลือ หรือ รายขาด) ปัญหาของคนส่วนใหญ่มองว่า การที่จะมีชีวิตที่ดีต้องมีรายได้สูง ซึ่งมันเป็นหลักการที่ไม่ถูกต้องนัก สิ่งที่ทุกคนมองเห็นแต่ไม่เคยใช้มันให้ดีเลยก็คือ ค่าใช้จ่าย

การควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ หรือว่าดำรงชีพนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะว่าต่อให้เรานั้นมีการหารายได้มากขนาดไหนก็ตาม ถ้าค่าใช้จ่ายของเรานั้นพุ่งสูงตามรายได้ของเรานั้น เราก็จะยากจน (ปัญหาความยากจน คือ ปัญหาพื้นฐานของทุกปัญหา)ฉะนั้นสิ่งที่ควรจะต้องมีการพิจารณาเป็นอันดับแรกก็คือ การควบคุมรายจ่าย โดยมีหลักการปฏิบัติดังนี้

การควบคุมรายจ่าย 1.ควรจัดทำรายการจ่ายเงิน ว่าเรานั้นจ่ายอะไรไปบ้าง 2.เมื่อเรานั้นได้จดรายการที่เราได้จ่ายไปนั้น เราก็จะสามารถเห็นรายจ่ายที่จำเป็นและไม่จำเป็น 3.เมื่อเราบอกกับตัวเองได้ว่าอะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็น อะไรมากเกินไป เราก็ควรควบคุมรายจ่ายนั้นๆให้เป็นนิสัย

เมื่อเราได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างบนผมรับรองว่าเราจะเป้นคนที่ใช้เงินอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น

และเมื่อเรานั้นทำงานอย่างขยันขันแข็ง รู้จักการควบคุมรายจ่าย เราก็จะมีเงินเหลือ ซึ่งเงินเหลือนี่แหละคือเคล็ดลับแห่งความร่ำรวย

เราลองมาดูกันว่าถ้าเรามีเงินเหลือแล้วนั้น เราสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ถ้าเรานำเงินนี้ไปฝากที่ธนาคารแล้ว เราจะได้ดอกเบี้ย 1-3 เปอร์เซ็น ถ้าเรานำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ เราจะได้ผลตอบแทนราว 5-15 เปอร์เซ็น ถ้ารเรานำเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เราจะได้ผลตอบแทนราว 6-8 เปอร์เซ็น เป็นต้น

เงินที่เรามีนั้นสามารถนำไปสร้างทุนให้กับเราเสมอ แต่จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับความรู้ที่จะใช้เงินนั้น อย่างไร(ซึ่งผมเห้นว่าเราควรให้การศึกษากับประชาชนทุกระดับในเรื่องการเงิน)

เมื่อเรานำเงินไปสร้างผลตอบแทนแล้ว เราก็ควรนำผลตอบแทนนั้นไปสร้างต่อแล้วค่อยๆทยอยเงินลงทุนนั้นออกมา ก็จะทำให้เรานั้นนำผลกำไรที่เราลงทันมาลงทุนเพื่อเสริมสร้าง ความมั่งคั่งให้กับประชาชน

อยากจะฝากถึงทุกคนด้วยนะครับที่มาอ่านบทความของผม คำว่าร่ำรวยไม่ได้หมายความว่ามีเงินเยอะ แต่หมายถึงไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป้นเรื่องปัจจัยพื้นฐาน หรือว่าสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับเรา ผมอยากให้ทุกคนตระหนักว่า ยิ่งเรานั้นมีสินทรัพย์มากเท่าใด เราก็จะมีค่าบำรุงดูแลรักษามันมากเท่านั้น