พลังงานทางเลือก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
-ปัจจุบัน วิธีการผลิตไบโอดีเซลที่ได้รับการยอมรับว่าได้มาตรฐานกว่าวิธีอื่น คือการใช้กระบวนการทางเคมีเข้าเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของนำมันพืชโดยใช้แอลกอฮอล์เข้าไปทำปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า "transesterification"กับน้ำมันพืชโดยใช้กรดหรือด่างเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา จนกระทั่งได้เอสเทอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ตามการผลิตไบโอดีเซลด้วยกระบวนการนี้ก็มีต้นทุนสูงกว่าด้วยเช่นกัน การผลิตไบโอดีเซลขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบ คือผลิตผลทางการเกษตรเป็นสำคัญ ทั่วโลกมีพืชผลหลายชนิดที่ให้น้ำมันสำหรับประเทศไทยทำการเพาะปลูกพืชน้ำมัน 6 ชนิด คือ ถั่งเหลือง ปาล์มน้ำมัน ถั่วลิสง มะพร้าว ละหุ่ง และงา ในจำนวนนี้มีรายงานว่าปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตสูงที่สุด ล่าสุดรัฐบาลมีนโยบายขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศให้ได้ 5 ล้านไร่ และในประเทศเพื่อนบ้านอีก 1 ล้านไร่ นอกจากนี้ สบู่ดำก็เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจในการนำมาผลิตไบโอดีเซล เพราะเมล็ดสบู่ดำมีคุณสมบัติทางเชื้อเพลิงใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลหลายประการ แม้สบู่ดำเป็นพืชพื้นเมืองของอเมริกาใต้ แต่ถูกนำเข้ามาปลูกจนแพร่กระจายทั่วประเทศไทยเป็นเวลานานแล้วการใช้ไบโอดีเซลนอกจากช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศและช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิตทางการเกษตร แล้วยังเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเครื่องยนต์ปลดปล่อยสารพิษจากไอเสีย เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์หรือสารไฮโดคาร์บอนในปริมาณต่ำกว่าการใช้น้ำมันดีเซลมาก และยังปลอดภัยในการขนส่งและเก็บรักษา เพราะไบโอดีเซลมีจุดวาบไฟ (flash point)สูงประมาณ 150 องศาเซลเซียส จึงยากจะระเบิดหรือลุกไหม้เองในสภาวะปรกติ
-แก๊สโซฮอล์คือพลังงานทางเลือกที่มุ่งใช้เป็ฯเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเบนซิล ทั้งชนิด 91และ95 ขณะที่แก๊สโซฮอล์คือส่วนผสมของน้ำมันเบนซิลและเอทานอลในอัตราส่วน น้ำมันเบนซิน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน การใช้เอทานอลซึ่งผลิตได้ภายในประเทศ จึงช่วยลดการน้ำเข้าสาร MTBE จากต่างประเทศ เอทานอลคือแอลกออล์ที่เกิดจาการหมักพืชโดยใช้ผลผลิตทางการเกษตรของไทย เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ฯลฯ มาผ่านกระบวนการหมักเพะอเปลี่ยนแป้งจากพืชให้เป็นน้ำตาล และเปลี่ยนจากน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์การใช้แก๊สโซฮอล์มีผลดีคล้ายกับการใช้ไบโอดีเซล นั่นคือช่วยลดการนำเข้าน้ำมันและสาร MTBE จากต่างประเทศ เพระการนำเอทานอลมาผสมน้ำมันเบนซิล จะช่วยลดการใช้น้ำมันของทั้งประเทศได้ 10 เปอร์เซ็น หรือเดือนละ 25 ล้านลิตร นอกจากนั้นยังช่วยยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร และมีผลต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์สะอาด ช่วยลดควันดำ สารอะโรเมติกส์ สารเบนซิน ปัญหาฝุ่นควันจากท่อไอเสีย รวมทั้งลดปริมาณคารบอนมอนอกไซด์และไฮโครคาร์บอน
โรงไฟฟ้าก๊าชชีวภาพ
-เป็นก๊าชชีวภาพที่ได้จากมูลสัตว์ โดยได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูล ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างจากสถาบันวิจัย และพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ของเสียจากหมุแต่ละโรงเรือนจะไหลตามรางลงสู่ท่อน้ำเสีย แล้วถูกปั๊มผ่านท่อ น้ำเสียไปพักไว้ที่บ่อรวบรวมน้ำเสียก่อนไหลไปสู่บ่อหมักแบบรางจำนวน 3 บ่อ แต่ละบ่อมีปริมาณ 1000 ลูกบาศก์เมตร ของเสียจะถูกย่อยสลายภายในบ่อโดยกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใม่ใช้ออกซิเจน จนเกิดเป็นก๊าซชีวภาพซึ่งประกอบด้วยก๊าซหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทนก๊าซจะไหลผ่านท่อซึ่งต่อจากบ่อหมักไปสู่โรงไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงให้แก่เครื่องยนต์ดีเซลจำนวน 3 เครื่องแต่ละเครื่องมีกำลัง 260 แรงม้าและถูกดัดแปลงให้สามารถใช้ก๊าซมีเทนเป็นเชื้อเพลิงได้ เครื่องยนต์ทำหน้าที่ฉุดไดนาโมขนาด 90 กิโลวัตต์ให้หมุนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 250-300 กิโลวัตต์แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในฟาร์ม จึงยังจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคร่วมด้วย