โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย

ตราประจำโรงเรียน ร้อยเอ็ดวิทยาลัย

ชื่อ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
ชื่อ (อังกฤษ) Roi-Et Wittayalai School
ก่อตั้ง พ.ศ. 2453
ประเภทโรงเรียน สถานศึกษาขนาดใหญ่ พิเศษ สังกัด สพฐ.
ผู้อำนวยการสถานศึกษา นายชาตรี ชาปะวัง
คำขวัญ นตฺถิ ปญฺญา สมาอาภา(แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี)
เพลงประจำสถาบัน มารชร้อยเอ็ดวิทยาลัย
สีประจำสถาบัน เขียว-แสด
ที่อยู่ 50/11 ถนนเทวาภิบาลอำเมือง ร้อยเอ็ด 45000
เว็บไซต์ [www.rw.ac.th]

โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย เป็นสถานศึกษาแห่งแรกของจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งแต่เดิมเป็นโรงเรียนชายล้วน ปัจจุบันจัดอยู่ในประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ในรูปแบบสหศึกษา ทำการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับช่วงชั้นที่ 3 และช่วงชั้นที่ 4 มีจำนวนนักเรียนกว่า 4,000 คน และบุคลากรทางการศึกษาอีกกว่า 200 คน โดยมีเนื้อที่ 27 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา

โดยในช่วงเวลาเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา ร้อยเอ็ดวิทยาลัยได้ทำหน้าที่ผลิตทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าออกมาทำหน้าที่รับใช้สังคมและชุมชนอย่างมาก มาย ในฐานะสถานศึกษาที่เป็นผู้นำทางด้านวิชาการ กีฬา และคุณธรรมจริยธรรมทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ดังที่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้กล่าวไว้ว่า

ร้อยเอ็ดวิทยาลัยให้ความรู้ เชิดชูความดีมั่น สร้างคนเก่งคนงามคนสำคัญ ร่วมสร้างสรรค์ร้อยเอ็ดเพชรแผ่นดิน

สารบัญ

[แก้] ประวัติ

พระพุทธเอกุตระสตาธิคุณมงคลมหามุนี พระพุทธรูประจำสถานศึกษา
พระพุทธเอกุตระสตาธิคุณมงคลมหามุนี พระพุทธรูประจำสถานศึกษา
ศาลเจ้าพ่อเขียวแสด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถานศึกษา
ศาลเจ้าพ่อเขียวแสด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถานศึกษา
อาคาร 1 และสวนพระ
อาคาร 1 และสวนพระ

โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยได้เริ่มวางรากฐานครั้งแรกในปี พ.ศ. 2450 ที่วัดศรีมงคล(วัดสระทอง จังหวัดร้อยเอ็ดในปัจจุบัน)โดยมีพระครูเอกุตรสตาธิคุณ(โมง เจ้าคณะเมืองร้อยเอ็ด และเจ้าอาวาสวัดสระทอง ในสมัยนั้นเป็นผู้ก่อตั้ง

พ.ศ. 2453 กระทรวงธรรมการในสมัยเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว.เปีย มาลากุล) เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ดำริจะจัดตั้งโรงเรียนรัฐบาลในจังหวัดร้อยเอ็ดขึ้น จึงได้ส่ง ราชบุรุษจันทร์ อุตมะพรหม มาเป็นครูคนแรกและได้ทราบว่าที่วัดสระทองมีเด็กเข้าเรียนอยู่ในวัดประมาณ 20 กว่าคน และมีพระทำการสอนอยู่แล้ว จึงได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นที่วัดนี้ เรียกชื่อว่า โรงเรียนวัดศรีมงคล ครูที่สอนในสมัยนั้นมี ราชบุรุษจันทร์ อุตมะพรหม เป็นครูใหญ่,พระครูวินัย, พระภิกษุพิมพ์ สุวรรณบล, นายสวาสดิ์ ศริริวรรณ, นายเตรียม ศิริวรรณ และ สามเณรผ่อง จรัสฉาย โดยครูทั้ง 6 คน ได้ทำการผลัดเปลี่ยนกันสอนและให้นักเรียนชั้นสูงมาช่วยทำการสอนแก่นักเรียนในชั้นที่ต่ำกว่าเป็นครั้งเป็นคราว

พ.ศ. 2456 กระทรวงธรรมการได้จัดส่งนายแม้น โปราณานนท์ ป.(หลวงวิทยกรรมประสาน)มาเป็นครูใหญ่ ซึ่งต่อมาเห็นว่าสถานที่วัดศรีมงคลคับแคบ จึงได้ขอย้ายไปสถานที่ใหม่ นั่นก็คือบริเวณที่ว่าการอำเภอหลังเก่าริมคลองคูเมืองซึ่งเป็นป่าช้าฝังศพนักโทษ โดยได้ย้ายนักเรียนกลุ่มแรกมาทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2456 และได้ใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงรียนมาจนกระทั่งปัจจุบัน

ต่อมาคณะครูได้ขอความร่วมมือกับสมุหเทศาภิบาล มหาอำมาตย์ตรีหม่อมเจ้าธำรงศิริ ให้ช่วยบอกบุญแก่ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี ผู้ปกครอง นักเรียน ร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อทำการปลูกสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ทดแทนหลังเดิมที่เป็นที่ว่าการอำเภอหลังเก่า แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2456 โดยมีนายแม้น โปราณานนท์ เป็นครูใหญ่ และเมื่อเมืองร้อยเอ็ดได้ถูกเปลี่ยนเป็นมณฑลร้อยเอ็ด โรงเรียนวัดศรีมงคลจึงได้ยกฐานะเป็นโรงเรียนประจำมณฑลด้วย

พ.ศ. 2457 มีการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็นโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยและทำพิธีเปิดป้ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2457 โดยมีพระครูเอกุตรสตาธิคุณ เจ้าคณะเมืองร้อยเอ็ดเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ มหาอำมาตย์ตรีหม่อมเจ้าธำรงศิริ สมุหเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฆลร้อยเอ็ด เป็นประธาน

พ.ศ. 2481 นายรอบ ปัทมศิริ เป็นครูใหญ่ ได้ริเริ่มกำหนดสีประจำโรงเรียน และเครื่องหมายโรงเรียนเป็นครั้งแรก

พ.ศ. 2523 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทานเป็นครั้งแรก

พ.ศ. 2529 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทานเป็นครั้งที่สอง

25 มิถุนายน 2531 พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโยและศิษยานุศิษย์ ได้บริจาคพระพุทธรูปนามว่า พระพุทธเอกุตระสตาธิคุณมงคลมหามุนีเป็นพระพุทธรูปโลหะรมดำ สูง 7.66 เมตร เพื่อมอบให้เป็นพระพุทธรูปประจำสถานศึกษา ประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 1

พ.ศ. 2539 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทานเป็นครั้งที่สาม

[แก้] สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน

  • ตราประจำโรงเรียน:ประกอบด้วยมงกุฎตั้งอยู่บนอักษรย่อ ร.ว. ยอดมงกฎเปล่งรัศมีออกเป็น 9 แฉก อันหมายถึงสิ่งที่งาม 4 ประการได้แก่ รูปร่างงาม ท่าทางงาม วางตัวงาม จิตใจงาม และสิ่งที่ดี 5 ประการได้แก่ วาจาดี ความรู้ดี ความสามรถดี ความประพฤติดี การงานดี
  • สีประจำโรงเรียน: เขียว-แสด โดยสีเขียวหมายถึงสีประจำวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 7(วันพุธ)ส่วนสีแสดเป็นสีประจำมณฑลร้อยเอ็ด
  • ดอกไม้ประจำโรงเรียน: ดอกชงโค
  • ปรัชญาของโรงเรียน: นตฺถิ ปญฺญา สมาอาภา (แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญานั้นไม่มี)
  • คำขวัญของโรงเรียน: เรียนดีสามัคคี กีฬาเก่ง เคร่งวินัย

[แก้] วิสัยทัศน์

โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยเป็นหน่วยงานของชุมชนที่เข้มแข็ง ทันสมัย เป็นผู้นำด้านวิชาการ ด้านกีฬา ด้านคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมความเป็นไทย รวมพลังปฏิรูปการศึกษาอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ

[แก้] เป้าประสงค์

เพื่อให้เยาวชนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาคและทั่วถึง ผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมายได้พัฒนาตนเต็มศักยภาพ มีคุณลักษณะพึงประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ สามารถดำรงชีวิตแบบวิถีไทยในสังคมอย่างมีความสุข

[แก้] พันธกิจ

  • ให้บริการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาค ทั่วถึง และมีคุณภาพ ทุกกลุ่มเป้าหมาย
  • พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพมาตรฐานการศึกษาของชาติ มีความเป็นไทย โดยเน้นการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
  • พัฒนาระบบบริหาร เสริมสร้างความเข้มแข็งและทันสมัย เน้นการกระจายอำนาจ และการมีส่วนร่วมของบุคลากร ผู้ปกครองและชุมชน

[แก้] คุณลักษณะอันพึงประสงค์

  1. มีระเบียบวินัย
  2. มีความเป็นประชาธิปไตย
  3. มีศีลธรรม จริยธรรม
  4. มีจิตเป็นสาธารณะ รู้จักเสียสละ และรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
  5. มีสัมมาคารวะ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญู

[แก้] เพลงประจำสถานศึกษา

มาร์ชร้อยเอ็ดวิทยาลัย วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์

โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย

ก้องเกริกไกรในด้านการศึกษา
ร.ว.รุ่งเรืองฟูเฟื่องด้านการกีฬา
เขียวแสดเรานี้ศักดาประชายกย่องทั่วไป

โรงเรียนเราเกียรติขจร

ด้านการสอนมิด้อยกว่าใคร
ศิษย์เราพากเพียรร่ำเรียนด้วยความตั้งใจ
ทั้งมีวินัยทุกคนรักใคร่กันดี

ลูกร.ว.นี้คือพวกเรา

น้ำใจเร่งเร้าใหม่หรือเก่ามั่นสามัคคี
เรากลมเกลียวเขียวแสดมั่นในศักดิ์ศรี
นามคงอยู่คู่เคียงธาตรี
ใจเปรมปรีดิ์ที่มีรวมกัน

มุ่งเทิดทูนชาติศาสนา

ร่มเกล้าประชาองค์พระราชานี้ยึดมั่น
โรงเรียนเราร้อยเอ็ดวิทยาลัยนั้น
พร้อมกันเทิดไว้ในชีวัน และจะหมั่นสร้างการทำดี...

[แก้] ศิษย์เก่าเกียรติยศ

  • นายถวิล อุดล เสรีไทย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด, รัฐมนตรีว่าการ, สมาชิกวุฒิสภา
  • นายจำลอง ดาวเรือง เสรีไทย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม, รัฐมนตรีช่วยว่าการ
  • พลเอกเสริม อายุวัฒน์ ราชองครักษ์,ผู้ช่วยทูตทหารบก,ตุลาการทหารสูงสุด,ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก,สมาชิกสภานิติบัญญัติ,สมาชิกวุฒิสภา
  • ศ.ดร.ก่อ สวัสดิพานิช อาจารย์โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย,อธิบดีกรมสามัญศึกษา,รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ 6 สมัย
  • พลเรือตรีเดชา เอกก้านตรง ต้นเรือหลวงสมุย,ต้นเรือหลวงทองหลวง,ต้นเรือหลวงเภตรา,ผู้บัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร
  • ดร.ชวน ศิริกิจ กงสุลใหญ่,อัครราชทูต,เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
  • นายสิงห์ กลางวิสัย อธิบดีกรมการค้าภายใน
  • ศ.ดร.บุญชนะ อัตถากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ,เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ,รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
  • พันเอก(พิเศษ)อุดม ทวีวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด,สมาชิกสภาปฏิรูปการปกครอง,สมาชิกสภานิติบัญญัติ,สมาชิกวุฒิสภา,สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
  • นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข,กรรมการ ปปป.,ประธานสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย
  • ศ.ดร.ปรีดี เกษมทรัพย์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล,อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,สมาชิกสภานิติบัญญัติ,อธิการบดีวิทยสถานแห่งวัฒนธรรมตะวันออก
  • ดร.เชาวน์ สายเชื้อ เอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ,ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
  • นายสุนทร ศรีนิลทา ผู้อำนวยการกองบริการเครื่องจักรกล กรมอาชีวศึกษา
  • นายสว่าง ศรีนิลทา อธิบดีกรมการขนส่ง,รองปลัดกระทรวงคมนาคม
  • นายธีระ รัตนจันทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครู,ประธานคณะกรรมการขั้นพื้นฐานโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
  • พลตรีสำเริง ไชยยงค์ นายทหารราชองครักษ์,กรมวังใหญ่ประจำที่ประทับ
  • พลอากาศเอกเกษม ทวีวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา,สมาชิกสภานิติบัญญัติ,หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการผู้บัญชาการทหารอากาศ
  • นายบรรจง พงศ์ศาสตร์ ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมหลายแห่ง,ผู้อำนวยการกองการมัธยมศึกษา,รองอธิบดีกรมสามัญศึกษา,ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษา,อธิบดีกรมสามัญศึกษา
  • พลตำรวจเอกวิรุฬห์ พื้นแสน ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ,สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย,นายตำรวจราชสำนักพิเศษ
  • นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด 5 สมัย,รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม/กระทรวงเกษตรฯ,รัฐมนตรว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์