ตลาดสำเพ็ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้ต้องการเก็บกวาด ตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไขรูปแบบ เพิ่มแหล่งอ้างอิง ใส่หมวดหมู่ หรือภาษาที่ใช้
ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือในหลายส่วนด้วยกัน
คุณสามารถช่วยตรวจสอบ และแก้ไขบทความนี้ได้ด้วยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน
กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ วิธีแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือการเขียน และ นโยบายวิกิพีเดีย ซึ่งสามารถดูตัวอย่างบทความได้ที่ บทความคุณภาพ และเมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้

หลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงย้ายเมืองมาตั้งยังฝั่งพระนคร (กรุงรัตนโกสินทร์) ก็โปรดเกล้าให้ชาวจีนโยกย้ายจากบริเวณท่าเตียนไปอยู่ ณ ที่สวน ตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสำเพ็ง ชาวจีนก็ได้สร้างชุมชนของตัวเอง ทั้งการสร้างย่านการค้าขาย จนเติบโตกว้างขวาง โดยส่วนมากจะอาศัยอยู่ทางใต้ของพระนคร ได้แก่ ชุมชนตลาดสะพานหัน ตลาดเก่า ตลาดสำเพ็ง ตลาดวัดเกาะ (วัดสัมพันธวงศ์) และตลาดน้อย

สำเพ็งเวลานั้นเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยรัชกาลที่ 4 จัดได้ว่าเป็นตลาดบกที่ใหญ่ที่สุดของพระนคร สินค้าที่นำเข้ามาขายนอกจากจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศแล้ว ยังมีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยมากเป็นข้าวของเครื่องใช้จากประเทศจีน สำเพ็งนอกจากจะเป็นตลาดใหญ่แล้ว ยังเป็นแหล่งรวมอบายมุขระดับใหญ่ของประเทศในยุคนั้น มีทั้งโรงฝิ่น บ่อนการพนัน และโรงหญิงโสเภณี ซึ่งมีอยู่หลายสำนัก

และด้วยเหตุที่เป็นย่านการค้าขายและแหล่งชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น มีการเปรียบเทียบภาพของสำเพ็งในยุคนั้นว่า "ไก่บินไม่ตกพื้น" เพราะหลังคาบ้านแต่ละหลังต่างเกยกัน ทำให้มีเหตุเพลิงไหม้บ่อยอยู่เป็นประจำนั่นเอง

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเล็งเห็นว่า สำเพ็งนั้นเติบโตมากเกินไปแล้ว และยังเป็นแหล่งไม่เจริญหูเจริญตา ฝรั่งหรือชาวต่างชาติที่มาเห็นต่างตำหนิติเตียน พระองค์จึงมีรับสั่งให้สร้างถนนตรงกลางสำเพ็ง เพื่อทำการขยายชุมชนและย่านการค้าให้ใหญ่โตรโหฐานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทรงโปรดเกล้าให้สร้างตึกแบบฝรั่ง เพื่อให้ประชาชนได้ทำการค้าขาย ถนนที่สร้างใหม่ดังกล่าว เช่น ถนนทรงวาด ถนนราชวงศ์ เป็นต้น

[แก้] อ้างอิง

  • ณัฐชยา,คู่มือนักชอป จะซื้อซะอย่าง