ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้ต้องการเก็บกวาด ตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไขรูปแบบ เพิ่มแหล่งอ้างอิง ใส่หมวดหมู่ หรือภาษาที่ใช้
ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือในหลายส่วนด้วยกัน
คุณสามารถช่วยตรวจสอบ และแก้ไขบทความนี้ได้ด้วยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน
กรุณาเปลี่ยนไปใช้ป้ายข้อความอื่น เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการตรวจสอบ หรือแก้ไข
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ วิธีแก้ไขหน้าพื้นฐาน คู่มือการเขียน และ นโยบายวิกิพีเดีย ซึ่งสามารถดูตัวอย่างบทความได้ที่ บทความคุณภาพ และเมื่อแก้ไขตามนโยบายแล้ว สามารถนำป้ายนี้ออกได้

ประวัตินักเขียน

ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

ห้อยหัวลงท้าทายแรงดึงดูดของโลกเป็นครั้งแรก ในบ่ายอันร้อนอบอ้าวของวันที่ 27 เมษายน 2518 ที่กรุงเทพฯ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นิเทศมหาบัณฑิต สาขาสื่อสารการตลาด เมื่อปี 2543 .....ขณะกำลังเดินแฮ้งค์อยู่ในมหา’ลัย พบหนังสือ “ปรัชญาชีวิต - ฌอง ปอล ซาร์ต” ของใครไม่รู้ตกอยู่ จึงหยิบขึ้นมาและมีโอกาสได้อ่านพ็อคเก็ตบุ๊คเป็นครั้งแรก อีกทั้งในวิชาจิตวิทยายังถูกอาจารย์บังคับให้อ่านหนังสือนอกเวลาเรื่อง “คำพิพากษา” อีก จากนั้นจึงหลงทางอยู่ในโลกของน้ำหมึกเรื่อยมา หลังจบการศึกษาเดินทางออกไปค้นหาตัวตนในหลายจังหวัดอยู่เกือบ 3 ปี เคยเป็นทั้งเด็กเสิร์ฟ ผู้จัดการร้านเบเกอรี่ อาสาสมัครเอ็นจีโอ จนถึงเลขาธิการสมาคมฯ แต่เมื่อไม่ได้รับคำตอบจึงตัดสินใจโทรไปถามพระเจ้า เขาตอบกลับมาว่า “ก็กูส่งมึงมาเป็นห่...อะไรล่ะ” จากนั้นจึงตัดสินใจลาออกจากงานมาขีดๆ เขียนๆ... ปลายปี 45 เดินทางกลับกรุงเทพฯ พยายามจะทำธุรกิจของตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนผันมาเป็นเซลส์ขายรถในช่วงสั้นๆ เรื่องสั้นเรื่องแรก “รักลอยลม” ตีพิมพ์ในนิตยสารสุดสัปดาห์ เมื่อปีพ.ศ. 2546 ปลายปีพ.ศ. 2547 เคยมีหนังสือรวมเรื่องสั้นออกมาแล้วสองเล่มในชื่อ “ตำนานสุดท้าย-ไอ้มดแดง” และ “วันพิพากษา” ปีพ.ศ. 2548 รวมเรื่องสั้น “ตำนานสุดท้าย-ไอ้มดแดง” เข้ารอบ 1 ใน 20 เล่มสุดท้ายของการประกวดรางวัลซีไรท์ประจำปี 2548 ปีพ.ศ. 2549 มีรวมเรื่องสั้นลำดับที่สามในชื่อ “นาฏกรรมเมืองหรรษา” ออกกับสำนักพิมพ์มติชน ปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระและยังคงลุ่มหลงมัวเมาในน้ำหมึกอยู่เรื่อยมา.

การศึกษา ปริญญานิเทศศาสตร์บัณฑิต สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ม.หอการค้าไทย ปริญญานิเทศศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

เกียรติประวัติ 1. เรื่องสั้น “มุมใหม่” ได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดรางวัล “mBook Contest สนุกคิด สนุกเขียน” โดยบ.โฟธอท จำกัด ร่วมกับ บ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (2547) 2. เรื่องสั้น “วูบ” ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งจากการประกวดเรื่องสั้นของนิตยสาร ’m fine ครั้งที่หนึ่ง (2548) 3. เรื่องสั้น “ทาส” ได้รับรางวัลเรื่องสั้นดีเด่นประจำปี 2548 จากเว็บไซต์ประพันธ์สาส์น (2548) 4. เรื่องสั้น “คือคำสารภาพ” ได้รับรางวัลจากการประกวดเรื่องสั้นโครงการ “เปลือย” ของสุดสัปดาห์สำนักพิมพ์ (2548) 5. เรื่องสั้น “รักลอยลม” ได้รับรางวัลจากการประกวดเรื่องสั้นโครงการ “เปลือย” ของสุดสัปดาห์สำนักพิมพ์ (2548) 6. เรื่องสั้น “รอยเดิม” ได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดเรื่องสั้นโครงการชีวจริยธรรมกับสังคม โดยมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (2548) 7. เรื่องสั้น “บัวห้าดอก” เป็น 1 ใน 20 เรื่องสุดท้ายของการประกวดเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์แนวสืบสวนสอบสวน รางวัล Nation Book Award ครั้งที่ 2 (2548) 8. เรื่องสั้น “รอยแยก” เป็น 1 ใน 12 เรื่องสุดท้ายของการประกวดรางวัลวรรณกรรมการเมืองพานแว่นฟ้าประจำปี 2548 9. เรื่องสั้น “คนรัก” ได้รับรางวัลเรื่องสั้นดีเด่นจากการประกวด “โครงการวรรณกรรม-วรรณศิลป์ ครั้งที่ 1” ของนิตยสารสกุลไทย (2549) 10. เรื่องสั้น “คำถาม” ได้รับรางวัลเรื่องสั้นดีเด่นจากการประกวด “โครงการวรรณกรรม-วรรณศิลป์ ครั้งที่ 1” ของนิตยสารสกุลไทย (2549) 11. เรื่องสั้น “นาฏกรรมริมฝั่งโขง” เป็นหนึ่งในผลงานจากการประกวดวรรณกรรมลุ่มน้ำโขง โดยเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา 12. เรื่องสั้น “เจตนารมณ์สุดท้ายของชายวิปลาส” (จากหนังสือรวมเรื่องสั้นตำนานสุดท้าย-ไอ้มดแดง) ได้รับการจัดทำเป็นละครเวทีโดยอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม และจัดแสดงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือทำมือและสื่อทางเลือกแห่งประเทศไทยครั้งที่ 3 ณ สวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2548 13. เรื่องสั้น “รอยแยก” เป็น 1 ใน 25 เรื่องสั้นยอดเยี่ยมรางวัลนายอินทร์อะวอร์ดครั้งที่ 7 ประจำปี พ.ศ. 2549 14. เรื่องสั้น “เรื่องกล้วยๆ และหลอดไฟของพ่อ” เป็น 1 ใน 25 เรื่องสั้นยอดเยี่ยมรางวัลนายอินทร์อะวอร์ดครั้งที่ 7 ประจำปีพ.ศ. 2549


ผลงานชิ้นแรกที่ได้รับการตีพิมพ์ชื่อ “รักลอยลม” เป็นผลงานประเภท เรื่องสั้น ตีพิมพ์ในนิตยสาร/วารสาร/หรือ ฯลฯ นิตยสารสุดสัปดาห์ (ม.ค.2546) ปัจจุบันประกอบอาชีพ นักเขียนอิสระ