ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง แต่ก่อนจะเป็นการจัดไตประทีปหรือการทำเรือไฟ (ไหลเรือไฟ)เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับงานลอยกระทง และการจัดขบวนแห่ "ต้นดอกเผิ่ง" (ต้นดอกเผิ่ง คือปราสาทผึ้ง) และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร หรือบุพการีผู้ล่วงลับ อาจกล่าวได้ว่าชาวอีสานได้รับอิทธิพลมาจากพิธีกงเต็กของชาวจีน แล้วนำมาประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมไทย

การทำปราสาทผึ้งนั้น เดิมทีทำโดยการนำกาบกล้วยมาแทงเป็นลวดลายต่างๆ เรียกกันว่า " แทงหยวกกล้วย" แล้วสร้างจนเป็นปราสาท จากนั้นนำขี้ผึ้งมาต้มให้เปื่อยแล้วทำให้เป็นแผ่น นำมาเสียบกับก้านกล้วยที่ทำลวดลายไว้แล้ว สุดท้ายประดับประดาให้สวยงาม เช่น นำกระดาษสา ผ้าเเพร ไม้ขีด ดินสอ มาติดเป็นศิลปะ แล้วเเห่ไปถวายวัด ต่อมาเมื่อมีการประกวดกันมากขึ้น จึงได้มีการนำหญิงสาวมานั่งบนปราสาทเพิ่มเข้ามา ในปัจจุบันการเเห่ปราสาทผึ้งได้กลายเป็นประเพณีสำคัญของชาวสกลนครไปในที่สุด โดยจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 12 - 15 ค่ำ เดือน11 ของทุกปี สำหรับวันขึ้น 14 ค่ำ จะเป็นวันแห่ขบวนปราสาทผึ้งที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม เริ่มตั้งเเต่เวลา 11.00 น. ขบวนปราสาทผึ้งที่ตกเเต่งอย่างวิจิตรสวยงามของคุ้มวัดต่างๆ จำนวนกว่า 20 คุ้ม จะเริ่มออกจากลานรวมใจไทสกล ในเขตเทศบาล แห่ไปตามถนนรฐพัฒนา เข้าสู่ถนนสุขเกษม เเละถนนเจริญเมือง มุ่งสู่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร โดยปราสาทผึ้งของเเต่ละขบวนจะนำมาตั้งไว้เป็นพุธบูชา ณ บริเวณวัดพระธาตุเชิงชุม ด้วยความศรัทธาของชาวอีสานที่เชื่อว่าในเทศกาลออกพรรษา พระพุทธเจ้าจะเสด็จมาจากชั้นดาวดึงส์ เพื่อมาโปรดเวนัยสัตว์ในโลกมนุษย์ให้พ้นทุกข์


โครง ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง เป็นบทความที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ