รูปวิธานพืชวงศ์กล้วยไม้
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กล้วยไม้เป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในกลุ่ม พืชใบเลี้ยงเดี่ยว (monocotyledon) เช่นเดียวกับ
หญ้า กล้วย อ้อย ขิง ข่า ตะไคร้
ในด้านวิชาการสาขาพฤกษศาสตร์ ใช้การจำแนกลักษณะของดอกเป็นหลักในการอธิบาย
ถ้าเรียงลำดับโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของดอกพืชในวงษ์ ลิลิอาซิอี(Family:LILIACE AE)หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่า ว่าน ชนิดต่างๆ เช่น ว่านนางกวัก ว่านนกคุ้ม พลับพลึง หาก ภาพรวมของดอกจากด้านหน้าจะพบว่า กลีบดอกทั้งหมด มีการเรียงตัวเป็นรัศมีวงกลม(rad ial symetry) มีกลีบนอก(sepal) 3 กลีบ กลีบใน(petal) 3 กลีบ ถ้าดูที่ฐาน กลีบ จะพบว่า แต่ละชุดเรียงตัวเป็นวงกลม 2 วง กลีบนอกกับกลีบในแต่ละกลีบวางสลับกัน มีเกสรตัวผู้ 6 ชุด เรียงลำดับเป็นวงๆ ละ 3 ชุดเช่นเดียวกับกลีบ
พืชอีกวงศ์หนึ่งคือ ซิงจิเบอราซิอี(Family:ZINGIBERACEAE) หรือพืชจำพวก ขิง ข่า
ปทุมมา เปราะ กระชาย กระทือ เป็นต้น ถ้าพิจารณาฐานดอก จะพบบว่า มีกลีบนอก 3 กลีบ กลีบใน 3 กลีบ เรียงกันเป็น 2 วง โดยมีฐานกลีบนอกกับกลีบในตั้งสลับกัน
ข้อแตกต่างไปจากพืชในวงศ์ลิลิอาซิอีก็คือหากมองภาพรวมจากด้านหน้าแทนที่จะเป็นวงกลม
ซึ่งถ้าลากเส้นแบ่งครึ่งจะพบว่ามีสมดุลรอบด้าน กลับพบว่า แบ่งได้เหมือนกันสองข้างเช่นเดียว กับหน้าคน ถ้าแบ่งด้านล่างกับด้านบนจะมีลักษณะต่างกัน(bilateral symetry)
เนื่องจากกลีบนอกด้านบนอิสระ อาจมีลักษณะเหมือนหรือไม่เหมือนกับอีกสองกลีบก็ได้ แต่
อีกสองกลีบซึ่งอยู่ด้านข้างหรือชี้ปลายลงด้านล่างมีลักษณะเหมือนกันเป็นคู่
ส่วนกลีบในซึ่งฐานกลีบสลับกับกลีบนอกเราจะพบว่าสองกลีบซึ่งอยู่ระหว่างกลีบนอกมีลักษณะ
เหมือนกันเป็นคู่ อีกกลีบหนึ่งมีลักษณะอิสระ ชี้ลงด้านล่าง หรือ ยื่นออกมาด้านหน้า เนื่องจากมี อิสระจึงต่างไปจากกลีบอื่นสิ้นเชิงทั้งรูปลักษณะและสี
เราจึงเรียกชื่อใหม่ว่า ปาก หรือ กระเป๋า (lipหรือlabellum) ดังนั้นปากหรือกระเป๋าก็คือ
กลีบในกลีบที่สามซึ่งวิวัฒนาการมาจากส่วนที่พบในดอกพืชวงศ์ลิลิอาซิอี นั่นเอง
อวัยวะเพศเมียยังคงมีรังไข่อยู่ส่วนใต้ของดอกซึ่งหมายถึงก้านดอกแต่ละก้านส่วนที่ต่อออกมา
จากศูนย์กลางของดอก ซึ่งหมายถึงก้านและยอดเกสรตัวเมีย กับก้านชุดเกสรตัวผู้ คงเหลือชุด เกสรตัวผู้ชุดเดียว ส่วนยอดเกสรตัวเมียซึ่งได้รับการผสม คงอยู่ใกล้ๆกัน มีกานซึ่งหากมองจาก ด้านนอก คล้ายรวมเป็นอันเดียวกัน โดยมีโคนต่อขึ้นมาจากรังไข่ ก้านนี้เราเรียกว่า เส้าเกสร (column)
แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ลึกถึงด้านในจะพบว่า ก้านของยอดเกสรตัวเมียกับก้านชุดเกสรตัวผู้ยังคงแยก
กัน เพียงแต่ก้านชุดเกสรตัวผู้สอดอยู่ในโพรงของก้านเกสรตัวเมียซึ่งมีลักษณะคล้ายหลอด
พืชในวงศ์ ออร์คิเดซิอี(Family:ORCHIDACEAE)หรือวงศ์กล้วยไม้มีโครงสร้างลักษณะคล้าย
พืชวงศ์ซิงจิเบอราซิอีมาก หากขาดประสบการณ์เมื่อพบดอกพืชในวงศ์ซิงจิเบอราซิอีบางชนิดอาจ คิดว่าเป็นกล้วยไม้ดินก็ได้
ถ้านำเอาข้อแตกต่างในรายละเอียด พืชในวงศ์คิเดซิอีมีเส้าเกสรซึ่งประกอบขึ้นจากก้านของยอด
เกสรตัวเมียกับก้านชุดเกสรตัวผู้หรือที่เรียกว่าเส้าเกสรรวมเป็นเนื้อเดียวกัน หาได้มีไส้ในแยกันเช่น ที่พบในวงศ์ซิงจิเบอราซิอีไม่
นอกจากนั้น ในกรอบพืชวงศ์ดิเดซิอียังมีวิวัฒนาการสำคัญอีกสองขั้นตอนคือ ในดอกของพืชวงศ์
ลิลิอาซิอี มีเกสรตัวผู้ 6 ชุด มาถึงกล้วยไม้ในกลุ่ม รองเท้านารี(Diandrae)เหลือชุดเกสรตัวผู้ 2 ชุดติดอยู่สองข้างของเส้าเกสรซึ่งมีลักษณะล่ำสันแข็งแรงมาก
ถัดมาถึงกล้วยไม้สกุลและชนิดอื่นๆ(Monandrae) ซึ่งพบกันทั่วๆไปเหลือชุดเกสรตัวผู้ชุดเดียว
แต่ภายในชุดมีการแบ่งเป็นสองซีก อยู่รวมกันบนส่วนปลายขอบเส้าเกสรอันเดียวกัน แต่มีส่วนแบ่ง แยกไว้ไม่ให้ผสมกันเองได้ง่าย