บิลลี ฮอลิเดย์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บิลลี ฮอลิเดย์ | ||
---|---|---|
![]() บิลลี ฮอลิเดย์ ในปี 1943
|
||
ข้อมูลพื้นฐาน | ||
ชื่อจริง | Eleanora Fagan | |
ฉายา | Lady Day | |
วันเกิด | 7 เมษายน ค.ศ. 1915 | |
แหล่งกำเนิด | บัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย มลรัฐเพนซิลเวเนีย | |
วันที่เสียชีวิต | 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1959 (อายุ 44 ปี) | |
แนวเพลง | แจ๊ซ, สวิง, บลูส์ | |
อาชีพ | นักร้อง | |
ปี | ค.ศ. 1933 - 1959 | |
ค่าย | Columbia (1933-1942, 1958) Commodore (1939, 1944) |
|
เว็บไซต์ | เว็บทางการ |
บิลลี ฮอลิเดย์ (Billie Holiday) (7 เมษายน ค.ศ. 1915 - 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1959) นักร้องผิวสีชาวอเมริกัน เจ้าของฉายา เลดี้เดย์ (Lady Day) เป็นนักร้องเพลงแจ๊ซ สวิงและบลูส์ที่มีน้ำเสียงและวิธีการร้องที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยน้ำเสียงแหบหยาบ หม่นเศร้า ประกอบกับเพลงส่วนใหญ่ที่เธอเลือกร้อง มักมีเนื้อหาเกี่ยวกับความผิดหวัง เศร้าหมอง ขมขื่น สอดคล้องกับชีวิตจริงของเธอเอง
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
[แก้] เริ่มต้น
บิลลี ฮอลิเดย์ มีชื่อจริงว่า เอเลนอรา เฟแกน เป็นลูกนอกสมรสของนักดนตรีแบนโจชื่อ คลาเรนซ์ ฮอลิเดย์ (Clarence Holiday) วัย 15 ปี กับ ซาดี เฟแกน (Sadie Fagan) วัย 13 ปี
เธอเกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1915 ที่บัลติมอร์ ฟิลาเดลเฟีย มลรัฐเพนซิลเวเนีย พ่อของเธอทิ้งให้สองแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง ส่วนตัวไปทำงานเป็นนักดนตรีอยู่ที่นิวยอร์ก เมื่อเธอเริ่มโตขึ้น แม่ก็ทิ้งให้อยู่กับญาติ ส่วนตัวก็ไปหางานทำต่างเมือง เอเลนอราถูกข่มขืน ในวัยเพียง 11 ปี โดยเพื่อนบ้าน และถูกส่งเข้าโรงเรียนคาธอลิกในบัลติมอร์ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ (หนังสือบางเล่ม กล่าวว่า เป็นโรงเรียนดัดสันดาน)
ซาดี และเอเลนอรา ย้ายไปนิวยอร์ก เมื่อ ค.ศ. 1928 ณ ที่นั้น เธอเริ่มใช้ชีวิตอย่างเหลวแหลกอยู่ตามซ่องโสเภณี ถูกจับด้วยข้อหาคนจรจัด ติดคุกอยู่ระยะหนึ่ง เมื่อออกจากคุก จึงเริ่มอาชีพนักร้อง ตระเวนร้องตามบาร์ ใช้ชื่อว่า บิลลี ฮอลิเดย์ โดย บิลลี มาจากชื่อนักแสดงที่เธอชื่นชม ชื่อ บิลลี โดฟ และ ฮอลิเดย์ มาจากนามสกุลของพ่อ
เธอร้องเพลงโดยได้แบบอย่างและลีลาการร้องมาจาก เบสซี สมิธ และการเปล่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ หลุยส์ อาร์มสตรอง นักร้องที่เธอได้ฟังจากแผ่นเสียง ขณะใช้ชีวิตอยู่ในซ่องโสเภณี และชื่นชมมาก
การร้องเพลงของบิลลี ฮอลิเดย์ สะดุดตาโปรดิวเซอร์ชื่อ จอห์น แฮมมอนด์ ซึ่งเป็นผู้ชักนำให้เธอเข้าสู่วงการ เธอเริ่มอัดแผ่นเสียงเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1933 กับวงดนตรีของเบนนี กูดแมน เธอมีชื่อเสียงมากขึ้นและได้ร่วมงานกับเคาท์ เบซี เมื่อ ค.ศ. 1937
[แก้] Strange Fruit
ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุด ของเธอ เป็นผลงานชื่อเพลง Strange Fruit จากบทกวีของ เอเบล มีโรโปล (Abel Meeropol) ซึ่งสะท้อนเหตุการณ์การเหยียดผิว และความรุนแรงในสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น มีชาวผิวขาวรุมทำร้ายชาวผิวดำ และนำศพไปแขวนกับต้นไม้
มีโรโปล ใช้นามแฝงว่า ลิวอิส อัลเลน (Lewis Allen) เปรียบเทียบคนผิวดำที่ถูกแขวนคอกับกิ่งไม้ ว่าเป็นผลไม้หน้าตาประหลาด ที่เลือดไหลเปรอะไปทั่วกิ่งใบ จนถึงรากไม้
เธอชื่นชอบเพลงนี้ และนำไปเสนอต่อต้นสังกัด คือ โคลัมเบีย ว่าจะบันทึกเสียงเพลงนี้ แต่ต้นสังกัดปฏิเสธ เนื่องจากความรุนแรงของเนื้อหา เธอจึงหันไปบันทึกเสียงกับค่าย คอมมอดอร์ เมื่อ ค.ศ. 1939 และบันทึกอีกครั้งเมื่อ ค.ศ. 1944
เพลง Strange Fruit นับเป็นเพลงที่อื้อฉาวที่สุดของเธอ แฟนเพลงจำนวนมากไม่พอใจที่เธอนำเพลงนี้มาร้อง ในระยะแรกเพลงถึงกับถูกห้ามออกอากาศทางสถานีวิทยุ แต่ที่สุดแล้ว เพลงนี้ก็ผลักดันได้เธอก้าวสู่ความเป็นนักร้องชั้นนำ และเป็นเพลงที่มีชื่อเสียงที่สุดของเธอ
- Frankie Newton, ทรัมเป็ต
- Tab Smith, อัลโตแซกโซโฟน
- Stanley Payne, Kenneth Hollon, เทเนอร์แซกโซโฟน
- Sonnie White, เปียโน
- Jimmy McLin, กีตาร์
- Johnny Williams, ดับเบิลเบส
- Eddir Dougherty, กลองชุด
[แก้] บั้นปลาย
ช่วงทศวรรษ 1940 บิลลี ฮอลิเดย์ มีชีวิตที่ผกผัน เธอติดเหล้าและยาเสพติด มีชีวิตแต่งงานและความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ถูกจับด้วยข้อหายาเสพติด และต้องเข้าไปอยู่ในสถานกักกันนานถึงแปดเดือน ในปี ค.ศ. 1947
ช่วงทศวรรษ 1950 เธอยังคงเสพยา และติดเหล้าอย่างหนัก เธอแต่งงานใหม่กับมาเฟียชื่อ หลุยส์ แมคเคย์ แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์กับชายมากมาย เสียงเธอเริ่มแหบหยาบ แต่ก็ยังผลิตผลงานออกมามากมาย รวมทั้งจัดการแสดงสดในยุโรปในปี 1954 และ 1958-59
เธอป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคตับ ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือนพฤษภาคม 1959 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1959 อายุ 44 ปี ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว
[แก้] มีเดีย
- I'm a Fool to Want You (file info) - (ต้นฉบับจาก en:วิกิพีเดีย) — เปิดฟัง
- จากอัลบั้ม Lady in Satin, 1958; ออเคสตรา โดย Ray Ellis
- That Ol' Devil Called Love (file info) - (ต้นฉบับจาก fr:วิกิพีเดีย) — เปิดฟัง
- หากไม่ได้ยินเสียง โปรดดูเพิ่มที่ media help.
เพลงอื่นๆ ของบิลลี ฮอลิเดย์:
- Sophisticated Lady (ดุค เอลลิงตัน)[1]
- Miss Brown to you[2]
- Summertime (จอร์จ เกิร์ชวิน และไอรา เกิร์ชวิน) [3]
- Strange Fruit[4]
- I'm Pulling Through[5]
- If I were you[6]
- You go to my head[7]
- Body and Soul[8]
- The Man I Love (จอร์จ เกิร์ชวิน และไอรา เกิร์ชวิน)[9]
- Billies Blues[10]
[แก้] ผลงาน
![]() |
[แก้] อ้างอิง
- Billie Holiday เสียงแห่งความปวดร้าว
- ประวัติจาก yahoo.com
- ปราบดา หยุ่น, บิลลี ฮอลิเดย์ : การมอดไหม้ที่ไพเราะของผลไม้ประหลาด, นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 265 มีนาคม 2550, ISSN 0857-1538
- ฮารูกิ มูราคามิ, Billie Holiday : Murakami (Billie Holiday กับคืนที่ฉ่ำฝน) แปลโดย Ikebana, นิตยสาร Jazz Life ฉบับที่ 1, มกราคม 2550, ISBN 978-974-88176-1-3
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น