ปลิง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปลิง จัดอยู่ในประเภทเดียวกับสัตว์เลื้อยคลาน ลำตัวยืดหยุ่น ชอบอยู่ในน้ำนิ่งตามหนองหรือลำธาร ดำรงชีพโดยการดูดเลือดสัตว์รวมทั้งมนุษย์เป็นอาหาร
สารบัญ |
[แก้] ประเภท
อาจจำแนกออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
- ปลิงควาย (Hirudinaria manillensis) พวกนี้ชอบอยู่ในปลักควาย ตัวสีเขียวคล้ำ มีลายเป็นขีดสีดำตามลำตัว มีลายขวางสีเหลืองส้ม เมื่อเวลายืดตัวจะยาวประมาณ 6 นิ้ว หรือมากกว่านี้ และสามารถหดตัวให้เหลือเพียง 2 นิ้ว พวกนี้ว่ายน้ำได้เร็วมาก มันจะดูเลือดได้ 10 มิลลิลิตร และอิ่มในเวลาประมาณ 10 นาที Boynton (1913) พบว่าปลิงชนิดนี้เป็นพาหะนำโรครินเดอร์เพสต์ (Rinderpest) ซึ่งเกิดกับพวกวัวควาย
- ปลิงพวก (Limnatis species) จะเข้าทาง ตา รูจมูก หรือปากได้ ในขณะที่คนดื่มน้ำหรือล้างหน้าในลำธารที่มีปลิงอยู่ และจะเข้าสู่หลอดคอ หลอดอาหารหรือหลอดลมได้อย่างรวดเร็ว อาการที่เกิดขึ้น คือ มีเลือดกำเดาออก ไอหรืออาเจียนเป็นเลือด ทำให้เสียเลือดมาก ถ้าอยู่ในโพรงจมูกอาจทำให้ปวดศีรษะเป็นเวลานาน ถ้าอยู่ในกล่องเสียงทำให้ไอเป็นเลือด เจ็บ ปวด หายใจไม่ออก ถ้าอยู่ที่บริเวณ Epiglottis จะทำให้กลืนลำบาก นอกจากนี้ยังอาจเข้าไปทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือหลอดปัสสาวะของคนที่ลงอาบน้ำในลำธารได้ พวกที่ตัวใหญ่อาจเกาะและดูดเลือดตามผิวหนังขณะที่เราลงอาบน้ำ
[แก้] การรักษา
ถ้าปลิงเข้าไปอยู่ในทางเดินหายใจช่วงบน ใช้ Cocaine พ่นเข้าไป และพยายามเอาปลิงออกโดยใช้ปากคีบ แต่ถ้าอยู่ลึกลงไปไม่ควรใช้ Cocaine แต่ควรใช้ปากคีบชนิดยาวเข้าไปคีบปลิงออกมาโดยใช้ส่องดูด้วย Laryngoscope ถ้าจำเป็นควรเจาะคอช่วยหายใจด้วย ถ้าปลิงอยู่ในหลอดอาหารใช้ Cocaine พ่นได้และใช้ Oesophagoscope ช่วยด้วย สำหรับปลิงที่เข้าไปทางหลอดปัสสาวะหรืออวัยวะสืบพันธุ์ ควรชะล้างโดยใช้น้ำเกลืออย่างเข้ม
[แก้] การป้องกัน
ควรสวมเสื้อผ้าให้รัดกุม ถ้าจะต้องไปตามบริเวณหนองน้ำ หรือลำธารที่มีปลิงอยู่ควรใช้ยาทากันแมลง (repellent) เช่น Dimethyl Phthalate ใช้ทาตามตัว นอกจากนี้การดื่มน้ำตามหนองน้ำหรือลำธาร ต้องระวังอย่างยิ่ง ควรจะดื่มน้ำที่กรองหรือต้มแล้ว เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนและมีฝนตกชุกอากาศชื้นแฉะ จึงพบว่ามีปลิงและทากอยู่มากในบางท้องที่ นอกจากจะมีรายงานประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับการมีปลิงเข้าไปทางปากทางจมูกหรือหลอดปัสสาวะแล้ว สำหรับประเทศไทยเคยมีรายงานเกี่ยวกับการที่ปลิงทำให้ลำไส้ทะลุและเยื่อบุช่องท้องอักเสบในเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งได้ลงไปเล่นในน้ำในท้องนาเมื่อกลับถึงบ้านปรากฏว่ามีเลือดออกมาทางบริเวณทวารหนักจึงเข้าใจว่าถูกปลิงกัด ต่อมาเด็กรู้สึกเจ็บในท้อง ท้องอืดรับประทานอาหารไม่ได้และมีไข้ จึงได้นำส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายและในที่สุดได้ทำการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง พบเลือดเก่าๆ อยู่ในช่องท้องประมาณ 100 ลบ.ซม. และพบว่าบริเวณลำไส้ใหญ่เหนือรอยพับของเยื่อบุช่องท้องประมาณ 2 นิ้ว มีก้อนเลือดติดอยู่ เมื่อนำก้อนเลือดออกมากจึงพบว่าบริเวณนั้นมีรอยทะลุ นอกจากนี้ยังพบรอยจ้ำ ๆ คล้ายห้อเลือดตามลำไส้เล็กอีกหลายแห่ง และพบปลิงนอนตายอยู่ที่บริเวณส่วนโค้งของลำไส้ใหญ่ใต้ม้าม นอกจากนี้มีรายงานว่าปลิงเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะและทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วขึ้นได้ภายหลังในผู้ป่วยอีกรายหนึ่ง
จะเห็นได้ว่าปลิงและทากนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่พวกที่ทำงานตามท้องนาเป็นส่วนใหญ่ ในบางแห่งจึงเรียกโรคที่เกิดจากการถูกปลิงหรือทากกัดนี้ว่า "โรคซึ่งเกิดจากการประกอบอาชีพ" (Occupational Disease)