สด จิตรลดา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อจริง | เชาวลิต วงศ์เจริญ | |
วันเกิด | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 | |
สถานที่เกิด | จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย | |
รุ่น | ฟลายเวท | |
ผู้จัดการ | สหสมภพ ศรีสมวงศ์ | |
เทรนเนอร์ | สุดใจ สัพพะเลข ชาร์ลส์ แอตกินสัน |
|
สถิติ | ||
ชก | 29 | |
ชนะ | 23 | |
ชนะน็อก | 14 | |
แพ้ | 4 | |
เสมอ | 1 |
สด จิตรลดา ชื่อจริงว่า เชาวลิต วงศ์เจริญ เป็นแชมป์โลกชาวไทยคนที่ 8 โดยเป็นแชมป์ในรุ่นฟลายเวท (112 ปอนด์) ของสภามวยโลก WBC เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี สด จิตรลดา มีสถิติการชกทั้งหมด 29 ครั้ง ชนะ 23 ครั้ง แพ้ 4 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง (ชนะน็อก 14 ครั้ง)
[แก้] ประวัติ
สด จิตรลดา เป็นชาวมุสลิมโดยกำเนิด จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นับว่าเป็นนักมวยเพียงไม่กี่คนที่จบการศึกษาถึงขั้นนี้ ปัจจุบันสด ทำงานอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทการบินไทย
[แก้] ประวัติการชกมวย
สด จิตรลดา เริ่มชีวิตการชกมวยจากการชกมวยไทยโดยใช้ชื่อว่า " เชาวลิต ศิษย์พระพรหม " มีประวัติการชกมวยไทยอย่างโชกโชน ก่อนเบนเข็มมาชกมวยสากลอาชีพ สด เคยชกมวยสากลสมัครเล่นมาก่อน และเคยครองแชมป์ประเทศไทยในรุ่นฟลายเวทด้วยในปี พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดขอนแก่น
ชื่อของ สด จิตรลดา มาจากการตั้งชื่อผู้จัดการ " บึ๊งอึ่ง " สหสมภพ ศรีสมวงศ์ (ชื่อเดิม สมภพ ศรีสมวงศ์ -ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว) โดยขณะนั้น สหสมภพ กำลังปั้นนักมวยคนหนึ่งชื่อ มันส์ ส.จิตรพัฒนา และชื่อของมันส์ ติดอยู่ในอันดับของสภามวยโลก แต่ มันส์ ชกแพ้อดีตแชมป์โลก เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ เข้า ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนเริ่มไม่มั่นใจในฝีมือ ประกอบกับมันส์จะเลิกชกมวยไป แต่ชื่อยังคงติดอันดับโลกอยู่
สหสมภพที่ได้ตัว เชาวลิต ศิษย์พระพรหม มาจึงสวมชื่อ มันส์ ลงไป เเละได้เปลี่ยนชื่อหลังจาก ส.จิตรพัฒนา เป็น ส.จิตรลดาแทน กลายเป็น มันส์ ส.จิตรลดา และต่อมาชื่อนี้ จากการจัดอันดับของ WBC ได้เปลี่ยนไปเหลือเพียง ส.จิตรลดา ทางฝ่ายผู้สนับสนุนจึงขอเปลี่ยนอีกทีเป็น สด จิตรลดา ในที่สุด
สด จิตรลดาชกมวยสากลอาชีพเพียง 3 ครั้ง ก็มีชื่อติดอันดับของรุ่นไลท์ฟลายเวท WBC และได้รับการติดต่อจาก " ไอ้เหยี่ยว " ชาง จูง กู แชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ ให้ชิงแชมป์โลก ในการชกครั้งนี้ สด จิตรลดา ที่มีสถิติการชกเพียงไม่กี่ครั้ง กลับชกได้ดีกว่าแชมป์โลกมากประสบการณ์อย่าง ชาง จุง กู โดยเดินไล่ถล่มในยกสุดท้ายจนหน้าตาแตกและเทะ กรรมการจึงถ่วงเวลาแกล้งล้มขาแพลงบนเวที ทำให้รอดพ้นการโดนสดน็อคเอ๊าท์ไปอย่างหวุดหวิด แม้ผลคะแนนออกมาจะแพ้ไปก็ตาม แต่ก็ได้สร้างความมั่นใจต่อกลุ่มผู้สนับสนุนว่า มีโอกาสจะประสบความสำเร็จในการชกมวยสากลอาชีพได้ จากนั้นการสนับสนุน สด จิตรลดา อย่างจริงจังจึงได้เริ่มขึ้น
ภายหลังจากการอุ่นเครื่องสร้างประสบการณ์อีก 2 ครั้ง สด จิตรลดา จึงได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งในรุ่นฟลายเวท สภามวยโลก WBC จาก กาเบรียล เบอร์นัล นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งคราวนี้ สดทำได้ โดยชนะคะแนน 12 ยกไป
สด จิตรลดา นับว่าเป็นนักมวยแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยอีกคนหนึ่ง เป็นมวยชกสนุก มีลีลาฟุตเวิร์คสวยงาม หมัดแย๊ปคม กล้าแลกกล้าชนแม้หมัดจะไม่หนักก็ตาม แต่ก็ถือว่าชนะใจคนดู ระหว่างเป็นแชมป์โลก สดได้เดินทางไปต่างประเทศชกป้องกันตำแหน่งหลายครั้ง ได้แก่ อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จาไมก้า และกลางทะเลทรายในประเทศคูเวต เกือบทุกครั้งจบลงด้วยความสวยสดงดงาม และด้วยในยุคนั้นที่กีฬามวยสากลอาชีพเฟื่องฟูสุดขีด เมืองไทยมีแชมป์โลกพร้อมกันถึง 3 คน คือ สด จิตรลดา เขาทราย แกแล็คซี่ และสามารถ พยัคฆ์อรุณ
การชกมวยสากลอาชีพในสมัยนั้น พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการชก และมอบเข็ดขัดด้วยตัวท่านเอง พลเอกเปรมจะพูดคุยกับนักมวยอย่างเป็นกันเองเหมือนพ่อ ลูก และจะมีคำถามหลังการชกซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่า " เจ็บไหมลูก "
สด จิตรลดา ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 6 ครั้ง และได้เสียตำแหน่งแก่ คิม ยอง กัง นักมวยเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แต่ในปีต่อมา สดได้มีโอกาสแก้มืออีกครั้ง และสามารถเอาชนะไปได้ จึงกลายเป็นแชมป์โลก 2 สมัย
ในเวลาต่อมา สด ได้มีโอกาสป้องกันตำแหน่งกับนักมวยรุ่นน้อง ซึ่งเป็นถึงอดีตแชมป์โลกเช่นเดียวกัน คือ เมืองชัย กิตติเกษม ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า สดน่าจะเอาชนะเมืองชัยได้ไม่ยาก ด้วยประสบการณ์และฝีมือที่เหนือกว่า แต่เนื่องจากสดเป็นมวยที่เก่ง หาคู่ชกด้วยยาก นาน ๆ ถึงได้ขึ้นชกที จึงเรื้อเวที ทำให้เมื่อได้ชกกันจริงแล้ว สดกลับเป็นฝ่ายแพ้น็อกไป และเมื่อมีการแก้มืออีกครั้งก็แพ้ไปในแบบเดิมอีก เพราะสภาพร่างกายของสด ไม่สดดังชื่ออีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตา ซึ่งมีปัญหามานาน สด จิตรลดา จึงได้แขวนนวมไปภายหลังการชกครั้งที่สองกับเมืองชัย กิตติเกษม นั่นเอง
ภายหลังการแขวนนวม สดได้เปิดกิจการห้องอาหารใช้ชื่อว่า " ครัวสด " แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเขตคลองเตย (ส.ข.)ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้รับการเลือกตั้ง
[แก้] สถิติการชกของสด จิตรลดา
- ชนะน็อกยก 4 ศรีธัญญา ศิษย์เสน่ห์ ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 5 ธันวาคม พ.ศ. 2526
- ชนะคะแนน 6 ยก สุริยะ ปทุมวดี ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 23 มกราคม พ.ศ. 2526
- ชนะน็อกยก 3 นิพนธ์ยุทธ ศักดิ์อาดัม ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 18 ธันวาคม พ.ศ. 2526
- ชนะน็อกยก 2 เจ้าเณรน้อย จอมคาถา ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 30 มกราคม พ.ศ. 2526
- ชิงแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวท WBC แพ้คะแนน 12 ยก ชาง จุง กู ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ : 31 มีนาคม พ.ศ. 2527
- ชนะน็อกยก 7 วิค เพนแกรม นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2527
- ชนะน็อกยก 7 รูดี้ พาลิเกา นักมวยฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : ไม่ทราบวัน เดือน พ.ศ. 2527
- ชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC ชนะคะแนน 12 ยก กาเบรียล เบอร์นัล นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ : 22 มิถุนายน พ.ศ. 2527
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1 ชนะน็อกยก 5 ชาร์ลี แม็กกรี นักมวยชาวอังกฤษ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ : 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 เสมอ 12 ยก กาเบรียล เบอร์นัล นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ : 22 มิถุนายน พ.ศ. 2528
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 3 ชนะคะแนน 12 ยก เฟร็ดดี้ คัสติญโญ่ นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่เมืองอัล อาราบี ประเทศคูเวต : 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529
- ชกนอกรอบชนะน็อกยก 9 แช มุน จิน นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่เวทีมวยชั่วคราวสวนสยาม กรุงเทพ ฯ : 30 สิงหาคม พ.ศ. 2529
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 4 ชนะคะแนน 12 ยก กาเบรียล เบอร์นัล นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก : 10 ธันวาคม พ.ศ. 2529
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 5 ชนะน็อกยก 5 เร กิ อันห์ นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก : 5 กันยายน พ.ศ. 2530
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 6 ชนะน็อกยก 8 ฮิเดอากิ คามิชิโร่ นักมวยชาวญี่ปุ่น ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น : 31 มกราคม พ.ศ. 2531
- เสียแชมป์โลกแพ้คะแนน 12 ยก คิม ยอง กัง นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่เมืองโปฮัง ประเทศเกาหลีใต้ : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531
- ชนะน็อกยก 8 รอนนี่ เบอร์ลาโน่ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยราชดำเนิน : 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531
- ชนะทีเคโอยก 9 เนลสัน คาบิ๊ก นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยลุมพินี : 30 ธันวาคม พ.ศ. 2531
- ชนะน็อกยก 6 บอย เซลโรดา นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยลุมพินี : 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532
- ครองแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC สมัยที่ 2 ชนะคะแนน 12 ยก คิม ยอง กัง นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่เวทีมวยชั่วคราว จังหวัดตรัง : 3 มิถุนายน พ.ศ. 2532
- ชนะคะแนน 10 ยก เวลจี้ ลิโอโนร่า นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยราชดำเนิน : 27 กันยายน พ.ศ. 2532
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1 สมัยที่ 2 ชนะคะแนน 12 ยก ริค ซีโอโดร่า นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยลุมพินี : 30 มกราคม พ.ศ. 2533
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 สมัยที่ 2 ชนะคะแนน 12 ยก คาร์ลอส กาเบรียล ซาลาซ่าร์ นักมวยชาวอาร์เจนติน่า ที่สนามกีฬากองทัพบก : 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2533
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 3 สมัยที่ 2 ชนะน็อกยก 11 ริชาร์ด ' ชริมปี้ ' คลาร์ก นักมวยชาวจาไมก้า ที่กรุงคิงสตัน ประเทศจาไมก้า : 7 กันยายน พ.ศ. 2533
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 4 สมัยที่ 2 ชนะคะแนน 12 ยก ชาง จุง กู นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ : 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533
- เสียแชมป์โลกสมัยที่ 2 แพ้ทีเคโอยก 6 เมืองชัย กิตติเกษม ที่เวทีมวยชั่วคราว จังหวัดอยุธยา : 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534
- ชนะน็อกยก 6 ปาร์ค ชอง พิล นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2534
- ชนะน็อกยก 5 ทาโรน่า มาลูส นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่เวทีมวยช่อง 7 สี : 28 สิงหาคม พ.ศ. 2534
- ชิงแชมป์โลกฟลายเวท WBC แพ้ทีเคโอยก 9 เมืองชัย กิตติเกษม ที่เวทีมวยชั่วคราว ฟาร์มจระเข้ สมุทรปราการ : 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535
รวมสถิติการชกทั้งหมด 29 ครั้ง ชนะ 23 ครั้ง แพ้ 4 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง (ชนะน็อก 14 ครั้ง)