พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี (พ.ศ. 2435 - พ.ศ. 2494) อดีตพระคู่หมั้นในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าหญิงวรรณวิมล วรวรรณ เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมอินทร์ วรวรรณ มีพระนามเรียกกันในหมู่พระญาติว่า “เตอะ” หรือ “ขาว”
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่แก่พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ในวันที่ 21 ตุลาคม 2463 ดังนี้
- หม่อมเจ้าหญิงวรรณวิมล พระราชทานนามว่า หม่อมเจ้าหญิงวัลลภาเทวี
- หม่อมเจ้าหญิงวิมลวรรณ พระราชทานนามว่า หม่อมเจ้าหญิงวรรณีศรีสมร
- หม่อมเจ้าหญิงพิมลวรรณ พระราชทานนามว่า หม่อมเจ้าหญิงนันทนามารศรี
- หม่อมเจ้าหญิงวรรณพิมล พระราชทานนามว่า หม่อมเจ้าหญิงลักษมีลาวัณ
- หม่อมเจ้าหญิงวัลลีวรินทร์ พระราชทานนามว่า หม่อมเจ้าหญิงศรีสอางค์นฤมล
หม่อมเจ้าหญิงวัลลภาเทวี ทรงเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นครั้งแรก ที่ห้องทรงไพ่บริดจ์ ในงานประกวดภาพเขียน ณ โรงละครวังพญาไท ทรงสถาปนาหม่อมเจ้าวัลลภาเทวี ขึ้นเป็น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระคู่หมั้น เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 พร้อมพระราชทานตราปฐมจุลจอมเกล้า และมีพระบรมราชโองการว่า
- พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสถิต ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณอันเป็นมหินทรสมาคมแห่งองคมนตรี มีทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ เสนาบดีมุขมนตรี เสนามาตย์ราชเสวก ชุมนุมเฝ้าเบื้องพระยุคลบาท ทรงพระราชปรารภถึงการที่จะได้กระทำพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในภายหน้าและเวลานี้ได้ทำพระราชพิธีหมั้นแล้ว เป็นการสมควรที่จะให้เป็นไปตามเหตุการณ์นี้ชั้นหนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมเจ้าหญิงวัลลภาเทวีเป็น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ตั้งแต่นี้สืบไป ขอให้เจริญทฤฆชนมายุ พรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ อิสสริยยศศักดิ์เดชานุภาพมโหฬาร รับราชการฉลองพระเดชพระคุณ โดยสมควรแก่ความเป็นในพระบรมราชตระกูลอันสูงศักดิ์ในพระบรมราชวงศ์นี้ทุกประการ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระวรกัญญาปทาน ทรงย้ายไปประทับที่ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ในขณะที่พระองค์เองทรงประทับอยู่ที่วังพญาไท ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทรงร่วมแสดงละคร และงานพระราชพิธี ร่วมกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งร่วมแสดงละครเรื่องศกุนตลา และ โพงพาง [1]
พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทรงมีความคิดที่ล้ำสมัยสตรีไทยในยุคนั้น และเป็นเหตุให้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกริ้ว ทรงถอนหมั้น เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2464 และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ออกพระนามว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทรงถูกจำกัดบริเวณให้ประทับอยู่แต่ในพระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งรัชกาล [2]
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สวรรคต เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี จึงได้เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานวังที่ประทับให้ อยู่บริเวณสี่แยกพิชัย ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ พระบิดาของพระองค์ท่าน ประทานชื่อว่า พระกรุณานิวาศน์ ทรงประทับอยู่ที่พระกรุณานิวาศน์ จนสิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ. 2494
[แก้] อ้างอิง
- พิมาน แจ่มจรัส, รักในราชสำนัก, โอเดียนการพิมพ์, 2510 ISBN 974-341-064-3
- ↑ http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=1146&stissueid=2465&stcolcatid=2&stauthorid=105
- ↑ http://www.siamchronicle.com/news/view_article.html?article_id=0906cc160bb4207f5b13004a41bfdb34
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
![]() |
พระมเหสี พระสนมเอก และ พระคู่หมั้น ใน รัชกาลที่ ๖ |
---|
พระวรราชชายา | สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา |
พระวรราชเทวี | พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี |
พระนางเธอ | พระนางเธอลักษมีลาวัณ |
พระสนม | พระสุจริตสุดา |
พระคู่หมั้น | พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี |