ไดคลอโรมีเทน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Dichloromethane | |
---|---|
![]() |
|
General | |
Systematic name | ไดคลอโรมีเทน |
Other names | เมทิลีนคลอไรด์ DCM |
สูตรโมเลกุล | CH2Cl2 |
SMILES | C(Cl)Cl |
มวลโมเลกุล | 84.93 g/mol |
ลักษณะภายนอก | ของเหลวไม่มีสี |
CAS number | [75-09-2] |
สมบัติ | |
ความหนาแน่น and สถานะ | 1.3255 g/cm3, liquid |
Solubility in water | 1.3 g/100 mL (20 °C) |
other solvents | Infinitely miscible with most organic solvents |
จุดหลอมเหลว | −96.7 °C (175.7 K) |
จุดเดือด | 39.8 °C (312.8 K) |
ความดันไอ | 6.83 psi @ 20ºC |
ความหนืด | 0.44 cP at 20 °C |
พิษภัย | |
MSDS | External MSDS |
พิษภัยหลัก | อันตรายมาก (Xn) |
NFPA 704 | แม่แบบ:NFPA 704 |
จุดวาบไฟ | ไม่มี |
R/S statement | R: 40 S: 23/24/25/36/37 |
RTECS number | PA8050000 |
Supplementary data page | |
Structure and properties |
n (1.424) εr, etc. |
Thermodynamic data |
Phase behaviour ของแข็ง, ของเหลว, แก๊ส |
Spectral data | UV, IR, NMR, MS |
สารประกอบที่เกี่ยวข้อง | |
สารประกอบคลอโรมีเทนที่เกี่ยวข้อง | คลอโรมีเทน คลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตระคลอไรด์ |
เว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น ข้อมูลที่ให้ไว้นี้ |
ไดคลอโรมีเทน (Dichloromethane) หรือ เมทิลีนคลอไรด์ (Methylene chloride) คือ สารประกอบชนิดหนึ่ง มีสูตรเป็น CH2Cl2 เป็นของเหลวไม่มีสี ระเหยได้ง่าย มีกลิ่นหอม มักใช้เป็นตัวทำละลาย เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าเป็นสารประกอบคลอโรคาร์บอนที่มีอันตรายน้อยที่สุดชนิดหนึ่ง
การเตรียมไดคลอโรมีเทนสามารถทำได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1840 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศสชื่อว่า อองรี วิกเตอร์ เรโญลต์ (Henri Victor Regnault) โดยแยกไดคลอโรมีเทนออกจากของผสมของคลอโรมีเทนกับคลอรีนระหว่างที่ถูกแสงอาทิตย์
[แก้] ปฏิกิริยาและผลิตภัณฑ์
ในทางอุตสาหกรรม ไดคลอโรมีเทนถูกผลิตขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างเมทิลคลอไรด์ หรือมีเทน กับแก๊สคลอรีน ที่อุณหภูมิ 400-500 °C ที่อุณหภูมิในช่วงนี้ ทั้งมีเทนและเมทิลคลอไรด์จะผ่านปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีคลอรีนขึ้น
CH3Cl + Cl2 → CH2Cl2 + HCl
CH2Cl2 + Cl2 → CHCl3 + HCl
CHCl3 + Cl2 → CCl4 + HCl
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการเหล่านี้ ได้แก่ เมทิลคลอไรด์ ไดคลอโรมีเทน คลอโรฟอร์ม และคาร์บอนเตตระคลอไรด์ สารประกอบเหล่านี้จะถูกแยกโดยการกลั่น
[แก้] การนำไปใช้ประโยชน์
เนื่องจากไดคลอโรมีเทนระเหยได้ง่าย และสามารถละลายสารประกอบอินทรีย์ได้หลายชนิด จึงเป็นตัวทำละลายที่มีประโยชน์มากในหลายๆกระบวนการทางเคมี โดยทั่วไปมักใช้สำหรับล้างสีออกจากภาพวาด ในทางอุตสาหกรรมอาหาร จะใช้ในการสกัดคาเฟอีนจากกาแฟ และใช้ผลิตสารปรุงแต่งกลิ่นหรือรส
[แก้] สภาพความเป็นพิษ
แม้ว่าไดคลอโรมีเทนจะเป็นสารคลอโรไฮโดรคาร์บอนที่มีความเป็นพิษน้อยที่สุด แต่เนื่องจากมีสมบัติระเหยได้ง่าย จึงเกิดอันตรายจากการสูดดมได้ เมื่อร่างกายเผาผลาญไดคลอโรมีเทน จะได้แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งเป็นแก๊สพิษ และเมื่อไดคลอโรมีเทนสัมผัสกับผิวหนัง จะทำละลายไขมันบางส่วนบนผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแห้งแตก
ไดคลอโรมีเทนยังถือได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง เนื่องจากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่ามีส่วนทำให้เกิดมะเร็งที่ปอด ตับ และตับอ่อนในสัตว์ และยังมีส่วนทำให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม และเป็นพิษต่อทารกหรือตัวอ่อนในครรภ์
ในหลายๆประเทศ ผลิตภัณฑ์ที่มีไดคลอโรมีเทนเป็นส่วนประกอบต้องมีข้อความเตือนถึงอันตรายต่อสุขภาพ