วัดไผ่ล้อม (จังหวัดแพร่)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
วัดไผ่ล้อม ตั้งอยู่เลขที่ 173 หมู่ที่ 1 ตำบลหัวทุ่ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ มีฐานะเป็นวัดราษฎร์ สังกัดการปกครองคณะสงฆ์มหานิกาย ภาค 6
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
[แก้] ประวัติเมืองลอง
เมืองลอง (อำเภอลอง จังหวัดแพร่) แต่เดิมนั้น ขึ้นอยู่กับนครเขลางค์ (จังหวัดลำปางในปัจจุบัน) เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่าน การเดินทางไปมาหาสู่หรือการเดินทัพระหว่างเมืองหลวงทางใต้กับเมืองล้านนา (เชียงใหม่) มักจะใช้เส้นทางนี้เสมอ โดยผ่านกิ่วฤาษี (เขาช่องแคบบ้านนาอุ่นน่องกับบ้านแม่ลองปัจจุบัน) ยามปกติแล้วชาวเมืองลองอยู่กันอย่างสงบ อีกประการหนึ่งเมืองลองนั้นมีแร่เหล็กคุณภาพดีและมีชื่อเสียงมากคือเหล็กลอง ปัจจุบันมีร่องรอยของเหมืองเหล็กหรือบ่อเหล็ก ซึ่งอยู่ใกล้บ้านแม่ลอง ตำบลบ่อเหล็กลอง ในอดีตแม้ทั้งหนานทิพย์ช้างและหนานทิพย์ปาละ ผู้ที่กู้เมืองนครเขลางค์คืนมาจากการยึดครองของพวกเงี้ยว ก็ได้ใช้ดาบเหล็กลองนี้เป็นอาวุธคู่มือเข้าต่อสู้และกอบกู้เมืองนครเขลางค์ไว้ได้ โดยเส้นทางที่ผ่านกิ่วฤษี (เขาช่องแคบ) นั้น เป็นเส้นทางที่นำเอาศาสนา ศิลปวัฒนธรรม มาจากทางล้านนามาเผยแผ่ยังหัวเมืองทางใต้
[แก้] การสร้างวัด
จากหลักฐานพบว่าในปี พ.ศ. 2393 นั้น หลวงปู่ใจได้ธุดงค์จาริกมาจากเมืองนครเขลางค์ได้มาพบทำเลที่เนินดินคุ้มน้ำห้วยแม่ปงตรงปากร่องหมาน้อย ( ร่องหมาน้อยใจกลางหมู่บ้านปัจจุบัน ) ซึ่งเห็นว่าเป็นสถานที่สงบและเหมาะแก่การปฏิบัติศาสนาธรรม จึงทำการสร้างอารามเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านถิ่นนี้ยังไม่มีอะไรไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจมักเชื่อแต่เรื่องภูตผีปีศาจในการดำรงชีวิต ต่อมาเมื่อหลวงปู่ใจได้เทศนาอบรมธรรมสั่งสอนแก่ชาวบ้าน จนเกิดความศรัทธาเลื่อมใสมากขึ้น และเอาวัดเป็นที่พึ่งทางจิตใจตลอดมา เมื่อหลวงปู่ท่านมีอายุมากและเป็นที่พึ่งทางใจให้ชาวบ้านเป็นเวลาถึง 3 ปี ท่านก็ได้มรณภาพลงในปี พ.ศ. 2396
ต่อมาก็มีครูบาไกรสอนเป็นเจ้าอาวาสรูปที่สองสืบต่อมาจวบจนท่านได้มรณภาพในปี พ.ศ. 2414
[แก้] หลวงปู่สุวรรณ
ต่อมาก็มีครูบาสุวรรณ เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ท่านได้พิจารณาเห็นว่าบริเวณวัดคับแคบและขยับขยายออกไปไม่ได้ อีกทั้งในปีนั้นเกิดโรคระบาด (อหิวาตกโรค) ทำให้พระภิกษุสามเณรมรณภาพไปหลายรูป ท่านจึงตัดสินใจย้ายวัดเดิม (ปากร่องหมาน้อย) มาตั้งที่ใหม่ตรงฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ (สถานที่ตั้งวัดในปัจจุบัน) ในสมัยของครูบาสุวรรณเป็นเจ้าอาวาสนั้น วัดไผ่ล้อมมีความเจริญรุ่งเรืองทางพระศาสนาในด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างมาก มีการก่อสร้างวิหารที่มั่นคงถาวรเป็นหลังแรก ประการหนึ่ง หลวงปู่ก็เป็นนักเทศน์ที่ลือชื่อรูปหนึ่งในถิ่นนี้ โดยมีคราวหนึ่ง ท่านเจ้าเมืองเขลางค์ได้นิมนต์หลวงปู่ไปเทศนาโปรดประชาชนเมืองนครเขลางค์ เป็นที่ประทับใจอย่างมาก ท่านเจ้าเมืองถึงกับถวายกัณฑ์เทศน์เป็น “ช้างพลาย” บูชากัณฑ์เทศน์ หลวงปู่สุวรรณได้มรณภาพลงในปีพ.ศ. 2462 ซึ่งชาวบ้านได้ให้ความเคารพนับถือท่านอย่างมากจึงขนานนามท่านว่า หลวงปู่สุวรรณ หรือปู่ตุ๊ ของชาวบ้าน สถูปบรรจุอัฐิ ของท่านก็ยังมีร่องรอยอยู่จวบจนถึงปัจจุบันนี้ (ใต้ร่มโพธิ์ด้านเหนือ) เป็นที่เคารพสักการะของคณะศรัทธาชาวบ้านอีกด้วย
นับจากจากหลวงปู่สุวรรณ ก็มีหลวงพ่อโต, หลวงพ่อแก่น, ครูบาจันทิมา, ครูบาขาว, พระอธิการเงิน, พระดา, พระอินตา,พระลี, พระเลิศ, พระอธิการลี, พระสุภาพเป็นเจ้าอาวาสสืบมา
[แก้] เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
พระครูโสภิตวรการ พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท (จต.ชท.) ชื่อเดิม พระมหาสงคาร สิริธมฺโม สารขาว ( น.ธ.เอก, ปธ.3, ศศ.บ ) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม และเจ้าคณะตำบลหัวทุ่ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่
[แก้] อาณาเขตที่ตั้งวัด
ทิศตะวันออก ติดต่อถนนสายลอง-วังชิ้น (ทางสายเก่า 1023)
ทิศเหนือ ติดกับลำห้วยสาธารณประโยชน์ และทุ่งนา
ทิศใต้ ติดกับถนนสาธารณประโยชน์ และหมู่บ้าน
ทิศตะวันตก ติดทุ่งนา
[แก้] ปชนียวัตถุ
พระพุทธรูปประธานในอุโบสถปางมารวิชัยศิลปะล้านนา
[แก้] ศาสนสถาน
อุโบสถ (วิหาร) 1 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง กุฎิปูนครึ่งไม้ 1 หลัง กุฎิปูนครึ่งทรงไทย 1 หลัง ศาลารายโรงกลอง 1 หลัง
[แก้] ถาวรวัตถุ
ตลาดสดของวัด 1 หลัง อาคารสถานีวิทยุกระจายเสียง วปถ. 1 หลัง ห้องน้ำ 21 ห้อง
[แก้] ข้อมูลจำเพาะ
วัดไผ่ล้อม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมือวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2475
ที่ตั้งวัด 3 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา และที่ธรณีสงฆ์ (ตลาดสด) 1 ไร่ 28 ตารางวา