อะเดย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
หน้าปกอะเดย์ ฉบับ 1 - 78
หน้าปกอะเดย์ ฉบับ 1 - 78

อะเดย์ (a day) เป็นนิตยสารเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปในสังคมไทยปัจจุบัน บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยบุคคล 3 คน ได้แก่ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์, นิติพัฒน์ สุขสวย และภาสกร ประมูลวงศ์ ด้วยความเชื่อว่า "ทำหนังสือเหมือนทำชีวิต"


สารบัญ

[แก้] คอลัมน์ต่างๆ ที่น่าสนใจของ อะเดย์

  • Think Positive นำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ
  • ordinary people นำเสนอบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่ประกอบอาชีพธรรมดาๆ และเกี่ยวโยงกันด้วยคำหนึ่งคำ (ในหนึ่งฉบับจะมี 4 คน)
  • for the boys คอลัมน์ที่ตีพิมพ์จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากผู้ใหญ่ที่มีความอาวุโสมีเนื้อหาสั่งสอนหรือบอกเล่าประสบการณ์ที่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้
  • as days go by บอกเล่าถึงสิ่งเก่าๆ ในอดีตที่เราพบเห็นไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
  • main course เนื้อหาหลักของเล่มมีเนื้อหาประมาณ 20 หน้า
  • a day with a view บทสัมภาษณ์ใหญ่ของเล่ม

[แก้] ปก อะเดย์ ฉบับต่างๆ

ทรงพล จั่นลา บรรณาธิการศิลปกรรม ผู้ออกแบบหัวหนังสือและปกของนิตยสารอะเดย์ เล่าเรื่อหัวหนังสือของอะเดย์ว่า ได้ออกแบบตัวหนังสือมาเป็นสิบๆ แบบ รวมทั้งหาฟอนต์แปลกๆ แต่ยังไงก็ไม่ใช่ เลยกลับมามองที่ตัวเอง แล้วรู้สึกว่าอะเดย์ก็เกิดมาจากกลุ่มคนธรรมดาๆ ที่ทำนิตยสารธรรมดาๆ เล่มหนึ่งขึ้นมา แบบหัวหนังสือของอะเดย์ ก็น่าจะดูเรียบง่าย แต่สามารถอยู่ได้นาน ทรงพล จึงเลือกใช้ฟอนต์ arial black ที่เป็นฟอนต์มาตรฐานที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง มันดูเรียบง่าย แต่หนักแน่นแข็งแรง เพราะว่าเวลาไปอยู่บนปกหนังสือ มันจะเล็กแน่ๆ เพราะคำมันน้อย จะขยายใหญ่มากก็ไม่ได้ เพราะถ้าใหญ่ ขนาดพาดเต็มปก ตัว a day สเกลจะใหญ่มาก จึงต้องเล็กหน่อย แล้วก็ให้อยู่บนแถบ เพราะถ้าเล็กปุ๊บ แล้วไม่มีแถบมารองรับมันจะหายไปไม่โดดเด่น

วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เล่าเรื่องปก นอกจากเนื้อหาในเล่มที่น่าสนใจแล้ว 'หน้าปก' ก็คือหน้าบ้านเบื้องแรกที่ให้ความสำคัญในการเชื้อเชิญให้ผู้อ่านอยากหยิบจับ หรือไม่กวาดสายตาผ่านเลยไปเวลาถูกวางรวมกันอยู่บนแผง

ซึ่งปกของอะเดย์นั้น ยืนพื้นอยู่บนเนื้อหาหลัก 3 ส่วนนั่นคือ idea, nostalgia และ somebody ซึ่งกว่าแต่ละปกจะหลุดออกมาได้นั้น ต้องผ่านการประชุมที่เข้มข้นจากทีมงาน

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 1
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 1

[แก้] NEW AGE

หน้าปก 'ฉบับแรก' ของนิตยสารแต่ละหัวนั้นน่าจะเป็นหน้าปกที่ถูกคิด ปรึกษา หารืออย่างมากที่สุด เพื่อต้องแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของนิตยสารที่ชัดเจน อะเดย์ ก็เช่นกัน ปกแรกของอะเดย์ที่ต้องการสื่อถึงความเป็นนิตยสารของคนรุ่นใหม่ รายชื่อของ New Age ของแต่ละวงการจึงถูกเสนอชื่อและคัดเลือกเข้ามา สุดท้ายก็มีเพียง 4 คน ซึ่งโจทย์ของปกก็คือ ความเป็นตัวของตัวเองของแต่ละคน แม้กระทั่งเสื้อผ้าก็เป็นชุดที่แต่ละคนสวมใส่อยู่ในชีวิตประจำวัน บรรยากาศระหว่างถ่ายทำ เป็นไปอย่างสนุกสนานและง่ายดายเกินคาด จนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครแน่ใจว่า เพราะความง่ายหรือเปล่า ที่ทำให้ อะเดย์ ฉบับที่ 1 หมดจากแผงไปภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ และจนต้องพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่สอง


นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 2
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 2

[แก้] การเดินทางกลับของความประทับใจ

เพื่อสื่อให้เห็นว่า เนื้อหาส่วนหนึ่งที่จะได้อ่านจาก อะเดย์ แน่นอน คือเรื่องราวย้อนอดีตอันน่าประทับใจ ภาพยนตร์เรื่อง 'น้ำพุ' ที่ยังคงเป็นหนังที่อยู่ในความทรงจำของคนจำนวนไม่น้อย ก็ถูกวางให้เป็นเนื้อหาหลักในเล่มที่ 2 ซึ่งปกถูกวางไว้ให้สมบูรณ์แบบโดยมีสามคนที่สำคัญและเป็นอมตะของหนังเรื่องนี้คือ ยุทธนา มุกดาสนิท, ภัทราวดี มีชูธน และ อำพล ลำพูนแต่ในนาทีสุดท้ายภาพปกที่หมายมั่นว่าจะเป็นบุคคลทั้งสามที่กล่าวไปแล้ว ก็ถูกเปลี่ยนเป็นภาพใบหน้าของ 'น้ำพุ' แบบเดียวกับที่เคยเห็นในโปสเตอร์หนัง ซึ่งถูกนำมาเพิ่มเติมในรายละเอียด เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาหลักของเล่มนั่นเอง

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 3
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 3

[แก้] เฉลียงอยู่บำรุง

เป็นฉบับที่ทำออกมาได้อย่างถูกเวลา เพราะในขณะนั้น วงดนตรีเฉลียง กำลังจะกลับมารวมตัวกัน เพื่อเล่นคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ เพราะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายชื่อ 'เรื่องราวบนแผ่นไม้' ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมงานได้ออกติดตามและเกาะติดเหล่าสมาชิกเฉลียงทันที เพื่อทำสกู๊ปเบื้องหน้าเบื้องหลังความคิดของแต่ละคนทันที และแน่นอนว่าพวกต้อง 'ขึ้นปก' ส่วนไอเดียสาวยาคูลย์นั้นมาจาก อุดม แต้พานิช ที่เสนอว่าให้ปกเป็นรูปเหล่าสมาชิกเฉลียง แต่มีแม่บ้านหรือสาวยาคูลท์ที่ไหนไม่รู้มานั่งรวมอยู่ด้วย และนั่นก็เป็นที่มาของปกฉบับนี้ สังเกตอีกนิด คำโปรย 'เฉลียงอยู่บำรุง' นั้นขอยืมมาจาก ศุ บุญเลี้ยง ที่เคยเสนอให้เป็นชื่อคอนเสิร์ต แต่ถูกส่ายหน้าโดยพร้อมเพรียงของเหล่าตัวโน้ตอารมณ์ดี สังเกตอีกที สาวยาคูลท์ ที่นั่งรวมอยู่นั้นใส่แหวนเพชร และสาวยาคูลท์คนนั้นคือ คุณนายทองสุข คุณแม่ของ อุดม แต้พานิช


นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 4
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 4

[แก้] Being Udom Taephanich

หลังจากส่งแม่มาชิมลางแล้วไม่ผิดหวังในฉบับที่ 3 'เฉลียงอยู่บำรุง' อุดม แต้พานิช ก็เลยถูกเชิญมาถ่ายปกฉบับที่ 4 ด้วยโจทย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง 'Being John Mulkovish' ที่หลายคนชอบกันมา เพราะมีรูปคนเป็นร้อยยืนเรียงเป็นแถวเป็นแนว และหน้าของทุกคนเป็นใบหน้าของ John Mulkovish แต่อะเดย์ไม่อยากใช้เทคนิครีทัช แต่อยากใช้คนจริงๆ มาร่วมถายภาพ จะได้ 'อลังการงานสร้าง' ใครคนนึงในวงบอก ซึ่งความภูมิใจอีกอย่างของอะเดย์ คือ สถานที่ที่ใช้ในการถ่ายภาพปกฉบบันี้ ได้ถูกขออนุญาติอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบของสถานที่แต่ละแห่งทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นที่ สยามสแควร์ รถไฟฟ้า ร้านก๋วยเตี๋ยว บนรถเมล์ แม้กระทั่ง ในห้องน้ำ และปกนี้สามารถเรียกได้ว่าปกแห่งการรวมน้ำใจอย่างแท้จริง เพราะนักศึกษาและนิสิต จากธรรมาศาสตร์ จุฬาฯ และศิลปากร ถูกเชื้อชวนกันแบบปากต่อปาก ให้มาร่วมทำอะไรสนุกๆ กัน โดยไม่หวังผลตอบแทนแม้แต่น้อย

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 5
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 5

[แก้] มานะ มานี ปิติ ชูใจ

ความประทับใจจากแบบเรียนภาษาไทยสมัยก่อน ถูกเลือกมาเป็นเนื้อหาหลักของฉบับนี้ ปกจะธรรมดาได้อย่างไร อะเดย์เลยคิดจะเอาคน สัตว์ สิ่งของ แม้กระทั่งโลเกชั่นจริง โดยการหยิบยกคาแรกเตอร์จากแบบเรียน เรียกได้ว่าเป็นอีกปกหนึ่งแห่งความประทับใจจากประสบการณ์ทำงานครั้งหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดภาพวาดแบบดั้งเดิมที่ใช้ในแบบเรียนก็ถูกเลือกกลับมาใช้ เพื่อให้เกิดความจดจำที่ง่ายกว่านั่นเอง

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 6
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 6

[แก้] การรวมพลที่ไม่น่าเป็นไปได้

ในช่วงนั้น กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ของเบเกอรี่ ภาพศิลปินของเบเกอรี่ชาย-หญิงแบบรวมหมู่จึงผุดขึ้นมาในหัว แต่การรวบรวมศิลปินของเบเกอรี่ให้ได้มากที่สุด นั้นไม่ง่ายเลย!! เวลาทั้งหมดของปกนี้ จึงหมดไปกับการโทรศัพท์ โทรศัพท์ และโทรศัพท์ เพื่อนัดหมาย และแล้ววันถ่ายปกก็มาถึง มีศิลปินหญิง 7 ชาย 12 รวม 19 ซึ่งถือว่ามากที่สุด-ถึงขนาดที่ว่า พีอาร์ของเบเกอรี่เองยังเอ่ยปากว่า ฝากถ่ายรูปหมู่ให้ด้วยนะคะ

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 7
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 7

[แก้] เรื่องของไอ้รูปหล่อล้วนๆ

นี่เป็นปกแรกที่ถือว่าเป็นคนเดี่ยวๆ บนปกของอะเดย์ พระเอกขายดีที่สุดต้อง ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี เท่านั้นในชั่วโมงนี้ เขามาตรงตามนัดสมกับมืออาชีพ อุปสรรคมีบ้างเล็กน้อย นั่นคือฝุ่นและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่พระเอกของเราก็ไม่ปริปากบ่นสักนิด แถมยังกระฉับกระเฉง รวดเร็ว ว่องไว ทำตามความ ต้องการของช่างภาพได้ดีกว่าความต้องการเสียอีก สุดท้ายภาพปก ถูกออกแบบให้เป็นแบบป๊อปอาร์ต เพื่อให้สีสันดูสดใสขึ้น และนี่ก็เป็นอีกปกหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับ อะเดย์

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 8
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 8

[แก้] ความร้อนแรงอันทารุณโหดร้าย

คอนเซ็ปต์ของเล่มคือ 'science fiction' ภาพนึกคือ มนุษย์ต่างดาว ยานอวกาศ สถานที่เวิ้งว้างห่างไกล!! และทราย เจิญปุระ เป็นนางแบบคนแรกที่ถูกเลือก - กับสถานที่เหมืองหิน แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี เหมืองกินลึกเท่ากับตึก 10 ชั้น แห้งแล้ง เวิ้งว้าง ไม่มีต้นไม้ บ่อน้ำสีเข้ม เหมือนภาพคิดที่วางไว้ ทรายในชุดมนุษย์ต่างดาว แบบที่ทีมงานเตรียมไว้ สู้ไม่ถอย แม้ในวันนั้นอากาศจะร้อนมาก ภาพปกฉบับนี้จึงสวยงาม ลึกลับ ตามแบบที่คิดไว้ จนหลายคนคิดว่าเป็นการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก - แต่ขอบอก นี่ของจริงล้วนๆ

นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 9
นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 9

[แก้] กลิ่นสีและยุงกัด

ฮิปฮอป-กราฟฟิตี้-โจอี้บอย เป็นแกนหลักของอะเดย์ฉบับนี้ และเป็นการขึ้นปกนิตยสารครั้งแรกของ โจอี้ บอย อีกด้วย โจอี้ บอยกับฉากที่เป็นกราฟฟิตี้ เป็นภาพแรกที่คิดไว้ และทำกันจริงๆ สถานที่รถร้างย่านพระราม9 ถูกพ่นสีกราฟฟิตี้เพื่อใช้เป็นฉาก ซึ่งอุปสรรคอย่าง เดียวของงานนี้ก็คือ กองทัพยุงมหึมา ที่รุมเจาะเลือดเรานั่นเอง ไม่รู้ว่าเพราะยุงหรือเปล่า ทำให้ภาพที่ได้ ดูหม่นๆ ไม่สวยอย่างที่คิด แม้จะถูกส่งเข้าโรงพิมพ์ไปแล้ว แต่ภาพปกก็ถูกเปลี่ยนจนได้ในนาทีท้ายสุด เพราะว่าเหล่า อะทีม ลงความเห็นกันแล้วว่าให้เปลี่ยนปก!! เพ้นท์ลายกราฟฟิตี้ลงบนหน้าโจอี้ บอยเลย นี่คือไอเดียใหม่ ถ่ายง่ายๆ ข้างออฟฟิศ แต่ก็ไม่ง่ายไปทั้งหมด เพราะภาพกราฟฟิตี้ที่เพ้นท์บนหน้า โจอี้บอยนั้นกินเวลาถึง 3 ชั่วโมง ถึงแม้จะไม่ยากไม่ง่าย แต่นี่ก็เป็นอีกปกที่สวยถูกใจชาวอะเดย์

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น