ท้าวทองกีบม้า
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ท้าวทองกีบม้า (ดอญ่า มารี กีมาร์ ) ( พ.ศ. 2201 หรือ พ.ศ. 2202) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับทำขนมไทย ประเภททองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีหน้าที่เป็น "หัวหน้าห้องเครื่องต้น" ซึ่งได้ทำอาหารเลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตฝรั่งเศสที่มาเยือนในสมัยนั้น มีผู้ยกย่องว่าท้าวทองกีบม้าเป็น "ราชินีแห่งขนมไทย"
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
ท้าวทองกีบม้า เกิดที่กรุงศรีอยุธยา เป็นลูกครึ่งโปรตุเกสและญี่ปุ่น โดย บิดาชื่อ ฟานิก (Phanick)ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมแขกเบงกอลและมารดาชื่อ อุรสุลา ยามาดา (Ursula Yamada) ซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่นผสมโปรตุเกส ท้าวทองกีบม้า แต่งงานตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี กับคอนสแตนติน ฟอลคอน (ออกญาวิชาเยนทร์)ชาวกรีกที่เข้ามารับราชการในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาเมื่อสามีนางถูกลงโทษข้อหากบฏ เรียกตำแหน่งคืน ริบทรัพย์ และถูกประหารชีวิต ท้าวทองกีบม้าถูกส่งตัวเข้าไปเป็นคนรับใช้ในพระราชวัง และได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ทำอาหารหวานประเภทต่างๆ ส่งเข้าไปในพระราชวังตามกำหนด การทำหน้าที่จัดหาอาหารหวานส่งเข้าพระราชวัง ท้าวทองกีบม้าได้ประดิษฐ์ขนมขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา โดยดัดแปลงตำรับเดิมโปรตุเกส และเอาวัสดุดิบพื้นถิ่นที่มีในสยามเข้ามาผสมผสาน จนทำให้เกิดขนมใหม่ที่มีรสชาติอร่อย พระราชวังก็ได้ให้ความชื่นชมมากและถูกเรียกตัวเข้าไปรับราชการในพระราชวังในตำแหน่งหัวหน้าห้องเครื่องต้น
[แก้] บั้นปลายชีวิต
แม้ท้าวทองกีบม้าจะมีชีวิตในระยะแรกๆ ค่อนข้างลำบาก สามีถูกประหาร ต้องมีชีวิตระหกระเหิน ถูกส่งตัวไปเป็นคนรับใช้ แต่ด้วยความสามารถ และอุปนิสัยดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ บั้นปลายชีวิตของเธอจึงสุขสบายและได้รับการยกย่องตามควร ท้าวทองกีบม้ามีอายุยืนถึง ๔ รัชกาล คือ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเพทราชา สมเด็จพระเจ้าเสือและสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ โดยชื่อกีบม้าเพี้ยนมาจากชื่อ กีมาร์ นั้นเอง มีหลักฐานบ่งว่าท้าวทองกีบม้าถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้ 66 ปี
[แก้] อ้างอิง
- คึกเดช กันตามระ. ท้าวทองกีบม้า. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : กรุงเทพฯ.