จำเริญ ทรงกิตรัตน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
จำเริญ ทรงกิตรัตน์
(Chamroen Songkitrat)
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อจริง พ.ต.ต. สำเริง ศรีมาดี
ฉายา จิ้งเหลนไฟ
วันเกิด 20 ตุลาคม พ.ศ. 2471
สถานที่เกิด จังหวัดนครพนม
วันที่เสียชีวิต 29 สิงหาคม พ.ศ. 2546
รุ่น ไลท์เวท , แบนตัมเวท
เทรนเนอร์ จำลอง รัตนก้านตรง (มวยไทย)
สถิติ
ชก 13
ชนะ 7
ชนะน็อก 2
แพ้ 5
เสมอ 1

จำเริญ ทรงกิตรัตน์ หรือ ร.ต.อ. สำเริง ศรีมาดี เป็นชาวจังหวัดนครพนม เป็นนักมวยสากลชาวไทยคนแรกที่ได้ชิงแชมป์โลก และ เป็นแชมป์ OPBF คนแรกของประเทศไทย มีฉายาว่า " จิ้งเหลนไฟ "

สารบัญ

[แก้] เริ่มต้นจากมวยไทย

จำเริญหัดมวยครั้งแรกกับครูจำลอง รัตนก้านตรง เมื่ออายุ 13 ปี ตระเวนชกมวยที่บ้านเกิดจนมีชื่อเสียง เมื่อเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงทพฯ จึงชกมวยไปด้วยโดยอยู่ที่ค่ายนฤภัย ใช้ชื่อว่า สำเริง นฤภัย ต่อมาย้ายไปอยู่คณะทรงกิตรัตน์ของกิตติ อัชชวณิชย์ ใช้ชื่อว่า "จำเริญ ทรงกิตรัตน์" จนมีชื่อเสียง ด้านการศึกษา จำเริญเรียนจบหลักสูตรพลศึกษา รับราชการตำรวจตำแหน่งครูมวยของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

[แก้] ชกมวยสากล

[แก้] แชมป์ OPBF คนแรก

เมื่อชกมวยไทยจนไม่มีใครสู้ มีเพียงผล พระประแดงคนเดียวที่ปราบไม่ได้ จำเริญจึงหันมาชกมวยสากลอย่างจริงจัง ได้ชิงแชมป์ OPBF รุ่นเฟเธอร์เวท แต่ไม่สำเร็จ แพ้คะแนน ลาร์รี่ บาตาน ที่ฟิลิปปินส์แบบสูสี จึงได้รับการสนับสนุนจาก พ.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ให้ขึ้นชิงแชมป์ OPBF รุ่นไลท์เวทคราวนี้จำเริญสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ OPBF คนแรกของไทย ชนะคะแนน สปีดี้ คาบาเนลลา เมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2495

[แก้] คนแรกที่ชิงแชมป์โลก

จำเริญ ทรงกิตรัตน์ (ซ้าย) ชกชิงแชมป์ท่ามกลางสายฝนกับจิมมี่ คาร์รัทเธอร์
จำเริญ ทรงกิตรัตน์ (ซ้าย) ชกชิงแชมป์ท่ามกลางสายฝนกับจิมมี่ คาร์รัทเธอร์

จำเริญป้องกันแชมป์ OPBF ครั้งเดียวแล้วจึงสละตำแหน่ง ลดลงมาชกรุ่นแบนตัมเวท จนได้ชิงแชมป์โลกกับจิมมี คาร์รัทเธอร์ (ออสเตรเลีย) แต่เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไป ในการชกครั้งนี้ที่จัดที่สนามจารุเสถียร เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 เป็นสนามกีฬากลางแจ้ง ปรากฏว่าเย็นนั้นฝนตกหนักจนมีน้ำขังบนเวที กรรมการและสักขีพยานเสนอให้เลื่อนการชกออกไปก่อน แต่เมื่อปรึกษากับนักชกทั้งสองฝั่งแล้ว ตกลงกันว่า จะทำการชกต่อไปตามแผนเดิม โดยจิมมี่ คาร์รัทเธอร์ เสนอให้ถอดรองเท้าชกด้วยเท้าเปล่า ทั้งคู่ชกโดยไม่สวมรองเท้า ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานับชั่วโมง ในที่สุดการชกก็สิ้นสุดลงในยกที่ 12 เมื่อไฟนีออนที่ให้แสงสว่างบนเวทีถูกลมพัดตกลงมาแตก และเศษแก้วบาดเท้าของนักมวย ไม่สามารถชกต่อได้ ผลการนับคะแนนปรากฏว่าจำเริญ ทรงกิตรัตน์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ การชกครั้งนี้ได้รับการบันทึกว่า เป็นการชกชิงแชมป์โลกมวยสากลในยุคใหม่ ครั้งแรกและครั้งเดียว ที่นักชกชกด้วยเท้าเปล่า โดยไม่สวมรองเท้า [1]

หลังจากป้องกันแชมป์กับจำเริญ คาร์รัทเธอร์สละตำแหน่งไป จำเริญจึงได้ชิงแชมป์โลกอีกครั้งภายในปีเดียวกัน แต่ไม่สำเร็จอีก ในการชกชิงแชมป์ครั้งนี้กับโรแบร์ โคฮัง เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2497 ที่สนามศุภชลาศัย จำเริญชกได้ไม่ดี ถูกนับสองครั้ง และแพ้คะแนนนักชกจากฝรั่งเศสไป[2]

เมื่อได้แชมป์ไปแล้ว โคฮังปฏิเสธ ไม่ยอมป้องกันแชมป์กับราอูล มาเซียส (เม็กซิโก) NBA (WBA ปัจจุบัน)จึงให้มาเซียสชิงแชมป์ว่างกับจำเริญที่สหรัฐอเมริกา จำเริญจึงได้ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 3 เมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2498 ไม่สำเร็จอีกเช่นเคย แพ้น็อค มาเซียส ยก11 จำเริญจึงแขวนไปหลังจากชกแพ้ครั้งนี้

[แก้] แขวนนวม

เมื่อแขวนนวมแล้ว จำเริญรับราชการตำรวจอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาเกิดความผันผวนทางการเมือง จนต้องลาออกจากตำรวจ ไปทำงานที่ประเทศฝรั่งเศส กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯระยะหนึ่ง แล้วจึงไปทำธุรกิจส่วนตัวที่เชียงใหม่ จนป่วยเป็นอัมพฤกษ์จึงกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ เสียชีวิตเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2546 รวมอายุได้ 77 ปี

[แก้] เกียรติประวัติ

  • แชมป์ OPBF รุ่นไลท์เวท
  • ชิง, 13 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ชนะคะแนน สปีดี้ คาบาเนลลา
  • เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
    • ชิงแชมป์OPBF รุ่นเฟเธอร์เวท แพ้คะแนน ลาร์รี่ บาตาน ที่ฟิลิปปินส์
    • ชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวท WBA (NBA) เมื่อ 2 พ.ค. 2497 แพ้คะแนน จิมมี่ คาร์รัทเธอร์ (ออสเตรเลีย) ที่สนามจารุเสถียร
    • ชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวท WBA เมื่อ 19 ก.ย. 2497 แพ้คะแนน โรแบร์ โดฮัง (ฝรั่งเศส) ที่สนามศุภชลาศัย
    • ชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวท WBA เมื่อ 9 มี.ค. 2498 แพ้น็อค ราอูล มาเซียส (เม็กซิโก) ยก 11 ที่ สหรัฐ

[แก้] อ้างอิง

  1. The Oddest Championship Fight: Barefoot in the Monsoon Rains
  2. กาแฟขม ขนมหวาน - ตอนที่ 220 “มันไม่อายบ้าง...ให้รู้ไป !!!” โดย วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
  • สถิติการชก ((อังกฤษ))
  • ชายพจน์. มวยดังไทยแลนด์ในอดีต: "จิ้งเหลนไฟ" จำเริญ ทรงกิตรัตน์. นิตยสารมวยโลก. เล่มที่ 837. กันยายน 2543.