ฌอง ปอล ซาร์ต
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฌอง ปอล ซาร์ต (Sartre, Jean-Paul) (เกิดวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1905 กรุงปารีส, ประเทศฝรั่งเศส เสียชีวิต 15 เมษายน ค.ศ. 1980 ที่กรุงปารีส)
นักเขียนนวนิยาย บทละคร นักปรัชญา และผู้มีบทบาทสำคัญในแนวคิด Existentialism เป็นนักปรัชญาผู้ประกาศเสรีภาพของมนุษย์ในแง่ปัจเจกชน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมเมื่อปี ค.ศ. 1964 แต่ไม่ยอมรับรางวัลดังกล่าว
ฌอง ปอล ซาร์ตเข้ารับการศึกษาที่ École Normale Supérieure ระหว่างปี 1924 – 1929 เมื่อเรียนจบ ก็ได้เป็นอาจารย์สาขาปรัชญา ที่ Le Havre เมื่อปี 1931 ซาตร์สูญเสียบิดาตั้งแต่วัยเยาว์ และเติบโตในบ้านของตา ชื่อ คาร์ล ชไวทเซอร์ (ผู้เป็นลุงของอัลเบิร์ต ชไวทเซอร์) ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ภาษาเยอรมันที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์
ระหว่างปี 1931-45 ซาร์ตได้สอนหนังสือหลายที่ รวมทั้งในอังกฤษ และสุดท้ายก็กลับมาที่ปารีส มีสองครั้งที่อาชีพของเขาถูกขัดขวาง ครั้งหนึ่ง เมื่อต้องศึกษาเป็นเวลา 1 ปี ในกรุงเบอร์ลิน และครั้งที่สองเมื่อต้องเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 1939 ครั้นปีต่อมาถูกจับเป็นเชลย และอีกปีถัดมาก็ได้รับการปลดปล่อย
ช่วงเวลาที่สอนหนังสือนั้น ซาร์ตได้ตีพิมพ์หนังสือเรื่อง La Nausee, 1938 เป็นครั้งแรกที่ทำให้เขามีชื่อเสียง นวนิยายเรื่องนี้เขียนในรูปบันทึกประจำวัน เล่าถึงความรู้สึกชิงชัง เมื่อเผชิญหน้ากับโลกของทางวัตถุ ไม่เพียงแต่โลกของคนอื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับรู้ถึงตัวของเขาด้วย
ซาร์ตได้รับอิทธิพลจากนักปรัชญาเยอรมัน ชื่อเอดมุนด์ ฮุสเซล และนำมาใช้ด้วยทักษะอันเลิศในผลงานพิมพ์ 3 เล่ม คือ L'Imagination (1936; จินตนาการ), Esquisse d'une theorie des emotions (1939; ร่างทฤษฎีแห่งอารมณ์) และ L'Imaginaire : Psychologie pheomenologique de l'imagination (1940; จิตวิทยาแห่งจินตนาการ) แต่ทว่าใน L'Etre et le neant (1943; ความมีอยู่ และความไม่มีอะไร)ซาร์ตกำหนดฐานะของจิตสำนึกมนุษย์ หรือความไม่มีอะไร (neant) ไว้ตรงข้ามความมีอยู่ หรือความเป็นสิ่งของ (etre)
ซาร์ตเริ่มเขียนนวนิยายชุด 4 เล่ม เมื่อปี 1945 ชื่อ Les Chemins de la liberte อีก 3 เล่ม คือ L'Age de raison (1945; ยุคแห่งเหตุผล), Le Sursis (1945; ) และ La Mort dans l'ame (1949;เหล็กในวิญญาณ) หลังพิมพ์ครั้งที่ 3 ซาร์ตก็เปลี่ยนใจหันกลับไปสู่บทละครอีก
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซาร์ตเขียนโจมตีความยะโสของมนุษย์ และเสรีภาพของปัจเจกชน ซาร์ตได้เปลี่ยนความสดใสไปสู่แนวคิดของความรับผิดชอบของสังคมหลายปีแล้ว ที่เขาแสดงความใสใจคนรวย และคนที่ไม่มีมรดกทุกชนิด ขณะเป็นครูเขาปฏิเสธไม่ยอมผูกเน็คไท ราวกับเขาจะเช็ดชนชั้นทางสังคมให้สลายไปด้วยเน็คไท และเข้าใกล้พวกคนใช้แรงงานมากขึ้น ในงานเรื่อง L'Existentialism est un humanism (1946;) ตอนนี้เสรีภาพแสดงนัยของความรับผิดชอบทางสังคม ในนวนิยายและบทละครเรื่องต่างๆ ของเขา
ซาร์ตได้พยายามแสดงความคิดเห็นในสื่อของเขาระหว่างช่วงสงคราม และบทละครใหม่ ก็ตามติดมาเรื่อยๆ ได้แก่ Le Mouches (ออกแสดง 1943), Huis- clos (1944) Les Mains Sales (1948) Le Diable et le bon dieu (1951) และ Les Sequestres d'Altona (1959)บทละครทั้งหมด จะเน้นที่พฤติกรรมก้าวร้าวดั้งเดิมของมนุษย์ต่อมนุษย์ ซึ่งดูเหมือนมีแต่การมองโลกในแง่ร้าย แต่ตามคำสารภาพของซาตร์เอง จุดมุ่งหมายนั้นไม่มีเรื่องศีลธรรมของการใช้ทาสเลย
กิจกรรมทางการเมืองหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซาร์ตมีความสนใจอย่างกระตือรือร้นต่อชนวนการทางการเมืองในฝรั่งเศส และโน้มเอียงไปทางฝ่ายซ้าย ก็ประกาศชัดมากขึ้น เขาเป็นผู้นิยมสภาพโซเวียตอย่างยิ่ง แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ก็ตาม
ในปี 1954 ซาตร์เดินทางไปโซเวียต ประเภทแถบสแกนดิเนเวีย แอฟริกา สหรัฐอเมริกา และคิวบา เมื่อรัสเซียนำรถถังบุกกรุงบูดาเปส ในปี 1956 ความหวังของซาร์ตที่มีต่อลัทธิคอมมิวนิสต์ก็พังครืนอย่างน่าเศร้า เขาเขียนบทความขนาดยาว ใน Les Temps Modernes เรื่อง Le Fantoms de Staline ซึ่งตำหนิการแทรกแซงของรัสเซีย และการยอมรับพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส
ซาร์ตได้ร่วมมือกับ ซิโมน เดอ โบวัวร์ (Simone de Beauvoir) เขียนเรื่อง Memoires d'une jeune fille rangee,1958 และเรื่อง La Force de l'age, 1960-2 โดยได้เล่าถึงชีวิตของซาร์ต จากสมัยนักเรียน จนถึงกลางศตวรรษที่ 50 ใน École Normale Supérieure ในภายหลังเขาได้พบผู้คนมากมาย ที่มีจุดมุ่งหมายจะเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียง ในจำนวนนี้ได้แก่ แรมง อารง (Raymond Aron) โมรีก แมโล-ปงตี (Maurice Merleau-Ponty), ซิโมน แวยล์ (Simone Weil), อองมานูล มูนีแยร์ (Emmanuel Mounier), ฌอง อีปโปลีต (Jean Hippolyte) และ เคลาด์ เลวี-สเตราส์ (Claude Levi-Strauss)
ผ่านไปหลายปี ทัศนคติเชิงวิจารณ์นี้เปิดทางสู่รูปแบบของสังคมนิยมแบบซาร์ต ซึ่งจะพบการแสดงออกในผลงานใหญ่ชิ้นใหม่ ชื่อ Critique de la raison dialectique (1960) ซาร์ตได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงวิจารณ์ถึงวิภาษวิธีแบบมาร์กซ์ และค้นพบว่า ไม่มีความยั่งยืนในรูปแบบที่โซเวียตใช้
[แก้] ดูเพิ่ม
ก่อนโสกราตีส | เธลีส | โสกราตีส | เพลโต | อริสโตเติล | เอพิคิวเรียน | สโตอิก | โพลตินัส | พีร์โร | ออกัสตินแห่งฮิปโป | โบอีเทียส | อัลฟาราบี | แอนเซล์มแห่งแคนเทอเบอรี | ปีแยร์ อาเบลา | อะเวร์โรอีส | ไมมอนิดีส | โทมัส อควีนาส | แอลเบอร์ทัส แมกนัส | ดันส์ สโกตัส | รามอง ยูย์ | วิลเลียมแห่งออกคัม | โจวันนี ปีโก เดลลา มีรันโดลา | มาร์ซีลีโอ ฟีชีโน | มิเชล เดอ มงตาญ | เรอเน เดส์การตส์ | โทมัส ฮอบบส์ | แบลส ปาสกาล | บารุค สปิโนซา | จอห์น ล็อก | นีโกลา มาลบรองช์ | กอทท์ฟรีด ไลบ์นิซ | จัมบัตติสตา วีโก | ชูเลียง โอเฟรย์ เดอ ลา เมตรี | จอร์จ บาร์กลีย์ | มองเตสกิเออร์ | เดวิด ฮูม | วอลแตร์ | ฌอง-ฌาค รุสโซ | เดนี ดีเดโร | โยฮันน์ แฮร์เดอร์ | อิมมานูเอิล คานท์ | เจเรอมี เบนทัม | ฟรีดิช ชไลเออร์มาเคอร์ | โยฮันน์ กอทท์ลีบ ฟิคเทอ | G.W.F. เฮเกิล | ฟรีดิช ฟอน เชลลิง | ฟรีดิช ฟอน ชเลเกิล | อาเธอร์ โชเพนเฮาเออร์ | เซอเรน เคียร์เคอการ์ด | เฮนรี เดวิด ทอโร | ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน | จอห์น สจวร์ต มิลล์ | คาร์ล มาร์กซ | มีฮาอิล บาคูนิน | ฟรีดิช นีทเชอ | วลาดีมีร์ โซโลวีฟ | วิลเลียม เจมส์ | วิลเฮล์ม ดิลเทย์ | C. S. เพิร์ซ | กอทท์ลอบ เฟรเก้ | เอดมุนด์ ฮุสเซิร์ล | อองรี แบร์ซง | แอนสท์ คัสซิเรอร์ | จอห์น ดิวอี | เบนาเดตโต โกรเช | โคเซ ออร์เตกา อี กัสเซต | แอลฟริด นอร์ท ไวต์เฮด | เบอร์แทรนด์ รัสเซิลล์ | ลุดวิก วิทท์เกนสไตน์ | แอนสท์ บลอค | เกออร์ก ลูคัช | มาร์ติน ไฮเดกเกอร์ | รูดอล์ฟ คาร์นาพ | ซีโมน แวย | มอรีซ แมร์โล-ปงตี | ฌอง ปอล ซาร์ต | ไอย์น แรนด์ | ซีโมน เดอ โบวัวร์ | จอร์จ บาไตลล์ | ธีโอดอร์ อดอร์โน | มักซ์ ฮอร์คไฮเมอร์ | ฮานนาห์ อเรนดท์ | กอร์เนลีอุส กาสโตรีอาดิส| โรลอง บาร์ธ | โคลด เลวี สโตรส | ฌาค ลากอง | หลุยส์ อัลธูแซร์ | มิเชล ฟูโกต์ | ฌาค แดริดา | เจอร์เกน ฮาเบอร์มาส | ฌอง โบดริยาร์ด | จิลล์ เดอลูซ | ฌอง-ลุค นองซี | จิอันนี วัตติโม | อันโทนิโอ เนกริ | พอล วิริลลิโอ | ปีเตอร์ สลอตเทอร์ดิค | สลาวอจ ชิเชค
![]() |
ฌอง ปอล ซาร์ต เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ ฌอง ปอล ซาร์ต ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ |