พระธาตุจอมกิติ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แม่แบบ:บทความส่วนนีต้องการอ้างอิง
วัดพระธาตุจอมกิติ ตั้งอยู่บนยอดดอยน้อย อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1.5 กิโลเมตร
[แก้] ประวัติวัด และพระบรมธาตุ
พระธาตุเจดีย์ หรือบรมธาตุเจดีย์ มีลักษณะฐานล่างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ถัดขึ้นไปเป็นฐานปัทย์ย่อมุมเป็นเรือนธาตุ (ย่อมุมรองรับ) ซึ่งมีซุ้มทิศประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน ส่วนยอดเป็นองค์ระฆังกลม ตำนานการสร้างพระธาตุจอมกิติค่อนข้างจะสับสนพอ ๆ กับตำนานเมืองเชียงแสน
ศิลาจารึกวัดพระธาตุจอมกิตติได้กล่าวไว้ว่า เมื่อตอนที่พระพุทธองค์ได้เสด็จมา ณ ที่นี้ พระองค์ได้ทรงดึงพระเกษาและประดิษสันฐานไว้ที่พระธาตุจอมกิติ แล้วพระองค์จึงทรงพยากร์ว่า แว้นแคว้นแห่งนี้จะคงสืบพระพุทธศาสนาดำรงได้ครบ 5000 ปี
บางตำนานบอกว่า เมืองเชียงแสนนั้นเกิดมาตั้งแต่สมัยพระพุทธองค์ยังดำรงพระชนชีพ และเคยเสด็จมายังเชียงแสน พระราชทานเส้นเกศาให้ไว้ จึงสร้างพระธาตุขึ้นมา
ตำนานต่อมาที่ค่อนข้างจะแน่นอนกว่าคือการสร้างพระธาตุจอมกิติโดยพระเจ้าพังคราช เมื่อปี พ.ศ. 1481 เมื่อสร้างแล้วเสร็จจึงได้พระบรมธาตุมา โดยมีพระพุทธโฆษาจารย์ ชาวมอญ ซึ่งหลังจากเดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาจากประเทศลังกาแล้ว จึงกลับมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในมอญ พม่า ตามลำดับจนเข้ามาในโยนกนคร (เชียงแสน) ตรงกับสมัยของพระเจ้าพังคราช ซึ่งยุคนี้พระเจ้าพรหมได้ทรงขับไล่ขอมไปสิ้นจากโยนกหมดแล้ว และพระเจ้าพรหมได้อัญเชิญพระเจ้าพังคราช ราชบิดากลับมาขึ้นครองเมืองเชียงแสน ส่วนพระเจ้าพรหมมหาราช ซึ่งเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง ไปสร้างเมืองใหม่คือเมือง "ชัยปราการ" ที่ริมแม่น้ำกก เพื่อเป็นเมืองหน้าด่าน ป้องกันการรุกรานของข้าศึก ซึ่งชัยปราการนี้จะเป็นเมืองหน้าด่านให้เชียงแสน จะสกัดการรุกรานของข้าศึกที่จะยกมาทางด้านทิศตะวันตกไว้ก่อน และได้ครองเมืองชัยปราการ
ดังนั้นเมื่อพระพุทธโฆษาจารย์ได้นำพระพุทธศาสนามาเผยแพร่ในเชียงแสน พร้อมกับได้อัญเชิญพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้ามาด้วยจำนวนถึง 16 พระองค์ เป็นอัฐิธาตุ หน้าผากมีหลายขนาด พระเจ้าพังคราชจึงได้แบ่งพระบรมธาตุขนาดใหญ่ 1 องค์ ขนาดกลาง 2 องค์ และขนาดเล็กอีก 2 องค์ ให้กับพระยาเรือนแก้ว (เจ้าเมืองเชียงราย) ซึ่งได้นำไปประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์ในเมืองเชียงราย ขอให้คำว่าหากจำไม่ผิดคือวัดจอมทอง
พระเจ้าพังคราช นำพระโกศเงิน พระโกศทอง และพระโกศแก้ว รองรับพระบรมธาตุแล้วจึงทรงมอบให้พระเจ้าพรหมมหาราช นำไปประดิษฐานไว้บนดอยน้อย หรือ จอมกิติ ซึ่งตามตำนานดั้งเดิมบอกว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาในสมัยพุทธกาลนั้น ได้พระราชทานพระเกศธาตุ ประดิษฐานไว้แล้ว
พระเจ้าพรหมมหาราช ทรงใช้ช่างก่อพระเจดีย์ขึ้น กว้าง 3 วา สูง 6 วา 2 ศอก บนดอยจอมกิติ พระเจดีย์แล้วเสร็จในเดือน 6 เพ็ญ วันจันทร์ พ.ศ. 1483 และเรียกพระเจดีย์องค์นี้ว่า พระธาตุจอมกิติแต่ยังไม่มีวัดพระธาตุจอมกิติ วัดนี้มาเริ่มเกิดใหม่ในปี พ.ศ. 2500 นี่เอง
เมืองเชียงแสนนั้นเกิดเจริญรุ่งเรือง แล้วก็ร้าง หลายยุคหลายสมัย ตำนานการสร้างเมืองถึงเอาแน่กันไม่ค่อยจะได้ หากไม่ล้วงลึกแล้วก็จะบอกว่าพระธาตุจอมกิติสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2030 โดยเจ้าเมืองเชียงแสนนามว่า เจ้าสุวรรณคำล้าน ซึ่งน่าจะหมายถึงมาบูรณะองค์พระธาตุจอมกิติและสร้าง "วัดพระธาตุจอมแจ้ง" ผมเข้าใจตามนี้ แม้แต่เมืองเชียงแสน ตำนานที่สร้างหลังสุดคือสร้างโดยพระเจ้าแสนภู กษัตริย์ราชวงศ์เชียงราย สร้างเมืองเชียงแสนเมื่อ พ.ศ. 1871 แต่หากมองย้อนกลับไปถึงสมัยพระเจ้าพรหมมหาราชเมืองเชียงแสนก็มีอยู่แล้ว และเมื่อพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้ยกทัพขึ้นไปตีเชียงแสน เมื่อตีได้แล้วถอยทัพไทยกลับก็ให้เผาเชียงแสนเสีย เพราะพม่าเข้ามายึดเป็นที่มั่นอยู่เป็นการประจำจึงเผาเสีย เชียงแสนมาฟื้นคืนชีพเป็นเมืองที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2424 นี่เอง
ผมจึงขอสรุปของผมจากการอ่านตำนานหลายตำนาน ว่าวัดพระธาตุจอมแจ้งบนดอยน้อยนี้มีจริง และคงเกิดในสมัยที่เจ้าสุวรรณคำล้าน มาบูรณะพระธาตุจอมกิติแล้วก็สร้างวัดพระธาตุจอมแจ้งขึ้นมาในปี พ.ศ. 2030 ส่วนวัดพระธาตุจอมกิตินั้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 พระครูสังวรสมาธิวัตร แห่งสำนักวิปัสนา เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นชาวเชียงแสนได้จัดตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นมาที่เชิงดอยพระธาตุจอมกิติ และได้ย้ายขึ้นไปสร้างวัดอยู่บนเชิงพระธาตุ ในภายหลังจึงได้มีการสร้างบันไดขึ้น สร้างอุโบสถที่หันหน้าสู่แม่น้ำโขง สร้างซุ้มประตูโขงโยนก 4 ซุ้มประตูประจำ 4 ทิศ
ส่วนที่เชิงดอยพระธาตุก็ยังมีพระพุทธรูปสำคัญองค์ใหญ่คือ พระพุทธรูปองค์หลวง หรือหลวงพ่อพุทธองค์โยนกมิ่งมงคลเชียงแสน ซึ่งปัจจุบันยังคงประดิษฐานอยู่ในบริเวณบ่อน้ำทิพย์ สร้างขึ้นแทนพระเจ้าล้านตื้อที่จมอยู่ในแม่น้ำโขง แต่เศียรงมขึ้นมาได้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์เชียงแสน รวมทั้งปราสาทหลังเก่าที่เป็นสำนักสงฆ์ก็ยังคงอยู่ที่เชิงดอย ส่วนวัดพระธาตุจอมกิตินั้นได้รับการบูรณะเป็นอย่างดี รวมทั้งการบูรณะองค์พระธาตุด้วย
![]() |
พระธาตุจอมกิติ เป็นบทความเกี่ยวกับ อาคาร หรือ สถานที่สำคัญ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ พระธาตุจอมกิติ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ |