ธีระชัย พรสินศิริรักษ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้มีลักษณะเหมือนอัตชีวประวัติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบายวิกิพีเดีย ในมุมมองที่เป็นกลาง

ชีวประวัติที่เขียนโดยตัวเอง ญาติ หรือบุคคลที่ใกล้ชิด มักจะมีเนื้อหาที่เป็นการชื่นชม โฆษณา โดยผู้เขียนอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบายของวิกิพีเดีย ในมุมมองที่เป็นกลาง เนื้อหาควรปรับปรุงโดยใช้ข้อความที่เป็นกลาง และไม่ควรสนับสนุน ส่งเสริม หรือใช้เพื่อโฆษณาบุคคลดังกล่าว
เนื้อหาควรปรับเปลี่ยนใหม่ด้วยการกด แก้ไข โดยใช้ข้อความที่เป็นกลาง ไม่สนับสนุน หรือส่งเสริม และลบเนื้อหาโฆษณาออก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชีวประวัติบุคคลที่มีชีวิตอยู่ อัตชีวประวัติ อะไรที่ไม่ใช่วิกิพีเดีย

ดร. ธีระชัย พรสินศิริรักษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. เป็นหน่วยงานรัฐที่ช่วยผลักดันการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ หลายคนอาจจะรู้จักจากรายการสุดฮิต Mega Clever

       ด้วยวัยเพียง 36 ปีเศษ ดร. ธีระชัยถือเป็นผู้บริหารระดับสูงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสวทช.

แม้ว่าเทคโนโลยีนาโนจะเป็นที่รู้จักกันมานานในต่างประเทศ แต่สำหรับสังคมไทยถือว่ายังเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้น นอกเหนือต้องบริหารงานของศูนย์นาโนฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักแล้ว ดร.ธีระชัย หรือ ดร.นิค ยังต้องเดินสายให้ความรู้เรื่องนาโนเทคโนโลยีกับนักเรียน นักศึกษา สาธารณชน จนเป็นที่รู้จักกันในนาม ดร.นาโน

               พื้นเพของดร.นิค เป็นคนจังหวัดตรัง เป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว จบการศึกษาระดับมัธยมที่ 6 สายวิทยาศาสตร์เมื่อปี 2531 จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 สอบเอ็นทรานซ์ติดคณะวิศวะจุฬา เรียนได้ 2 เดือน แล้วตัดสินใจไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา ไปเรียนซ้ำชั้น ม.6 เพื่อเรียนภาษาและสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่โรงเรียน เทเบอร์ อะคาเดอมี่ (Tabor Academy) มลรัฐแมสซาชูเสตส์ (Massachusetts) จบมาด้วยคะแนน 93.5% เป็นที่หนึ่งของโรงเรียน 

เดิมตั้งใจจะเข้าเรียนที่ Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT สถาบันที่มีชื่อเสียงทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ใกล้เมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเสตส์ แต่เบื่อหน่ายสภาพความหนาวเย็นและแปรปรวนของอากาศ จึงเลือกไปเรียนที่ “แคลเท็ค” (Caltech หรือ California Institute of Technology: CIT) สถาบันคู่แข่งของ MIT อยู่ทางฝั่งตะวันตกของมลรัฐแคลิฟอเนียร์ ที่มีอากาศดีและอบอุ่นกว่าและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึงมากกว่า14 ปี ที่ Caltech มีนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดในโลกและเป็นสถานที่ที่ ศ. ดร. ริชาร์ด ฟายน์แมน (Richard Feynman) ผู้เป็นบิดาแห่งนาโนเทคโนโลยีสอนอยู่จนกระทั่งเสียชีวิต เคยเสิร์ฟอาหารให้ ศ.ดร. ลายนัส พอลลิ่ง (Linus Pauling) ผู้ได้รับ 2 รางวัลโนเบลในสาขาเคมีและสันติภาพในขณะศึกษาที่แคลเท็คก่อนท่านจะเสียชีวิต

เมื่อปี 2536 ดร. ธีระชัย เป็นนักเรียนและเป็นคนไทยคนเดียวที่จบปริญญาตรีควบในสองสาขาที่ยากที่สุดของ Caltech คือ ฟิสิกส์กับวิศวกรรมไฟฟ้าได้สำเร็จภายใน 4 ปี ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ด้วยเกรดเฉลี่ยเฉียด 4.00 (3.80) อยู่ในระดับท็อป 5 ของรุ่น ขณะเดียวกันก็เป็นนักกีฬาตัวยงของมหาวิทยาลัย เป็นกัปตันทีมแข่งขันว่ายน้ำและโปโลน้ำ

               ช่วงที่ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาตรีที่ Jet Propulsion Laboratory  ขององค์การนาซ่า  มีโอกาสร่วมสร้างดาวเทียมขนาดเล็กร่วมกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก ดาวเทียมดวงนี้ถูกส่งออกไปโคจรนอกโลกมากว่า 10ปีแล้วด้วยจรวด Delta II

ระหว่างเรียนปริญญาตรี ได้ทำงานหาประสบการณ์ไปด้วยที่บริษัท Hughes Space and Communications ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทยักษ์ใหญ่ Hughes Aircraft Company ผู้สร้างดาวเทียมสื่อสารให้กับบริษัท ชินวัตร เลยมีโอกาสช่วยสร้างดาวเทียมไทยคม ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกของไทย เมื่อเรียนจบจึงได้รับทุนเกียรติยศ Howard Hughes Fellowship เพื่อศึกษาต่อวิศวกรรมไฟฟ้าด้านโทรคมนาคมการสื่อสารดาวเทียมที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University ) ใช้เวลาเพียงปีเศษ ก็จบปริญญาโทด้วยเกรดเฉลี่ยเฉียด 4.00 อีกเช่นกัน (3.85) เมื่อปี 2537 และออกมาทำงานหาประสบการณ์ที่บริษัท Hughes ระยะหนึ่ง ทำหน้าที่ดูแลควบคุมการจราจรของสัญญาณดาวเทียมต่างๆ ของทั้งประเทศอเมริกา ต้องนั่งในห้องที่มีจอโทรทัศน์นับร้อยเครื่อง ดูทีวีฟรีจนตาลาย

                มาเริ่มสัมผัสความมหัศจรรย์ของ”นาโน” เทคโนโลยีขนาดจิ๋ว ช่วงเป็นนักศึกษาปริญญาเอกปีแรกอยู่ที่ UCLA (University of California at Los Angeles) จึงตัดสินใจเปลี่ยนสาขาจากการสื่อสารดาวเทียมมาเป็นสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าไมโครนาโนอิเล็กทรอนิกส์ แล้วย้ายกลับมาเรียนปริญญาเอกที่ Caltech แทนเพราะได้อาจารย์ที่ปรึกษาที่มีชื่อสียงและเก่งระดับโลก คราวนี้ไม่พลาดจบด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 มีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์มากมาย
                งานวิจัยที่โดดเด่นได้แก่เรื่อง “ Microbat ” ซึ่งเป็นการสร้างหุ่นยนต์นกกระพือปีกบินที่เบาและเล็กที่สุดในโลก ผลงานวิจัยเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากคนในแวดวงวิชาการและสื่อมวลชนมากมาย มีการนำเรื่องราวเสนอผ่าน CNN, BBC’s Tomorrow World, Scientific American Frontiers show on PBS, FOX News, NHK, MSNBC, History Channel, Discovery Channel, Los Angeles Times เป็นต้น
                ช่อง 9 อสมท. เคยนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ในรายการแดนสนธยา สร้างความตื่นเต้นและแปลกใจให้กับครอบครัวที่เมืองไทยมากเพราะไม่เคยทราบมาก่อน

                หลังจากเรียนจบปริญญาเอกวิศวกรรมศาสตร์ (สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ไมโคร/นาโนอิเล็กทรอนิกส์) จาก Caltech แล้ว ก็ไปซิลิกอน วัลเล่ย์ (Silicon Valley) ทำงานให้บริษัท Applied Materials (AMAT) บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการสร้างเครื่องมือผลิตคอมพิวเตอร์ชิป ช่วยผลักดันเทคโนโลยี PVD (Physical Vapor Deposition) CleanW ซึ่งเป็นการสร้างแผ่นฟิล์มบางขนาดระดับนาโนโดยอะตอมของธาตุทังสเตน จนสามารถทำรายได้ให้กับบริษัทอย่างมหาศาลหลายพันล้านบาท
                ด้วยความเป็นคนไทย และรู้ดีว่านาโนเทคโนโลยี ซึ่งกำลังเป็นกระแสโลก เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์และในอนาคตเมืองไทยจะต้องเกี่ยวพันกับศาสตร์แขนงนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  รวมทั้งต้องการกลับมาดูแลคุณพ่อ คุณแม่ หลังจากที่จากกันไปนาน  เมื่อรัฐบาลอนุมัติโครงการจัดตั้งศูนย์นาโนเทคโนโลยีขึ้นเมื่อปลายปี 2546 จึงตัดสินเดินทางกลับมารับใช้บ้านเกิดเมืองนอน 

ดร. นิค เป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ ไฟแรงที่ได้เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อสามปีก่อนมาช่วยก่อตั้งและบุกเบิกศูนย์นาโนเทค ฯ หลังจากที่ได้ศึกษาและทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานเกือบครึ่งชีวิต (กว่า15 ปี) นับว่าต้องปรับตัวโดยเร่งด่วนให้เข้ากับระบบราชการของเมืองไทย

                ดร.นิค เป็นพนักงานคนแรกของศูนย์นาโน ฯ  มีรหัสประจำตัว 05-0001 เริ่มงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้ศูนย์นาโน ฯ จนเป็นที่รู้จักกันทั้งในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ ช่วยผลักดันให้มีการสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านวิจัยและพัฒนา ขึ้นเวทีระดับโลกมามากมายนับไม่ถ้วนในการนำเสนองาน เป็นตัวแทนประเทศไทยและเป็นเลขานุการของกลุ่มประเทศ ANF (Asia Nano Forum) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประสาน แลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ งานวิจัยและพัฒนา และนักวิจัยจาก 13 ประเทศสมาชิกในแถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กับองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลก จนประเทศไทยได้เลือกให้เป็นสำนักงานใหญ่ของกลุ่ม ANF เมื่อปลายปี 2548

หนึ่งในผลงานเด่นคือการมีส่วนร่วมกับบริษัทไอบีเอ็ม นำ 50 โมเลกุลของก็าซคาร์บอนมอน็อกไซด์ (CO) มาเขียนลงบนผิวของโลหะทองแดง (CU) เป็นอักษรพระปรมาภิไธย “ภปร” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่อิมแพค เมืองทองธานีเมื่อปี 2547

        เมื่อต้นปี 2550 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมสัมมนาวิชาการและแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านนาโนเทคโนโลยีครั้งใหญ่ระหว่างวันที่ 16-19 มกราคม 2550 ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค (The 2nd IEEE Nano/Micro Engineered and Molecular Systems: IEEE-NEMS 2007)  ดร. นิคเป็นคนไปเจรจากับองค์กร IEEE Nanotechnology Council  จนประเทศไทยได้รับเลือกจากองค์กรที่สำคัญนี้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยและถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ดร. นิคเป็นประธานใหญ่ในการจัดงานครั้งนี้และได้เกียรติจากนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังจากทั่วโลกมาร่วมงานมากกว่า 300 คน ตัวแทนนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ได้เข้าพบท่านนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อหาแนวทางในการผลักดันและสนับสนุนการพัฒนานาโนเทคโนโลยีอีกด้วย
                 ล่าสุด ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีนาโนมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย หลายประเภท อาทิ ร่วมกับบริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัดผลิตเสื้อแจ๊กเก็ตกันน้ำ กันเปื้อน ต่อต้านเชื้อโรค ล่าสุดนักกีฬาไทยก็ภูมิใจได้ใส่เสื้อเหล่านี้ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 15 ที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ ร่วมกับบริษัท เอ็ม ดี พีในการนำนาโนซิลเวอร์มาประยุกต์ใช้ในการผลิตเนคไท และผ้าพันคอนาโน เป็นต้น  อีกทั้งยังร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าในการผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยได้ตื่นตัวในการนำนาโนเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้

แม้จะร่ำเรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่ดร.นิคมีความสนใจในศาสตร์แขนงอื่นๆ รอบตัวอีกหลายประเภท อาทิ ด้านภาษา นอกจากภาษาไทย ยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สเปน และ เยอรมันได้อีกด้วย

                นอกจากการเรียนแล้วยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆมากมายจนได้รับรางวัล Caltech Graduate Dean’s Award สำหรับงานรับใช้สังคมดีเด่น ปัจจุบันเป็นนายกสโมสร สวทช. ช่วยในการจัดและดูแลกิจกรรมต่างๆ ให้แก่พนักงานสวทช. อีกทั้งช่วยผลักดันในการสร้างสนามกีฬาขึ้นเป็นแห่งแรกในอุทยานวิทยาศาสตร์อีกด้วย
                ช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย ดร. นิคได้รับเลือกเป็นกับตันทีมโปโลน้ำและว่ายน้ำ เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของมหาวิทยาลัย และเป็นนักคาราเต้สายดำ ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขัน US National Champion in Men’s intermediate kumite, รุ่น +154 ปอนด์และรางวัลเหรียญเงินในการแข่งขัน Men’s team kata at the 2003 U.S.A. National Karate-Do Federation National Championships
        ดร. นิคชอบออกกำลังกายและเล่นกีฬาได้เกือบทุกประเภททั้ง กอล์ฟ ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล บาสเกตบอล วิ่ง เทนนิส แบดมินตัน สควอช แร็กเก็ตบอล ปิงปอง ว่ายน้ำ ดำน้ำ โปโลน้ำ สกี สโนว์บอร์ด เรือใบ สเก็ต ฯลฯ และชอบลองกีฬาโลดโผนอย่างปีนเขา ไต่หน้าผา ขี่ม้า กระโดดร่มดิ่งพสุธาจากเครื่องบิน ล่องแก่งน้ำเชี่ยว เป็นต้น