คุยกับผู้ใช้:Cysis
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ก่อนอื่นต้องกล่าวคำว่าสวัสดีเจ้า..
สวัสดีเจ้า เพราะข้าเจ้าเป็นคนเหนือ เป็นสาวพะเยา วันนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพะเยามาให้อ่านกันเพลินๆ แต่ถ้าท่านผู้ใดเห็นความผิดพลาดประการใด หรือรู้อะไรมากไปกว่านี้ก็ช่วยกันแก้ไขได้นะคะ ด้วยความยินดีเจ้า...พะเยาเป็นจังหวัดเล็กๆทางภาคเหนือของประเทศไทย คนส่วนใหญ่ได้ยินแล้วอาจต้องคิดอีกนาน...(มันอยู่มุมไหน...?) แล้วก็ถึงบางอ้อ ถูกต้องแล้วครับ..อยู่ติดจังหวัดเชียงราย เมืองสาวสวยซึ่งพะเยาถือว่าเป็นเมืองน้องก็คงพอมี สาวสวยๆอยู่บ้าน...(ต้องมองนาน นาน คนสวยต้องมองนาน นาน ประมาณนั้น ) ซึ่งเป็นเมืองผ่าน คือเที่ยวผ่านๆอาจวันเดียวทั่ว แต่ถ้าอยากรู้จักกันจริงๆ ต้องใช้เวลาพอสมควร อันนี้คนเล่ายืนยัน.... ดังคำขวัญของจังหวัดเราที่มีสิ่งน่าค้นหาอยู่ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกันนินา "กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง งามลือเลื่องดอยบุษราคัม " น่าติดตามแล้วใช่มั้ยละคะว่ากว๊านเป็นแหล่งทะเลน้ำจืดที่ใหญ่ ..ไม่เป็นรองใคร (จริงหรือหลอก ต้องไปดูเองค่ะ ) ซึ่งคนเล่าเองเก็บความภูมิใจไว้ลึกสุดใจเสมอมา ว่าเราเป็นหนึ่งในลูกพ่อขุน และมองเห็นพระเจ้าตนหลวง เย้.. เย้... อ้าว งงล่ะซิ กับการมองเห็นพระพุทธรูปทำไมคนพะเยาส่วนใหญ่ถึงภูมิใจ (มากนักหนา) เพราะตำนานมันมีมาแต่โบราณค่ะคุณ...เรื่องเล่าก็มีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เหมือนนิยายไปเนอะ.. คือมีเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากี่ชั่วอายุคน แต่ก็นานพอสมควรแหล่ะค่ะ เพราะคนเล่า (ที่ตอนนี้แอบเก็บมาเล่า) เองได้ยินมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งตอนนี้ก็นับอายุปาเข้าไป 25 ขวบปีแล้ว (ไม่นับที่มันหล่นหายน้า..) คุณยาย ก็จะเล่าให้ฟังหลายๆครั้ง ซึ่งท่านคงจำไม่ได้ว่าเล่าแล้ว เล่าอีก หรือเพราะอยากให้เราซึมซับรับรู้ กลัวไอ้เจ้าบาปกรรม (ซึ่งคนเดียวนี้อาจไม่กลัวมันแล้ว..) ก็เป็นได้ จำได้ว่าเกือบทุกครั้งที่เราไปงานประเพณีประจำปีของวัดศรีโคมคำ ก็คือวัดพระเจ้าตนหลวงนั่นแหละ (งานประเพณีสักการะ จะมีประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปีค่ะ เชิญเที่ยวๆ ) ท่านเล่าว่า..อยากฟังละซิ...สมัยก่อนโน้น มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาดี (ข้อนี้ไม่เฉพาะคุณยายเราเท่านั้นที่ยืนยัน คุณยายหลายๆคนที่ไปด้วยกันจะช่วยย้ำเสมอ เลยจำ อิอิ ) มากราบไหว้สักการะ แล้วมองไม่เห็นองค์ของพระเจ้าตนหลวง ซึ่งองค์ใหญ่มาก..ถึงมากที่สุด (ต้องไปพิสูจน์ดูเอง) พอเขามองไม่เห็นก็ร้องไห้ ด้วยเพราะตำนานมีมาว่า ใครก็ตามที่มีกรรมมาก ไม่รู้มาแต่ชาติไหนก็แล้วแต่จะไม่สามารถมองเห็นองค์ของท่าน (ขนาดชาติไหนๆยังไม่เห็น แล้วชาตินี้คงไม่เหลือ ) เลยเป็นต้นเหตุให้เราคิด และกลัว กลัวที่จะทำบาป กรรมไปด้วย จริงๆ (ถึงแม้อาจมีพลั้งไปบ้าง ) เพราะได้รับการปลูกฝังมาอย่างนี้....ยิ่งตอกย้ำความจริงด้วยว่ามีคนในหมู่บ้าน (หมู่บ้านแม่ซอนที่กล่าวถึงนี่แหล่ะ ) มองไม่เห็นด้วยจริงๆแล้ว ทำให้เราหวั่นๆอยู่พอสมควรเชียว.... เกริ่นมายาวก็แค่อยากชวนเที่ยวบ้างแค่นั้นเอง ตัวคนเขียนเองอยู่ อำเภอแม่ใจตำบลแม่สุกซึ่งหมู่บ้านจริงๆแล้วห่างจากตัวอำเภอ ไปประมาณ 5 กม.ได้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ สงบมาก และที่สำคัญอบอุ่นเสมอ เป็นหมู่บ้านชนบทเล็กๆ ยังมีกลิ่นอายของธรรมชาติให้สัมผัสอยู่มากมาย วิถีชีวิตชาวบ้านเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ยังมีการจับปลาในหนองน้ำลำคลองในหมู่บ้าน มีการปลูกพืชผักไว้กินเอง ยังมีคนเฒ่าคนแก่อีกไม่น้อยที่ทอผ้าไว้ใช้เอง เป็นผ้าทอมือแท้ที่ทอมือจริงๆ **ไว้มีโอกาสมาฟัง มาอ่านกันต่อนะคะ**