โลกของสัตว์:รู้หรือไม่
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกร็ดความรู้ส่วนนี้ใช้ใน {{สถานีย่อย:โลกของสัตว์/รู้หรือไม่}}
[แก้] รู้หรือไม่ หัวข้อที่นำเสนอแล้ว
- ดอกไม้ทะเล จะใช้อาวุธภายในตัวของพวกมันคือพิษที่เอาไว้สำหรับต่อยเหยื่อ โดยมันจะยิงเหงี่ยงเล็ก ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับฉมวกใส่กัน จนกระทั่งตัวที่อ่อนแอกว่ายอมแพ้ไป
- หอยฝาชี เป็นสัตว์ที่มีเปลือกแข็งชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ตามก้อนหินและแอ่งน้ำบริเวณชายฝั่ง ที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ เมื่อโดนกระแสน้ำขึ้นและลงซัดสาด หอยฝาชีจะใช้กล้ามเนื้อที่เท้าเกาะติดก้อนหินเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกระแสน้ำพัดลอยไป
- ดาวทะเล สามารถงอกแขนใหม่ได้เมื่อแขนของพวกมันขาดออกจากตัว ดาวทะเลอาจมีแขนหรือกิ่งรัศมีได้ถึง 40 ข้าง หากมีสัตว์ผู้ล่าจับแขนข้างหนึ่งของมันได้ ดาวทะเลจะสลัดแขนนั้นทิ้งและใช้แขนอื่น ๆ คลานหลบหนีไป
- ปูเสฉวน ไม่มีเปลือกแข็งห่อหุ้มตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะลอกคราบเมื่อมันโตจนคับเปลือก แต่ปูเสฉวนไม่มีเปลือกแข็งจึงต้องอาศัยเปลือกว่าง ๆ ของหอยเจดีย์หรือหอยฝาเดียวชนิดใดก็ได้ที่ตายแล้ว ขนาดพอเหมาะที่มันจะสอดตัวเข้าไปเพื่อปกป้องร่างกายที่อ่อนนิ่มของมันได้
- เม่นทะเล มีสีเขียวกลมกลืนกับสีเขียวของสาหร่ายทะเล มันจะพรางตัวด้วยการตกแต่งตัวของมันเองด้วยเศษเปลือกหอย เม็ดกรวดหรือสาหร่ายทะเล ซึ่งทำให้สัตว์ผู้ล่าสังเกตเห็นได้ยากขึ้น
- ปลาฉลาม เป็นสัตว์ที่มีฟันพิเศษแตกต่างจากสัตว์อื่น แข็งแกร่งไม่ผุกร่อน ถ้าฟันซี่ไหนหักจะมีฟันใหม่งอกขึ้นมาแทนที่ ฟันแต่ละซี่คมกริบเหมือนใบมีดโกน ขอบฟันหยักเป็นเลื่อย และมีฟันรวมทั้งสิ้น 5 แถว คือ 3 แถวสำหรับด้านหน้า และ 2 แถวที่ซ่อนอยู่ใต้เพดานปาก
- ฟองน้ำ เป็นสัตว์ทะเลที่มีชีวิตเรียบง่าย หากินโดยการกรองอาหารจากน้ำทะเลกิน ฟองน้ำธรรมชาติที่ใช้ในเวลาอาบน้ำ ก็คือซากของฟองน้ำที่ตายแล้วนำมาตากแห้ง
- ปะการัง คือสัตว์ตัวจิ๋วที่สามารถสร้างกำแพงใต้น้ำขนาดมหึมา กำแพงนี้ก่อตัวจากหินปะการังซึ่งเป็นโครงกระดูกที่เหลืออยู่ของสัตว์ทะเลที่เรียกว่า ตัวปะการัง เวลาหลายล้านปีทำให้มีกองกระดูกมากพอที่จะก่อตัวเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ คล้ายกับกำแพงที่เรียกว่า แนวปะการัง ซึ่งจะเต็มไปด้วยซอกเล็กซอกน้อยที่ใช้เป็นที่หลบซ่อนและเป็นแหล่งอาศัยชั้นดีของบรรดาสิ่งทีชีวิตใต้ท้องทะเล ที่มีความสวยงานและมีความมหัศจรรย์ทั้งหลาย
- หอยมือเสือ เป็นสัตว์ที่มีเปลือกแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่ในแถบแนวปะการัง สามารถเจริญเติบโตจนมีขนาดใหญ่โตได้ถึงหนึ่งเมตร
- ม้าน้ำ ออกลูกเป็นไข่โดยตัวเมีย และตัวผู้จะเป็นผู้นำไข่เหล่านี้มาเก็บไว้ในกระเป๋าบริเวณหน้าท้อง และเมื่อไข่พร้อมที่จะฟักเป็นตัว ลูกม้าน้ำตัวจิ๋ว ๆ ก็จะถูกบีบออกมาเป็นสาย จากกระเป๋าบริเวณหน้าท้องของม้าน้ำตัวผู้
- เสือชีตาห์ เป็นสัตว์ที่วิ่งได้เร็วกว่าสัตว์ชนิดอื่นใด สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วเกือบ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ไม่สามารถวิ่งด้วยความเร็วเท่านี้ได้นาน เสือชีตาห์จะอาศัยความเร็วในการรล่าเหยื่อย โดยจะย่องเข้าหาเหยื่อจนเหลือระยะห่างแค่ประมาณ 100 เมตร จากนั้นจึงพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงสุดก่อนจะจู่โจมครั้งสุดท้าย
- กระต่ายป่าสีน้ำตาล สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วถึง 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยอาศัยขาหลังที่ทรงพลังในการช่วยให้มันเคลื่อนที่ได้เร็ว พอที่จะหนีจากศัตรูอย่างสุนัขจิ้งจอกได้
- วาฬหัวศร หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วาฬไรท์กรีนแลนด์ อาศัยอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติก มีขนาดลำตัวยาวได้ถึง 20 เมตร กินสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหารโดยการใช้แผ่นซี่กรองอาหารในปาก ที่เรียกว่าบาลิน
- บ่าง ไม่ได้บินได้จริง ๆ เพียงแค่ร่อนจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งเท่านั้น พวกมันสามารถร่อนได้ไกลถึง 130 เมตรด้วยแผ่นหนังที่อยู่ด้านข้างลำตัว เมื่อบ่างทิ้งตัวจากกิ่งไม้ มันจะเหยีดแขนขาและกางแผ่นหนังออก ทำท่าทางเหมือนกับนักกระโดดร่มเมื่อทิ้งตัวจากเครื่องบิน
- แมวน้ำลายเสือดาว คือนักล่าที่ดุร้ายที่สุดในแถบขั้วโลกใต้ มีถิ่นอาศัยอยู่ในผืนน้ำแถบทวีปแอนตาร์กติกา คอยล่าเพนกวิน ปลาหรือแม้กระทั่งแมวน้ำชนิดอื่น ๆ