การล้างชาติพันธุ์โดยนาซี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

การคัดเลือกผู้คนชาวฮังการีเชื้อสายยิวที่หน้าค่ายกักกันเอาส์ชวิตซ์ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2487 โดยแถวขวาจะถูกเกณฑ์เพื่อใช้แรงงาน ส่วนแถวซ้ายส่วนใหญ่เป็นเด็ก คนชรา คนแคระ ผู้พิการและหญิงสาวที่ไม่มีประโยชน์ในการใช้แรงงานจะถูกเกณฑ์ไปยังห้องแก๊ซพิษ
การคัดเลือกผู้คนชาวฮังการีเชื้อสายยิวที่หน้าค่ายกักกันเอาส์ชวิตซ์ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2487 โดยแถวขวาจะถูกเกณฑ์เพื่อใช้แรงงาน ส่วนแถวซ้ายส่วนใหญ่เป็นเด็ก คนชรา คนแคระ ผู้พิการและหญิงสาวที่ไม่มีประโยชน์ในการใช้แรงงานจะถูกเกณฑ์ไปยังห้องแก๊ซพิษ
การกล่าวคำปราศัยของอดอล์ฟ  ฮิตเลอร์
การกล่าวคำปราศัยของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

การล้างชาติพันธุ์โดยนาซี เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์โลก ประชากรชาวยิวที่อาศัยอยู่ในยุโรปประมาณ 6 ล้านคนได้เสียชีวิตหรือสูญหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งหมดนี้เป็นแผนการทำลายล้างของพรรคนาซีในประเทศเยอรมนี นำโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

นอกจากนี้ก็ยังมีคนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ยิว ถูกล้างเผ่าพันธุ์เช่นเดียวกัน ประกอบด้วย ชาวยิปซี ชาวโรมัน ซึ่งเสียชีวิตจากการสังหารครั้งใหญ่ไปกว่า 220,000 คน บางคนถูกนำตัวไปวิจัยหรือทำการทดลองเกี่ยวการบำรุงพันธุ์มนุษย์ต่างๆ ที่สถานปฏิบัติการที่ 4 (Action T4)

นี่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการล้างเผ่าพันธุ์ของนาซี

สารบัญ

[แก้] ที่มาและความหมาย

การล้างชาติพันธุ์ ในภาษาอังกฤษคือ "holocaust" มีรากศัพท์มาจากคำกรีก holókauston แปลว่า "ทีเดียว" (holos) "เผา" (kaustos) ซึ่งเป็นการบูชายัญต่อพระเจ้า เรียกอีกแบบหนึ่งว่า Ha-Shoah หรือ Khurbn ต่อมาในคริสตศตวรรษที่ 19 คำว่า holocaust นั้นหมายถึง ความหายนะ ความล่มจม พจานุกรมภาษาอังกฤษ ฉบับออกซ์ฟอร์ด เห็นพ้องต้องต้องกันว่า คำว่า holocaust หมายความถึง ลักษณะการกระทำของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่มีต่อชาวยิวในปี พ.ศ. 2485 ความหมายนี้ยังไม่ได้ถูกยอมรับอ้างอิงจนกระทั่งทศวรรษที่ 1970 จึงเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม คำนี้ก็แปลโดยสามัญว่าเป็นการฆ่าล้างชาติพันธุ์ที่กระทำโดยพรรคนาซี แต่คำว่า holocaust ก็แปลได้หลายทางเช่นกัน

[แก้] ขบวนการล้างชาติพันธุ์ของนาซี

ขบวนการล้างชาติพันธุ์ของพรรคนาซี เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นหลายครั้ง โดยมีการคัดเลือกบุคคลเพื่อการกระทำต่างๆ ที่พิลึกพิลั่น[ต้องการแหล่งอ้างอิง]และเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้

[แก้] ประสิทธิผล

[แก้] อัตรา

[แก้] ทารุณ โหดร้ายและอำมหิต

[แก้] เด็ก

[แก้] การทดลอง

[แก้] จำนวนผู้เสียชีวิต

แผนที่แสดงพื้นที่ที่ชาวยิวถูกจับไปที่ค่ายกักกันของนาซีเมือเดือนธันวาคม พ.ศ. 2484
แผนที่แสดงพื้นที่ที่ชาวยิวถูกจับไปที่ค่ายกักกันของนาซีเมือเดือนธันวาคม พ.ศ. 2484

จำนวนที่แน่นอนของผู้ที่เสียชีวิตจากน้ำมือของนาซีอาจจะไม่มีใครล่วงรู้ แต่เชื่อว่ามีจำนวนผู้เคราะห์ร้าย ดังนี้[ต้องการแหล่งอ้างอิง] :

  • 5-6 ล้านคน เป็นชาวยิว ซึ่งประกอบด้วยชาวโปแลนด์ที่เป็นยิว 3 ล้านคน
  • 1.8-1.9 ล้านคน เป็นชาวคริสเตียนและผู้คนที่ไม่ใช่ชาวยิว แต่ต่อต้านพรรคนาซีและถูกนาซียึดครอง
  • 200,000-800,000 คน เป็นชาวโรมันและชาวยิปซี
  • 200,000-300,000 คน เป็นผู้ที่ไม่มีประโยชน์ในการใช้แรงงาน
  • 80,000-200,000 คน เป็นผู้ที่มาจากสมาคมของยุโรปที่ต่อต้านการกระทำของพรรคนาซี
  • 100,000 คน เป็นผู้ที่นับถือลัทธิคอมมิวนิสต์
  • 10,000-25,000 เป็นพวกรักร่วมเพศ
  • 2,500-5,000 เป็นชาวคริสเตียน นิกายพยานของพระยโฮวา (Jehovah's Witnesses)

รูล ฮิลเบิร์ก เจ้าของผลงานหนังสือ The Destruction of the European Jews (การสังหารชาวยุโรปเชื้อสายยิว) คาดว่ามีชาวยิวทั้งหมด 5.1 ล้านคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การล้างชาติพันธุ์ของนาซี จากสถิติกล่าวไว้ว่า มากกว่า 8 แสนคน เสียชีวิตจากบริเวณเกท-โทและความขาดแคลน, 1.4 ล้านคนเสียชีวิตเพราะถูกยิงทิ้งกลางแจ้ง และมากกว่า 2.9 ล้านคน เสียชีวิตอยู่ในค่ายกักกันนั้นเอง ฮิลเบิร์กประมาณการว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตในประเทศโปแลนด์เป็นจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ตัวเลขที่ฮิลเบิร์กนำมาพิจารณานี้ได้มาจากบันทึกเท่าที่หาได้ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

[แก้] ผู้กระทำผิดและผู้ร่วมมือ

เบนิโต มุสโสลินี (ซ้าย) และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (ขวา) 2 ผู้นำเผด็จการชื่อดัง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เบนิโต มุสโสลินี (ซ้าย) และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (ขวา) 2 ผู้นำเผด็จการชื่อดัง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

[แก้] ใครคือผู้ชี้ทางสู่การฆาตกรรม?

[แก้] สมาชิกฝ่ายอักษะ

[แก้] บัลแกเรีย

ชาวยิวในประเทศบัลแกเรีย หรือแม้แต่พลเรือนและทหารที่อยู่ในเขตการปกครองของประเทศมาซิโดเนียและทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ก็ถูกเนรเทศเข้าสู่ประเทศบัลแกเรียของเยอรมนี ประเทศบัลแกเรียก็ไม่ได้ขัดขวางการเนรเทศผู้คนของเยอรมนี ซึ่งชาวยิวที่ถูกเนรเทศเหล่านี้จะถูกนำตัวไปยังค่ายกักกัน

[แก้] ฟาสซิสท์ อิตาลี
เบนิโต  มุสโสลินี นายกรัฐมนตรีและผู้นำเผด็จการฟาสซิสท์ อิตาลี ระหว่างปี พ.ศ. 2465 ถึง พ.ศ. 2486
เบนิโต มุสโสลินี นายกรัฐมนตรีและผู้นำเผด็จการฟาสซิสท์ อิตาลี ระหว่างปี พ.ศ. 2465 ถึง พ.ศ. 2486

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศอิตาลีปกครองด้วยระบอบเผด็จการแบบฟาสซิสต์ นำโดยเบนิโต มุสโสลินี ผู้นำจอมเผด็จการ ซึ่งร่วมกับพรรคนาซีในการจำกัดสิทธิเสรีภาพของพลเมืองชาวยิว ส่งผลให้กลุ่มชนชาวยิวมีฐานะตกต่ำลง ลดฐานะเป็นพลเมืองชั้นรอง ถึงแม้ว่ามุสโสลินีจะไม่เคยเนรเทศชาวยิวไปยังค่ายกักกัน แต่หลังจากที่มุสโสลินีหมดอำนาจลงแล้ว อิตาลีก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็นสังคมนิยมประชาธิปไตยอิตาลี ชาวยิวที่รอดมาจากค่ายกักกันได้กว่าพันคนก็กลับเข้ามาสร้างค่ายเล็กๆ มากมายในอิตาลีเรียกกันว่า Risiera di San Sabba เป็นสถานที่ปลงศพชาวยิว 2,000 ถึง 5,000 คนที่ถูกสังหารที่ซาน ซับบา

[แก้] โรมาเนีย
ลอน  อันโตเนสโค ผู้นำโรมาเนียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ลอน อันโตเนสโค ผู้นำโรมาเนียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ประเทศโรมาเนียภายใต้การปกครองของลอน อันโตเนสโค (Lon Antonescu) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีชาวยิวเสียชีวิตระหว่าง 280,000 - 380,000 คน และมีรายการจากคณะรัฐบาลโรมาเนียว่า

"ในบรรดาพันธมิตรของนาซีเยอรมันทั้งหมด โรมาเนียต้องแบบภาระความรับผิดชอบในการตายของชาวยิวมากกว่าประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมกับเยอรมัน ทั้งการสังหารใน ไอซี่ พ็อกรอม (Iasi pogrom), โอเดสซา (Odessa), บ็อกดานอฟก้า (Bogdanovka), โดมานอฟก้า (Domanovka) และเปซิโอรา (Peciora) เพื่อเป็นตัวอย่างแก่พวกที่น่าขยะแขยงมากที่สุดและจะปฏิบัติเช่นนี้อีกกับยิวทุกแห่งหนจนกว่าจะถึงการฆ่าล้างชาติพันธุ์"

จากการเป็นสมาชิกในการช่วยเหลือทางการทหารให้กับเยอรมนีและยูเครน โรมาเนียได้สังหารชาวยิวร้อยละ 10 ที่เมืองเบสซาราเบีย ทางตอนเหนือของเมืองบูโกวินาและเมืองทรานสนิสเตรีย ส่วนการสังหารครั้งใหญ่มีอีกหลายครั้ง อาทิ ชาวยิว 54,000 ศพที่บ็อกดานอฟก้า ชุนนุมชาวโรมาเนียที่ค่ายบั๊ก ริเวอร์ เมืองทรานสนิสเตรีย ระหว่างวันที่ 21-31 ธันวาคม พ.ศ. 2484, ชาวยิวเกือบ 100,000 ศพที่อาศัยในเมืองโอเดสซา , มากกว่า 10,000 ศพในเมืองไอซี่ พ็อกรอม และมีการสังหารชาวยิวจำนวนมากที่เมืองโดมานอฟก้าและค่ายกักกันอัคเมตเชตก้า (Akhmetchetka) อีกด้วย

[แก้] ฮังการี
ไมคลอส อองรี เดอ นากีบานย่า ผู้นำฮังการีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ไมคลอส อองรี เดอ นากีบานย่า ผู้นำฮังการีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ธงประจำพรรคแอร์โรว  ครอส   ของประเทศฮังการี   ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ธงประจำพรรคแอร์โรว ครอส ของประเทศฮังการี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ประเทศฮังการีในยุคของไมคลอส อองรี เดอ นากีบานย่าเป็นผู้นำ มีการเนรเทศชาวยิวไปทั้งสิ้น 20,000 คนจากโรงเรือนใหญ่ของกองกำลังยูเครนในปี พ.ศ. 2484 ไปที่คาเมียเนส-โพดิสกี้ (Kamianets-Podilskyi) ในเขตการครองครองของเยอรมนีในยูเครน เพื่อให้พวกพันธมิตรของเยอรมันสังหารโดยการยิงเป้า กองทัพทหารและตำรวจฮังการีได้ทำการสังหารชาวยิวและชาว]เซิร์บกว่าพันคนที่เมืองโนวี่ แซด (Novi Sad) เมื่อเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2485 อย่างไรก็ตามอองรีก็ยังขัดขวางความต้องการของเยอรมนีที่ให้เนรเทศชาวยิวในฮังการี (ประมาณ 725,000 คน) และส่วนใหญ่ก็มีชีวิตอยู่รอดถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2487 ซึ่งนาซีได้เข้าครอบครองฮังการี ปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2487 ชาวยิวครึ่งหนึ่ง (ประมาณ 381,661 คน) ในฮังการีถูกกวาดไปอยู่ที่ค่ายกักกันเอาส์ชวิตส์ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2487 รัฐบาลฮังการีภายใต้การเป็นหุ่นเชิดของนาซี ชาวยิวก็ถูกกวาดต้อนกลับมายังบ้านเกิด แต่นี่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ต่อมาชนชาวยิวก็กลับมาถูกกลั่นแกล้งดังที่เป็นมา

อองรีกลับมาอีกครั้งในนามพรรคแอร์โรว ครอส (Arrow Cross Party : Arrow แปลว่า ลูกศรหรือลูกดอก , Cross แปลว่า กากบาท) ก่อตั้งโดยเฟอเรนซ์ สซาเลซี่ (Ferenc Szálasi) ในช่วงปลายสงครามซึ่งสัญญาณความพ่ายแพ้ของเยอรมนีเริ่มปรากฏ ทั้งนี้กองกำลังของฮังการีมีอยู่ในกองกำลังเอสเอสของนาซีมากมายไม่น้อย ซึ่งกองกำลังนี้ได้ไล่ล่าชาวยิวเพื่อนำตัวเข้าสู่ค่ายกักกันซึ่งเป็นสถานที่สังหารชาวยิวกว่า 437,000 คน ยิ่งไปกว่านั้น ชาวยิวในกรุงบูกาเปรส เมืองหลวงของประเทศฮังการี 20,000 คนถูกยิงทิ้งที่แม่น้ำดานูบโดยคำสั่งของพรรคแอร์โรว ครอส นอกจากนี้ฮังการีภายใต้อิทธิพลของพรรคนาซีได้นำชาวยิว 70,000 คนข้ามไปยังประเทศออสเตรีย กว่าพันคนตายเพราะถูกยิง อีกกว่าพันคนตายเพราะความอดอยากและอื่นๆ

[แก้] สโลวาเกีย

[แก้] ฝ่ายสมาชิกประเทศในยุโรป

[แก้] ฝรั่งเศส

[แก้] เบลเยียม

[แก้] สโลวาเกีย

[แก้] ดูเพิ่ม