อักษรอาหรับ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อักษรอาหรับ (Arabic alphabet) เป็นอักษรที่มีความสำคัญในศาสนาอิสลาม เพราะคัมภีอัลกุรอานเขียนด้วยอักษรนี้ อักษรนี้จึงมีใช้แพร่หลายในกลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลาม แม้แต่ภาษานอกกลุ่มเซมิติก เช่น ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอูรดู และ ภาษายาวี ตัวอักษรมีหลายแบบแต่รูปร่างของอักษรเหมือนกัน
สารบัญ |
[แก้] โครงสร้างของอักษรอาหรับ
เขียนจากขวาไปซ้าย มีอักษรพื้นฐาน 28 ตัว การปรับไปเขียนภาษาอื่น เช่น ภาษาเปอร์เซียและภาษาอูรดูจะเพิ่มอักษรอื่นเข้ามา ไม่มีความแตกต่างระหว่างตัวพิมพ์กับตัวเขียนและตัวเล็กกับตัวใหญ่ อักษรแต่ละตัวจะเขียนติดกับอักษรตัวอื่นแม้ในการพิมพ์และรูปอักษรเปลี่ยนไปขึ้นกับตำแหน่งในคำ ไม่มีการเขียนสระเสียงสั้น ผู้อ่านต้องจดจำเอาเองว่าคำ ๆ นั้นมีเสียงสระเป็นอย่างไร จะเขียนเฉพาะสระเสียงยาวเท่านั้น ในคัมภีร์อัลกุรอานหรือในการสอนจะใช้เครื่องหมายแสดงการออกเสียง ในหนังสือรุ่นใหม่จะแสดงเครื่องหมายการยกเว้นเสียงสระ (ซุกูน) และเครื่องหมายเพิ่มความยาวเสียงพยัญชนะ (ชัดดะหฺ) ชื่อของอักษรอาหรับมาจากคำที่มีความหมายในภาษาเซมิติกแรกเริ่ม การจัดเรียงอักษรอาหรับมี 2 แบบ
- รูปแบบเดิมคือ แบบอับญะดีย์ (Abjadī أبجدي) เป็นการจัดเรียงตามอักษรฟินิเชียน คล้ายกับการเรียงแบบ ABC ในภาษาอังกฤษ
- รูปแบบที่ใช้ในปัจจุบันคือ แบบฮิญาอีย์ (Hejā’i هجائي) ซึ่งเรียงตามรูปร่างของอักษร
การจัดเรียงแบบ อับญะดีย์ เป็นการจับคู่อักษรอาหรับ 28 ตัวกับอักษรฟินิเชียน 22 ตัว ที่เหลืออีก 6 ตัว เรียงไว้ข้างท้าย ٲ ب ج ده و ذح ط ي ك ل م ن س ع ف ص قرش ت ث خ زض ظ غ
[แก้] การใช้อักษรอาหรับเขียนภาษาต่าง ๆ
มีการใช้อักษรอาหรับเขียนภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอาหรับอย่างกว้างขวาง โดยมีการปรับแต่งหรือเพิ่มลักษณะเพื่อแทนเสียงที่ต่างไปจากอักษรอาหรับตัวอย่างเช่น ภาษาอาหรับไม่มีเสียง/ป/ ฉะนั้น ภาษาอื่น ๆ ที่มีเสียง /ป/ จึงต้องสร้างอักษรของตัวเองขึ้นมา การเพิ่มเติมนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มอักษรดัดแปลงของเปอร์เซียใช้กับภาษาในอินเดียทั้งหมดรวมทั้งภาษาตุรกี
- กลุ่มอักษรอยามีใช้ในแอฟริกาตะวันตก
- อักษรยาวีใช้ในภาษามาเลย์
ภาษาปัจจุบันที่เขียนด้วยอักษรอาหรับได้แก่
- ภาษาเคิร์ดและภาษาเติร์กเมนในอิรัก
- ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอาเซอรี ภาษาโวรานี-เคริ์ด ภาษาบาโลชิ ในอิหร่าน
- ภาษาดารี ภาษาพาชตูและภาษาอุซเบกในอัฟกานิสถาน
- ภาษาอูรดู ภาษาปัญจาบ (ชาห์มูคี) ภาษาสินธี ภาษาแคชเมียร์ และภาษาบาโลชิในปากีสถาน
- ภาษาอูรดูและภาษาแคชเมียร์ในอินเดีย
- ภาษาอุยกูร์ ภาษาคาซัคและภาษาคีร์กิสในจีน
- ภาษามาเลย์ในบรูไน และใช้เป็นภาษาตำราศาสนาอิสลามในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย
- ภาษาโคโมรอส(ใช้ร่วมกับอักษรละติน) ภาษาโวลอฟในซาอีร์-คองโก
- ภาษาฮัวซาใช้ในทางศาสนา
- ภาษามันดินกา
- ภาษาทามาไซต์และภาษากลุ่มเบอร์เบอร์อื่นๆ
ภาษาที่เคยเขียนด้วยอักษรอาหรับมาก่อนแต่เลิกใช้แล้วในปัจจุบัน ได้แก่
- ภาษาอัลเบเนีย
- ภาษาอาเซอรี (ในอาร์เซอร์ไบจาน)
- ภาษาไบโลรัสเซีย
- ภาษาเบอร์เบอร์
- ภาษาบอสเนีย
- ภาษาคาซัค ในคาซัคสถาน
- ภาษาคีร์กิซ ในคีร์กิสถาน
- ภาษามาเลย์ (ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย)
- ภาษามัวร์
- ภาษาสันสกฤต
- ภาษาโซมาลี
- ภาษาตุรกี (ออตโตมัน)
- ภาษาเติร์กเมน ในเติร์กเมนิสถาน
- ภาษาอุซเบก ในอุซเบกิสถาน
- ภาษาของชาวมุสลิมในอดีตโซเวียตรัสเซีย
[แก้] การเขียนอักษรอาหรับ
การเขียนอักษรอาหรับเป็นการเขียนแบบต่อเนื่องกันไป อักษรแต่ละตัวมีรูปร่างต่างไปขึ้นกับตำแหน่งในคำว่าอยู่ต้น กลางหรือท้ายคำ มีอักษร 6 ตัวที่มีเพียงแบบเดี่ยวกับท้ายคำ ดังนั้นเมื่อตามหลังอักษรตัวอื่นจะไม่มีการเชื่อมต่อและอักษรตัวต่อไปจะใช้แบบต้นคำหรือแบบเดี่ยวถ้าไม่มีแบบต้นคำ อักษรที่ไม่มีแบบต้นคำหรือกลางคำจะไม่ใช้เป็นตัวตามอักษรอื่นแม้ภายในคำ ฮัมซะหฺ ไม่ใช้นำหน้าหรือตามหลังอักษรอื่นบางครั้งใช้เขียนบนวาว ยาอุ หรือ อะลิฟเพื่อแสดงเสียง/อ/ อะลิฟ มักศูเราะหฺ (alif maqsurah) ในภาษาอาหรับ รูปร่างเหมือนตัวยาอุที่ไม่มีจุดข้างล่าง (ی) ใช้เฉพาะตำแหน่งท้ายคำเท่านั้น ใช้แทนเสียงสระอา เช่นเดียวกับ อะลิฟในภาษาเปอร์เซียและภาษาอูรดูเรียก ฟาร์ซี เยห์ (Farsi yeh) ซึ่งมีรูปต้นคำกับกลางคำด้วย ส่วนอะลิฟ มักศูเราะหฺ ไม่มีรูปดังกล่าว
[แก้] การเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อที่เป็นรูปแบบเฉพาะคือ ลาม + อะลิฟ ( لا) ตัวอย่างเช่นคำว่า อัลลอหฺ เขียนได้เป็น ﷲ
[แก้] ฮัมซะหฺ
ในระยะแรก อะลิฟใช้แทนเสียง/อ/ ซึ่งเป็นลักษณะที่มาจากอักษรฟินิเชียน ปัจจุบันนำมาใช้แทนสระเสียงยาวเช่นเดียงกับวาวและยาอุ ทำให้เกิดความคลุมเครือว่าอะลิฟตัวนั้นแทนเสียง /อ/ หรือสระอา อักษรอาหรับปัจจุบันจึงเพิ่มฮัมซะหฺใช้แทนเสียง /อ/ ซึ่งปรากฏได้ทุกที่ภายในคำ เขียนทั้งโดยลำพังและเกาะกับอักษรอื่น
[แก้] อักษรอาหรับและการทับศัพท์
[แก้] พยัญชนะ
ข้อ | อักษร | ชื่ออักษร | ภาษาไทย | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | ﺀ/ ا | ฮัมซะหฺ/อะลิฟ | อ, สระ อา | *ถ้าฮัมซะหฺเป็นซุกูน จะเขียนเป็น <อ์> ในภาษาไทย เช่น <มะอ์มูร> |
2 | ﺏ | บาอุ | บ | |
3 | ﺕ | ตาอุ | ต | |
4 | ﺙ | ษาอุ | ษ | |
5 | ﺝ | ญีม | ญ, จญ์ | ญะวาด, ฮัจญ์, ฮิจญ์เราะหฺ, ฮิญิร |
6 | ﺡ | ฮาอุ | ฮ | |
7 | ﺥ | คออุ | ค | |
8 | ﺩ | ดาล | ด | |
9 | ﺫ | ซาล | ซ | |
10 | ﺭ | รออุ | ร | *ถ้าสะกดด้วย ฟัตฮะหฺ ในภาษาไทยเป็น <ร่อ>
|
11 | ﺯ | ซาย | ซ |
|
12 | ﺱ | ซีน | ซ, ส |
|
13 | ﺵ | ชีน | ช | |
14 | ﺹ | ศอด | ศ |
|
15 | ﺽ | ฎอด | ฎ | ถ้าสะกดด้วยฎ็อมมะหฺ หรือฎ็อมมะหฺ+วาว ใช้ ด เป็น <ดุ> และ <ดู> เนื่องจากถ้าเขียนด้วย ฎ และ สระอุหรือสระอูแล้ว สระทั้งสอง จะไม่ปรากฏออกมา
|
16 | ﻁ | ฏออุ | ฏ |
|
17 | ﻅ | ซออุ | ซ |
|
18 | ﻉ | อัยนฺ | อ |
<มะอฺมูร> |
19 | ﻍ | ฆีน | ฆ |
|
20 | ﻑ | ฟาอุ | ฟ | |
21 | ﻕ | กอฟ | ก | |
22 | ﻙ | กาฟ | ก |
ฏ
|
23 | ﻝ | ลาม | ล | |
24 | ﻡ | มีม | ม | |
25 | ﻥ | นูน | น | |
26 | ﻭ | วาว | ว | |
27 | ﻩ | หาอุ | ฮ, ห |
|
28 | ﻯ | ยาอุ | ย |
|
[แก้] สระ
ข้อ | คำอ่าน ? | เสียงสระ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
1 | ฟัตฮะหฺ | สระอะ | |
2 | กัสเราะหฺ | สระิอิ | |
3 | ฎ็อมมะหฺ | สระอุ | |
4 | ฟัตฮะหฺ + อะลิฟ | สระอา | |
5 | กัสเราะหฺ + ยาอุ | สระอี | |
6 | ฎ็อมมะหฺ + วาว | สระอู | |
7 | ฟัตฮะหฺ + ยาอุ | อัย,เอ | ถ้าพยางค์นั้น ลงท้ายด้วยพยัญชนะ ที่เป็นซุกูน จะเป็น สระเอ เช่น <ฮุเซน> |
8 | ฟัตฮะหฺ + วาว | เอา เช่น <เลา> |
[แก้] หมายเหตุ
- ไม้ไต่คู้และสระออ <-็อ> ใช้กับ <ฎ>, <ฏ>, <ศ> เมื่อถอดรูป ฟัตฮะห เช่น <ฎ็อ>, <ฏ็อ> <ศ็อ> และ <ก็อ> แต่อาจจะไม้ไต่คู้ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เช่น <ฎอ>, <ฏอ> และ <ศอ>
- ไม้เอกและสระออ< -่อ> ใช้กับ <ร> เมื่อถอดรูปฟัตฮะหฺ เช่น <ร่อซูล> แต่อาจจะละไว้ในฐานเข้าใจ เช่น <รอซูล>
- จะไม่มีการใช้ <ห> นำหน้าพยัญชนะเสียงต่ำ หรือ วรรณยุกต์ เช่น <อิหม่าม>, <อะมีรุ้ลมุมินีน> หรือ <อ๊าด> ที่ถูกต้องคือ <อิมาม>, <อะมีรุลมุมินีน> และ <อาด>
- ไม่มีการตัดสระอะเมื่อถอดรูปฟัตฮะหฺ นอกจากคำว่า นบี เท่านั้น เช่น <อบูบักรฺ> จะต้องเป็น <อะบูบักรฺ>
- จะไม่ใช้ การันต์ ในการถอดรูปซุกูน นอกจากกับ <ย> และ <อ> เท่านั้น เช่น <อัลบุคอรีย์>, <มะอ์มูน>