มวยคาดเชือก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มวยคาดเชือกเป็นการชกมวยไทยในสมัยโบราณที่ใช้เชือกพันที่หมัดทั้ง 2 ข้างแทนการใช้นวม ปัจจุบันการชกมวยคาดเชือกในประเทศไทยได้ยกเลิกไป การชกมวยไทยในปัจจุบันใช้การสวมนวมเท่านั้น
สารบัญ |
[แก้] การแข่งขัน
นักมวยที่จะขึ้นชกจะพันหมัดด้วยเชือกจนแข็ง ผูกเครื่องรางของขลังตามความเชื่อของแต่ละคน ในบางกรณีอาจใช้เชือกที่ชุบด้วยเศษแก้วแตกละเอียด ทั้งนี้ขึ้นกับการตกลงกันก่อนชก ก่อนชกกันนักมวยต้องมาซ้อมให้นายสนามดูก่อน ถ้ามีฝีมือใกล้เคียงกัน และทั้งคู่พอใจจะชกกันจึงถือว่าได้คู่ การต่อสู้จะชกกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือลุกไม่ขึ้น มิฉะนั้นถือว่าเสมอกัน ซึ่งอาจจะชกกันใหม่ในคราวต่อไปถ้ายังไม่หายข้องใจ การชกมวยแบบนี้จะเน้นชั้นเชิงมากกว่าพละกำลัง
สนามแข่งขันเป็นสนามหญ้าหรือลานวัด มีเชือกกั้น 1 เส้น มีกรรมการห้ามเพื่อจับผู้ล้มขึ้นมาชกใหม่ และห้ามไม่ให้ซ้ำเติมคนล้ม ในงานเผาศพผู้มีฐานะในสมัยก่อน นิยมให้มีมวยชกด้วย 7 - 8 คู่[1]
ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี (แมค เศียรเสวี) เริ่มจัดแข่งขันมวยไทยอาชีพครั้งแรกที่สนามมวยสวนกุหลาบ ต่อมาจึงเกิดสนามมวยอื่นๆอีกมากมาย เช่น สนามมวยท่าช้าง หลักเมือง สวนเจ้าเชตุ เสือป่า สวนสนุก เจ้านายสมัยนั้นโปรดการเลี้ยงนักมวยและเสาะหานักมวยฝีมือดีมาเข้าสังกัด จึงมีนักมวยจากหัวเมืองเข้ามาขกในกรุงเทพฯมาก ตัวอย่างเช่น กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีนักมวยเอกคือ หมื่นชงัดเชิงชก กับ โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ ม.ร.ว. มานพ ลดาวัลย์ มีนักมวยเอกคือบังสะเล็บ ศรไขว้ ในครั้งนั้นยังมีการคัดเลือกนักมวยเอกขึ้นชกหน้าพระที่นั่งและมีนักมวยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เช่น หลวงไชยโชกชกชนะ หมื่นมวยมีชื่อ หมื่นมือแม่นหมัด หมื่นชงัดเชิงชก [2] [3]
[แก้] เลิกคาดเชือก
การเปลี่ยนจากการคาดเชือกมาเป็นการสวมนวมแทนนั้นเพราะมีการชกกันถึงตาย ครั้งนั้น นายเจียร์ นักมวยชาวเขมรจากพระตะบองซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคงกระพันชาตรี เคยชกคนตายมาแล้ว เข้ามาเปรียบมวยในกรุงเทพฯ พระชลัมภ์พิสัยเสนีย์จึงเสนอนายแพ เลี้ยงประเสริฐขึ้นชกด้วย การชกมีขึ้นที่สนามหลักเมืองของพระยาเทพหัสดินทร์ เมื่อถึงยกที่ 3 นายแพใช้หมัดคู่หรือแม่ไม้ "หนุมานถวายแหวน"ของสำนักบ้านท่าเสา ชกนายเจียร์จนชะงักและเข้าซ้ำจนนายเจียร์ทรุดลงกับพื้นและไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย จนสิ้นใจขณะนำส่งโรงพยาบาล แม้ว่าในครั้งนั้น นายแพไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ก็เป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าการชกแบบคาดเชือกรุนแรงเกินไป จึงประกาศห้ามชกมวยคาดเชือกทั่วราชอาณาจักร ให้สวมนวมตามแบบมวยสากลแทน[4]
[แก้] มวยคาดเชือกในปัจจุบัน
ปัจจุบันการชกแบบคาดเชือกยังมีชกกันอยู่ในประเทศพม่า ในประเทศไทยมีเพียงการแสดงและมีการชกในบางเทศกาล เช่น การชกมวยคาดเชือกประเพณีไทย-พม่า ในเทศกาลสงกรานต์ จ.ตาก อย่างไรก็ดี ในการชกนั้นใช้กติกาแบบพม่า ไม่ได้ใช้กติกาแบบมวยไทยแต่ประการใด
[แก้] นักมวยเอกยุคคาดเชือก
- นายขนมต้ม
- ทับ จำเกาะ
- บังสะเล็บ ศรไขว้
- บัว วัดอิ่ม
- ยัง หาญทะเล
- วิหค เทียมกำแหง
- สุวรรณ นิวาศวัต
- หมื่นชงัดเชิงชก
- หมื่นผลาญดัสกร
- หมื่นมวยมีชื่อ
- หมื่นมือแม่นหมัด
- หลวงไชยโชกชกชนะ
- ห้าพี่น้องตระกูลเลี้ยงประเสริฐ (โพล้ง แพ โต๊ะ ฤทธิ์ และ พลอย เลี้ยงประเสริฐ)
[แก้] อ้างอิง
- ↑ สมพงษ์ แจ้งเร็ว. บัว วัดอิ่ม อดีตยอดมวยรัตนโกสินทร์ นักชก 5 แผ่นดินนามอุโฆษ. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 4(3). มกราคม 2526. หน้า 84 - 89
- ↑ สมพงษ์ แจ้งเร็ว. หมื่นชงัดเชิงชก ยอดมวยบรรดาศักดิ์. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 5(3). มกราคม 2527. หน้า 98 - 105
- ↑ สมพงษ์ แจ้งเร็ว. 5 ใบเถาแห่งอุตรดิตถ์ ศิษย์ร่วมสำนักพระยาพิชัยดาบหัก. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 5(11). กันยายน 2527. หน้า 44 - 53
- ↑ สมพงษ์ แจ้งเร็ว. 5 ใบเถาแห่งอุตรดิตถ์ ศิษย์ร่วมสำนักพระยาพิชัยดาบหัก. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 5(11). กันยายน 2527. หน้า 44 - 53