จังหวัดพิจิตร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
จังหวัดพิจิตร
 ตราประจำจังหวัดพิจิตร
ตราประจำจังหวัด
ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย พิจิตร
ชื่อภาษาอังกฤษ Phichit
ผู้ว่าราชการ นายปรีชา เรืองจันทร์
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2549)
ISO 3166-2 TH-66
ต้นไม้ประจำจังหวัด บุนนาค
ดอกไม้ประจำจังหวัด บัวหลวง
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่ 4,531.0 ตร.กม.
(อันดับที่ 47)
ประชากร 557,832 คน (พ.ศ. 2549)
(อันดับที่ 44)
ความหนาแน่น 123 คน/ตร.กม.
(อันดับที่ 35)
ศูนย์ราชการ
ที่ตั้ง ศูนย์ราชการจังหวัดพิจิตร ถนนพิจิตร-ตะพานหิน ตำบลท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร 66000
โทรศัพท์ (+66) 0 5661 1318
โทรสาร (+66) 0 5661 1318
เว็บไซต์ จังหวัดพิจิตร
แผนที่
 
แผนที่ประเทศไทย เน้นจังหวัดพิจิตร

พิจิตร เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง มีความหมายว่า "เมืองงาม" ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดพิษณุโลก มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลผ่าน ตัวเมืองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน พิจิตรเป็นเมืองเก่าแก่ในสมัยสุโขทัย ปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักที่หนึ่งของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และในศิลาจารึกหลักที่แปด รัชกาลพระยาลิไท เรียกว่า "เมืองสระหลวง" ซึ่งมีสถานะเป็นหัวเมืองเอกของกรุงสุโขทัย ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยารัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เมืองโอฆบุรี" ซึ่งแปลว่า "เมืองในท้องน้ำ" ตามตำนานกล่าวว่า พระยาโคตรบอง เป็นผู้สร้างเมืองพิจิตร แต่จะสร้างในสมัยใดไม่ปรากฏ นอกจากนี้เมืองพิจิตรยังเป็นที่ประสูติของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์หนึ่งคือ สมเด็จพระศรีสรรเพชญที่ 8 หรือ สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ

ในสมัยกรุงศรีอยุธยาพิจิตรเป็นหัวเมืองชั้นตรี ตำแหน่งเจ้าเมืองมีปรากฏตามพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือนฯ ว่า ออกญาเทพาธิบดีศรีรณรงค์ฤาไชยอภัยพิรียภาหะ ศักดินา 5,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นขุนนางบรรดาศักดิ์ระดับสูง ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีหัวเมืองชั้นตรีเพียง 7 เมืองเท่านั้น คือ เมืองพิชัย เมืองพิจิตร เมืองนครสวรรค์ เมืองพัทลุง เมืองชุมพร เมืองจันทบูร และเมืองไชยา จึงนับว่าในสมัยโบราณพิจิตรเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะมีความสำคัญสูง จนตำแหน่งเจ้าเมืองมีการตราไว้ในพระไอยการฯ ซึ่งสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ตราไว้

ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองพิจิตรเป็นเพียงเมืองขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีเจ้าเมืองปกครองเช่นเมืองอื่น ๆ เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ย้ายเมืองพิจิตรมาตั้งที่บ้านคลองเรียงซึ่งเป็นคลองขุดใหม่ ลัดแม่น้ำน่านที่ตื้นเขิน คลองเรียงจึงกลายเป็นแม่น้ำน่านไป ส่วนบริเวณเมืองพิจิตรเก่ายังปรากฏโบราณสถานอยู่หลายแห่ง ซึ่งมีอายุตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงสมัยอยุธยา

สารบัญ

[แก้] พระพิจิตรเกศคด

ตามตำนานเล่าว่าในสมัยโบราณ พิจิตรเป็นเมืองลูกหลวง ของกรุงสุโขทัย เวลามีศึกสงคราม ก็มักจะมีการเกณฑ์ชายฉกรรจ์ชาวพิจิตรไปรบ และนักรบจากเมืองพิจิตรนี้มีความกล้าหาญอย่างยิ่ง ก็มีผู้สงสัยว่าทำไมนักรบเหล่านี้จึงกล้าหาญ ก็มีความปรากฏว่า ชายฉกรรจ์เหล่านี้ ต่างมีพระเครื่อง ที่เป็นวัตถุมงคลติดตัวไปทุกคน และพระเครื่องเหล่านี้ก็แปลกกว่าที่อื่นๆ คือตรงเศียรพระจะเอียงไม่ตรง เข้าใจว่าพิมพ์ที่นำมาใช้หล่อพระนั้นจะทำไม่ตรง แต่ภายหลังก็เป็นที่นิยมกันว่า พระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่ทำขึ้นในเมืองพิจิตรในสมัยต่อมามักจะทำเกศให้คด เป็นรูปพิมพ์นิยม จึงเรียกกันติดปากว่า พิจิตรเกศคด

[แก้] หน่วยการปกครอง

การปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 3 กิ่งอำเภอ 89 ตำบล 852 หมู่บ้าน

  1. อำเภอเมืองพิจิตร
  2. อำเภอวังทรายพูน
  3. อำเภอโพธิ์ประทับช้าง
  4. อำเภอตะพานหิน
  5. อำเภอบางมูลนาก
  6. อำเภอโพทะเล
  7. อำเภอสามง่าม
  8. อำเภอทับคล้อ
  9. กิ่งอำเภอสากเหล็ก
  10. กิ่งอำเภอบึงนาราง
  11. กิ่งอำเภอดงเจริญ
  12. อำเภอวชิรบารมี
 แผนที่

[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

ตราประจำจังหวัดพิจิตร
ตราประจำจังหวัดพิจิตร
  • ตราประจำจังหวัด: ต้นโพธิ์ริมสระหลวง
  • ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกบัวหลวง (Nymphaea lotus)
  • ต้นไม้ประจำจังหวัด: บุนนาค (Mesua ferrea)
  • คำขวัญประจำจังหวัด: ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน

[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น


 จังหวัดพิจิตร เป็นบทความเกี่ยวกับ จังหวัด อำเภอ หรือเขตการปกครองต่าง ๆ ของประเทศไทย ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ จังหวัดพิจิตร ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีย่อย:ประเทศไทย