อะมะเทะระสุ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อามาเทราสึ โอ มิคามิ (Amaterasu-สุริยเทวี) ครองโลกเวลากลางวัน สวมสร้อยมณีวิเศษ สถิต ณ ทากามะงาฮาระ แห่งสวรรค์ มีสวามีคือ ทากามิ มัสสึบิ(Takami-Musubi) อิซานางิได้มอบหมายให้เธอเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งสวรรค์(ชื่อของเธอหมาย ความว่า สวรรค์ที่กำลังส่องประกาย หรือ เธอผู้ส่องประกายในสวรรค์) เธอได้รับการยกย่องเป็นเทวรูปประธานในวิหารแห่งวัดชินโตและถูกยกย่องให้ เป็นต้นตระกูลแห่งราชวงศ์จักรพรรดิญี่ปุ่นในปัจจุบัน เมื่ออิซานางิส่งเธอขึ้นสู่บันไดสู่สวรรค์ เพื่อไปปกครองสวรรค์ เธอก็ร่าเริงแจ่มใส เปล่งประกายไปทั่วโลกและจักรวาล

เมื่อน้องชายของเธอ สุซาโนโอะ- เทพพายุ ได้ส่งพายุอาละวาดก่อสงครามทำลายผืนแผ่นดินและส่งเสียงอึกทึกรบกวนเธอ จนเธอหวาดกลัว เธอจึงหนีภัยหลบตัวเข้าไปแอบอยู่ในถ้ำ ปิดปากถ้ำด้วยหินก้อนใหญ่ และขังตัวเองไว้อยู่ภายในไม่ยอมออกมา การที่เธอหายตัวเข้าไปอยู่ในถ้ำทำให้โลกทั้งมวลตกอยู่ในความมืด และชีวิตทั้งมวลดับสูญ เหล่าปีศาจจึงขึ้นมาปกครองโลกแทน เมื่อเทพทั้งหลายเห็นดังนั้น จึงปรึกษากันถึงวิธีหลอกล่ออามาเทราสึออกมาจากถ้ำ แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ว่าจะใช้วิธีของใคร จึงตกลงให้เทพแต่ละองค์ลองใช้วิธีของตนเองคนละครั้งผลัดกันไป เทพทั้งหลายพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะหลอกล่อเธอออกจากถ้ำแต่ก็ไม่ สำเร็จสักราย จนในที่สุดก็ถึงคราวของ เทพธิดาอาเมะ โน อุซึเมะ (เทพธิดาแห่งการร่ายรำ) เธอออกมาร่ายรำหน้าถ้ำด้วยระบำตลกและลามก เมื่อเหล่าเทพทั้งหลายที่ชุมนุมกันอยู่หน้าถ้ำหัวเราะกับการร่ายรำที่ได้ชม จนเสียงหัวเราะดังเข้าไปจนถึงในถ้ำและทำให้อามาเทราสึแปลกใจจนออกมาจากถ้ำ เอง เมื่ออามาเทราสึแง้มก้อนหินออกมาจากถ้ำ ก็ปรากฏแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ และเมื่อเธอมองออกมา เธอก็ได้เห็นภาพสะท้อนอันมีสง่าราศรีและสดใสของตัวเธอเองจากกระจกที่ เทพธิดาอุซึเมะแขวนไว้บนต้นไม้หน้าถ้ำ เมื่อเธอเดินออกมาจากถ้ำ เพื่อส่องกระจกมองภาพสะท้อนของเธอให้ชัดเจน เทพทั้งหลายก็รวบตัวเธอไว้และพาเธอออกมาจากถ้ำ เธอจึงกลับสู่ท้องฟ้าเพื่อนำแสงสว่างกลับสู่โลก และขับไล่ปีศาจทั้งหลายออกไป

ต่อมาเธอได้เตรียมที่ดิน สร้างเป็นนาข้าว (เรียกว่านาอินาดะ) เพื่อปลูกข้าว และได้ให้กำเนิดศิลปะแห่งการทอผ้า รวมถึงสอนผู้คนให้ปลูกข้าวสาลี และเลี้ยงไหม วัดของเธอตั้งอยู่ใน อิเสะ-จินกูอิ ในจังหวัดอิเสะ บนเกาะฮอนชู วัดนี้จะถูกรื้อและสร้างขึ้นมาใหม่ในแบบเดิมทุกๆ 20 ปี และวิหารที่บูชาเธอจะมีกระจกทองแดงใบใหญ่ตั้งอยู่เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ เธอยังถูกเรียกว่า โอ มิคามิ("เทพีผู้เรืองนาม")และ เทนโช ไดจัน