กฎบัตรแอตแลนติก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เชอร์ชิลพบกับรูสเวลท์บนเรือยูเอสเอส ออกัสตาในการประชุมลับนอกฝั่งนิวฟาวด์แลนด์
เชอร์ชิลพบกับรูสเวลท์บนเรือยูเอสเอส ออกัสตาในการประชุมลับนอกฝั่งนิวฟาวด์แลนด์

กฎบัตรแอตแลนติก (อังกฤษ: Atlantic Charter - สิงหาคม พ.ศ. 2484) คำประกาศหลักการแห่งนโยบายแห่งชาติโดยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์และนายวินสตัน เชอร์ชิลล์นายกรัฐมนตรีอังกฤษหลังการประชุมลับบนเรือรบยูเอสเอส ออกัสตานอกชายฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ เพื่อเป็นการสะท้อนประเด็น 14 ข้อของประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสันและคำประกาศ "สี่เสรีภาพ" ของประธานาธิบดีรูสเวลท์ในวันสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2484

เชอร์ชิลพบกับรูสเวลท์บนเรือราชนาวีปรินซ์ออฟเวลส์
เชอร์ชิลพบกับรูสเวลท์บนเรือราชนาวีปรินซ์ออฟเวลส์

กฎบัตรแอตแลนติก ครอบคลุม 8 ประเด็นสรุปได้ดังนี้

  • สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรจะไม่แสวงหาดินแดนใหม่ใดๆ
  • การปรับเปลี่ยนเขตแดนจะต้องเป็นไปตามความปรารถนาของพลเมือง
  • พลเมืองต้องสามารถกำหนดความมุ่งมั่นได้ด้วยตนเอง กำหนดการปกครองด้วยการเลือกตั้งอย่างอิสระ
  • ลดการกีดกันทางการค้า
  • สร้างความเสมอภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างสวัสดิการและความมั่นคงทางสังคม
  • สร้างเสรีภาพในความต้องการ ในความกลัวและให้มีเสรีภาพในการพูดและแสดงความคิดเห็นของพลเมืองทุกคน
  • มีเสรีภาพในน่านน้ำมหาสมุทร
  • ยับยั้งการใช้กำลังทหาร ปลดอาวุธชาติผู้รุกรานและการปลดอาวุธทั่วไปหลังสงคราม

การยกร่างและการลงนามกฎบัตรได้กระทำอย่างเป็นความลับบนเรือรบ มีการแก้ไขการหลายครั้งและว่ามีการลงนามโดยรูสเวลท์และเชอร์ชิล แต่ในความเป็นจริงยังไม่พบต้นฉบับที่ว่ามีการลงนามดังกล่าวทั้งเนื่องจากทั้งสองฝ่ายต้องส่งข้อความทางโทรเลขกลับไปให้คณะรัฐมนตรีสงครามเห็นชอบ จึงปรากฏหลักฐานให้เห็นเพียงร่างกฎบัตรที่เป็นลายมือเชอร์ชิลแก้ไข

ร่างกฎบัติแก้ไขลายมือเชอร์ชิล
ร่างกฎบัติแก้ไขลายมือเชอร์ชิล

หลังจากอเมริกาเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการลงนามเป็นกฎบัตรนานาชาติที่ร่วมลงนามโดยสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร สหภาพโซเวียตและจีนในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2485 ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และในวันต่อมาได้มีประเทศอื่นๆ อีก 22 ประเทศเข้าร่วมลงนามรับรองด้วย

กฎบัตรแอตแลนติกได้กลายเป็นพื้นฐานของอุดมการของฝ่ายสัมพันธมิตรในการร่วมมือกันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ฝ่ายอักษะแปลความหมายของความร่วมมือทางการทูตนี้ว่าเป็นการรวมตัวเป็นพันธมิตรเพื่อต่อต้านตน ฮิตเลอร์กล่าวหาว่าการกระทำนี้คือหลักฐานของการร่วมมือสมรู้ร่วมคิดของยิวอเมริกาและยิวอังกฤษ ในจักรวรรดิญี่ปุ่นฝ่ายถืออำนาจทหารในรัฐบาลถือเอาเป็นเหตุผลักดันนโยบายเพื่อต่อสู้สหรัฐฯและสหราชอาณาจักร

กฎบัตรแอตแลนติกนี้ ต่อมาถูกใช้เป็นพื้นฐานของการตั้งและการร่างกฎบัตรสหประชาชาติ

[แก้] อ้างอิง

  • Atlantic Meeting, H V Morton, published by Methuen, 1943

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น