เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์หญิงเฉียด ลดาวัลย์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์หญิงเฉียด ลดาวัลย์ ตจ.เกิดวันศุกร์ เดือน 11 ปีจอ ตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2416 เป็นธิดาของหม่อมเจ้าฉาย ลดาวัลย์ และ หม่อมฉิม ลดาวัลย์ ท่านผู้นี้เป็นหม่อมราชวงศ์คนที่ 1 ของราชสกุลลดาวัลย์ จึงเรียกกันว่า "คุณใหญ่" จนถึง อายุ 11 ขวบ พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎ จึงทรงนำขึ้นถวายตัว ได้ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯให้โกนจุกพระราชทาน ในพระราชพิธีเฉลิมพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ณ บางปะอิน แล้วพระราชทานนามว่า"เฉียด"
พ.ศ. 2439 ได้รับพระราชทานตลับทองคำ หลังตลับมีตัวอักษร "ฉ" ลงยาราชาวดี สีคราม เมื่อรับราชการครบ 10 ปี
พ.ศ. 2449 ได้รับพระราชทานกล่องหมากกะไหล่ทอง เมื่อรับราชการครบ 20 ปี
พ.ศ. 2449 ได้รับพระราชทานตราตติยจุลจอมเกล้า
พ.ศ. 2450 ได้รับพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3
ได้รับพระราชทานเงินกลางปี ปีละ 30 ชั่ง
ได้รับพระราชทานเครื่องประดับ เช่น ตุ้มหู กำไล แหวน สายสร้อย ตามสมควร
ได้รับผ้าพระราชทานเป็นประจำตลอดเลิกประเพณีนี้
ครั้นถึงรัชกาลปัจจุบัน ได้รับพระราชทานเงินในพระมหากรุณาครั้งที่ 1 เดือนละ 600 บาท และครั้งที่ 2 อีกเดือนละ 200 บาท
ท่านเป็นผู้ชอบทำบุญการกุศล แต่หนักอยู่ทานบารมี ชอบเลี้ยงพระแปลกๆ เช่น เที่ยวเสาะหา พระที่ฉันจุ แล้วให้ทราบว่าชอบฉันอะไรจะทำไปถวาย แม่ท่านจะไม่ได้พบเห็นพระที่ฉันนั้นด้วย ตนเอง ใช้คนไปทำแทนก็สนุกสนานร่าเริงเต็มที่ เพราะว่าเป็นการสำเร็จประโยชน์ในความเจตนา ของท่าน ซึ่งใครเห็นแล้วไม่ตื่นเต้นขบขันเป็นไม่มี ของที่ท่านทำไปสำหรับพระฉันรูปเดียวนั้น เช่น ปลาร้าหลน หม้อจุประมาณ 1 ลิตรใหญ่ ปลาดุกย่างตัวใหญ่ๆ 10 ตัว ผักต่างๆทำความสะอาด เรียบร้อยแล้ว 1 กระจาด พระรูปนั้นฉันได้หมด ของหวานมีโซดาหลายขวด
คุณธรรมดีเด่นของท่าน อยู่ในขั้นมัชชิมา กล่าวถึงหน้าที่ราชการหลวง ท่านก็เป็นผู้ได้รับพระมหา กรุณาไว้วางพระราชหฤทัย รับหน้าที่ปอกผลไม้เครื่องต้นทุกมื้อ พร้อมกับคุณจอมน้อม โชติกเสถียร ซึ่งเป็นผู้มีฝีมือในการปอกมะปรางริ้วดีกว่าใครๆในวังสมัยนั้นทั้งหมด คุณจอมเฉียดเวลานั้นปอกมะปราง ริ้วยังไม่เป็น วันหนึ่งพระวิมาดาเธอฯรับสั่งว่าพวกเจ้านายที่วังกรมหมื่นภูมินทรภักดี ต้องปอก มะปรางริ้ว ปั้นขนมจีบเป็นกันทุกองค์ คุณจอมเฉียดได้ยินรับสั่งดังนั้น ก็พยายามปอกมะปรางริ้ว ยัดก้นโถ จนปอกได้ดี เชิดหน้าชูตาขึ้นปากโถได้ แต่ว่าขนมจีบท่านทำไม่ได้จนตาย
นอกจากนี่ท่านยังมีความละเอียด ยกเป็นตัวอย่างคือ ท่านเป็นคนเก็บเครื่องเพชร เงิน ทอง ทรัพย์ สมบัติทุกอย่างและควบคุมดูแลข้าหลวง ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมขุนพิจิตรเจษจันทร์ ความละเอียด ของท่านนั้น ท่านทำบัญชีรายละเอียด เช่น เข็มกลัดผีเสื้อ ปีกพื้นฝังเพชร ลายฝังนิล ปีกฝังเพชรกี่เม็ด ก็บอก ลายฝังนิลกี่เม็ดก็บอก หัวฝังเพชรกี่เม็ดก็บอก ตาฝังอะไรกี่เม็ดก็บอก แล้วยังวาดภาพด้วย ดินสอกำกับลงไว้ในรายการนั้นด้วย ทำอย่างนี้ทุกชิ้น ชิ้นไหนชำรุดเพชรหลุดก็บอกไว้ในรายการ วาดภาพไว้ด้วย ทำได้เช่นนี้ต้องเป็นคนละเอียดที่สุด ใจเย็นที่สุด แช่มช้าที่สุด ใครเห็นก็สั่นหัวว่า ตัวเองทำไม่ได้อย่างท่าน
ท่านมีความสามารถอีกอย่างที่ได้รับการถ่ายทอดประทาน จากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4 พระองค์เจ้า อรไทยเทพกัญญา คือ เย็บจีวรตะเข็บ 2 ชั้น จีวรอย่างนี้สำหรับพระธรรมยุติ เสด็จรับสั่งว่าคุณจอม ท่านเป็นผู้มีนิสัยใจคอละเอียด ควรทำจีวรอย่างนี้ได้ จึงสอนประทานคุณจอมคนเดียว ท่านก็ได้เย็บ จีวรฉลองพระคุณ ไตรครองพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เมื่อทรงผนวช ท่านก็เป็นผู้เย็บโดยพระราช เสาวณีย์ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
เมื่อสิ้นรัชกาลที่ 5 แล้ว ท่านได้กราบถวายบังคมลาออกจากพระบรมมหาราชวัง มาอยู่ที่เรือนใน พระราชวังสวนสุนันทา จนเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ท่านจึงได้ตามน้องสาวของท่าน คือ เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ลดาวัลย์ ในรัชกาลที่ 5 ไปพำนัก ณ จังหวัดชลบุรี ณ วัดเขาบางทราย ที่ตึกทับสุข พร้อมกับเจ้าจอม ม.ร.ว.ลม้าย สิงหรา ในรัฃกาลที่ 5 และข้าหลวงเก่าๆอีกบางส่วน บั้นปลายชีวิต ท่านได้เป็นต้อกระจก การรักษาไม่สำเร็จ ที่สุดท่านก็ตาบอด แต่ยังคงยึดในสัมมาปฏิบัติ ไม่มีการหวั่นไหวในการเจ็บป่วยแต่อย่างใด เป็นเช่นนี้มาจนวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2501 จึงถึง อนิจกรรมโดยสงบ
![]() |
สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และ พระภรรยาเจ้า ใน รัชกาลที่ ๕ แก้ | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|