ประเทศนาอูรู

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้มีลิงก์แทรกในบทความที่ข้ามไปภาษาอื่นโดยเป็นลิงก์สีฟ้าอ่อน
โดยผู้เขียนใส่ไว้เพื่อสะดวกในการเขียน และควรแก้ลิงก์ภาษาอื่นเป็นข้อความธรรมดา เมื่อมีลิงก์ภาษาไทยที่ถูกต้อง หรือเห็นควร เพื่อไม่ให้ผู้อ่านสับสน
Ripublik Naoero
เรปูบลิก นาโอเอโร

สาธารณรัฐนาอูรู
ธงชาตินาอูรู ตราประจำชาตินาอูรู
ธงชาติ ตราประจำชาติ
คำขวัญ: God's Will First (พระประสงค์ของพระเจ้ามาก่อน)
เพลงชาติ: Nauru Bwiema
แผนที่แสดงที่ตั้งของประเทศนาอูรู
เมืองหลวง นาอูรู[1]
0°32′S 166°55′E
เมืองใหญ่สุด ยาเรน
ภาษาราชการ ภาษาอังกฤษและภาษานาอูรู
รัฐบาล สาธารณรัฐ
 - ประธานาธิบดี ลุดวิก สก็อตตี
เอกราช

วันที่
จากดินแดนในภาวะพึ่งพิง
ของสหประชาชาติ[2]
31 มกราคม พ.ศ. 2511
เนื้อที่
 - ทั้งหมด
 
 - พื้นน้ำ (%)
 
21 กม.² (อันดับที่ 228)
8.1 ไมล์² 
น้อยมาก
ประชากร
 - ก.ค. 2548 ประมาณ
 - ความหนาแน่น
 
13,005 (อันดับที่ 220)
621/กม² (อันดับที่ 13)
1,608/ไมล์² 
GDP (PPP)
 - รวม
 - ต่อประชากร
2548 ค่าประมาณ
60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 224)
5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 132)
HDI (2546) n/a (อันดับที่ n/a) – ไม่ได้รับการจัดอันดับ
สกุลเงิน ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
เขตเวลา (UTC+12)
รหัสอินเทอร์เน็ต .nr
รหัสโทรศัพท์ +674
  1. นาอูรูไม่มีเมืองหลวงเป็นทางการ ดังนั้นตำบลยาเรนซึ่งเป็นที่ตั้งรัฐบาลและเป็นที่ตั้งถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุด บางครั้งจึงถูกอ้างถึงในฐานะ "เมืองหลวง"
  2. ซึ่งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักรร่วมกันบริหาร

นาอูรู (Nauru) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐนาอูรู (Republic of Nauru) เป็นสาธารณรัฐบนเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ แต่เดิมชื่อ เกาะพลีแซนต์ (Pleasant Island) นาอูรูเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลกทั้งในด้านจำนวนประชากรและพื้นที่

ความรุ่งเรืองในอดีตส่วนใหญ่ของนาอูรู มาจากตะกอนแร่ฟอสเฟตที่มีอยู่บนเกาะจำนวนมาก บางคนเชื่อว่ามาจากมูลสัตว์ (guano) แต่คนอื่นเชื่อว่ามาจากทะเล ฟอสเฟตนี้ใช้เป็นปุ๋ยทั่วโลก โดยที่ส่วนใหญ่ส่งออกไปที่ประเทศออสเตรเลีย ในปัจจุบัน ฟอสเฟตที่มีอยู่ได้ร่อยหร่อลง ทำให้นาอูรูมีอนาคตไม่แน่นอน นาอูรูเป็นที่ตั้งของศูนย์กักกันผู้อพยพ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของออสเตรเลีย

สารบัญ

[แก้] ประวัติศาสตร์

เดิมนั้นนาอูรูตกเป็นอาณานิคมขึ้นของประเทศเยอรมนี ต่อมาได้ถูกประเทศออสเตรเลียยึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1และก็ถูกชาติต่าง ๆ ยึดครองเอา จนกระทั่งอยู่ในสภาวะดินแดนทรัสตีของสหประชาชาติ จนต่อมาได้ประกาศเอกราชเป็นประเทศนาอูรู

[แก้] การเมือง

นาอูรูเป็นสมาชิกพิเศษของเครือจักรภพมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 และมีสภาที่เล็กที่สุดในโลกด้วยจำนวนสมาชิกเพียง 18 คน โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุก ๆ สามปี และประธานาธิบดีจะถูกแต่งตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นาอูรูได้รับการยอมรับเป็นสมาชิกของสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2542

[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง

นาอูรูมี 14 เขต:

  • เดนิโกโมดู (Denigomodu)
  • นิบ็อก (Nibok)
  • บัวดา (Buada)
  • โบเอ (Boe)
  • ไบตี (Baiti)
  • เมเนง (Meneng)
  • ยาเรน (Yaren)
  • อนาบาร์ (Anabar)
  • อนิบาเร (Anibare)
  • อเนตัน (Anetan)
  • อัวโบเอ (Uaboe)
  • อิจูว์ (Ijuw)
  • เอวา (Ewa)
  • ไอโว (Aiwo)

[แก้] ภูมิศาสตร์

[แก้] ภูมิประเทศ

ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงมีฟอสเฟตปกคลุมเป็นแห่ง ๆ รอบ ๆ เป็นเกาะมีแนวหินปะการัง

[แก้] ภูมิอากาศ

แบบร้อนชื้น

[แก้] เศรษฐกิจ

นาอูรูมีแร่ฟอสเฟตอยู่มาก และรายได้แทบทั้งหมดของประเทศมาจากอุตสาหกรรมการขุดและส่งออกแร่ฟอสเฟต ซึ่งมีรายได้ดีจนทำให้ชาวนาอูรู มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นในหมู่ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกด้วยกัน

[แก้] ประชากร

[แก้] เชื้อชาติ

ประมาณร้อยละ 58 เป็นชาวนาอูรู ชนพื้นเมืองจากเกาะอื่น ๆ ร้อยละ 26 ชาวจีนร้อยละ 8 ยุโรปร้อยละ 8 ประชากรอาศัยอยู่ในเขตเมืองร้อยละ 100

[แก้] อัตราการอ่านออกเขียนได้

อัตราการอ่านออกเขียนได้ 99 %

[แก้] ศาสนา

นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ

[แก้] วัฒนธรรม

(รอเพิ่มเติมเนื้อหา)


 ประเทศนาอูรู เป็นบทความเกี่ยวกับ ประเทศ เมือง หรือเขตการปกครองต่าง ๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ ประเทศนาอูรู ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ