สรรพสิริ วิรยศิริ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย

สรรพสิริ วิรยศิริ (เกิด ?) บุตรชายคนเล็กจากพี่น้องจำนวน 4 คน ของพระยามหาอำมาตยาธิบดี (เส็ง วิรยศิริ)อันได้แก่ ทวีศักดิ์ เข็มน้อย อนงค์นาฏ และสรรพสิริ ท่านเป็นอดีตผู้สื่อข่าวสงคราม อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 และสถานีวิทยุกระจายเสียง ททท. เป็นบุคคลที่อยู่ในวงการโฆษณา วงการโทรทัศน์ ข่าวโทรทัศน์ ของประเทศไทยในยุคเริ่มแรก

สรรพสิริ วิรยศิริ จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวต่างประเทศของกรมโฆษณาการ เป็นผู้เขียนบทความเรื่อง วิทยุภาพ เป็นคนแรก เมื่อ พ.ศ. 2492 ซึ่งเมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้อ่าน ก็เกิดความคิดที่จะก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ ขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม ขึ้นในปี พ.ศ. 2495 [1] โดยสรรพสิริ ก็ได้เข้าร่วมงานในฐานะช่างภาพ รับผิดชอบฝ่ายข่าว และเป็นผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์ รุ่นแรกๆ รุ่นเดียวกับ อาคม มกรานนท์ [2]

เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2517 โทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม ย้ายห้องส่งโทรทัศน์จากวังบางขุนพรหม ไปที่ถนนพระสุเมรุ บางลำพู และเปลี่ยนระบบถ่ายทอดจากขาว-ดำ เป็นระบบสี ใช้ชื่อว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์สี ช่อง 9 เมื่อ พ.ศ. 2519 ขณะนั้นสรรพสิริ วิรยศิริ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยโทรทัศน์จำกัด รัฐวิสาหกิจสื่อสารมวลชน และเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 และวิทยุกระจายเสียง ททท.

ช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สรรพสิริ ได้นำเสนอภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทางโทรทัศน์ช่อง 9 ตามความเป็นจริง โดยเป็นผู้ตัดต่อภาพข่าวและบรรยายภาพด้วยตัวเอง ส่งผลให้ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในทันที ภายหลังการรัฐประหาร ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 โดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ [3] ทำให้ท่านต้องหลบไปอาศัย ณ ที่แห่งหนึ่งในจังหวัดระยองอยู่หลายปี

สรรพสิริ วิรยศิริ เคยเป็นนักทำภาพยนตร์โฆษณา เป็นบุคคลแรกที่สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันในประเทศไทย เมื่อประมาณ พ.ศ. 2484 จากโฆษณาชุด หนูหล่อ ของ ยาหม่องบริบูรณ์บาล์ม ชุด หมีน้อย ของ นมตราหมี (ได้รับรางวัลชนะเลิศโฆษณาระดับภูมิภาคเอเชีย ที่สิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ.2486) และชุด แม่มดกับสโนว์ไวท์ ของ แป้งน้ำควินนา [4][5]

สรรพสิริ วิรยศิริ เป็นผู้ก่อตั้งชมรมเรารักรถไฟ เป็นผู้ก่อตั้งหอเกียรติภูมิรถไฟ ตั้งอยู่ที่สวนจตุจักร เมื่อ พ.ศ. 2533 [6][7] เป็นผู้จัดทำหนังสือ เพื่อนรถไฟ และ รถไฟของเรา ในปัจจุบันจุลศิริ วิรยศิริ (บุตรชาย) เป็นผู้ดูแลแทน เนื่องจากสรรพสิริ วิรยศิริ ได้ป่วยเป็นอัลไซมเมอร์มาหลายปีแล้ว

สรรพสิริ วิรยศิริ ได้รับการประกาศเกียรติคุณ เป็นนักเขียนอาวุโส มีผลงานเป็นที่ยกย่องกว้างขวาง หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลนราธิป ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2545 จัดโดยสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย

[แก้] อ้างอิง

  1. http://72.14.235.104/search?q=cache:abvhlusv7UoJ:uconnect.dpu.ac.th/dpupost/user/siwanard/folder/41/206.doc+%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4+%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87+4&hl=th&ct=clnk&cd=3
  2. http://intranet.prd.go.th/journal/content.php?No=1473
  3. http://www.2519.net/autopage/show_page.php?t=10&s_id=21&d_id=2&page=29&start=21
  4. http://www.kartoon-discovery.com/history/history1.html
  5. http://after2k.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=8547
  6. http://www4.sac.or.th/museumdatabase/detail_museum.php?get_id=01-090
  7. http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=News&file=article&sid=867


 สรรพสิริ วิรยศิริ เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ สรรพสิริ วิรยศิริ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ