การใช้เสียงท้ายวรรค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บทความนี้ได้รับแจ้งว่ามีลักษณะไม่เป็นสารานุกรม
เนื่องด้วยการใช้ถ้อยคำ รูปแบบการเขียน เนื้อหา หรือมีลักษณะคล้ายคู่มือ หรือเอกสารต้นฉบับ ซึ่งไม่ตรงตามนโยบายของวิกิพีเดีย
คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการกดที่ปุ่ม แก้ไข หรือย้ายบทความนี้ไปยังโครงการพี่น้องที่เหมาะสม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เงื่อนไขในการนับว่าเป็นสารานุกรม อะไรที่ไม่ใช่วิกิพีเดีย โครงการพี่น้อง บทความคัดสรร และ นโยบายวิกิพีเดีย
                                                  การใช้เสียงท้ายวรรค
              สอง....สาม....สี่
                               การแต่งกลอนแปด    อยู่ที่การใช้เสียงท้ายวรรค  สอง......สาม......สี่  ที่ไม่ได้กล่าวถึงท้ายวรรคที่หนึ่ง  เหตุเพราะว่าการแต่งกลอนแปด

ไม่ได้มีการห้ามใช้เสียงใดเสียงหนึ่ง ใช้ได้ทั้งห้าเสียง สามัญ เอก โท ตรี จัตวา

                                    ท้ายวรรคที่สอง  ใช้ได้เพียงสามเสียง  คือ   เอก   โท   จัตวา
                                    แต่เสียงที่นิยม  คือเสียง                                   จัตวา
                                    ท้ายวรรคที่สาม  และท้ายวรรคที่สี่  ใช้ได้สองเสียงคือ   สามัญ  ตรี
                                    แต่เสียงที่นิยมใช้ท้ายวรรคที่สามที่สี่  คือเสียง             สามัญ 
                               
                              วิธีเขียนกลอนให้ท้ายวรรคที่สองเป็นเสียงจัตวา  สามารถทำได้ดังนี้  ให้ใช้อักษรสูงมาอยู่ที่ท้ายวรรคที่สอง  กลอนบทนั้นๆจะออกเป็นเสียงจัตวาตามความต้องการ  ถือว่าเป็นเสียงไพเราะมากที่สุด
                              ตามปกติอักษรสูงจะมีอยู่  ๑๑  ตัวด้วยกัน  แต่เมื่อตัดเสียงซ้ำให้เหลือเพียง  ส. เสือ ข. ไข่  ก็จะเหลืออักษรสูงเพียง  7  ตัว

                                                  ผ     ฝ       ถ       ข       ส       ห       ฉ
                                                  ผี    ฝาก     ถุง     ข้าว    สาร     ให้     ฉัน
                                 ถ้าท้ายวรรคที่สองใช้เสียงเอก  หรือเสียงโท  กลอนบทนั้นๆ จะมีโอกาสชนะการประกวดได   เพียงแต่ใช้ให้เมาะสมกับเรื่อง  ดังคำกลอนที่เคยชนะเลิศการประกวดที่สถานีวิทยุ ททท.  ในหัวข้อ  “เจ้าพระยา”  ดังนี้
                                                                                                  “เจ้าพระยา”
                                          เจ้าพระยาเริ่มดำขุ่นคล้ำข้น                                      คล้ายเมฆฝนบนฟ้าคลุมเป็นกลุ่มก้อน
                          กลิ่นเน่าเน่าเห็นบ้างที่บางตอน                                        ถึงจะร้อนย่ำแย่ก็แค่มอง
                          บนบกก็เช่นกันทุกวันนี้                                                เห็นแต่มีความตายคอยหมายจ้อง
                          อากาศเน่าเล็ดลอดปอดบวมพอง                                     เกินจะร้องก้องตะโกนโพนทะนา
                          มนุษย์ยิ่งทรุดหนักหมักความเน่า                                        ไม่ยอมเข้าใจกันยิงฟันฆ่า
                          ศีลธรรมทิ้งไกลไม่นำพา                                         อนิจจานานวันยิ่งผันแปร
                          เจ้าพระยาแม้ดำขุ่นคล้ำเน่า                                            มนุษย์เราย่อมดำคล้ำกว่าแน่
                          รวมความเน่าเคล้าคลุกรุกรังแก                                  เน่าที่แย่เน่ามนุษย์สุดทนเอย
                                                                                ****************************

[1]