สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
พระราชวงศ์ไทย
ตราประจำราชวงศ์จักรี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เป็นพระราชธิดา ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชสมภพ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (พระราชอุปัชฌาย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) เป็นผู้ถวายพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์"

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสถาปนาพระอิสริยยศและพระอิสริยศักดิ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ขึ้นเป็น "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี"

สารบัญ

[แก้] การศึกษา

ในเบื้องต้นทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา เมื่อ พ.ศ. 2510 ทรงสอบไล่จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปลายด้วยคะแนนสูงสุดของประเทศ และ เมื่อ พ.ศ. 2515 ก็ทรงสอบไล่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยคะแนนสูงสุดของประเทศเช่นเดียวกัน

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

หลังจากนั้นทรงสอบเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนสอบเอนทรานซ์เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ทรงเข้าศึกษาคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนสำเร็จการศึกษา ได้รับปริญญาเกียรติยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง สาขาประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2519

สมเด็จพระเทพฯ ทรงเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านจารึกภาษาตะวันออก (ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร) จากคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากร และสำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2522 หัวข้อวิทยานิพนธ์คือ “จารึกพบที่ปราสาทพนมรุ้ง” และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาภาษาบาลีและสันสกฤต จากภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อวิทยานิพนธ์ “ทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาท” เมื่อ พ.ศ. 2524

หลังจากนั้นทรงเข้าศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เมื่อ พ.ศ. 2524 และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาพัฒนศึกษาศาสตร์ เมื่อ ปี พ.ศ. 2529 หัวข้อวิทยานิพนธ์ “การพัฒนานวัตกรรมเสริมทักษะการเรียนการสอนภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย”

[แก้] ภาษา

พระองค์ทรงมีความรู้ทางด้านภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร ทรงสามารถรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส และทรงกำลังศึกษาภาษาจีน ภาษาเยอรมัน และภาษาลาตินอีกด้วย

[แก้] รางวัลที่ทรงได้รับ

  • รางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991)
  • รางวัลอินทิรา คานธี สาขาสันติภาพ การลดอาวุธและการพัฒนา พ.ศ. 2547 (พิธีทูลเกล้าฯถวายรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2548)[1]

[แก้] ตำแหน่งที่ทรงได้รับ

  • ทรงดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีแห่งองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ด้านการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย ด้วยการศึกษาและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม (UNESCO Goodwill Ambassador for the Empowerment of Minority Children through Education and the Preservation or their Intangible Cultural Heritage) โดยนายโคอิชิโร มัตสึอูระ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก พร้อมด้วยผู้บริหารขององค์การฯ และคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายใบประกาศนียบัตรและใบประกาศแต่งตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2548 [2] [3]

[แก้] พระราชนิพนธ์

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้] อ้างอิง

  1. ทูลเกล้า ฯ ถวายรางวัล 'อินทิรา คานธี' แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
  2. HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn Honored as UNESCO Goodwill Ambassador
  3. ยูเนสโกเทิด"พระเทพ" เจ้าหญิงไอที


  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในภาษาอื่น สามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ๆ ด้านซ้ายมือ
ภาษาอื่น