โรคเล็ปโตสไปโรซิส
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรคเล็ปโตสไปโรซีส (Leptospirosis), โรคฉี่หนู หรือ หรือไข้ฉี่หนู เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน ที่เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย เล็บโตสไปร่า (Leptospira) เชื้อชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านผิวที่หิวยุ่ย ลอยถลอกหรือบาดแผล สามารถติดโรคได้ในสัตว์หลายชนิด ส่วนมากสัตว์ที่ไวต่อการรับเชื้อมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุน้อย หรือลูกสัตว์ที่ไม่เคยได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่มาก่อน สามารถพบได้ในสัตว์ต่างๆ เช่น สุนัข หนู โค กระบือ สุกร แพะ แกะ สัตว์เลี้ยงในบ้าน เป็นต้น แต่พบมากในหนูซึ่งสามารถแพร่เชื้อออกมาได้โดยที่ตัวมันไม่เป็นโรค มักจะพบการระบาดในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน เนื่องจากเป็นฤดูฝนต่อหนาว มีน้ำขัง
สารบัญ |
[แก้] การติดต่อ
การติดต่อของโรคเล็ปโตสไปโรซีส สามารถติดต่อกันได้ง่าย แต่การติดต่อจากคนสู่คนเกิดได้น้อยมาก โดยสัตว์ที่สามารถแพร่เชื้อ ได้แก่ สุนัข วัว ควาย สัตว์พวกนี้เก็บเชื้อไว้ในไต แต่สัตว์ที่แพร่เชื่อหลักคือ หนู เมื่อหนูปัสสาวะ เชื้อจะลงไปสู่ในน้ำหรือดิน คนรับเชื้อได้ โดยการสัมผัสสัตว์ที่นำเชื้อ หรือโดยเพศสัมพันธ์ หรือ เข้าสู่คนทางผิวหนัง หรือเยื่อบุ ที่ตา ปาก จมูก ซึ่งเชื้อโรคสามารถติดต่อได้ในวิธีต่างๆ ดังนี้
- การกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป
- การหายใจเอาไอละอองของปัสสาวะ หรือ ของเหลวที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป
- เข้าผ่านเยื่อบุต่างๆ เช่น ตา และปาก
- ไชเข้าทางผิวหนังตามรอยแผลและรอยขีดข่วน
- ไชเข้าทางผิวหนังปกติที่เปียกชุ่มจากการแช่น้ำนานๆ
[แก้] ระยะระบาดของโรค
โรคเล็ปโตสไปโรซีส จะแพร่กระกายและเกิดขึ้นได้ง่ายในช่วงปลายฤดูฝน พบบ่อยในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน เพราะช่วงนี้พื้นดินแฉะ มีน้ำขัง ทำให้เชื้อขังอยู่ ทำให้เชื้อเล็ปโตสไปโรซีส ซึ่งจะพบโรคนี้มากตามจังหวัดที่ทำการปลูกข้าว บริเวณที่ต้องย่ำน้ำ หรือแหล่งน้ำขังที่มีพาหะนำโรคชุกชุม อาจรวมถึงบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้วย
[แก้] แหล่งรังโรค
แหล่งรังโรคหมายถึงเป็นที่พักของเชื้อ สัตว์ที่เป็นแหล่งพักได้แก่ หนู สุกร โค กระบือ สุนัข แรคคูณสัตว์อาจจะไม่มีอาการแต่สามารถปล่อยเชื้อได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรืออาจจะตลอดชีวิตสัตว์ ทำให้มีการติดต่อของเชื้อในสัตว์ จากการสำรวจเมื่อปีพ.ศ. 2540 โดยสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ พบภูมิคุ้มกันใน ควาย 31% โค 28.25% แพะแกะ 27.35% สุกร 2.15%
[แก้] กลุ่มเสี่ยง
กลุ่มเสี่ยงที่สามารถติดต่อได้ คือ อยู่กับความชื้น มีน้ำขังสกปรก โดยมิได้ใส่เครื่องมือป้องกัน เช่น รองเท้าบู๊ต ถุงมือ โดยผู้ที่สามารถติดต่อได้มีดังนี้
- เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา ชาวสวน คนงานเลี้ยงสัตว์ โค สุกร ปลา
- กรรมกรขุดท่อระบายน้ำ เหมืองแร่ โรงฆ่าสัตว์
- ประชาชนทั่วไป ในที่มีน้ำท่วม แถบที่มีหนูมาก ผู้ที่ปรุงอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่สุก หรือปล่อยอาหารทิ้งไว้โดยไม่ปิดฝา
[แก้] การป้องกัน
การป้องกัน ควรเริ่มจากการให้ความรู้ด้านสุขศึกษาแก่ กลุ่มเสี่ยง ซึ่งการป้องกันสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- กำจัดหนู
- ควรสวมชุดป้องกัน เช่น รองเท้าบู๊ต ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อผ้า
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่เป็นพาหะ ของโรคดังกล่าว
- หลีกเลียงการว่ายน้ำที่อาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่
- หลีกเลี่ยงไม่ไปสัมผัสปัสสาวะโค กระบือ หนู สุกร และไม่ใช้แหล่งน้ำที่สงสัยว่าอาจปนเปื้อนเชื้อ หลีกเลี่ยงอาหารที่ปล่อยค้างคืน โดยไม่มีภาชนะปกปิด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการทำงานในน้ำหรือต้องลุยน้ำ ลุยโคลนเป็นเวลานานๆ
- รีบอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายโดยเร็วหากแช่ หรือ ยำลงไปในแหล่งน้ำที่สงสัยว่าอาจปนเปื้อนเชื้อ
[แก้] การรักษา
โรคเล็ปโตสไปโรซิส สามารถรักษาได้ เมื่อมีอาการให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะต้องรักษาโดยเร็ว และรักษาต่อเนืองไปเป็นเวลา 6 วัน โดยการให้ยา โดยให้ต้องได้รับยาปฎิชีวนะ ตามความเหมาะสม ยาที่ใช้ได้ผลในโรค ได้แก่ penicillin, tetracyclin, streptomycin, erythromycin, doxycycline, amoxicillin เป็นต้น และควรจะได้รับยาภายใน 4-7 วันหลังเกิดอาการของโรค ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจต้องได้รับการให้น้ำและเกลือแร่อย่างเพียงพอเพิ่มเติมด้วย
![]() |
โรคเล็ปโตสไปโรซิส เป็นบทความเกี่ยวกับ การแพทย์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |