ประวัติภาษาฮินดี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาษาฮินดี เป็นภาษาที่สำคัญภาษาหนึ่งของอินเดีย เป็นภาษาราชการของรัฐบาลกลางคู่กับภาษาอังกฤษมีที่มาจากภาษาสันสกฤต และภาษาเปอร์เซีย จัดว่าใกล้เคียงกับภาษาอูรดู
สารบัญ |
[แก้] พัฒนาการของภาษาในอินเดีย
ตามทฤษฎีของนักภาษาศาสตร์ ภาษาตระกูลอินโด- ยุโรปพัฒนามาจากภาษาอินโด- ยุโรปเริ่มแรก (Proto Indo-Europian language) จากภาษาดั้งเดิมนั้นจึงพัฒนามาเป็น ภาษาสันสกฤต ภาษากรีก ภาษาละติน และเชื่อกันว่า การพัฒนาของภาษาภาษาตระกูลอินโด- ยุโรปทั้งหลาย พัฒนามาจากภาษาทั้งสาม ภาษาส่วนใหญ่ทางอินเดียภาคเหนือเช่น ภาษาฮินดี ภาษามราฐี ภาษาคุชราต ภาษาเบงกาลี เป็นต้น ล้วนมีต้นกำเนิดจากภาษาสันสกฤต แต่ในอินเดียภาคใต้ เช่น ภาษาทมิฬ ภาษาเตลุกุ ภาษามาลายาลัมและภาษากันนาดา คือภาษาในตระกูลทราวิฑหรือดราวิเดียน
รูปภาษาโบราณของภาษาตระกูลอินโด- ยุโรปในอินเดียนั้นพบอยู่ในภาษาสันสกฤตพระเวท ต่อมาปาณินิได้ตั้งกฏเกณฑ์ทางไวยากรณ์ และจัดให้อยู่ในลักษณะแบบแผน สมัยอารยะของภาษายุคกลาง(500 ปีก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 1000) เริ่มขึ้นหลังจากสมัยอารยะของภาษายุคโบราณ (1500 – 500 ปีก่อนคริสตกาล) ในระยะที่หนึ่งของยุคนี้ภาษาบาลีได้พัฒนาขึ้นมา ในระยะที่สอง[ภาษาปรากฤต]]ได้พัฒนาขึ้น ในระยะสุดท้ายนั้นเรียกว่าระยะของภาษาอัปภรัญศ์ (เศารเสนี มาคธี มหาราษฏรี) ภาษาในอินเดียปัจจุบันพัฒนาขึ้นจากภาษาอัปภรัญศ์นี้เอง
เหตุที่มีต้นกำเนิดมาจากภาษาสันสกฤตทำให้ในทางทฤษฎีของเสียง คำศัพท์ และไวยากรณ์ของภาษาในปัจจุบันเช่น ภาษาฮินดี ภาษามราฐี ภาษาคุชราต ภาษาเบงกาลี เป็นต้น มีความคล้ายคลึงกันมาก และภาษาสันสกฤตยังมีอิทธิพลต่อภาษากลุ่มดราวิเดียนด้วย อันมีสาเหตุจากความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรมและการติดต่อสัมพันธ์กันมานับศตวรรษ และจะเห็นได้ว่าภาษาอาหรับ ภาษาเปอร์เซีย และภาษาอังกฤษที่มาในรูปภาษาของผู้ปกครองนั้นมีอิทธิพลโดยทั่วไปต่อทุกภาษาในอินเดีย
ภาษาฮินดีในรูปมาตรฐานพัฒนาออกมาจากภาษาขรีโบลี ภาษาขรีโบลีนั้นยอมรับกันว่าคือภาษท้องถิ่นภาษาหนึ่งของกลุ่มภาษาฮินดีตะวันตก ซึ่งพูดอยู่ใน บริเวณเมืองนิวเดลฮี เมรัฐ บิชเนาร์และสฮารันปุร รูปวรรณกรรมที่สละสลวยในภาษาขรีโภลีนั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นภาษาฮินดียุคใหม่ การใช้ภาษาขรีโภลีในสมัยโบราณ พบในศตวรรษที่ 10 ใช้อย่างแพร่หลาย และมีระบบในงานวรรณกรรมของอมีร ขุสโร (ค.ศ. 1253 – 1325) รูปหนึ่งของภาษาขรีโภลีที่พัฒนาออกมาในศตวรรษที่ 16 – 17 ปรากฏในภาคใต้ เรียกว่า ภาษาทักขินี ในราชสำนักแห่งโมกุลนั้นใช้ภาษาอาหรับและภาษาเปอร์เซีย ในขณะที่การใช้ภาษาผสมผสานระหว่าง ภาษาขรีโภลี กับ ภาษาเปอร์เซีย ของเหล่าทหารและประชาชนทำให้เกิดภาษาอูรดู
ภาษาและวรรณกรรมฮินดีพัฒนาขึ้นอย่างสำคัญในสมัยศตวรรษที่ 19 ในขบวนการเรียกร้องอิสรภาพ เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของชนทั้งประเทศ จึงยอมรับภาษาฮินดีหรือฮินดุสตานีในรูปภาษาของการสื่อสารระหว่างประชาชน ผู้นำทั้งหลายได้ใช้ภาษาฮินดีเพื่อสร้างความเข้าใจแก่มวลชน
ก่อนหน้ายุคนี้ ในวรรณคดีภาษาฮินดีพบแต่วรรณกรรมประเภทร้อยกรองที่เขียนด้วย ภาษาบรัช และ ภาษาอวธี เท่านั้น แต่ในยุคนี้ ภารเตนดุ หริศจันดระ , อาจารยะ มหาวีร ประสาท ดวิเวดี , ดร.ศยามสุนดัร ดาส , เปรมจันด และประสาท เป็นต้น คือผู้จัดมาตรฐานให้แก่ภาษาฮินดีและแก่วรรณกรรมทั้งร้อยกรองและร้อยแก้ว ในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2492ได้ประกาศให้ภาษาฮินดีเป็นภาษาราชการ และวันนี้ ภาษาฮินดีได้รับความสำคัญแห่งการเป็นภาษาประจำชาติและเป็นภาษาสากลที่ประสบผลสำเร็จและมีพลังอย่างยิ่ง
[แก้] ภูมิภาคและรูปที่หลากหลายของภาษาฮินดี
ในสถานการณ์ของภาษาในประเทศอินเดียนั้น หนึ่งปัจเจกบุคคลสามารถพูดได้อย่างน้อยสองภาษาหรือหลายภาษา ก่อนอื่นในภูมิภาคที่พูดภาษาฮินดีนั้นในระดับต่างๆพบภาษาพูดสี่รูปแบบดังนี้
- ภาษาสันสกฤตและภาษาอาหรับในพิธีการทางศาสนา
- ภาษาฮินดี อังกฤษและภาษาอูรดู ในการสื่อสารที่เป็นทางการ
- ภาษาบรัช ภาษาอวธี ภาษาโภชปุรี ภาษาราชสถานี เป็นต้น ในการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการและในระดับครอบครัว
- ภาษากัลกะติยา ภาษาบัมบะอิยา ภาษาไฮดราบะดี เป็นต้น ในระดับภาษาชาวบ้านสำหรับการติดต่อสื่อสารอย่างเป็นกันเอง
ผู้ที่ไม่ได้พูดภาษาฮินดีแต่อาศัยอยู่ในภูมิภาคของภาษาฮินดี นอกจากการพูดภาษาแม่ของตนแล้ว อาจใช้ภาษาในลักษณะข้อที่สองและสี่ ประการเดียวกันนี้ผู้ที่พูดภาษาฮินดีแต่อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่ไม่พูดภาษาฮินดี โดยทั่วไปแล้วอาจใช้ภาษาในลักษณะข้อที่สอง สาม และสี่
ในเขตภูมิภาคของภาษาฮินดีนั้น ภาษาฮินดีใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันมากที่สุด เขตภูมิภาคของภาษาฮินดีคือในรัฐอุตระประเทศ พิหาร หริยาณา มัธยะประเทศ ราชัสถาน นิวเดลฮีและแผ่ไปจนถึงหิมาจัลประเทศ ในรัฐต่างๆที่กล่าวถึงนี้ มีภาษาท้องถิ่นใช้สื่อสารในระดับไม่เป็นทางการอีกด้วย ภาษาท้องถิ่นของภาษาฮินดีที่กำลังกล่าวถึงแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ดังนี้
- ฮินดีตะวันตก ในกลุ่มนี้มีห้าภาษาท้องถิ่นคือ ภาษาบรัช , ภาษาขรีโบลี , ภาษาหริยนวี (บางกะรู), ภาษาบุนเดลี และภาษากันเนาจี
- ฮินดีตะวันออก ในกลุ่มนี้มีสามภาษาท้องถิ่นคือ ภาษาอวธี ภาษาบเฆลี ภาษาฉัตตีสครีห์
- พิหารี ในกลุ่มนี้มีสามภาษาท้องถิ่นคือ ภาษาโภชปุรี ภาษามคธี ภาษาไมถิลี
- ราชสถานี ในกลุ่มนี้มี ภาษาเมวรี ภาษามาร์วารี ภาษาหาเราตี ภาษาเมวาตี เป็นต้น
- ปหารี ในกลุ่มนี้มี ภาษามัณฑิยาลี ภาษาคัรฮะวาลี ภาษากุมาอูนนี เป็นต้น
ภาษาฮินดีไม่เพียงใช้พูดแต่ในรัฐที่เจ้าของภาษาฮินดีอาศัยอยู่เท่านั้น แต่ยังใช้พูดทั่วทั้งประเทศอินเดีย ภาษาหลักและภาษาท้องถิ่นของภูมิภาคที่ต่างๆกันนั้นจึงปรากฏอิทธิพลในภาษาฮินดี ด้วยเหตุนี้สำเนียงการออกเสียง การเขียน โครงสร้างและการใช้จึงทำให้ภาษาฮินดีเริ่มพัฒนารูปที่ต่างออกไปมากมาย และเกิดปัญหายุ่งยากในการทำความเข้าใจอย่างสมบูรณ์ในความหลากหลายนั้น หากพิจารณาลักษณะการใช้ จุดประสงค์ และภูมิภาคแล้ว ไม่ว่าภาษาใดๆจะปรากฏความหลากหลายของรูปแบบให้เห็น ในประเด็นทางภูมิภาคจะพบภาษาท้องถิ่นมากมาย ในประเด็นของจุดประสงค์พบรูปแบบภาษาที่หลากหลาย เช่นภาษาที่ใช้ในการติดต่อธนาคาร ในการกีฬา ในธุรกิจการค้าหรือในกิจการต่างๆ ในส่วนของลักษณะการใช้นั้นแบ่งออกได้เป็นแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ภาษาที่ประชาชนทั่วไปใช้ในการติดต่อสื่อสารกันเองคือตัวอย่างของภาษาที่ไม่เป็นทางการซึ่งมีเป็นร้อยๆชนิดและโดยทั่วไปในเมืองต่างๆก็มีการผสมกับอิทธิพลจากภาษาพูดหรือภาษาท้องถิ่นของเมืองนั้นๆ เช่น ภาษาฮินดีแบบเมืองนิวเดลฮี ภาษาฮินดีแบบเมืองมุมไบ(บัมบะอิยา) ภาษาฮินดีแบบเมืองกัลกัตตา(กัลกะติยา) ภาษาฮินดีแบบเมืองไฮดราบัด(ไฮดราบะดี) เป็นต้น รูปแบบภาษาที่นำไปใช้โดยทั่วไปแล้วจึงอยู่ในขอบเขตของลักษณะการใช้ จุดประสงค์และเขตภูมิภาคดังกล่าวมา ดังนั้นเมื่อเราจะกล่าวถึงภาษาในระดับชาติของอินเดียซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นรูปแบบที่แสดงความเป็นชาติแล้ว ภาษาในรูปที่เรากำลังกล่าวถึงนั้นเรียกว่าภาษามาตรฐานหรือภาษาที่เป็นทางการ ภาษาฮินดีมาตรฐานก็ได้รับความพยายามกระทำให้ถึงซึ่งเกียรติยศอันนั้นด้วยกระบวนการจัดมาตรฐาน ภาษาฮินดีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในรูปแบบเดียวกันตั้งแต่เหนือจดใต้ ตะวันออกจดตะวันตก ในประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายอย่างอินเดีย กระบวนการชำระและเปลี่ยนแปลงจึงยังคงดำเนินเรื่อยมาพร้อมๆกับกาลเวลาที่ดำเนินไป เพื่อทำให้ภาษาฮินดีเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งประเทศอินเดียอีกทั้งทรงพละกำลังยิ่งขึ้น ทรงสิทธิโดยสมบูรณ์และเป็นวิทยาการ
[แก้] ภาษาฮินดีในฐานะภาษาประจำชาติ
ภาษาฮินดีในรูปที่ได้รับการจัดมาตรฐานในปัจจุบันนอกจากใช้ในงานวรรณกรรมแล้ว ยังใช้ในด้านการศึกษา วิทยาการ เทคโนโลยีและการปกครอง ภาษาฮินดีในรูปดังกล่าวจึงมีการออกเสียง การเขียนและโครงสร้างไวยากรณ์ที่เป็นแบบอย่างมาตรฐาน และในกรอบของรูปมาตรฐานนี้จึงมีความแตกต่างจากภาษาท้องถิ่นที่ใช้พูดกันในประเทศ
ในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2492 ภาษาฮินดีได้รับการยอมรับเป็นภาษาประจำชาติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐอินเดียส่วนที่ 17 หมวดที่ 1 มาตรา 343 บัญญัติให้ภาษาฮินดีเป็นภาษาประจำชาติและใช้อักษรเทวนาครี ในปัจจุบันภาษาฮินดีเป็นภาษาราชการแห่งรัฐอุตตรประเทศ พิหาร มัธยประเทศ ราชสถาน หริยาณา หิมาจัลประเทศและนิวเดลฮี สำหรับในรัฐปัญจาบ คุชราต มหาราษฏระและอันดามัน-นิโคบาร์ให้ภาษาฮินดีอยู่ในสถานะภาษาที่สอง
[แก้] อ้างอิง
- แปลและเรียบเรียงจากบางส่วนของบทที่ 1 ในหนังสือภาษาฮินดีชื่อ Vyavharik Hindi Vyakaran aur Vartalab ผู้แต่ง Caturbhuj Sahay และ Arun caturvedi พิมพ์โดย Central Hindi Institute, Agra :1998