คุยเรื่องภาพ:ศรีกรานนท์.jpg

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประวัติส่วนตัวและผลงาน ของ เรืออากาศตรี ศาตราจารย์(พิเศษ)ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ

อ.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2571 ปัจจุบันอายุ 77 ปี เกิดที่ตำบลบางรัก เจริญกรุง เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของ คุณพ่อโรนาโด ซีแกร่า และคุณแม่จำรัส เรณางกูร ซึ่งมีเชื้อสายโปรตุเกส คุณพ่อเป็นนักเปียโนและเล่นดนตรี และคุณพ่อยังทำงานด้านอื่นประจำนอกเหนือจากดนตรี จึงได้รับแรงบันดาลใจและมีความรักในดนตรีมาก อ.แมนรัตน์เติบโตมาในครอบครัวที่มีดนตรีในหัวใจ มีใจรักเสียงดนตรีมาโดยตลอด อ.แมนรัตน์สมรสกับคุณลออวรรณ อนุสารสุนทร มีบุตร 2 คน คือ ดร.อินทุอร ศรีกรานนท์, CONCERT PIANIST จบจากมหาวิทยาลัย Yale ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ จบการศึกษาปริญญาเอก สาขาการประพันธ์เพลง จากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก สก๊อตแลนด์ และได้เล่น SAXOPHONE พร้อมทั้งยังเป็นนักดนตรีในวงดนตรี อ.ส วันศุกร์ ซึ่งเป็นวงดนตรีส่วนพระองค์อีกด้วย อาจารย์แมนรัตน์ เริ่มการศึกษา เมื่ออายุ 9 ปี โดยได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญและเซ็นคราเบรียลจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงย้ายมาเรียนอัสสัมชัญ ขณะที่เรียนอยู่ชั้น ม.5 เกิดสงคราม การเรียนจึงได้ชะงักลงช่วงหนึ่ง หลังสงครามสงบกลับมาเรียนต่อ แต่ไม่จบ เนื่องจากบิดาได้ล้มป่วยและเสียชีวิตจึงต้องออกจากโรงเรียนมาเล่นดนตรีหาเงินส่งน้องๆเรียนหนังสือ ช่วยเหลือภาระทางบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งการเรียน ช่วงที่ทำงานอยู่อีสต์ เอเซียติค ได้เรียนกวดวิชาตลอดเวลาแต่ก็ไม่มีโอกาสสอบชั้นมัธยมศึกษา 6 ในส่วนของการทำงานอาจารย์แมนรัตน์ ได้ผ่านการทำงานหลายที่ เช่น บริษัทเชลส์ ซึ่งที่นี้ได้ตั้งวงดนตรีของพนักงานขึ้น และได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวง จากนั้นได้ตั้งวงดนตรีเล็กๆของตนเองอีก 1 วง ชื่อ วงดนตรีเรมอนด์และสหาย (ต่อมาเปลี่ยนเป็น คีตะเสวี) ซึ่งเป็นชื่อวงดนตรีของบิดา รวบรวมเพื่อนๆมาเล่นดนตรียามว่างจากการทำงาน แรกๆเล่นกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ตามบ้านเพื่อนฝูงเท่านั้น แต่ภายหลังได้เล่นออกอากาศทางสถานีวิทยุ 1 ปณ และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยด้วย หลังออกจากบริษัทเซลล์ ก็มาทำอยู่กับ บริษัทน้ำมันแสตนดาร์ด เวคัม ออยส์ ในปี 2498 ได้ร่วมเล่นดนตรีอยู่กับวงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในตำแหน่งนัก PIANO ได้มีโอกาสเล่นเปียโนถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ไปออกอากาศ ณ สถานีวิทยุ อ.ส หลังจากนั้นได้ถวายตัวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อที่จะเล่นเปียโนในวงดนตรี “ลายคราม” ซึ่งนักดนตรีในวงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ชั้นหม่อมเจ้าและชั้นหม่อมราชวงศ์ และที่พิเศษ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ทรงแซกโซโฟน และคลาริเน็ต จนถึงปัจจุบันได้เล่นดนตรีถวายในวงดนตรี อ.ส วันศุกร์ มาเป็นเวลา 50 ปี และได้เคยร่วมเล่นดนตรีกับนักดนตรีแจ๊สชั้นนำของโลก เช่น เบนนี กูดแมน สก็อต แฮมิลตัน และเบนนี คาร์เตอร์ เป็นต้น ต่อมาเมื่อบริษัทน้ำมันแสตนดาร์ด เวคัม ออยส์ แยกตัวออกเป็น 2 บริษัท คือ บริษัทน้ำมันเอสโซ และ บริษัท น้ำมันโมบิล อ.แมนรัตน์เลือกทำที่ บ. โมบิลและได้ลาออกในปี 2508 เนื่องจากได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปศึกษาวิชาการดนตรีแจ๊ส ในสาขาวิชาเรียบเรียงเสียงประสานและการประพันธ์เพลงที่ BERKLEE SCHOOL OF MUSIC ในหลักสูตร 2 ปี จนจบได้รับ CERTIFICATE ทางด้าน JAZZ COMPOSITION หลังจากกลับมา ต้องการนำความรู้ที่ได้มาเผยแพร่ให้นักศึกษาไทย จึงได้มาทำงานที่บริษัทสยามกลการ ดร.ถาวร พรประภา ได้มอบหมายให้ก่อตั้งโรงเรียนดนตรีสยาม-กลการ โดยในช่วงแรกได้เชิญนักเรียบเรียงเสียงประสานที่มีฝีมือมาเรียนกันแบบเพื่อนฝูง เช่น อ.ประสิทธิ์ พยอมยงค์ ประภาส อมรพันธ์ นริศ ทรัพย์ประภา เป็นต้น ซึ่งต่อมาได้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้นี้ให้แก่นักดนตรีอาชีพ และนักศึกษาทั่วไป มีลูกศิษย์หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตการงานหลายคน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นครูสอนดนตรีที่โรงเรียนจิตรลดา โดยเป็นพระอาจารย์ถวายการสอนดนตรีแด่เจ้าฟ้าทุกพระองค์ด้วย

           ลูกศิษย์ที่เรียนกับอาจารย์แมนรัตน์ในขณะนั้นได้ตั้งวงดนตรีวงใหญ่(BIG BAND) ขึ้น  ชื่อ  “วงดนตรี ม.ศ”   ซึ่งย่อมาจากชื่อแมนรัตน์  ศรีกรานนท์   เพื่อเป็นการทดลองเพลงที่เขียนมาเนื่องจากการเรียนวิชาเรียบเรียงเสียงประสาน  และได้บรรเลงออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7  เป็นเวลาถึง 13 ปี

ในปี 2517 ได้ลาออกจากโรงเรียนดนตรีสยามกลการ เพื่อเข้าทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ จนกระทั่งเกษียณในปี 2530 จึงได้มาทำงานในบริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ในตำแหน่งที่ปรึกษา จนถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ทางด้านผลงานการประพันธ์เพลง อาจารย์แมนรัตน์มีผลงานการประพันธ์เพลงกว่า 1,000 เพลง โดยในช่วงที่ทำการสอนอยู่ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ ได้แต่งเพลงขึ้นหลายเพลง อาทิเช่น รักเอย ชั่วฟ้าดินสลาย จากยอดดอย สวรรค์อำพราง จับปู ใครเอ่ย ใจเอ๋ย ฯลฯ ผลงานที่สร้างชื่อเสียง ได้แก่ เพลงรักเอย ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ เพลงชั่วฟ้าดินสลาย ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงเงิน สำหรับเพลงจับปู เป็นเพลงในท่วงทำนองที่สนุกสนานมีวงดนตรีต่างๆนำมาบรรเลงกันอย่างแพร่หลาย ผลงานทางด้านวิชาการ ได้เรียบเรียงตำราหลายเล่ม เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ศึกษา พัฒนาวิชาการดนตรีให้เทียบเท่าอารยะประเทศ เช่น วิชาการประพันธ์ดนตรีแจ๊ส (JAZZ COMPOSITION) วิชาการประสานเสียงดนตรีแจ๊ส (JAZZ HARMONY) เนื่องจากมีผลงานดนตรีด้านต่างๆ และเป็นผู้ให้การส่งเสริมการดนตรีให้แพร่หลายมาโดยตลอดจึงทำให้ในปี 2535 อาจารย์แมนรัตน์ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) ปี พ.ศ. 2540 ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาดุริยางคศาสตร์สากล จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ 24 มกราคม 2548 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ ในสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ คณะศิลปกรรมศ่าสตร์ ม.มหาสารคาม ปัจจุบัน อ.แมนรัตน์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด และเป็นกรรมการและที่ปรึกษาของหน่วยงานราชการและเอกชนหลายแห่ง เป็นอาจารย์สอน เป็นที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี Jazz ของคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้อำนวยการโรงเรียนดนตรีสยามกลการ และสอนวิชา JAZZ COMPOSITION, JAZZ HARMONY ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการและมหาวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ

                                                                                            บันทึกข้อมูลนี้เมื่อเดือน พฤศจิกายน  2548