คุยกับผู้ใช้:Aomsuay

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

[แก้] DONNA KARAN BIOGRAPHY

“ทุก ๆ สิ่งที่ฉันทำมาจากใจ ร่างกาย และวิญญาณ สำหรับฉัน การออกแบบได้แสดงมาว่าฉันคือใคร ด้วยส่วนเล็ก ๆ ต่าง ๆ ทั้ง อารมณ์ และความรู้สึก”

คารานเชื่อมั่นในสัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงที่ประสพความสำเร็จในบริษัทที่เธอก่อตั้งขึ้นในปี 2527 (1984) กับสามีผู้ล่วงลับไปแล้ว สตีเฟ่น เวสส์ และก้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมในปี 2539 (1996) 5 ปีหลังจากนั้น เธอก็นำพาบริษัทเข้าร่วมกลุ่ม French luxury อับประกอบด้วย LVMH, Moet Hennessy Louis Vuitton คารานเคยกล่าวไว้ว่า “ฉันเป็นผู้หญิงที่มีความปรารถนาโดยธรรมชาติ การเติมเต็มความต้องการ และแก้ไขปัญหาในเวลาเดียวกัน ความเป็นศิลปินในตัวฉัน ฉันได้พยายามต่อสู้เพื่อความงาม ทั้งในความรู้สึกเบื้องลึกและทรรศนะคติ และการออกแบบเป็นเรื่องท้าทายไม่รู้จักจบ การสร้างความพอดีด้วยความหรูหรา และความปรารถนาที่สามารถสวมใส่ได้จริง”

เมื่อคารานพบว่าความท้าทายต่าง ๆ สามารถออกมาจากความเรียบง่าย Bodysuit ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ไปสู่มนต์เสน่ห์ของงานฝีมือในรูปแบบของ Limited Edition ที่วาดด้วยมือลงบนชุด อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ได้ดีไซน์ คารานได้สื่อกับผู้พบเห็นด้วยการใช้ประโยชน์แห่งเรือนร่าง ให้แสดงความปรารถนาทางอารมณ์ ความปรารถนาที่มั่นคง และความอิสระในการเคลื่อนไหว


ในรูปแบบสมัยใหม่ของเครื่องแต่งกาย Concept ของเธอได้ทำมาจาก 7 ส่วนง่าย ๆ ส่วนที่เล็นน้อยของการสับเปลี่ยนกัน เพื่อสร้างเสื้อผ้าทั้งหมดที่สามารถใส่ได้ทั้งในกลางวันจรดกลางคืน ต้นสัปดาห์ถึงปลายสัปดาห์ จากฤดูหนึ่งถึงฤดูหนึ่ง “ฉันออกแบบเพื่อความเป็นสากล คนผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ที่วันเวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมนิวยอร์คถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้า แม้แต่ในกิริยาท่าทาง

การกล่าวถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของแฟชั่น คารานคือแรงบันดาลใจของชีวิต และมีสไตล์ส่วนตัวของศิลปิน สำหรับเธอแล้ว เสื้อผ้าไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่มันหมายถึงการใช้ชีวิต เธอใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า จากประโยชน์ใช้สอยจนถึงความสวยงาม

เธอค้นคว้าหาความสมบูรณ์แบบของกางเกงยีนส์ โดยมีจุดเริ่มต้นจากความปรารถนาที่จะแต่งตัวให้กับลูกสาวของเธอ และได้ก่อตั้ง DKNY ขึ้น แบรนด์สำเร็จรูปที่มีรูปแบบแห่งความเป็นนิวยอร์ค DKNY เติบโตมีชื่อเสียงและขยายไปสู่แบรนด์เสื้อผ้ารูปแบบอื่น ๆ ประกอบด้วย DKNY Jeans, DKNY, DKNY Active, DKNY Underwear, DKNY Juniors, DKNY Kids และ DKNY Baby รวมไปถึงคอลเล็คชั่นเครื่องประดับ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายบนถนนแห่งมหานครนิวยอร์ค

ผู้ชายหลายคนในชีวิตที่เธอรู้จัก ตั้งแต่สามีของเธอผู้หลงใหลการแต่งกายอย่างพิถีพิถันเช่นชาวนิวยอร์ค ไปจนถึงพ่อของเธอผู้เป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าผู้ชาย และในปี 2535 (1992) DKNY Men ได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกที่แตกต่างจากเดิม รวมไปถึงเครื่องประดับและรองเท้าสำหรับผู้ชาย

ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะสร้างความรู้สึกใหม่ ๆ ต่อเครื่องแต่งกาย ทำให้เธอได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความงามในปีเดียวกันนั้น (2535) โดยการนำของสามีเธอ ผู้ซึ่งเป็นผู้ออกแบบขวดน้ำหอมและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยเริ่มต้นมีชื่อเสียงหลังจากที่ชนะรางวัลประเภทผลิตภัณฑ์ความงามรวมทั้งยอดขายที่มหาศาล และในปี 2544 (2001) เธอก็ได้ออกคอลเล็คชั่น Donna Karan New York Home collection ซึ่งเกี่ยวกับของตกแต่งบ้าน ภายใต้คอนเซ็ปท์ที่ว่า “ทั้งหมดของสัมผัสและความรู้สึก” (All about touch and feeling) โดยเน้นของตกแต่งบานในรูปแบบทันสมัย

นอกจากนี้แบรนด์ของเธอยังได้ก้าวสู่สากลในปี 2540 (1997) โดยเปิดตัวที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษขึ้นเป็นที่แรก


ดอนน่า คารานเกิดที่ ลอง ไอร์แลนด์ ในนิวยอร์ค โดยที่มีพ่อเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าผู้ชาย แต่เขาได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เธออายุเพียง 3 ขวบ และแม่ของเธอก็ทำงานให้กับเอเจนซี่นางแบบและตัวแทนจำหน่ายงานแฟชั่น ภายหลังจากนั้นแม่ของเธอได้แต่งงานใหม่ และพ่อเลี้ยงของเธอก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่น ทุกอย่างจึงปลูกฝังอยู่ในตัวเธอ และคอลเล็คชั่นแรกในชีวิตของเธอ รวมไปถึงโชว์ชุดแรกก็ถือกำเนิดขึ้นในขณะที่เธอยังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมปลายเท่านั้น

หลังจากนั้น เธอได้เข้าศึกษาต่อที่ Parson’s School of Design และในช่วงฤดูร้อนเธอทำงานให้กับ Anne Klein ซึ่งถือเป็นก้าวแรกอย่างเต็มตัว หลังจากนั้น 3 ปี เมื่อ Anne Klein เสียชีวิตในปี 2517 (1974) เธอก็เป็นผู้สืบทอดความเป็น Anne Klein ต่อ โดยมีเพื่อนจาก Parson คือ ลูอิส แดลโลลิโอ (Louis Dell'Olio) เข้ามาร่วมทีม และในปี 2525 (1982) เธอได้เปิด Anne Klein II โดยประยุกต์ความเป็นแอนน์กับตัวตนของเธอเข้าด้วยกัน

และในปี 2527 (1984) เธอก็แยกตัวออกมาเพื่อเปิดแบรนด์ของตัวเอง โดยการสนับสนุนของเวส (Weiss) และทาคิโย (Takiyho) ผู้ซึ่งเป็นหุ้มส่วนของ Anne Klein และคอลเล็คชั่นแรกของเธอก็ออกมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จนภายหลังก็ถูกยอมรับโดย สมาคมนักออกแบบแฟชั่นแห่งอเมริกา

จวบจนทุกวันนี้ เธอยังคงยึดมั่นในความหมายของการออกแบบแฟชั่นสำหรับเธอ “ฉันสร้างสรรค์ DKNY เพื่อผู้หญิงทุกคนซึ่งถือเป็นเพื่อนฉัน ที่หลงใหลและสร้างสรรค์ความแตกต่างในทุก ๆ อย่างที่เราสามารถทำได้”