อินทนิลน้ำ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อินทนิลน้ำ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
![]() อินทนิลน้ำ
|
|||||||||||||||
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |||||||||||||||
|
|||||||||||||||
|
|||||||||||||||
Lagerstroemia speciosa (L.) Pers. |
|||||||||||||||
|
อินทนิลน้ำเป็นไม้ยืนต้น เป็นพันธ์ไม้ที่พบขึ้นทั่วไปตามที่ราบลุ่มและบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ลำห้วย ในป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดงดิบทั่วทุกภาค จะพบมากในป่าดงดิบภาคใต้ มีดอกสีม่วง สวยงาม มีชื่อในแต่ละท้องถิ่นต่างๆ กัน เช่น ตะแบกอินเดีย ฉ่องมู ซอง (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) บาเอ (ปัตตานี) บางอบะซา (ยะลา นราธิวาส มาเลเซีย) อินทนิล (ภาคกลาง ภาคใต้) ตะแบกดำ (กรุงเทพฯ)(ในภาษาอังกฤษเรียก Pride of India หรือ Queen's flower)
อินทนิลน้ำเป็นพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดสกลนคร
สารบัญ |
[แก้] ลักษณะ
[แก้] ใบ
เป็นใบเดี่ยว (simple leaf) ออกตรงข้าม (opposite)หรือเยื้องกันเล็กน้อย(sub-opposit) ทรงใบรูปขอบ ขนาน(oblong)หรือรูปขอบขนานแกมรูปหอก(lanceolate) กว้าง 5 - 10 ซ.ม. ยาว 11 -26 ซ.ม. เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เป็นมันทั้งสองด้าน โคนใบมนหรือเบี้ยวเยื้องกัน เล็กน้อย ปลายใบเรียวและเป็นติ่งแหลม เส้นแขนงใบมี 9 -17 คู่ เส้นโค้งอ่อนและจะจรดกับเส้นถัดไปบริเวณใกล้ ขอบใบ เส้นใบย่อยเห็นไม่เด่นชัดนัก ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นบ้างเล็กน้อย ก้านใบยาวประมาณ 1 ซ.ม. เกลี้ยงไม่มีขน
[แก้] ดอก
เป็นชนิดดอกช่อ(inflorescence flower)แบบ Panicle ออกรวมกันเป็นช่อโต ยาวถึง 30 ซ.ม. ตามปลายกิ่งหรือตามง่ามใบใกล้ๆปลายกิ่ง มีสี ต่างๆกันเช่น สีม่วงสด ม่วงอมชมพูหรือชมพูล้วนๆ ตรง ส่วนบนสุดของดอกตูมจะมีตุ่มกลมเล็กๆติดอยู่ตรงกลาง ผิวนอกของกลีบฐานดอกซึ่งติดกันเป็นรูปถ้วยหรือรูป กรวยหงายจะมีสันนูนตามยาวปรากฏชัด มีขนสั้นปก คลุมประปราย กลีบดอกบาง รูปช้อนที่มีโคนกลีบเป็นก้านเรียว ผิวกลีบเป็นคลื่นเล็กน้อย เมื่อบานเต็มที่จะมีรัศมีกว้างถึง 5 ซ.ม. เกสรผู้มีขนาดเดียวยาวไล่เรี่ยกัน รังไข่กลม เกลี้ยง
[แก้] การดูแล
[แก้] การขยายพันธุ์
โดยปกติมีการกระจายพันธ์ตามธรรมชาติ(natural distribution) แต่อาจช่วยขยายพันธ์ได้โดยการเพาะเมล็ด
[แก้] การออกดอกและการติดผล
เริ่มผลัดใบในฤดูร้อน ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม ก่อนที่ใบจะร่วงหล่นจากกิ่ง จะเปลี่ยนเป็นสีแดง โดยใบอ่อนจะผลิออกมาใหม่มาทดแทนในขณะที่ใบเก่ายังร่วงไม่หมดระหว่างเดือน มีนาคม-พฤษภาคมโดยช่อดอกจะเริ่มออกเต็มไปหมดและจะบานต่อเนื่องกันเรื่อยไปจนถึงเดือนมิถุนายน ผลจะแก่ประมาณเดือน ตุลาคม-ธันวาคม เมื่อผลแก่เต็มที่ผลก็จะแตกและโปรยเมล็ด
[แก้] ประโยชน์
[แก้] เนื้อไม้
เนื้อไม้ นิยมใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน โดยมากใช้ทำกระดานพื้น ฝา กระเบื้อง มุงหลังคา ใช้ต่อเรือใบ เรือแจว เรือเดินทะเล ทำเกวียน เครื่องตบแต่งบ้าน ทำแจว พาย เปียนโน หีบใส่ของ ถังไม้ กังหันน้ำ เครื่องมือการเกษตรต่างๆ เช่น ทำไถ ไม้นวดข้าว ครก สาก กระเดื่อง ลูกหีบ ซี่ล้อ ทำไม้คาน ไม้กั้นบ่อน้ำ ร่องน้ำ ทำหีบศพอย่างดี
[แก้] สรรพคุณทางยา
- เปลือก รสฝาดขม แก้ไข้ แก้ท้องเสีย
- ใบ รสจืดขมฝาดเย็น ต้มหรือชงน้ำร้อนดื่ม แก้โรคเบาหวาน ขับปัสสาวะ เป็นยาลดความดัน
- เมล็ด รสขม แก้โรคเบาหวาน แก้นอนไม่หลับ
- แก่น รสขม ต้มดื่มแก้โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้โรคเบาหวาน
- ราก รสขม แก้แผลในปาก ในคอ เป็นยาสมานท้อง