ประเทศตองกา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
|||||
คำขวัญ: Ko e ʻOtua mo Tonga ko hoku tofiʻa (พระเจ้าและตองกาคือมรดกของข้าพเจ้า) | |||||
เพลงชาติ: Koe Fasi Oe Tu'i Oe Otu Tonga | |||||
![]() |
|||||
เมืองหลวง | นูกูอะโลฟา |
||||
เมืองใหญ่สุด | นูกูอะโลฟา | ||||
ภาษาราชการ | ภาษาตองกาและภาษาอังกฤษ | ||||
รัฐบาล | ราชาธิปไตย | ||||
ประมุข นายกรัฐมนตรี |
สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูปูที่ 5 ดร. เฟเลติ เซเวเล |
||||
รวมชาติ ก่อตั้งราชวงศ์ตูปู |
พ.ศ. 2388 พ.ศ. 2388 |
||||
เนื้อที่ - ทั้งหมด - พื้นน้ำ (%) |
748 กม.² (อันดับที่ 171) 289 ไมล์² 4 |
||||
ประชากร - .ก.ค. 2549 ประมาณ - ความหนาแน่น |
114,689 (อันดับที่ 178) 153/กม² (อันดับที่ 50 1) 396/ไมล์² |
||||
GDP (PPP) - รวม - ต่อประชากร |
2548 ค่าประมาณ 817 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 167) 7,984 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 76) |
||||
HDI (2546) | 0.810 (อันดับที่ 54) – สูง | ||||
สกุลเงิน | พาแองกา (TOP ) |
||||
เขตเวลา - ฤดูร้อน (DST) |
(UTC+13) | ||||
รหัสอินเทอร์เน็ต | .to | ||||
รหัสโทรศัพท์ | +676 |
||||
1.) อันดับจากปี พ.ศ. 2548 |
ราชอาณาจักรตองกา (Kingdom of Tonga) หรือ ตองกา (ในภาษาตองกาแปลว่า ทิศใต้) เป็นประเทศหมู่เกาะในเครือจักรภพ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างประเทศนิวซีแลนด์และมลรัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ทางใต้ของประเทศซามัว และทางตะวันออกของประเทศฟิจิ ประเทศตองกาไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตก แม้ว่าจะเป็นสมาชิกของเครือจักรภพก็ตาม
สารบัญ |
[แก้] ประวัติศาสตร์
- ดูบทความหลัก ประวัติศาสตร์ตองกาและจักรวรรดิตูอิตองกา
ในหมู่เกาะตองกาที่เรียกว่าราชอาณาจักรตองกาในปัจจุบันนั้น ชาวลาพิตา (บรรพบุรุษของชาวโพลินีเซียนรวมถึงชาวตองกา) ได้อพยพมาตั้งรกรากจากเอเชียใต้ มากว่า 6,000 ปี ตองกามีประเพณีวัฒนธรรมและอารยธรรมเป็นของตัวเอง ได้พัฒนาจากสังคมเล็กจนเป็นสังคมชั้นสูงและโดยมีกษัตริย์ปกครอง ในช่วงระหว่างนั้นได้ มีการแลกเปลี่ยนสินค้า การทำสงคราม รวมถึงการถูกยึดครองดินแดนโดยจักรวรรดิตูอิปูโลตูจากประเทศฟิจิ และจักรวรรดิมานูอาจากประเทศซามัวสลับกันไป จนกระทั่งประมาณพุทธศตวรรษที่ 14 ตองกาได้พ้นจากการปกครองของทั้งสองประเทศ โดยพระเจ้าอะโฮอิตูได้สถาปนาตัวเป็นกษัตริย์องค์แรกของตองกา ในรัชกาลที่ 10 ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 17 จักรพรรดิโมโมและพระโอรส (รัชกาลที่ 11 จักรพรรดิตูอิตาตูอิ) ได้ขยายอาณาจักรตองกาโดยยึดประเทศฟิจิและบางส่วนของประเทศซามัว และยังคงขยายอาณาเขตต่อ โดยเข้ายึดโพลินีเซียนตะวันออกทั้งหมด และบางส่วนของเมลานีเซีย ไมโครนีเซีย และโปลีนีเซียนกลาง ในประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 จักรพรรดิตากาลัวอา ได้ทรงแยกอำนาจกษัตริย์ โดยให้มีกษัตริย์ปกครองราชอาณาจักรพร้อมกัน 2 พระองค์ ราชวงศ์ที่ 2 ที่เกิดขึ้นมาคือราชวงศ์ตูอิฮาอาตากาลัวอา โดยมีกษัตริย์องค์แรกคือจักรพรรดิโมอันกาโมตูอา ซึ่งเป็นโอรสองค์ที่ 2 ของจักรพรรดิตากาลัวอา และได้ปกครองสืบต่อมา
ในช่วงที่กัปตันเจมส์ คุก ได้แล่นเรือมาที่เกาะ ในปี พ.ศ. 2316, 2317, และ 2320 ได้มาพบหมู่เกาะตองกาและตั้งชื่อว่า "หมู่เกาะแห่งมิตรภาพ" (Friendly Islands) กลุ่มมิชชันนารีกลุ่มแรกจากลอนดอนได้มาอยู่ที่เกาะ ในปี พ.ศ. 2340 และกลุ่มมิชชันนารีกลุ่มต่อมาในปี พ.ศ. 2365
ในปี พ.ศ. 2388 เตาฟาอาเฮา ตูปู ซึ่งมีเชื้อสายราชวงศ์ตูอิกาโนกูโปลู ได้รวบรวมหมู่เกาะตองกาที่แตกแยกกัน ให้เป็นอาณาจักรเดียวกัน ภายใต้ชื่ออาณาจักรโพลีนีเซีย แล้วสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าจอร์จ ตูปูที่ 1 พร้อมสถาปนาราชวงศ์ตูปูขึ้น พระองค์ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญเมื่อ พ.ศ. 2418 ในระยะเวลาต่อมาพระเจ้าจอร์จ ตูปูที่ 2 ทรงทำสนธิสัญญาให้ตองกาเป็นรัฐภายใต้ การคุ้มครองของสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2443 จนกระทั่งวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2513 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระราชาธิบดีเตาฟาอาเฮา ตูปูที่ 4 ตองการได้อำนาจการปกครองตนเองคืนทั้งหมด และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในเครือจักรภพ และเมื่อ กันยายน พ.ศ. 2543 ตองกาได้เข้าร่วมเป็นประเทศในสหประชาชาติ
[แก้] การเมือง
ระบบรัฐสภา ระบบสภาเดี่ยว ประกอบด้วยสมาชิก 3 กลุ่ม คือ
- คณะรัฐมนตรี คัดเลือกและแต่งตั้งโดยกษัตริย์ ดำรงตำแหน่งจนกระทั่งเกษียณอายุ
- ผู้แทนขุนนาง (Noble MPs) คัดเลือกโดยกลุ่มขุนนาง
- ผู้แทนสามัญชน (Commoner MPs) มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
[แก้] สถานการณ์ทางการเมือง
จุดเปลี่ยนแปลงการปกครองของตองกาคือการลาออกของเจ้าชายอูลูกาลาลา ลาวากา อาตา จึงทำให้หลาย ๆ คนคาดว่าตองกาจะก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส่วนสาเหตุการลาออกไม่ทราบแน่นอน แต่ที่จริงแล้วเจ้าชายลาวากาไม่ต้องกาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ที่แรก จึงทำให้ ดร. เฟเลติ เซเวเลซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยตองกาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของตองกาจากการแต่งตั้งของสมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูปูที่ 5เมื่อยังดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมาร
ประชาชนชาวตองกามีการเรียกร้องประชาธิปไตยมาตั้งแต่ปี 2529 และบ่อยครั้งที่รัฐบาลไม่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินและการขายหนังสือเดินทางให้แก่ชาวต่างชาติ นอกจากนี้ เจ้าชายอูลูกาลาลา ลาวากา อาตา ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการบริหาร โดยเฉพาะกรณีสายการบิน Royal Tongan Airlines ซึ่งพระองค์ทรงเป็นประธาน ประสบภาวะล้มละลายในปี 2547 และการที่พระองค์เสด็จฯ ต่างประเทศเป็นเวลานานในช่วงเวลาที่ประเทศประสบปัญหาทางเศรษฐกิจในปี 2547 อนึ่ง เจ้าชายอูลูกาลาลา ลาวากา อาตา ทรงไม่ได้ให้เหตุผลต่อการลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ แต่เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าพระองค์ไม่มีพระประสงค์ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น และไม่ทรงชื่นชอบการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี
แม้ว่าการเมืองตองกาจะมีแนวโน้มเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่รัฐบาลยังคงประสบปัญหาขัดแย้งกับสมาคมข้าราชการ ซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นเงินเดือน รวมทั้งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายตูอิเปเลหะเก ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาด้านการปฏิรูปการปกครอง จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 จึงคาดว่ากระบวนการปฏิรูปการเมืองจะยังคงล่าช้าต่อไป
[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง
- ดูบทความหลัก รายชื่อเมืองในตองกา
ตองกาแบ่งการปกครองใหญ่เป็น 3 หมู่เกาะ คือ
- ตองกาตาปู (Tongatapu)เมืองหลวงคือ มูอา
- ฮาอะไป (Ha'apai) เมืองหลวงคือ ปังไก
- วาวาอู (Vava'u) เมืองหลวงคือ เนอิอาฟู
[แก้] ภูมิศาสตร์
[แก้] ภูมิประเทศ
เป็นหมู่เกาะปะการัง ในมหาสมุทรแปซิฟิกมีบางส่วนเป็นเกาะภูเขาไฟ
[แก้] ภูมิอากาศ
ร้อนชื้น
[แก้] เศรษฐกิจ
ตองกาเป็นประเทศหนึ่งในแปซิฟิกใต้ที่มีพื้นดินอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจของตองกายังคงพึ่งพาสินค้าเกษตรเป็นหลัก สินค้าออกที่สำคัญและทำรายได้อันดับ 1 คือ ฟักทอง เนื้อมะพร้าวตากแห้ง สินค้าอื่น ๆ ทำจากมะพร้าว วนิลา และพืชประเภทรากไม้ต่างๆ สำหรับอุตสาหกรรมที่ทำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับที่ 2 ได้แก่ การท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2548 การส่งออกฟักทองลดลงกว่า 1,000 ตัน และเกษตรกรไม่ได้รับเงินค่าจ้างตรงตามเวลา ด้วยเหตุนี้ ผู้แทนการค้าตองกาจึงได้พยายามแสวงหาตลาดใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเกาหลีใต้
ตองกายังคงพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ การท่องเที่ยว และเงินจากแรงงานในต่างประเทศ (remittances) ซึ่งมีอัตราร้อยละ 20 ของ GDP ปัจจุบันประชากรชาวตองกากว่าครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา ประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือที่สำคัญคือ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์
ตองกาได้จัดตั้งธนาคารแห่งชาติชื่อว่า The Reserve Bank โดยแยกหน้าที่จาก Bank of Tonga เพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปดีขึ้นมาก ปัญหาด้านการเงินคือชาวตองกาได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารน้อยมาก เนื่องจากมีกลไกการควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวด ประเทศที่มีความสำคัญทางการค้าของตองกา คือ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งสินค้าออกที่ใหญ่ที่สุดของตองกา ส่วนสินค้าเข้าของ ตองกาส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวกอาหารตองกาไม่มีทรัพยากรแร่ธาตุที่สำคัญ แต่มีเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลที่กว้างใหญ่ ซึ่งเหมาะแก่การประมงน้ำลึก อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2517 ตองกาได้พัฒนาโครงการสำรวจแหล่งน้ำมันในทะเล และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย
[แก้] สถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน
ตองกาได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรเอกชน Oxfam ว่า ตองกาจะเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากข้อกำหนดในการเป็นสมาชิก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็กในประเทศ
[แก้] การคมนาคม สื่อสาร
ประกอบด้วยสนามบิน 6 แห่ง มีทางหลวงยาวทั้งหมด 680 กิโลเมตร มีเรือขนส่งสินค้า 20 ลำ ท่าเรือที่สำคัญคือนูกูอะโลฟา และประชาชนมีโทรศัพท์ทั้งหมด 11200 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 9000 เครื่อง สถานีวิทยุ 3 แห่งและสถานีโทรทัศน์ 3 แห่ง
[แก้] สถานการณ์ทางการคมนาคม สื่อสาร
บริษัทชอร์ไลน์โทรคมนาคมตองกา ซึ่งมีสมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูปูที่ 5 ทรงเป็นเจ้าของ ได้พยายามปรับปรุงระบบอินเทอร์เน็ตและดาวเทียม ให้ดียิ่งขึ้น
[แก้] ประชากร
ประชากรในตองกาประกอบด้วยชาวตองกา ร้อยละ 98 (โพลีนีเซียน) และอื่น ๆ อีกร้อยละ 2 ซึ่งประกอบด้วยชาวยุโรป และชาวจีน มีอัตตราการเกิดอยู่ที่ 25.37 ต่อ 1000 อัตราการตายอยู่ที่ 5.28 ต่อ 1000 และมีอัตตราการอ่านออกเขียนได้ร้อยละ 98.9 ประชากรนับถือศาสนาคริสต์
[แก้] วัฒนธรรม
ชาวโปลีนีเซียนรวมถึงตองกาถือว่าเป็นผู้ดีในกลุ่มชนล้าหลัง เนื่องจากมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ตองกามีภาษาเป็นของตนเองคือ ภาษาตองกา โดยมีประมาณหนึ่งแสนคนที่ใช้ภาษาตองกาเป็นภาษาหลัก นอกจากภาษาตองกาแล้ว ภาษาอังกฤษยังคงเป็นภาษาราชการของประเทศ ชาวตองกาเหมือนชาวโพลีนีเซียนทั่วไป คือ มีการเต้นรำของตัวเอง
[แก้] ความสัมพันธ์ทางการทูต
ตองกาพยายามที่จะสร้างสัมพันธ์ทางการทูตให้ได้มากที่สุด โดยปัจจุบันตองกามีสำนักงานผู้แทนทางการทูต 6 แห่ง คือ ลอนดอน ฮาวาย ซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก ปักกิ่ง และซิดนีย์
[แก้] ความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศในโอเชียเนีย
ตองกามีความร่วมมือทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกด้วยกัน เช่น ประเทศฟิจิ ประเทศซามัว ประเทศนาอูรู หมู่เกาะคุก ประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ โดยในปี พ.ศ. 2549 ตองกาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ Pacific Islands Forum ซึ่งเป็นองค์กรในภูมิภาคแปซิฟิกที่สำคัญที่สุด
[แก้] ความสัมพันธ์ทางการทูตกับชาติในเอเชีย
เดิมตองกาเป็นประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2515 ภายหลังที่ไต้หวันถูกขับออกจากสหประชาชาติแล้ว 1 ปี แต่ปัจจุบันตองกาได้เปลี่ยนมาเปิดความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีนและยึดถือนโยบายจีนเดียว ในขณะที่หลายประเทศในแปซิฟิกใต้ ได้แก่ ประเทศปาเลา ประเทศตูวาลู ประเทศหมู่เกาะมาร์แชลล์ ประเทศคิริบาส หมู่เกาะโซโลมอน และประเทศนาอูรูยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน สำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียน ตองกามีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศบรูไน และประเทศไทย
[แก้] ความสัมพันธ์ทางการทูตกับนิวซีแลนด์
ตองกามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนิวซีแลนด์มาโดยตลอด เนื่องจากมีความผูกพันกันทางเชื้อชาติ ศาสนาและประวัติศาสตร์กับชนพื้นเมือง (ชาวเมารี) ส่งผลให้ตองกาได้รับอิทธิพลทางการเมืองและการปกครองจากนิวซีแลนด์เป็นอันมาก ผู้นำและผู้บริหารระดับสูงของตองกาหลายคนสำเร็จการศึกษาจากนิวซีแลนด์ และมีชาวตองกาจำนวนมากเข้าไปตั้งถิ่นฐานในนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังเป็นประเทศ ผู้บริจาครายใหญ่ของตองกา โดยเน้นให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาเป็นหลัก
[แก้] ความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย
[แก้] ความสัมพันธ์ทั่วไป
ไทยกับตองกาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน มีเขตอาณาคลุมตองกา เอกอัครราชทูตคนปัจจุบัน คือ นายนรชิต สิงหเสนี
ตองกาให้ความเป็นมิตรและพยายามกระชับความสัมพันธ์กับไทย เนื่องจากไทยจะเป็นประเทศที่มีการพัฒนาที่ก้าวหน้า มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และไม่เคยเป็นอาณานิคมตะวันตกเช่นเดียวกันกับตองกา ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไทยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ตองกา 2 ครั้งคือ กรณีพายุไซโคลน Weka ปี 2545 บริจาคเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และกรณีพายุ Heta ปี 2547 บริจาคเงิน 20,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขณะที่ตองกาเป็นประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ประเทศเดียวที่บริจาคเงินช่วยเหลือไทยกรณีสึนามิจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ และให้การสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศมาโดยตลอด
[แก้] เศรษฐกิจการค้า
การค้าระหว่างไทยและตองกายังมีปริมาณไม่มากนัก แต่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2548 โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 2.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 219 โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังตองกาเกือบทั้งหมด ไทยนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ไทยนำเข้าสินค้าจากตองกามีมูลค่าเพียง 1,416 ดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ รถยนต์และส่วนประกอบ
[แก้] ความช่วยเหลือและความร่วมมือทางวิชาการ
ความช่วยเหลือทางวิชาการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีผู้แทนตองกาเข้ามารับการฝึกอบรมในไทย อย่างไรก็ตาม จากผลการหารือระหว่างเจ้าชายอูลูกาลาลา ลาวากา อาตา นายกรัฐมนตรี กับนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2548 ฝ่ายตองกาได้แสดงความสนใจที่จะเรียนรู้จากไทยในเรื่องการประมงชายฝั่งและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งในเรื่องนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทยและสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) พร้อมให้การสนับสนุน โดยมีโครงการจะจัดการฝึกอบรมด้านประมงชายฝั่งให้แก่ตองกาและกลุ่มประเทศสมาชิก Pacific Islands Forum ในปี พ.ศ. 2549
[แก้] ความตกลงที่ทำกับไทย
- อยู่ระหว่างรอการลงนามความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ
[แก้] การเยือนของผู้นำระดับสูง
[แก้] ฝ่ายตองกาเยือนไทย
- ระดับราชวงศ์
- วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2523 สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูปูที่ 5 เมื่อยังดำรงตำแหน่งมกุฏราชกุมารแห่งตองกาได้เสด็จเยือนไทยเพื่อบรรยายสรุปในที่ประชุม ESCAP และในโอกาสนี้ได้พบหารือกับ ฯพณฯ พล อ.อ. สิทธิ เศวตศิลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- วันที่ 4-11 พฤศจิกายน 2533 สมเด็จพระราชชนนีฮาแลวาลู มาตาอาโฮเสด็จเยือนไทยในฐานะแขกพิเศษของสมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์ (The Pan Pacific and Southeast Asia Women’s Association – PPSEAWA) ณ สวนสามพราน โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2533 พระราชินีแห่งตองกาได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นการส่วนพระองค์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ของขวัญที่พระราชินีตองกาถวายเป็นภาชนะหวายถัก 3 ชิ้นใหญ่ ซึ่งเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของตองกา สถานที่ที่ พระราชินีเสด็จเยือนได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่บ้านพักรถไฟ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดญาณสังวราราม โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม
- ปี พ.ศ. 2549 สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ตูปูที่ 5 เมื่อยังดำรงตำแหน่งเป็นมกุฎราชกุมารมกุฎแห่งตองกาทรงเป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีเตาฟาอาเฮา ตูปูที่ 4 เสด็จเยือนไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
- ระดับรัฐบาล
- ปี 2548 เจ้าชายอูลูกาลาลา ลาวากา อาตา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือน เสด็จเยือนไทยระหว่างวันที่ 22 - 28 เมษายน 2548 และในโอกาสนี้ได้พบหารือกับนายนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
[แก้] ฝ่ายไทยเยือนตองกา
- ระดับพระราชวงศ์
- ปี พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนตองกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19 - 21 เมษายน 2539
- ระดับรัฐบาล
- ปี 2537 นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศนำคณะเยือนปาปัวนิวกินี ฟิจิ ตองกา และนิวซีแลนด์ระหว่างวันที่ 9-21 สิงหาคม 2537 โดยในการเยือนตองการะหว่างวันที่ 15 - 17 สิงหาคม 2537 คณะได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีเตาฟาอาเฮา ตูปูที่ 4 และเยี่ยมคารวะคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น
[แก้] อ้างอิง
หาความหมาย จากพจนานุกรม
หนังสือ จากวิกิตำรา
คำคม จากวิกิคำคม
ต้นแหล่งเอกสาร จากวิกิซอร์ซ
ภาพและสื่อ จากคอมมอนส์
เนื้อหาข่าว จากวิกิข่าว
- กระทรวงการต่างประเทศ
- ข้อมูลประเทศตองกาโดยซีไอเอ
- รัฐบาลตองกา
- กระทรวงการคลัง ราชอาณาจักรตองกา
- ธนาคารสำรองเงินแห่งชาติตองกา
- กระทรวงการสำรวจที่ดินและธรรมชาติ ราชอาณาจักรตองกา
- แผนที่ตองกา
- แผนที่ตองกา
- โปสการ์ดการท่องเที่ยวตองกา
- มาตังกิตองกา ข่าวจากตองกา
เครือจักรภพ | ![]() |
---|---|
กานา · กายอานา · เกรเนดา · แกมเบีย · คิริบาส · เคนยา · แคเมอรูน · แคนาดา · จาเมกา · ซามัว · |
ประเทศ และ ดินแดน ใน เขตโอเชียเนีย | ||
![]() |
ออสเตรเลีย | ออสเตรเลีย · เกาะนอร์ฟอล์ก |
![]() |
เมลานีเซีย | ติมอร์ตะวันออก · ฟิจิ · หมู่เกาะโมลุกกะ และ นิวกินีตะวันตก (อินโดนีเซีย) · นิวแคลิโดเนีย · ปาปัวนิวกินี · หมู่เกาะโซโลมอน · วานูอาตู |
![]() |
ไมโครนีเซีย | กวม · คิริบาส · หมู่เกาะมาร์แชลล์ · หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา · สหพันธรัฐไมโครนีเซีย · นาอูรู · ปาเลา |
![]() |
โพลินีเซีย | อเมริกันซามัว · หมู่เกาะคุก · เฟรนช์โปลินีเซีย · ฮาวาย · นิวซีแลนด์ · นีอูเอ · หมู่เกาะพิตแคร์น · ซามัว · โตเกเลา · ตองกา · ตูวาลู · วาลลิสและฟุตูนา |