ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สถานีย่อย:ประเทศไทย
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
{{{caption}}}
IATA: BKK - ICAO: VTBS
รายละเอียด
ชนิด สนามบินพาณิชย์
จัดการโดย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
เมืองใกล้เคียง สมุทรปราการ
กรุงเทพมหานคร
สูงจาก
ระดับน้ำทะเล
1.4 (4.6 ฟุต)
พิกัด 13° 41′ 22.88″ N 100° 44′ 32.94″ E
รันเวย์
ทิศทาง ความยาว พื้นผิว
เมตร ฟุต
1R/19L
1L/19R
4,000
3,700
13,120
12,136
ลาดยาง
ลาดยาง

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ (ชื่อเดิม: สนามบินหนองงูเห่า) เป็นสนามบินตั้งอยู่ที่ ถนนบางนา-ตราด ในตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เปิดใช้งานวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยใช้งานแทนท่าอากาศยานดอนเมือง นโยบายรัฐบาลได้กำหนดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และจะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

สถาปนิกผู้ออกแบบอาคาร คือ เฮลมุต ยาห์นชาวอเมริกัน-เยอรมัน และบริษัทเมอร์ฟี/ยาห์นสำนักงานใหญ่ที่ชิคาโก ซึ่งแบบอาคารสนามบินได้ถูกปรับเปลี่ยน ขนาดอาคาร และวัสดุจากแบบเดิมไปในหลายส่วน เช่นเพิ่มการประดับยักษ์ และสถาปัตยกรรมไทยเพิ่มเข้าไปโดยสถาปนิกชาวไทย

สารบัญ

[แก้] ชื่อสนามบิน

ชื่อของสนามบินสุวรรณภูมิ มีความหมายว่า "แผ่นดินทอง" เป็นชื่อพระราชทานโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 และเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2545

ชื่อสากลของสนามบินสะกดตามการทับศัพท์ภาษาสันสกฤต ว่า "Suvarnabhumi" แทนที่การเขียนทับศัพท์ตามระบบราชบัณฑิตยสถาน ว่า "Suwannaphum"

[แก้] ประวัติ

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาความเจริญด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และด้านอื่นของประเทศเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงกำหนดให้ (การก่อสร้าง) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันดำเนินการแบบบูรณาการ เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย

ได้มีการเปิดทดลองใช้สนามบิน ในเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 มีผู้โดยสารจากสายการบินภายในประเทศ 6 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ โอเรียนไทย นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และ พีบีแอร์ โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 4,800 คน จาก 24 เที่ยวบิน โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เดินทางจากสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินสุวรรณภูมินี้ นอกจากนี้ ได้มีกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการแจกประกาศนียบัตรและบัตรโดยสารที่ระลึกแก่ผู้ร่วมเที่ยวบิน จัดให้มีการนำผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมในบริเวณสนามบิน โดยมัคคุเทศก์อาสาสมัครจากมหาวิทยาลัยต่างร่วมกับการท่าอากาศยานและรถรถโดยสาร ขสมก. ได้มีเส้นทางพิเศษเพื่อเข้าชมสนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง

นอกจากนี้รัฐบาลคาดว่าจะได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางอากาศ ภายใต้มาตรฐานนานาชาติที่ออกโดย องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และ สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เพื่อเปิดใช้ในทางพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 (เริ่มย้ายและให้บินขึ้นลงได้ตั้งแต่ 15 กันยายน) และกำหนดให้วันที่ 1 กันยายน เป็นวันแรกของการทดลองบินของสายการบินจากต่างประเทศ การเริ่มการบินของสายการบินภายในประเทศวันแรก ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในช่วง 01.00-06.10 น. ทำให้ประสบปัญหาในการเช็คอินของสายการบินในช่วงเวลานั้น

การที่จะเปิดเป็นทางการ ในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้มีการจัดทำแสตมป์ที่ระลึก เป็นภาพอาคารผู้โดยสาร พร้อมเครื่องบิน และตราสัญลักษณ์บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พิมพ์จำนวน 18 ล้านดวง ชนิดราคา 3 บาท พร้อมซองวันแรกจำหน่ายราคาซองละ 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน เป็นต้นไป [1]

แต่แล้วก็ได้เกิดการรัฐประหารขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2549 รัฐบาลรักษาการของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ถูกโค่นล้มทั้งคณะเสียก่อน จึงทำให้วันที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 กันยายน 2549 จึงอยู่ในสมัยของคณะปฏิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลรักษาการของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

[แก้] สายการบิน

ดูบทความหลักที่ สายการบินระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิ

สนามบินสุวรรณภูมิ ศูนย์กลางการบินและประตูสู่เอเชีย ให้บริการ 102 สายการบิน สู่ 142 เมืองทั่วโลก สำหรับสายการบินระหว่างประเทศ

[แก้] สายการบินในประเทศ

สายการบิน จุดหมายปลายทาง
การบินไทย เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ขอนแก่น กระบี่ แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี อุดรธานี
บางกอกแอร์เวย์ เชียงใหม่ เกาะสมุย ภูเก็ต สุโขทัย ตราด อู่ตะเภา(พัทยา)
นกแอร์ เชียงใหม่ หาดใหญ่ เลย แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตรัง อุดรธานี
วัน-ทู-โก เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ขอนแก่น กระบี่ พิษณุโลก ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี
พีบีแอร์ บุรีรัมย์ ลำปาง แม่ฮ่องสอน นครพนม นครศรีธรรมราช น่าน ร้อยเอ็ด สกลนคร
ไทยแอร์เอเชีย เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ กระบี่ นราธิวาส ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี อุดรธานี

[แก้] ขนส่งอากาศยาน

  • เฟดเอกซ์ (Federal Express)
  • ยูพีเอส (United Parcel Service)
  • ดีเอชแอล (DHL)
  • คาเธย์แปซิฟิก (Cathay Pacific Cargo)
  • ลุฟท์ฮันซา (Lufthansa Cargo)
  • อีวาแอร์ (Eva Air Cargo)
  • ไชน่าแอร์ไลน์ (China Airlines Cargo)
  • เคแอลเอ็ม (KLM Cargo)
  • สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines Cargo)
  • ออลนิปปอนแอร์ไลน์ (All Nippon Cargo)
  • เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines Cargo)
  • นิปปอนคาร์โกแอร์ไลน์ (Nippon Cargo Airlines)
  • มาร์ตินแอร์คาร์โก (Martin air Cargo)
  • ช่างไห่แอร์ไลน์คาร์โก (Shanghai Airlines Cargo)
  • กูซูแอร์ไลน์คาร์โก (Kuzu Airlines Cargo)
  • โคเรียนแอร์คาร์โก (Korean Air Cargo)
  • เอเชียนาคาร์โก (Asiana Cargo)

[แก้] การคมนาคม

ทางเข้าออก 6 เส้นทาง สู่สนามบิน
ทางเข้าออก 6 เส้นทาง สู่สนามบิน
ดูบทความหลักที่ การคมนาคมไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สนามบินสุวรรณภูมิมีทางเข้าออกทั้งหมด 6 เส้นทาง โดย 5 เส้นทางสำหรับรถยนต์ รถแท็กซี่ รถโดยสารขสมก และรถโดยสารแอร์พอร์ตเอกซ์เพรส จากทาง (1) ถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (2) ถนนร่มเกล้า และ ถนนกิ่งแก้ว (3) ถนนบางนา-ตราดและทางพิเศษบูรพาวิถี (4) ถนนอ่อนนุช และ (5) ถนนกิ่งแก้ว โดยเส้นทางที่ 6 เป็นเส้นทางสำหรับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายพญาไท – มักกะสัน – สุวรรณภูมิ วิ่งเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

สำหรับรถส่วนบุคคล มีอาคารจอดรถ 2 อาคารรับรองได้ 5,000 คัน สำหรับการจอดรถระยะสั้น และลานกว้างขนาดใหญ่สำหรับการจอดรถระยะยาวโดยจะมีรถชัตเติลบัสบริการ

รถแท็กซี่สามารถเข้าส่งผู้โดยสารที่จุดจอดขาออกที่ชั้น 4 และสามารถจอดรอรับผู้โดยสารได้ที่ชั้น 2 สำหรับรอรับผู้โดยสารขาเข้า

รถโดยสารของขสมก บริการในราคาปกติ (35 บาทตลอดสาย เมื่อเข้า-ออกบริเวณสนามบิน) โดยมีบริการทั้งหมด 12 เส้นทาง โดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่บางกะปิ แฮปปี้แลนด์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คลองเตย จังหวัดสมุทรปราการ 2 เส้นทาง (แบ่งเป็น เส้นทางผ่านถนนสุขุมวิท และเส้นทางผ่านถนนศรีนครินทร์) รังสิต 3 เส้นทาง (แบ่งเป็น เส้นทางผ่านถนนรามอินทรา เส้นทางผ่านถนนวิภาวดีรังสิต และเส้นทางผ่านถนนรังสิต-นครนายก) วงเวียนใหญ่ สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ (ใหม่) และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาพระราม 2

รถโดยสารแอร์พอร์ตเอกซ์เพรสบริการในราคาไม่เกิน 150 บาท มีบริการทั้งหมด 4 เส้นทาง โดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่สีลม บางลำพู ถนนวิทยุ และหัวลำโพง

[แก้] รายละเอียดสนามบิน

แผนที่แสดงที่ตั้งอาคารต่างๆภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
แผนที่แสดงที่ตั้งอาคารต่างๆภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ประมาณถนนบางนาตราดกิโลเมตรที่ 15 อยู่ในเขตตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยส่วนหลัก ได้แก่

[แก้] ระบบทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดอากาศยาน

ทางวิ่ง มี 2 เส้น กว้างเส้นละ 60 เมตร ยาว 3,700 เมตร และ 4,000 เมตร ห่างกัน 2,200 เมตร มีทางขับขนานกับทางวิ่งทั้ง 2 เส้น ให้บริการขึ้น-ลง ของอากาศยานได้พร้อมกัน และเมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว จะมีทางวิ่งทั้งหมด 4 เส้น เป็นทางวิ่งข้างละ 2 เส้นขนานกัน และมีหลุมจอดอากาศยาน มีจำนวน 120 หลุมจอด (จอดประชิดอาคาร 51 หลุมจอด และจอดระยะไกลอีก 69 หลุมจอด) รวมถึงหลุมจอดอากาศยานขนาดใหญ่ไว้ด้วย จำนวน 5 หลุมจอด

[แก้] อาคารผู้โดยสาร

พื้นที่ส่วนเช็กอิน ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ
พื้นที่ส่วนเช็กอิน ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ
แผนที่ภายในอาคารผู้โดยสารแต่ละชั้น
แผนที่ภายในอาคารผู้โดยสารแต่ละชั้น

อาคารผู้โดยสารเป็นอาคารเดี่ยว ช่วงกว้าง ไม่มีเสากลางอาคาร มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 563,000 ตร.ม. มี 8 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน มีรายละเอียดแต่ละชั้น(ตามแผน) ดังต่อไปนี้

  • ชั้น 1 - สถานีรถโดยสาร (Bus Lobby)
  • ชั้น 2 - ผู้โดยสารขาเข้า (Arrivals)
  • ชั้น 3 - จุดนัดพบและร้านค้าต่าง ๆ
  • ชั้น 4 - ผู้โดยสารขาออก (Departures)
  • ชั้น 5 - สำนักงานบริษัทการบินไทย และกลุ่มสายการบินพันธมิตร สตาร์ อัลไลแอนซ์ (Star Alliance)
  • ชั้น 6 - ภัตตาคาร
  • ชั้น 7 - ที่ชมทัศนียภาพ
  • ชั้นใต้ดิน - สถานีรถไฟ

อาคารผู้โดยสารตั้งอยู่ทางทิศเหนือของท่าอากาศยาน รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น จุดตรวจบัตรโดยสาร 360 จุด จุดตรวจหนังสือเดินทาง ขาเข้า 124 จุด / ขาออก 72 จุด โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 100% Hold Baggage In-line Screening System นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะสร้างสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนอยู่ใต้อาคาร มีอาคารผู้โดยสารนานาชาติและภายในร่วมกัน ระยะทางเดินต่อเครื่องระหว่างสายการบินภายในและภายนอก มีความยาวเฉลี่ยราว 800-1000 เมตร ระยะไกลสุดราว 3000 เมตร เดิมมีแผนที่จะเชื่อมโดยรถรางใต้ดิน (แต่ปัจจุบันไม่ได้ก่อสร้างตามแผนนั้น)

[แก้] อาคารท่าเทียบเครื่องบิน

ภายในส่วนอาคารท่าเทียบเครื่องบินและส่วนพักคอย
ภายในส่วนอาคารท่าเทียบเครื่องบินและส่วนพักคอย

อาคารท่าเทียบเครื่องบิน หรือคอนคอร์ส มีท่าเทียบ 51 จุด 5 จุดสามารถรอรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น Airbus A-380 ได้ ลักษณะสถาปัตยกรรมทันสมัย หลังคารูปโค้งกรุผ้าใบสลับกระจกโค้ง นอกจากการจอดเทียบท่าแล้วสามารถจอดที่ท่ากลางลานได้ รวมแล้วสามารถรองรับเครื่องบินได้ราว 120 ลำ

[แก้] งานศิลปะภายในสนามบิน

ได้มีการติดตั้งผลงานศิลปะไทย ทั้งจิตรกรรมและประติมากรรม ประดับหลายชิ้นภายในและภายนอกอาคารของสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่ารวมกันทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท เช่น ประติกรรมจำลองยักษ์จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จำนวน 12 ตน โดยมีชื่อว่า ทศกัณฐ์ สหัสเดชะ อัศกรรณมาลา จักรวรรดิ อินทรชิต มังกรกัณฐ์ ไมยราพ สุริยาภพ ทศคีรีวัน ทศคีรีธร วิรุณจำบัง วิรุณหก ประติมากรรมพระนารายณ์กวนเกษียรสมุทร มูลค่า 48 ล้านบาท ภาพจิตรกรรมฝาผนังจำลอง ของศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทย

[แก้] งานภูมิทัศน์

ภูมิทัศน์สวน "ชนบท" ในบริเวณส่วนอาคารผู้โดยสาร หลังการแก้ไขแบบ โดยภูมิสถาปนิกไทย
ภูมิทัศน์สวน "ชนบท" ในบริเวณส่วนอาคารผู้โดยสาร หลังการแก้ไขแบบ โดยภูมิสถาปนิกไทย

งานออกแบบภูมิทัศน์โดยรอบสนามบิน และภายในส่วนเปิดโล่งของอาคารผู้โดยสาร นั้นมีลักษณะเป็นไทย เดิมออกแบบโดย ปีเตอร์ วอล์กเกอร์ (Peter Walker) ภูมิสถาปนิกชาวอเมริกัน นับเป็นงานภูมิสถาปัตยกรรมซึ่งนักวิชาการทางด้านภูมิสถาปัตยกรรมระบุว่าเป็นงานภูมิทัศน์ภายในสนามบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แบบเดิมนั้นมีแนวความคิดหลักสองแนวคิด คือสวน "เมือง" (City Garden) เป็นสวนน้ำพุ ประดับด้วยกระเบื้อง ประติมากรรมรูปทรงเจดีย์ และน้ำพุ และสวน "ชนบท" (Country Garden) ใช้หญ้าท้องถิ่น และต้นไม้ตัดแต่ง (topiary) รูปฝูงช้าง ต่อมาเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณและสามารถรองรับการขยายตัวในอนาคต ในปี 2545 ได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่โดยกลุ่มภูมิสถาปนิกและทีมที่ปรึกษาชาวไทย คือ RPU Design Group ภายใต้การนำของสำนักงานออกแบบระฟ้า (RAFA Design Office) ภูมิสถาปนิกที่ร่วมกำหนดแนวทางการออกแบบภูมิทัศน์ (Landscape Design Guideline) เมื่อ ปี 2537 (มีสำนักงาน ดี เอส บี แอสโซสิเอทส์ เป็นผู้นำกลุ่มในขณะนั้น) ทั้งนี้ยังคงแนวคิดหลักของสวนเมืองและชนบทอยู่ แต่ได้ปรับแนวความคิดในขั้นรายละเอียดและเนื้อหาใหม่ โดย"สวนเมือง" ได้อาศัยคติความเชื่อของไทยตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น ความเชื่อเรื่องระบบภูมิจักรวาล อันมีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง (ตามที่ปรากฎในผังเมืองและวัดโบราณต่างๆ) เรื่องการเลือกทำเลในการตั้งเมืองใกล้น้ำ (อารยชนชาวน้ำ) การใช้เส้นสายที่ปรากฏในจิตรกรรมไทย ตลอดจนการกำหนดให้มีประติมากรรมประดับต่างๆ เช่น หงส์ เรือเอกชัยเหิรหาว เรือดั้ง และประติมากรรมหลักขนาดใหญ่กลางพื้นที่ (สัญลักษณ์แทนเขาพระสุเมรุ) ซึ่งยังไม่ได้สร้างเนื่องจากปัญหาบางประการ ส่วน"สวนชนบท"ได้ใช้ลักษณะภูมิประเทศของไทยเป็นแนวคิด ประกอบด้วย ชายทะเล ป่าชายเลน แม่น้ำลำคลอง เรือกสวนไร่นา และกลุ่มเทือกเขาสูงต่ำลดหลั่นกัน มีภูเขาทองเป็นประธาน ในส่วนประติมากรรมได้ใช้ฝูงนกเป็นกลุ่มๆที่สามารถไหวได้ตามแรงลม โดยทั้งสองสวนจะสื่อถึงความเป็นไทย (ในภาษาปัจจุบัน) และมีรูปแบบทันสมัยเพื่อให้กลมกลืนกับรูปแบบอาคารสนามบินได้อย่างไม่ขัดเขิน มีความยืดหยุ่นรองรับการขยายตัวของอาคารผู้โดยสารได้ และการออกแบบองค์ประกอบและพืชพันธุ์ต่างๆได้คำนึงถึงเรื่องการควบคุมนก (Birds Control) ภายในสนามบินด้วย (ดูภาพ)



[แก้] อาคารจอดรถ

อาคารจอดรถมี 2 อาคาร แต่ละอาคารสูง 5 ชั้น เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสาร สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 5,000 คัน นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถบริเวณอื่น ๆ รวมทั้งหมดกว่า 15,677 คัน

[แก้] ระบบสาธารณูปโภค

  • ระบบป้องกันน้ำท่วม มีการสร้างเขื่อนดินสูง 3.5 เมตร กว้าง 70 เมตร โดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยาน และมีอ่างเก็บน้ำภายใน 6 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตร
  • ระบบน้ำประปา เชื่อมต่อกับระบบประปาของการประปานครหลวง และมีถังน้ำประปาสำรองขนาด 40,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถสำรองน้ำประปาไว้ใช้ได้ 2 วัน
  • สถานีแปลงไฟฟ้าย่อย เป็นสถานีแปลงไฟฟ้าเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าจาก 115 กิโลโวลต์ ให้เหลือ 24 กิโลโวลต์ มีจำนวน 2 สถานี เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แก่ทุกระบบภายในท่าอากาศยาน
  • ระบบบำบัดน้ำเสีย สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 16,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
  • ระบบจัดเก็บกากของเสีย สามารถกำจัดกากของเสียได้ประมาณ 100 ตันต่อวัน

[แก้] ระบบบริการคลังสินค้า

คลังสินค้ามีพื้นที่ให้บริการประมาณ 568,000 ตารางเมตร และมีการให้บริการแบบเขตปลอดพิธีการศุลกากร (Free Zone) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งรองรับสินค้าได้ 3 ล้านตันต่อปี

[แก้] ระบบอื่น ๆ

  • ระบบโภชนาการ - ระบบโภชนาการสามารถผลิตอาหาร ให้แก่สายการบินต่าง ๆ ได้ 100,000 ชุดต่อวัน
  • โรงซ่อมบำรุงอากาศยาน - โรงซ่อมบำรุงอากาศยานมีจำนวน 2 โรง สามารถจอดอากาศยานขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส เอ 380 ได้
  • ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ - ศูนย์ควบคุมฯ มีหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก (132.2 เมตร) ที่พร้อมไปด้วยระบบวิทยุสื่อสารการบิน ระบบติดตามอากาศยานเขตประชิดสนามบินและระบบติดตามอากาศยานภาคพื้นดิน รวมทั้งระบบนำร่องอากาศยานที่ทันสมัย
  • โรงแรมและบริการ - โรงแรมตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร ในระยะแรกมีจำนวน 600 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

นอกจากนี้ภายในท่าอากาศยาน จะมีการบริการต่าง ๆ มากมาย เช่น ศูนย์บริการรถเช่า ร้านค้า ภัตตาคาร สถานีเติมน้ำมัน ฯลฯ

[แก้] เกร็ดข้อมูล

[แก้] มหัศจรรย์เลข 9

นอกเหนือกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยการท่าอากาศยานฯ (AOT)ในวันที่ 9 เดือน 9 (กันยายน 2549) ซึ่งมีการวิ่งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยมีนักวิ่งจากภูมิภาคต่าง ๆ (จำนวนที่ลงทะเบียน 9,999 คน)แล้ว เป็นที่น่าสังเกตถึง มหัศจรรย์เลข 9 ดังต่อไปนี้ [2]

  • อาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน มีระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้น 9 เมตร ซึ่งเสาหลัก (เสาไพลอนที่ค้ำซูเปอร์ทรัส) หรือคานหลักรั้น มี 2 ตัวต่อ 1 คาน รวมกันเป็น 1 ชุด
  • เสา 2 ตัวที่ค้ำคานนี้จะห่างกัน 81 เมตร (8+1=9)
  • ชุดเสาที่อยู่ทางทิศตะวันออกจะห่างจากชุดเสาทางด้านทิศตะวันตก 126 เมตร (1+2+6=9)
  • หลังคาผ้าใยสังเคราะห์ที่ติดตั้งกับอาคารเทียบเครื่องบินทั้งหมด 108 ช่วง (1+0+8=9)
  • สำหรับทางเลื่อนระนาบผิวเฉพาะในเทอร์มินอลมีทั้งหมด 95 ชุด มีความยาวตั้งแต่ 27 เมตร (2+7=9) และ 108 เมตร (1+0+8=9)
  • ความเร็วของทางเลื่อนในอาคารรวมทั้งทางเลื่อนลาดเอียง มีความเร็วนาทีละ 45 เมตร (4+5=9)

[แก้] ความเป็นที่สุด

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความเป็นที่สุดในหลายๆด้าน [2] และ เป็นหนึ่งใน "ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ" (สโลแกนของรายการสถานีสุวรรณภูมิ ทางโทรทัศน์เคเบิ้ล ช่อง UBC9) สามารถสรุปเป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

  • สนามบินที่ใช้เวลาการก่อสร้างนานที่สุดในโลก
  • สนามบินที่ใหญ่ที่สุด และทันสมัยที่สุดแห่งใหม่ในโลกด้วย พร้อมกันกับเป็นการปิดของท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ยังคงเปิดให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน
  • ตัวอาคารผู้โดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ประมาณ 563,000 ตารางเมตร
  • ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในโลก
  • หอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 132.2 เมตร
  • โรงซ่อมเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถรองรับเครื่องบินขนาดยักษ์แอร์บัส 380 ได้พร้อมกัน 3 ลำ เป็นอาคารสูง 35 เมตร กว้าง 90 เมตร ยาว 270 เมตร โดยไม่มีเสากีดขวาง มีขนาดพื้นที่จอดเครื่องบินรวม 27,000 เมตร โครงหลังคาใช้วัสดุเหล็กที่มีลักษณะเป็นซูเปอร์สตรักเจอร์ ที่ใช้คานเหล็กมีน้ำหนักรวม 10,000 ตัน ใช้เงินลงทุนก่อสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท[3]
  • มีโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร ที่มีห้องพักถึง 600 กว่าห้อง ซึ่งบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก
  • ระบบการบริหารจัดการท่าอากาศยานทุกกิจกรรม ที่ใช้ระบบไอทีติดอันดับโลกไปโดยปริยาย
  • มีเรื่อง “ฉาวโฉ่เรื่องการทุจริต” มากที่สุด ตลอดระยะเวลาหลาย ๆ ปีที่ก่อสร้าง โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต ได้แก่ การซื้อที่ดิน ออกแบบก่อสร้าง จ้างบริษัทที่ปรึกษา ถมทราย การว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ขั้นตอนแบ่งงานบริษัทรับเหมา จัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดที่เพิ่งเป็นข่าวปรากฏในสื่อ

[แก้] การวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงการวางแผนและการก่อสร้าง

โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นโครงการที่มีความโดดเด่นในแง่ความเป็นที่สุดในด้านต่าง ๆ แต่ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หรือมีอยู่ทั้งในช่วงการวางแผน การก่อสร้าง และปัญหาอื่น ๆ มากมายเช่นกัน ปัญหาเหล่านี้ได้มีการยกเป็นประเด็นในแวดวงวิชาการ วิชาชีพ และในสื่อ ปัญหาบางปัญหาแม้ยังไม่ได้หยิบยกมาถกกันอย่างจริงจัง แต่ก็เป็นประเด็นที่สาธารณชนเฝ้าติดตาม ตัวอย่างข้อวิพากษ์วิจารณ์ ได้แก่

[แก้] ปัญหาทางเทคนิควิศวกรรม สถาปัตยกรรม

  • ในการก่อสร้างช่วงแรก พบปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่การก่อสร้าง
  • ปัญหาการทรุดตัวไม่เท่ากัน ของแต่ละช่วงของ ทางขึ้นลงของเครื่องบิน และทางเชื่อมไปยังรันเวย์ (แท็กซี่เวย์) เนื่องจากเทคนิคการถมและบดอัด
  • ปัญหาคุณภาพและความคงทนของวัสดุผ้าใบหลังคาอาคารเทอร์มินอล
  • ปัญหาระบบปรับอากาศ เครื่องทำความเย็นต้องใช้พลังงานและกระแสไฟฟ้ามาก เพราะผนังอาคารเป็นกระจกและเพดานสูง 20 เมตร ทำให้ต้องใช้ระบบหล่อน้ำเย็นใต้พื้นชดเชย ซึ่งทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายและการดูแลยากกว่าระบบทั่วไป สิ้นเปลืองพลังงานและต้องเสียค่าน้ำเย็นจากโรงทำน้ำเย็น
  • ปัญหาระบบเสียง อะคูสติกไม่มีวัสดุกรุผนังอื่น นอกจากกระจก ทำให้ไม่ส่งเสริมให้เกิดการกระจายเสียงที่ดี อาจก่อให้เกิดปัญหาในการกระจายเสียงได้
  • ปัญหาจำนวนห้องสุขา ไม่ได้ตามมาตรฐานอาคารสาธารณะขนาดใหญ่พิเศษ
  • ปัญหาความพร้อมของระบบตามมาตรฐานการบินนานาชาติ ซึ่งมีผลต่อการเปิดสนามบิน ที่มีการเลื่อนวันเปิดไป-มา จนมาลงเอยที่วันที่ 28 กันยายน 2549 ซึ่งเช้ามืดในวันดังกล่าวจะมีการหยุดใช้สนามบินนานาชาติกรุงเทพ (ดอนเมือง)อย่างถาวร จึงจะต้องมีการขนย้ายทุกอย่างให้จบสิ้นลง ก่อให้เกิดปัญหาต่อผู้ดำเนินกิจการสายการบินต่าง ๆ เป็นอันมาก
  • ปัญหาหลังคารั่ว - ในวันที่ 18 กันยายน 2549 ขณะยังไม่เปิดการบริการทางพาณิชย์อย่างเต็มที่นั้น หลังคาอาคารผู้โดยสารได้เกิดรั่ว เนื่องจากซิลิโคนที่เชื่อมกระจกหลุด ซึ่งอาจเกิดจากการถูกขูดระหว่างพนักงานทำความสะอาดกระจกหลังคา นายพงศ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ยืนยันว่าจะซ่อมเสร็จภายในกำหนดการเปิดใช้ฯ และหลังจากนั้น 1 ปีแล้วทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ [4]

[แก้] การกล่าวหาและการตรวจสอบเรื่องการทุจริต

  • ในรัฐบาลชวนสอง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น ได้มีการจัดประมูลการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ในราคา 54,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคากลาง แต่ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาก่อสร้าง รัฐบาลได้ยุบสภาเสียก่อน เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่และพรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมากเบ็ดเสร็จในสภา พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 9 พ.ย. 2544 [5]ได้ให้มีการประมูลการก่อสร้างใหม่ และสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินไปได้กว่าสองหมื่นล้านบาท โดยใช้วิธีการลดคุณสมบัติ (specification)ของวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่ง รวมทั้งลดขนาดอาคารและพื้นที่ตกแต่งภูมิทัศน์ในหลายๆ จุด [6]
  • พ.ศ. 2548 ในรัฐบาลทักษิณหนึ่ง มีการกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมน่าสงสัยในการจัดซื้อและติดตั้งระบบตรวจวัตถุระเบิดในสัมภาระ โดยที่ สเป็ก ของเครื่องรุ่น CTX 9000 อาจจะถูกล็อก เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้รับเหมา (บริษัทแพทริออต มีนายวรพจน์ ยศะทัศน์ หรือ เสี่ยเช เป็นผู้บริหาร) และบริษัทผู้ผลิต (บริษัทอินวิชั่น สหรัฐอเมริกา) เหตุการณ์นี้นำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 28 มิ.ย. 2548 อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของบางฝ่าย นายสุริยะ ไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาทั้งหมดได้ในสภา ปัจจุบันเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX ทั้ง 26 เครื่องได้ถูกติดตั้งเรียบร้อยและอยู่ระหว่างการทดสอบ [7][8]
  • ปัญหาสัมปทานในการก่อสร้าง และจัดสรรพื้นที่ องค์ประกอบอื่น ๆ สัมปทานบริการต่าง ๆ ภายในสนามบิน [9]เช่น
    • มี.ค. 2549 สตง.ได้ทำหนังสือถึง รฟท. เพื่อขอความชี้แจงเรื่องที่ มีการจ่ายค่าบริการ 1600ล้านบาท ให้กับ บริษัทรับเหมาสร้างรถไฟขนส่ง จากตัวเมืองมายังสนามบิน (แอร์พอร์ตเรลลิงค์) เพียง 5วันหลังจากมีการเซ็นสัญญา แทนที่จะมีการจ่าย หลังจการที่โครงการสร้างเสร็จ สตง.ได้สั่งให้ รฟท. ชี้แจงภายใน 60วัน[10]
    • ก.ค. 2549 นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.เพชรบุรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนจะแจ้งความกล่าวโทษต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคล 6 คน (รวมถึงคนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตร) ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบน 300 ล้านบาท จากบริษัทลัทธ์ เฟอร์ ไทย จำกัด ในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถ (คาร์ปาร์ก) และสัมปทานเก็บผลประโยชน์ 25 ปี[11]
    • ก.ค. 2549 นายอลงกรณ์ พลบุตร ได้ตั้งข้อสังเกตในการประมูล รถเข็นสัมภาระในสนามบิน และ การจัดหาบริษัทจำหน่ายไฟฟ้า สำหรับระบบเครื่องปรับอากาศ ให้กับเครื่องบินที่ลานจอด[12]
    • ก.ค. 2549 นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ได้ตั้งข้อสังเกตเกียวกับ บริษัทไทยแอร์พอร์ตกราวน์เซอร์วิส (แทคส์, TAGS) (บริษัทที่ได้รับสัมปทาน บริหารเขตปลอดอากร และศูนย์โลจิสติกส์ในสนามบิน) ว่า มีบริษัทในสิงคโปร์ถือหุ้นอย่างไม่ปรกติ และไม่มีการประกาศประมูลอย่างที่ควรเป็น[13]
    • ส.ค. 2549 นายอลงกรณ์ พลบุตร ได้อ้างว่าตนเองมี บันทึกข้อตกลงลับระหว่างคณะผู้บริหาร ทอท. กับบริษัทแทคส์ ซึ่งระบุว่ามีการแก้ไขสเปครถเข็นเอื้อให้บางบริษัทได้งาน และลดสเปคลงมาเป็นการผลิตรถเข็นในประเทศ ทำให้มีส่วนต่างกำไรมากขึ้น 200 ล้านบาท โดยได้นำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นให้กับ สตง.[14]

[แก้] ปัญหาการพัฒนาพื้นที่

จากการสัมมนาทางวิชาการหลายเวที โดยเฉพาะทางด้านวิชาชีพสถาปัตยกรรม ผังเมือง และวิศวกรรม ได้แก่ การสัมมนาทางวิชาการในงานสถาปนิก 49, การสัมมนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมสถาปนิกสยาม สมาคมนักผังเมืองไทย การสัมมนาทางวิชาการที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีปัญหาด้านการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ อาจสรุปเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้ [9]

  • ปัญหาการควบคุมการใช้ที่ดินรอบสนามบิน โดยมีข้อขัดแย้งว่า เหมาะสมที่จะจัดทำเป็น "เขตปกครองพิเศษ" หรือตั้งเป็นจังหวัดใหม่ (มหานครสุวรรณภูมิ) หรือไม่
  • ปัญหาความสมดุลของระบบนิเวศ
    • ปัญหาแหล่งหากินของนกขนาดใหญ่ (หนองน้ำรอบสนามบิน) ที่อาจเป็นปัญหาต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน
    • ปัญหาผลกระทบต่อแหล่งปลาสลิด บ่อ บึงน้ำ โดยรอบสนามบิน
  • ปัญหาราคาที่ดินลวง (land speculation)
  • ปัญหาด้านเสียงจากการจราจรทางอากาศ ต่อการพัฒนาที่ดินเป็นแหล่งพักอาศัยโดยรอบ
  • ปัญหาน้ำท่วมของพื้นที่โดยรอบและใกล้เคียง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแนวระบายน้ำหลักและพื้นที่หน่วงน้ำ (Detention area) "แก้มลิง" ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร [15]
  • ปัญหาระบบจราจรและโครงข่ายถนนเพื่อการเข้าถึงสนามบิน ระบบป้ายนำทาง ความสะดวกของผู้ใช้สนามบินในการเดินทางไปยังอาคารผู้โดยสาร [16]
  • ปัญหาเรื่องความปลอดภัยทางการบินและผลกระทบของการบินต่อพื้นที่รอบสนามบิน กรณีมีอาคารที่สูงเกินมาตรฐานในเขตพื้นที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ที่ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่

[แก้] ปัญหาอื่น

ศาลาไทยในอาคาร
ศาลาไทยในอาคาร
  • ความเป็นเอกลักษณ์ไทยของสถาปัตยกรรมสนามบิน ที่แม้ได้แก้ไขโดยติดตั้งงานศิลปะ (ประติมากรรม และจิตรกรรม) ลงไปในโถงอาคารจุดต่างๆ แล้ว แต่อาจไม่พอเพียง
  • ความเป็นหนึ่งเดียวของอาคาร ปัจจุบันได้มีอาคารที่ออกแบบจากสถาปนิกคนเดียวกัน ในประเทศอื่น ๆ เช่น ส่วนต่อขยายของสนามบินดูไบ ซึ่งดูคล้ายกับที่สถาปนิกคนเดียวกันออกแบบไว้ให้ในไทยมาก [17] ยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงความเหมาะสม
  • การออกแบบที่ยังไม่อำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ โดยไม่คำนึงถึงการให้บริการในส่วนที่คนพิการจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งในระดับสากลแล้วการสร้างระบบการให้บริการจำเป็นต้องมี และทางหน่วยงานคนพิการทั้งหลายในประเทศไทยเอง พยายามเสนอวิธีแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างชัดเจน [18]
  • เนื่องจากอาคารผู้โดยสารสายต่างประเทศและภายในอยู่ในที่เดียวกัน ทำให้ระยะทางเดินต่อเครื่อง ยาวโดยเฉลี่ย 800-1,000 เมตร หรือในจุดที่ยาวสุดระยะทางถึง 3,000 เมตรนั้น เป็นระยะทางที่ไกล ก่อให้เกิดปัญหาได้ในกรณีที่ระยะเวลาต่อเครื่องนั้นกระชั้นชิด อีกทั้งไม่มีรถรางขนส่งดังเช่นแผนเดิมที่ออกแบบไว้ [18]

[แก้] การชี้แจงจาก ทอท. เกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ

นอกจากรายการ สถานีสุวรรณภูมิ ทางโทรทัศน์เคเบิ้ลทีวี ช่อง UBC 9 และสกู๊ปคั่นรายการทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท. และช่อง 11 (กรมประชาสัมพันธ์) ข้อวิพากษ์วิจารณ์ข้างต้น ยังได้รับการชี้แจง โดยบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) ทอท. (หรือ กอท.เดิม) หรือ AOT ได้ซื้อพื้นที่โฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวัน[19] เพื่อชี้แจงกรณีปัญหาต่างๆ ในคอลัมน์ เจาะลึกสุวรรณภูมิ วันละ 1-2 คอลัมน์ ดังหัวข้อต่อไปนี้

  • 14 กย. 49 - ฟันธง! ประมูล 'สุวรรณภูมิ' 'โปร่งใส' ด้วยเงื่อนไข 'เจบิค, บทพิสูจน์ 'เหล็ก'สุวรรณภูมิ 'มาตรฐาน' ชัวร์ - ไม่มั่วนิ่ม!
  • 15 กย. 49 - เจาะ 'จุดเด่นสุวรรณภูมิ' 'หลังคาผ้าใบ' ไร้ปัญหา!, 'คาร์ปาร์ค' สุวรรณภูมิ! เพียงพอ 'ปลอดซิกแซก'
  • 16 กย. 49 - สุวรรณภูมิ 'รันเวย์ร้าว' 'เรื่องจริง' ที่ต้องชี้แจง!, สุวรรณภูมิกับ 'ผู้รับเหมา' 'ผ่อนปรน' เพื่อคุณภาพ!
  • 17 กย. 49 - 'ไฟฟ้า-แอร์' เครื่องบิน! อีกข้อกังขา 'สุวรรณภูมิ', บริหาร 'ฟรีโซน' สุวรรณภูมิ ทำไม? ต้องเลือก 'แท็กส์'
  • 18 กย. 49 - 'พิสูจน์' ระบบปรับอากาศ สุวรรณภูมิ 'แอร์ไม่เย็น?', 'รถเข็นกระเป๋า' สุวรรณภูมิ 'แก้เกณฑ์-เร่ง' เพื่ออะไร?
  • 19 กย. 49 - 'ค่าธรรมเนียม' เครื่องบิน สุวรรณภูมิเก็บ 'ถูก-แพง?'
  • 20 กย. 49 - 'หอการบิน' สุวรรณภูมิ เสี่ยง-ไม่เสี่ยง 'เอียง-ถล่ม'
  • 21 กย. 49 - ผ่าระบบลำเลียง 'กระเป๋า' 'สุวรรณภูมิ' ชัวร์แค่ไหน?, 'ตรวจระเบิด' สุวรรณภูมิ ทำไมต้องใช้ 'CTX 9000'
  • 22 กย. 49 - สุวรรณภูมิ 'เข้มเต็มร้อย' 'ปลอดภัย' เกณฑ์ ICAO, 'พื้นที่พาณิชย์' สุวรรณภูมิ กับข้อกังขา 'ล็อคสเปค?'
  • 23 กย. 49 - เปิดแผนปฏิบัติการ 'ไล่นก' 'สุวรรณภูมิ' ทำอย่างไร?, ผ่าระบบ 'ไอที' สุวรรณภูมิ 'AIMS' มาตรฐานโลก
  • 24 กย. 49 - 'กำจัดขยะ' สุวรรณภูมิ ใช้บริษัทใหญ่ 'ไร้ปัญหา', 'กล้องวงจรปิด' สุวรรณภูมิ ทำไม? ต้อง 'IP CCTV'
  • 25 กย. 49 - 'ที่สุด' สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่ออะไร -ไฉนต้อง 'เร่งเปิด', เปิดระบบ 'ประปา - น้ำเสีย' 'สุวรรณภูมิ' พร้อมเต็มสูบ!
  • 26 กย. 49 - สำรวจ 'ลานจอดระยะไกล' สุวรรณภูมิ 'จ้างถูกต้อง?', 'ระบบไฟฟ้า' สุวรรณภูมิ กับข้อสงสัย 'ท่อร้อยสาย'
  • 27 กย. 49 - 'ระบายน้ำ' สุวรรณภูมิ ฝนตก 7 วันก็ 'ไร้ปัญหา', 'ไฟรันเวย์' สุวรรณภูมิ 27,000 โคม 'มั่นใจได้?'

และทาง ทอท. ยังได้ร่วมกับสำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์ในเครือมติชน จัดงาน 'แท็กซี่พบผู้บริหารสุวรรณภูมิ' เพื่อชี้ช่องทางและวิธีการในการรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ มีการประชาสัมพันธ์ว่า 'มีการมอบสิทธิประโยชน์และของที่ระลึกเพียบ!' ในวันที่ 25 กย. 49 ที่สโมสรตำรวจ

[แก้] ปัญหาหลังจากเปิดบริการ

  • ปัญหาหลังคารั่ว [20] - ขณะฝนตกหนักในช่วงวันเปิด ได้เกิดหลังคารั่ว จากการชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องว่าเกิดการรอยต่อที่ยาซิลิโคนไว้หลุดร่อน และได้ทำการแก้ไขเฉพาะหน้าไปโดยการใช้ถังรองน้ำฝนที่รั่ว และให้ช่างยาแนวรอยรั่วในวันต่อมา
  • ปัญหาการจราจรเข้าสู่สนามบิน - ปัญหานี้เกิดเนื่องจากขาดการประสานงานด้านประชาสัมพันธ์ที่พอเพียง ต่อมา ทอท. ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประชาสัมพันธ์ และติดป้ายบอกทางทั่วกรุงเทพฯ และบริเวณทางด่วน
  • ปัญหาสายพานรับส่งกระเป๋า ทำให้เกิดความล่าช้า และสูญหายของกระเป๋า ในระยะสัปดาห์แรกของการให้บริการ มีกระเป๋าตกค้าง และล่าช้าอยู่ราว 6000 ใบ
  • ปัญหาจำนวนห้องน้ำไม่พอ [21] - ปัญหานี้ภายหลังได้มีการแก้ไขโดยมีโครงการก่อสร้างห้องน้ำเพิ่มเติม [22] โดยนายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้สั่งการให้ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ใช้งบประมาณเร่งด่วนของปี 2550 จำนวนประมาณ 40 ล้านบาท มาสร้างห้องน้ำทั้งภายในอาคารผู้โดยสารและนอกอาคารเพิ่มอีก 20 จุด รวม 205 ห้อง (ห้องน้ำชาย 95 ห้อง และห้องน้ำหญิงอีก 110 ห้อง)[23]
  • ปัญหาการประชาชนจำนวนมากเข้ามาเที่ยวชม - ทำให้เกิดความแออัด จราจรติดขัด และไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง ร้านอาหารราคาแพงและไม่เพียงพอ ซึ่งทาง ทอท.ได้แก้ปัญหาโดยใช้เงินลงทุนประมาณ 15 ล้านบาทในการก่อสร้าง ร้านอาหารราคามิตรภาพ บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน A และ G อีกแห่งละจุดรวมเป็น 2 จุด แต่ละจุดจะมีห้องน้ำ 25 ห้อง จะมีการก่อสร้างร้านอาหารที่บรรจุคนได้ 500 ที่นั่ง ส่วนที่บริเวณศูนย์การขนส่งสาธารณะจะก่อสร้างห้องน้ำเพิ่มเติมอีก 25 ห้อง ห้องอาบน้ำ 10 ห้อง พร้อมทั้งที่พักและร้านอาหารราคาถูก 500 ที่นั่ง [24]
  • ปัญหาคาร์โก - เกิดการติดขัดของการออกของที่ส่วนคาร์โก เนื่องจากความไม่พร้อม ในส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการรายใหม่อย่างบริษัทบางกอก ไฟลท์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ BFS จนทำให้บรรดาตัวแทนออกของ (ชิปปิ้ง) ลุกขึ้นมาโวยจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต กรณีนี้บีเอฟเอสถูกระบุว่าไม่เป็นมืออาชีพพอที่จะเข้ามาให้บริการคลังสินค้าและขนถ่ายสินค้า จนทำให้มีสินค้าตกค้างอยู่ในโกดังไม่สามารถนำออกมาได้เป็นจำนวนมาก [25]
  • ปัญหาสายการบินต้นทุนต่ำมีค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ - ลงทุนที่สุวรรณภูมิไม่คุ้ม ทำให้เกิดการร้องเรียนที่จะกลับไปใช้สนามบินดอนเมือง [26]
  • ปัญหาการเรียกค่าชดเชยของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยรอบสนามบิน
  • ปัญหาพื้นทางวิ่งร้าว ทรุด - วันที่ 24 ต.ค. ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้ทำหนังสือถึงสายการบินทุกแห่ง เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ได้ปิดปรับปรุงทางวิ่ง-ทางขับ (แท็กซี่เวย์) บริเวณที 13 ซึ่งเป็นลานจอดเครื่องบินบริเวณ อี 4-อี 8 และแท็กซี่เวย์บริเวณบี โดยเป็นช่วงระหว่างแท็กซี่เวย์ซี 4 และซี 5 หรือตรงกับรันเวย์ 19 ด้านซ้ายของสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากเกิดการทรุดตัว ซึ่งหากเครื่องบินใช้พื้นที่ดังกล่าวแท็กซี่เวย์เพื่อเข้าหลุมจอดมากเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะถ้าก้อนหิน หรือคอนกรีตปลิวเข้าไปในใบพัดเครื่องบิน โดยที่กัปตันไม่ทราบอาจทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุได้ [27], [28]
  • ปัญหาความปลอดภัย เนื่องจากความกว้างใหญ่ของสนามบินแห่งนี้ จำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่พอเพียง และมีกรณีร้องเรียนของพนักงานและเจ้าหน้าที่หญิงที่ถูกคุกคาม [29]

[แก้] อ้างอิง

  1. เว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย
  2. 2.0 2.1 บทความที่สุดแห่งสุวรรณภูมิจาก นสพ.เดลินิวส์ 12 กย.49
  3. http://www.komchadluek.net/2006/specialreport/suwannapum/suwan.html
  4. นสพ.มติชน วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 "เพ้ง" รับหลังคา "เทอร์มินอล" รั่ว อ้างเป็นเรื่องปกติสนามบินใหม่"
  5. นสพ.เดลินิวส์ 11 กย.49 กำเนิด 'สุวรรณภูมิ' 46ปีแห่งการรอคอย
  6. บทสัมภาษณ์นายศรีสุข จันทรางศุจากรายการสถานีสุวรรณภูมิ UBC9
  7. แฉกลโกง ซีทีเอ็กซ์ 9000 หมดเปลือก, ผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2548
  8. ผ่าขบวนการ สินบนอินวิชั่น, นสพ. กรุงเทพธุรกิจ
  9. 9.0 9.1 นสพ. เดลินิวส์ 9 กย.49 พลิกปูม - ก่อนเปิดใช้ "จุดเด่น-จุดด่าง" สนามบินสุวรรณภูมิ
  10. Bangkokpost Newspaper March 20, 2006: Rail told to explain B2bn spending
  11. นสพ. คมชัดลึก 25 กค 48
  12. "ปชป." ชำแหละประมูล 4 พันล. ระบบ "แอร์-ไฟฟ้า" ป้อนเครื่องบิน ท่าอากาศยาน"สุวรรณภูมิ" ข่าวจากมติชน
  13. จี้ตรวจสอบ! บ.ผีสิงคโปร์เหมาฮุบงาน สุวรรณภูมิ ข่าวจากเดลินิวส์
  14. ข่าวปชป.ปูด"เจ๊"งาบงานสุวรรณภูมิ ขู่เป็นรบ.มีคนติดคุกนับร้อย มติชนรายวัน 20 สค.49
  15. Bangkokpost newspaper (20 October 2005) Dream city called flood nightmare : Environmental chaos will ensue - Apirak
  16. นสพ.เดลินิวส์ 11 กย.49 ผู้โดยสาร 'ป่วนแน่!' 'แท็กซี่' เซ็ง! 'ไม่ไปสุวรรณภูมิ??'
  17. ภาพแบบจำลองสนามบินดูไบ
  18. 18.0 18.1 สุวรรณภูมิในมุมมองวิศวกรไทย อย่าหลงระเริงกับความอลังการ มองไปข้างหน้า...ก้าวสู่ฮับให้ได้ดั่งฝัน จาก หนังสือพิมพ์มติชน 8 กย.2549
  19. หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
  20. ข่าว"ธีระ"จี้ทอท.แก้"แท็กซี่เวย์"ร้าว! อัด40ล.เพิ่มห้องน้ำสุวรรณภูมิ มติชน 26 ตค. 49/
  21. ข่าว"ธีระ"จี้ทอท.แก้"แท็กซี่เวย์"ร้าว! อัด40ล.เพิ่มห้องน้ำสุวรรณภูมิ มติชน 26 ตค. 49/
  22. เดลินิวส์ ‘สุวรรณภูมิ’ ความภูมิใจหรือ... (1) ความอลังการบนความไม่พร้อม วันที่ : 17 ตุลาคม 2549
  23. ข่าวมติชน 26 ตค.49
  24. ข่าวมติชน 26 ตค.49
  25. [http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/popup_news_print.aspx?ColumnId=29549&newstype=2&Template=1' ข่าว‘สุวรรณภูมิ’ ความภูมิใจหรือ...(2) ปัญหาคาร์โก...ต้นตออยู่ที่ใคร (จบ) วันที่ : 18 ตุลาคม 2549]
  26. ข่าวมติชน 22 ตค. 49 บินถูกรุกกลับดอนเมือง ชี้ลงทุนสุวรรณภูมิไม่คุ้ม
  27. ข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 25 ตค.49 'สุวรรณภูมิ'ป่วน! สนามบินทรุด-สั่งปิดปรับปรุง
  28. ข่าว"ธีระ"จี้ทอท.แก้"แท็กซี่เวย์"ร้าว! อัด40ล.เพิ่มห้องน้ำสุวรรณภูมิ มติชน 26 ตค. 49/
  29. บทความ‘สุวรรณภูมิ’ ความภูมิใจหรือ..(1) ความอลังการบนความไม่พร้อม จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 17 ตค.49

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิแมเปีย
กูเกิล
วิกิแมเปีย มีภาพถ่ายทางอากาศของ: