ลิลิตพระลอ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
![]() |
|
ลิลิตพระลอ | |
---|---|
กวี : | ? |
ประเภท : | นิยาย |
คำประพันธ์ : | ลิลิตสุภาพ |
ความยาว : | 660 บท |
สมัย : | กรุงศรีอยุธยา |
ปีที่แต่ง : | ? |
ชื่ออื่น : | |
ลิขสิทธิ์ : | |
![]() |
ลิลิตพระลอ เป็นวรรณคดีที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร ให้เป็นยอดแห่ง ลิลิต เมื่อ พ.ศ. 2459 แต่งขึ้นอย่างประณีต งดงาม มีความไพเราะของถ้อยคำ และเต็มไปด้วยสุนทรียศาสตร์ พรรณนาเรื่องด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ใช้กวีโวหารอย่างยอดเยี่ยม ในการบรรยายเนื้อเรื่อง ที่มีฉากอย่างมากมาย หลากหลายอารมณ์ โดยมีแก่นเรื่องแบบรักโศก หรือโศกนาฏกรรม และแฝงแง่คิดถึงสัจธรรมของชีวิต ลิลิตพระลอยังเคยถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากนักวรรณคดีบางกลุ่ม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นวรรณกรรมที่มอมเมาทางโลกีย์
สารบัญ |
[แก้] ผู้แต่งและปีที่แต่ง
ทั้งเรื่องผู้แต่งและปีที่แต่ง ไม่ปรากฏหลักการหรือข้อความระบุที่ชัดเจน แต่อาจอาศัยเนื้อเรื่องที่ระบุถึงสงครามระหว่างไทยและเชียงใหม่มาเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งเดิมนั้นเชื่อว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231)แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน และเป็นที่ถกเถียงกันมาจวบจนปัจจุบัน นักจารณ์วรรณคดีส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ลิลิตพระลอแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาแน่ แต่ยังมีบางท่านเสนอเวลาที่ใหม่กว่านั้น ว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีผู้คล้อยตามไม่มากนัก
นักวรรณคดีมักจะยกโคลงท้ายบทมาเป็นหลักฐานพิจารณาสมัยที่แต่ง ดังนี้
659.จบเสร็จมหาราชเจ้า | นิพนธ์ |
ยอยศพระลอคน | หนึ่งแท้ |
พี่เลี้ยงอาจเอาตน | ตายก่อน พระนา |
ในโลกนี้สุดแล้ | เลิศล้ำคุงสวรรค์ฯ |
660.จบเสร็จเยาวราชเจ้า | บรรจง |
กลอนกล่าวพระลอยง | ยิ่งผู้ |
ใครฟังย่อมใหลหลง | ฤๅอิ่ม ฟังนา |
ดิเรกแรกรักชู้ | เหิ่มแท้รักจริงฯ |
จากโคลงข้างบน มีผู้เสนอว่า "มหาราช" คือกษัตริย์ เป็นผู้แต่ง และ "เยาวราช"เป็นผู้เขียน (บันทึก) และสันนิษฐานว่า ผู้แต่งน่าจะเป็น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และผู้เขียน คือ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 และคาดว่าน่าจะแต่งเมื่อ พ.ศ. 2034-2072 [1]
อย่างไรก็ตาม นักวรรณคดีบางท่าน เสนอว่า น่าจะอยู่ในสมัยพระชัยราชาธิราช (พ.ศ. 2077-2089)เนื่องจากเป็นสมัยที่มีสงครามระหว่างไทยกับเชียงใหม่ และเป็นสมัยแรกที่มีการใช้ปืน (ปืนไฟ) ในการรบ [2]
ภาษาสำนวนในลิลิตพระลอ อ่านเข้าใจได้ง่ายกว่าวรรณกรรมเรื่องอื่นๆ ในสมัยอยุธยา แต่ก็ยังมีศัพท์ยาก และศัพท์โบราณอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้นักวิจารณ์บางท่านเสนอว่า ลิลิตพระลอแต่งในสมัยรัตนโกสินทร์
[แก้] คำประพันธ์
คำประพันธ์ในเรื่องลิลิตพระลอ เป็นลิลิตสุภาพ ประกอบด้วย ร่ายสุภาพ, ร่ายสอดสร้อย, โคลงสองสุภาพ, โคลงสามสุภาพ และ โคลงสี่สุภาพ สลับกันตามจังหวะ ลีลา และเนื้อหาของเรื่อง
[แก้] เนื้อหา
ลิลิตพระลอเป็นเรื่องรักโศก บรรยายถึงความรักระหว่างพระเอก คือ พระลอ และนางเอกสองคน คือ พระเพื่อน และพระแพง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความรักของหญิงชายอีกสองคู่ คือ นางรื่น นางโรย และนายแก้ว นายขวัญ พี่เลี้ยงของพระเพื่อนพระแพง และพระลอ ตามลำดับ
ผู้แต่งได้ผูกเรื่องไว้อย่างน่าติดตาม โดยมีบทพรรณนาที่งดงาม มีความหลากหลาย โดยตลอด แม้จะนับเป็นนิยายเรื่องยาว (ความยาวถึง 660 บท) แต่ก็ไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อ
[แก้] บางตอนจากลิลิตพระลอ
30.เสียงลือเสียงเล่าอ้าง | อันใด | |
เสียงย่อมยอยศใคร | ทั่วหล้า | |
สองเขือพี่หลับใหล | ลืมตื่น ฤๅพี่ | |
สองพี่คิดเองอ้า | อย่าได้ถามเผือฯ | |
.................. | .................. | |
215.สิ่งใดในโลกล้วน | อนิจจัง | |
คงแต่บาปบุญยัง | เที่ยงแท้ | |
คือเงาติดตัวตรัง | ตรึงแน่น อยู่นา | |
ตามแต่บุญบาปแล้ | ก่อเกื้อรักษาฯ | |
.................. | .................. | |
261.ลางลิงลิงลอดไม้ | ลางลิง | |
แลลูกลิงลงชิง | ลูกไม้ | |
ลิงลมไล่ลมติง | ลิงโลด หนีนา | |
แลลูกลิงลางไหล้ | ลอดเลี้ยวลางลิง ฯ | |
.................. | .................. | |
290.ร้อยชู้ฤาเท่าเนื้อ | เมียตน | |
เมียแล่พันฤาดล | แม่ได้ | |
ทรงครรภ์คลอดเปนคน | ฤาง่าย เลยนา | |
เลี้ยงยากนักท้าวไท้ | ธิราชผู้มีคุณ ฯ | |
.................. | .................. | |
625.เสียงไห้ทุกราษฎร์ไห้ | ทุกเรือน | |
อกแผ่นดินดูเหมือน | จักขว้ำ | |
บเห็นตะวันเดือน | ดาวมืด มัวนา | |
แลแห่งใดเห็นน้ำ | ย่อมน้ำตาคน ฯ | |
.................. | .................. |
[แก้] อ้างอิง
- [1]ดร.สิทธา พินิจภูวดล. "ลิลิตพระลอ วรรณกรรมสมัยอยุธยา",วรรณกรรมสมัยอยุธยา ฉบับแปล. กรุงเทพฯ : โครงการวรรณกรรมอาเซียน, 2542.
- [2]ดร.นิยะดา เหล่าสุนทร."ลิลิตพระลอ:การศึกษาเชิงประวัติ", พินิจวรรณกรรม. กรุงเทพฯ : แม่คำผาง, 2535.