จังหวัดพิจิตร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถิติ | |
---|---|
อำเภอเมือง: | อำเภอเมืองพิจิตร |
พื้นที่: | 4,531.0 ตร.กม. อันดับที่ 47 |
ประชากร: | 557,883 (พ.ศ. 2549 เมษายน) อันดับที่ 44 |
ความหนาแน่น: | 123 คน/ตร.กม. อันดับที่ 35 |
ISO 3166-2: | TH-66 |
ผู้ว่าราชการจังหวัด: | นายพินิจ พิชยกัลป์ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2548) |
แผนที่ | |
![]() |
สารบัญ |
[แก้] ข้อมูลทั่วไป
"พิจิตร" เมืองพญาชาลวัน ถิ่นกำเนิดนิทานเรื่อง ไกรทอง เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง มีความหมายว่า "เมืองงาม" ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดพิษณุโลก มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลผ่าน ตัวเมืองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน พิจิตรเป็นเมืองเก่าแก่ในสมัยสุโขทัย ปรากฎข้อความในศิลาจารึกหลักที่หนึ่งของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และในศิลาจารึกหลักที่แปด รัชกาลพระยาลิไท เรียกว่า "เมืองสระหลวง" ซึ่งมีสถานะเป็นหัวเมืองเอกของกรุงสุโขทัย ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยารัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เมืองโอฆบุรี" ซึ่งแปลว่า "เมืองในท้องน้ำ" ตามตำนานกล่าวว่า พระยาโคตรบอง เป็นผู้สร้างเมืองพิจิตร แต่จะสร้างในสมัยใดไม่ปรากฎ นอกจากนี้เมืองพิจิตรยังเป็นที่ประสูติของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์หนึ่งคือ สมเด็จพระศรีสรรเพชญที่ 8 หรือ สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาพิจิตรเป็นหัวเมืองชั้นตรี ตำแหน่งเจ้าเมืองมีปรากฏตามพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน ฯ ว่า ออกญาเทพาธิบดีศรีรณรงค์ฤาไชยอภัยพิรียภาหะ ศักดินา 5,000 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นขุนนางบรรดาศักดิ์ระดับสูง ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีหัวเมืองชั้นตรีเพียง 7 เมืองเท่านั้นคือ เมืองพิชัย เมืองพิจิตร เมืองนครสวรรค์ เมืองพัทลุง เมืองชุมพร เมืองจันทบูรณ์ และเมืองไชยา จึงนับว่าในสมัยโบราณพิจิตรเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะมีความสำคัญสูง จนตำแหน่งเจ้าเมืองมีการตราไว้ในพระไอยการฯ ซึ่งสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ตราไว้
ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองพิจิตรเป็นเพียงเมืองขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีเจ้าเมืองปกครองเช่นเมืองอื่นๆ เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ย้ายเมืองพิจิตรมาตั้งที่บ้านคลองเรียงซึ่งเป็นคลองขุดใหม่ ลัดแม่น้ำน่านที่ตื้นเขิน คลองเรียงจึงกลายเป็นแม่น้ำน่านไป ส่วนบริเวณเมืองพิจิตรเก่ายังปรากฏโบราณสถานอยู่หลายแห่ง ซึ่งมีอายุตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงสมัยอยุธยา
[แก้] พระพิจิตรเกศคด
ตามตำนานเล่าว่าในสมัยโบราณ พิจิตรเป็นเมืองลูกหลวง ของกรุงสุโขทัย เวลามีศึกสงคราม ก็มักจะมีการเกณฑ์ชายฉกรรจ์ชาวพิจิตรไปรบ และนักรบจากเมืองพิจิตรนี้มีความกล้าหาญอย่างยิ่ง ก็มีผู้สงสัยว่าทำไมนักรบเหล่านี้จึงกล้าหาญ ก็มีความปรากฎว่า ชายฉกรรจ์เหล่านี้ ต่างมีพระเครื่อง ที่เป็นวัตถุมงคลติดตัวไปทุกคน และพระเครื่องเหล่านี้ก็แปลกกว่าที่อื่นๆ คือตรงเศียรพระจะเอียงไม่ตรง เข้าใจว่าพิมพ์ที่นำมาใช้หล่อพระนั้นจะทำไม่ตรง แต่ภายหลังก็เป็นที่นิยมกันว่า พระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่ทำขึ้นในเมืองพิจิตรในสมัยต่อมามักจะทำเกศให้คด เป็นรูปพิมพ์นิยม จึงเรียกกันติดปากว่า พิจิตรเกศคด
[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกบัวหลวง (Nymphaea lotus)
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: บุนนาค (Mesua ferrea)
- คำขวัญประจำจังหวัด: ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน
[แก้] หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 3 กิ่งอำเภอ 89 ตำบล 852 หมู่บ้าน
|
![]() |
[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว
- วนอุทยานนครไชยบวร
- บึงสีไฟ
- วัดท่าหลวง
- วัดหัวดง
- วัดเขารูปช้าง
- วัดนครชุม
- วัดโรงช้าง
- วัดท่าหลวง
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
![]() |
จังหวัดพิจิตร เป็นบทความเกี่ยวกับ จังหวัด อำเภอ หรือเขตการปกครองต่าง ๆ ของประเทศไทย ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น |